Love Top Book

วันพฤหัสบดีที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562

One Night Stand ให้รักนำไป




ชินธา พระเอกหนุ่มวัย 33ปี
มาดนิ่ง ไม่แคร์โลก มีความสุขกับทุกอย่างรอบตัว
จนเมื่อหญิงสาวหลงทางเข้ามาเปลี่ยนชีวิตเขาไปตลอดกาล


ญาดา แม่หม้ายวัย 30ปี
โลกส่วนตัวสูง ทำงานเก่ง
รักลูกมาก จนเมื่อทุกอย่างพังทลาย
แล้วเธอต้องเริ่มต้นใหม่ในฐานะ 'ชู้'




แนะนำตัว



สวัสดีค่ะ
นักอ่านผู้น่ารักทุกท่าน ขอบคุณที่เข้ามาเจิมนิยายเรื่องนี้กันนะคะ
ชอบอกชอบใจติดชมให้เรทได้จ้า ติดขัดตรงไหนแนะนำมาได้เลย
วีนัสจะเก็บไปปรับปรุงแก้ไขค่ะ
ขอบคุณน้า
เวลามีน้อยแต่งเบาๆ พรอตไม่แน่น
ผิดพลาดประการใดขออภัยไว้
ณ.ตรงนี้ด้วยนะคะ
เมนต์เค้าหน่อย


INTRO
ถนนสายเปลี่ยว มุ่งหน้าสู่ตัวเมืองเงียบเหงากว่าทุกวัน ดูเวลาตอนนี้เกือบห้าโมงเย็นแล้ว ขืน ญาดา ยังเดินต่อ ต้องค่ำมืดก่อนแน่ หญิงสาวร่างอวบ สะพายเป้ใบใหญ่ขึ้นหลัง ยังคงก้าวเท้าเอื่อยๆ สลับมองหารถผ่านไปมาสักคัน เผื่อขออาศัย
เธอเหนื่อยล้าเหลือเกิน เมื่อไรเหตุการณ์บ้าๆ นี้จะผ่านไปนะ ทั้งที่เหมือนจะดีขึ้น แล้วทำไมยังเคราะห์ซ้ำกรรมซัดมาโดนล้วงกระเป๋าอีก
ร่างเล็กแบบฉบับผู้หญิงทรุดตัวลงหมดแรง กระเป๋าที่สะพายมาก็หนักไม่ใช่น้อย หนทางข้างหน้าดูมืดมนเต็มที่
ฉันควรทำไงต่อดี ญาดาทิ้งตัวนั่งกอดเข่าเหมือนสะกดอารมณ์ทุกข์ใจ ต่างที่ต่างถิ่นแบบนี้ ผู้หญิงตัวคนเดียวอีกต่างหาก ทำไมต้องมาซวยซ้ำซ้อนด้วย
ปี๊ดด! ปี๊ดด... เสียงแตรรถร้องเรียกให้เธอหันมอง ญาดาดีใจมากรีบปาดน้ำตาแล้วหันหน้าหาต้นเสียง
คุณ ขอฉันติดรถไปด้วยได้ไหมเสียงเครื่องยนต์ทำให้ลนลานรีบพูดทั้งที่ยังก้มหน้า เธออึ้งเพราะรถตรงหน้าเป็นเพียงมอเตอร์ไซค์ฮาเล่ย์คันหนึ่งที่แบกเป้พะรุงพะรังไม่ต่างกัน
ผู้ชายร่างล่ำสันในชุดนักบิดครบเซต หยุดมองเธอทั้งที่ยังคร่อมรถอยู่ หลายสิบวินาทีที่ทั้งสองจ้องกันไปมา ไม่ใช่เพราะความพิศวาสแต่เป็นเพราะเกร็งกลัวอีกฝ่ายมากกว่า
ขึ้นมาซิชายหนุ่มขยับหน้ากากป้องปากพูด เสียงห้าวพร่าฟังไม่ค่อยชัดนัก ญาดาดึงสติทบทวนสิ่งที่ขอ น่ากลัวชะมัด ฉันจะไหวไหมเนี่ย เธอไม่มีทางเลือก หากไม่ไปกับเขาอยู่ตรงนี้ก็น่ากลัวไม่ต่างกัน
นั่งลำบากหน่อยนะ ของผมก็เยอะร่างสูงตวัดขาลงจากรถ ย้ายเป้ที่สะพายหลังไปไว้ด้านหน้า ส่งหมวกกันน็อคให้ญาดาสวม จัดแจงพาขึ้นคร่อมรถคันงาม เมื่อหญิงสาวนั่งที่เรียบร้อยเจ้าตัวก็ง้างขาคร่อมกลับไปที่เดิม
อยากร้องก็ร้องเถอะคุณ จะเก็บไว้ทำไมคนไม่รู้จักพูดประโยคจี้ใจดำให้อีกฝ่ายรู้สึก ต่างจากคนอัดอั้นกลั้นเสียงสะอื้นจนตัวสั่น



Chapter 1
[ญาดา]
นี่คุณ ฝนทำท่าจะตกนะ จะฝืนไปต่อหรือพักก่อนดี
คะ
โอเค เราอาจต้องหาที่พัก
ฉันยังไงก็ได้ค่ะ พอดีว่า... ฉันไม่มีเงิน
ห้ะ! คุณก็เลยเดินเนี่ยนะ
ทำไงได้ล่ะคุณ! ฉันทำกระเป๋าเงินหายที่นี่น่า
แล้วถ้าไม่เจอผม คุณต้องเดินไปถึงไหน
กรุงเทพค่ะ
บทสนทนาแรก หลังจากที่ฉันร้องไห้ระบายอารมณ์เสร็จ ชายหนุ่มยอมจอดรถเว้นช่องว่างให้ได้พักกายพักใจก่อนซักถามเรื่องที่สงสัย เขายังคงสวมหน้ากากกันฝุ่นถอดเพียงแว่นตาออก เพ็งดูสีหน้าหญิงสาวด้วยความสงสัย
ขอรบกวนคุณหน่อยนะคะ ถ้าถึงกรุงเทพแล้วฉันจะคืนเงินคุณเสียงอ่อนพูดด้วยกริยาสุภาพ เธอเงยหน้าสบตาชายหนุ่มร่างสูง ยิ้มจางๆ แสดงความเกรงใจจนคนฟังอึดอัด
คุณต้องการอะไรก็บอกมาตรงๆ เถอะชายหนุ่มจัดการถอดหน้ากากปังหน้าออก หยักคิ้วเชิงถาม ทำหน้านิ่งดุ
ฉันหิว เราหาอะไรกินกันไหมญาดาพูดตามที่รู้สึก ไม่ดูอารมณ์อีกฝ่ายเลยว่าเปลี่ยนไปแล้ว
นี่คุณ! คุณลงทุนเดินมาดักรอผมเพื่อของกินเนี่ยนะผู้ชายที่ซ้อนใบหน้าไว้ใต้หน้ากากสีดำ ไล่ถอดทุกชิ้นบดปังออก จนเหลือเพียงหนวดเขียวครึม เส้นผมกระเซิงไม่เป็นทรงแต่ยังดูหล่อเหลาสะดุดตา
เอ๊ะคุณ! พูดอะไรคะ ฉันไม่เข้าใจญาดาส่งเสียงไม่ดังนัก ถามกลับด้วยความสับสน เขาพูดเรื่องอะไรไม่เห็นเข้าใจเลย
ดูหน้าผมดีๆ แล้วพูดอีกทีซิ ว่าคุณไม่รู้จักผมเสียงแข็งมาพร้อมใบหน้ากวนประสาท เขาขยับเข้าใกล้เอ่ยถามเหมือนตำรวจต้อนจับผู้ร้ายไม่มีผิด
ค่ะ ฉันไม่รู้จักคุณญาดาไม่รีบร้อนตอบ เธอเพ็งพิศอย่างตั้งใจ จ้องชายหนุ่มที่กำลังทำหน้าบูดบึ้งแล้วพยายามคิด ดูๆ แล้วเขาก็หล่อเข้าท่าดี เพียงแต่ว่าตอนนี้ใบหน้ากระดำกระด่างเพราะฤทธิ์แดดแผดเผา
ชินธานักแสดงหนุ่มผู้เป็นพระเอกทั้งในจอและนอกจอมองอย่างไม่เชื่อสายตา แต่ความที่พบเจอคนมามาก ทั้งยังมีความสามารถด้านการแสดงเป็นเลิศ เขาสามารถอ่านทุกคนได้ขาด หากคิดจะโกหกสายตาเรดาห์ระดับพระเอกตลอดกาลล่ะก็ อย่าคิดทำให้เหนื่อยเปล่าๆ ผู้หญิงตรงหน้าไม่ได้โกหก หรือทั้งหมดเขาแค่คิดมากไปเอง
โอเค อยากทานอะไรล่ะ




Chapter 2
[ญาดา]
ทั้งสองขับรถต่อมาอีกหน่อยก็เจอโรงแรม ฝนตกตามคาด พระเอกอย่างชินธาไม่อาจเสนอหน้าไปจองห้องพักเองได้จึงขอให้ญาดาเข้าไปแทน แล้วทุกอย่างก็เป็นไปตามพรอตละครหลังข่าว เหลือว่างห้องเดียวค่ะ เหตุการณ์เลยรวบรัดจึงจบลงที่ผู้หญิงกับผู้ชายแปลกหน้าอยู่กันสองต่อสองในม่านรูดดาวเดียว
ใครเคยเข้าม่านรูดคงรู้ดีว่าห้องไม่ได้หรูหราอะไร อับๆ ทึบๆ หลายกลิ่นปะปนกัน คนทั้งคู่มองหน้าอย่างเกรงใจ ห้องแคบขนาดที่ว่าจับทุกอย่างยัดเข้ามาแล้วเหลือทางเดินครึ่งเมตร
ตามสบายนะคุณ ถ้าไม่สบายใจผมออกไปอยู่ระเบียงก็ได้ชินธาในมาดนิ่งๆ พูดขึ้น ทั้งที่ตอนนี้ระเบียงด้านนอกฝนกระหน่ำเปียกปอน
คุณนั่นแหล่ะ! ตามสบายนะคะ ไม่ต้องสนใจฉันฉันอ่านสีหน้าเขาออก เลยรีบพูดให้อีกฝ่ายสบายใจ
ก็เผื่อคุณอยากทำอะไรๆ แบบผู้หญิงฉันอึ้งคลี่ยิ้มจางๆ คำไม่ประสาจากปากชายหนุ่มทำให้รู้สึกดี นานแค่ไหนแล้วนะที่ไม่ได้ยินคำพวกนี้ คนใกล้ตัวมักทำเหมือนฉันเป็นสิ่งของไม่มีความรู้สึก ทั้งที่ความจริงฉันก็แค่คนๆ หนึ่ง
ไม่ต้องคิดมากนะคะ ฉันเป็นผู้หญิงก็จริงแต่พ่วงตำแหน่งคุณแม่ลูกหนึ่งด้วย ฉันไม่วูบวาบเหมือนเด็กสาวหรอกค่ะเพียงเพราะต้องการให้เขาสบายใจ ฉันจึงยอมบอกเรื่องราวของตัวเองออกมาบ้าง
สายตาหญิงสาวยังจับจ้องอยู่ที่ชายหนุ่ม ดูซิ! ขับมอเตอร์ไซค์มาตั้งไกลทั้งร้อนทั้งเหนื่อย แทนที่ได้พักสบายๆ มัวมาเกรงใจคนอย่างฉันเนี่ยนะ ...ไม่ถูกต้องเลยญาดาคิด
อ่อ แล้วนี่คุณต้องรีบกลับไปหาครอบครัวหรือเปล่าชินธาพลั้งปากถามต่อ ดูจากสีหน้าแสดงออกว่าห่วงใยไม่ใช่รำคาญหรือถามส่งๆ ไปอย่างนั้นเอง
ไม่มีใครรอฉันหรอกค่ะญาดาตอบผ่านๆ เดินเลี่ยงไปสำรวจห้องพัก จัดเตรียมอุปกรณ์อาบน้ำ เดินเหนื่อยมาทั้งวันขออาบให้ชุ่มปอดหน่อยเหอะ
คุณดูเหมือนเด็กหนีออกจากบ้านเลยนะสีหน้าสงสัยทำญาดาหยุดทุกอย่างแล้วหันมามองเขาจริงจัง
เหมือนหรอคะ ฉันนี่ไม่เนียนเลยเนอะ
แปลว่าคุณหนีออกจากบ้านจริงๆ
ไม่ใช่! ฉันมาฉลองที่ได้งานทำน่ะ กะจะจัดเต็มสักหน่อย ดันมาทำกระเป๋าตังค์หายซะก่อน เดี๋ยวถ้าเริ่มงานคงไม่ได้เที่ยวยาวๆ แบบนี้แล้ว
หึ! ก็ดี
แล้วคุณล่ะ ไปเที่ยวไหนมาคะ
เรื่อยเปื่อย คุณคุณชื่อญาดาใช่ไหม
ค่ะ แล้วคุณล่ะคะ ชื่ออะไร
ฉันถามกลับด้วยความอยากรู้ ตั้งแต่เจอกันฉันยังไม่รู้เลยเขาชื่ออะไร มีแต่เขานั่นแหล่ะที่ถามๆ ถามอยู่นั่นเองทำเหมือนฉันจะมาปล้นงั้นแหล่ะ
ผมหรอ เอ่อ...เสียงลากยานครางทำฉันอึดอัด หรือว่าเขาไม่อยากบอกนะ นั่นซิ! แค่บังเอิญเจอกันเขาอาจไม่อยากรู้จักฉันก็ได้
คุณอยากให้ญาดาเรียกว่าอะไรล่ะคะ หรือถ้าไม่อยากบอกก็ไม่เป็นไรกลายเป็นฉันเองที่ยานครางปล่อยคำตามความคิดออกมา ก้มหน้าเชิงขอโทษนิดๆ
เรียกผมว่าสุดหล่อก็ได้เสียงแผ่วงับเบาๆ พอให้เป็นคำ โชคดีที่ฉันยังไม่แก่จนหูตึงนัก ใบหน้าทะเล้นอมยิ้มน้อยๆ ตอนชมตัวเองแบบนั้น ฉันพยักหน้ารับรู้แล้วรีบย้ายตัวเองเข้ามาขำต่อในห้องน้ำ

ค่ำคืนคนแปลกหน้าแทนที่จะต่างคนต่างอยู่พอมีแอลกอฮอร์รวมด้วยเราสองก็คุยกันถูกคอขึ้น ความคิดฉันในตอนแรกวนกลับมาอีกครั้ง
เที่ยวให้สุด แล้วหยุดที่One Night Stand ใช่ชีวิตเลวๆ บ้างจะเป็นไรไป แอบเสียดายกระเป๋าตังค์ พอไม่มีเงินติดตัวไอ้ที่คิดไว้ว่าจะเมาหัวราน้ำแล้วลากผู้ชายมาซัมติงก็จบทันที นี่ขนาดอยากเลวแค่วันเดียวนะชีวิตยังไม่สมใจเลย ไม่รู้โชคดีที่ยังเป็นผู้หญิงดีๆ อยู่หรือโชคร้ายที่ไม่ได้ทำตามใจกันแน่
คุณ คุณ! เป็นไรไปเงียบทำไมเสียงเรียกดังขัดความคิด
ฉันแค่คิดถึงความตั้งใจก่อนมาที่นี่น่ะ คิดแล้วก็เซ็งไม่มีอะไรได้ดังใจจริงๆ
คิดว่าอะไรล่ะ เผื่อผมช่วยได้
เอ่อ...
... ชายหนุ่มยักคิ้วเชิงถาม
ถ้าฉันบอกคุณจะไม่ว่าฉันแรดใช่ไหมเลือกถามตรงๆ สงสัยจะตรงมากไปหน่อยจนคนฟังสำลักน้ำพุ่งออกจากปาก
คุณก็พูดๆ มาเหอะเสียงรวบคำส่งๆ ทำเหมือนไม่สนใจ เห็นหยิบผ้าเช็ดหน้าผืนใหญ่แบบหนุ่มฮาเล่ย์ซับน้ำกระเซ็นบนหน้า
ท่าทางสบายๆ ของเขาทำฉันชิวไปด้วย บางทีการพูดคุยกับคนไม่รู้จักก็ดีเหมือนกันนะ อยากพูดอะไรก็พูดไม่ต้องคิดมากว่าคำพูดนั้นจะกลับมาทำร้ายเราไหม
ฉันกะเที่ยวให้สุด แล้วหยุดที่วันไนท์สแตนตอนตอบไม่ได้มองหน้าเขาหรอก มันอายเกินกว่าจะเงยหน้าได้ เสียงสำลักน้ำดังอีกระรอกตามด้วยคำอุทานเสียงหลง
ห้ะ! คุณเนี่ยนะคุณสุดหล่อทำหน้าสยองเหมือนฟังเดอะช็อคอยู่ หยิบเบียร์กระดกแก้เก้อกลืนน้ำเมาลงคออึกใหญ่ ฉันก็พลอยยกดื่มไปด้วย ถ้าเป็นฉันแล้วทำไมหรอ!
ทำไมล่ะ อยู่ที่มืดๆ ฉันก็สวยอยู่นะเหตุผลที่ผู้ชายยอมนอนกับผู้หญิงก็เพราะความสวยไม่ใช่หรอ ฉันเข้าใจผิดตรงไหน
ผมก็ไม่ได้ว่าคุณไม่สวย แค่ไม่คิดว่าผู้หญิงอย่างคุณจะคิดแบบนี้น้ำเสียงคุณสุดหล่อพูดกลับด้วยความสุภาพ ทำให้อยากรู้ว่าในสายตาเขาฉันเป็นยังไง
อย่างฉันนี่ยังไงอะ
ก็! เรียบร้อย เงียบๆ ประมาณเนี่ย
ไม่นะคุณ อย่ามองผู้หญิงแค่ภายนอก ลึกๆ ผู้หญิงทุกคนล้วนชอบอะไรตื่นเต้นแบบนี้แหล่ะ เราแรดเงียบได้นะคุณ แค่จะทำหรือไม่ทำเท่านั้นเอง
ผมไม่เคยเจอใครพูดตรงเหมือนคุณเลย
ก็น่ะ! เรื่องแบบนี้ใครเขาจะพูดกัน
แล้วที่คุณยอมบอกผมเนี่ย อยากให้ผมช่วยหรือเปล่า
ถ้าคุณต้องการ ก็ได้นะ
เย้าเสียงหวานจนชายหนุ่มทำท่าตะลึงงัน ฉันหลุดขำเสียงดังตอนที่เขาหยิบแก้วเบียร์กระดกดื่มแก้เขิน ก็แหม่! นานๆ จะเห็นผู้ชายซื่อๆ สักที เพราะปกติเจอแต่คนเห็นแก่ตัว
ฉันล้อเล่น!” รีบทำหน้าแป้นแล้นบอก ส่งยิ้มหวานเหมือนปกติจรดริมฝีปากลงแก้วเบียร์ แล้วชำเรืองมองเชิงยั่วเย้า
พอเลย ผมไม่ตลกกับคุณนะผู้ชายหน้าแดงจัดพูดเขิน รอยยิ้มมีเสน่ห์ทำฉันวูบวาบได้ใจ ยิ่งกรึ่มๆ อยู่ด้วย เดี๋ยวแม่ก็ปล้ำซะหรอก
ถ้าเอาจริง ฉันก็โอเคนะ
ผู้หญิงอะไรเนี่ย
ทำไมล่ะคุณ ฉันมีไว้ก็ไม่ได้ใช้ อยากใช้บ้างไม่ได้หรือไง
เหลือเกินจริงๆ นะคุณเนี่ย
พูดแค่นี่เอง คุณรับไม่ได้หรอ
... ผมไปนอนดีกว่า
สายตาวับวาวของเราสองจ้องกันไปมา ฉันมองอ่านกินร่างชายหนุ่มจนความรู้สึกลึกๆ กระหายใคร่อยากขึ้นมาจริงๆ ไอร้อนวิ่งวูบทั่วร่างจนต้องเป็นฝ่ายกลืนน้ำลายซะเอง เขาคงดูออกจึงเลี่ยงขอตัวไปทำอย่างอื่น
เขาจัดการพาตัวเองไปอาบน้ำ ฉันเลยรื้อสมุดบันทึกมาเขียนเล่าเรื่องที่วันนี้พบเจอมา แปลกที่วันนี้มีแต่เรื่องร้ายๆ แต่ใบหน้าคนร่ายอักษรกลับอมยิ้มกรุ่มกริ่มพอใจ
ยิ้มอะไรคุณชายหนุ่มออกมาจากห้องน้ำแล้ว เขาทักเสียงเรียบทำหน้างงๆ ทั้งที่ก็เห็นอยู่ว่าฉันทำอะไร
จดบันทึกไงคุณ ไม่เคยทำหรอแสยะยิ้มแล้วพูด
ยุคนี้เนี่ยนะ ยังมีคนทำอยู่หรอร่างสูงโปร่งบึกบึน ผิวสีน้ำผึ้งนวลตายามนี้มีละอองประปรายทั่วตัว เส้นผมเปียกกระเซอะกระเซิง สวมกางเกงวิ่งขาสั้นโชว์เนื้อขาอ่อน
“…” ฉันมองค้าง มัวแต่สำรวจผู้ชายจนลืมตอบ
เช็ดน้ำลายบ้างคุณ คิดอะไรกับผมเปล่าเนี่ยเรือนร่างชายหนุ่มเปลือยอกคว้าผ้าเช็ดตัวมาเช็ดหัวส่งๆ เดินตรงมาทางนี้ ทิ้งตัวลงนั่งข้างๆ แล้วถามย้ำอีกรอบ
คิดอะไรกับผมจริงๆ ซินะ เสียงพร่ากระซิบถาม ฉันรีบก้มหายไม่กล้าสบตา
เฮ้อ!’ เสียงถอนหายใจเฮือกใหญ่ ทำฉันสะบัดหน้าจ้อง
ทำไงได้! ก็คนมันหล่อคำหลงตัวเองหลุดมาอย่างมั่นใจแล้วคลี่ยิ้มตบท้าย เราหลุดขำพร้อมกันกลบความเก้อเขินในตอนแรกซะสนิท
ค่ะ! คุณคนหล่อ

เวลาผ่านมาร่วมชั่วโมง ต่างคนต่างทำกิจกรรมของตัวเอง ฉันยังร่ายนิ้วส่องโซเชียว อัพบล็อก เขียนไดอารี่จนเปลือกตาเริ่มลืมไม่ขึ้น ส่วนเขาก็เขี่ยนิ้วลงมือถือ นอนเหยียดยาวบนเตียงนุ่ม
ง่วงแล้ว นอนดีกว่าฉันหลุดเสียงพูดกับตัวเองออกมา จัดการรวบของทุกอย่างลงกระเป๋า ตบหมอนอิงเบาๆ กำลังจะทิ้งร่างนอนลงโซฟา
คุณ มานอนนี่ซิ เดี๋ยวผมนอนโซฟาเองเสียงเรียบบ่งบอกว่าพูดตามมารยาท ฮืมม... ใครจะกล้า! ไม่ใช่อะไรนะ ขับรถเหนื่อยมาทั้งวันจะให้ตัวโตๆ อย่างนั้นมานอนขดบนโซฟาได้ไง
ไม่เป็นไร คุณเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว นอนให้สบายเถอะ
คุณ กลัวผมหรอ ไหนบอกว่าอยากลอง
เปล่า ฉันกลัวคุณหลับไม่สบาย
มานอนด้วยกันซิ ผมน่าจะหลับสบายกว่า
ฉันรู้ว่าเขาพูดตามมารยาท หน้านิ่งยังคงตั้งอกตั้งใจส่องมือถือ พลิกตัวตะแคงเชิงไม่สนใจว่าฉันจะพูดยังไงต่อ แล้วจะรออะไรคะ ...มาขนาดนี้แล้วก็ขึ้นเตียงเลย
คนแปลกหน้าสองคนทอดกายบนเตียงควีนไซส์ เบาะสปิงนุ่มกลิ่นหอมสะอาดพาอารมณ์ผ่อนคลายได้ดี เขายังอยู่ท่าเดินเห็นยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ใส่จอสี่เหลี่ยม ฉันว่าคืนนี้คงจบลงด้วยดีแล้วแหล่ะ เหนื่อยมาทั้งวัน นอนดีกว่า
คุณหลับยัง
หืม!”
บางที ผมก็อยากมีอะไรกับผู้หญิงที่ไม่ใช่แฟนนะ



TBC


อุ๊ย เขิน
ตอนหน้า Love Scene แล้วน่า
แวะอ่านแล้ว เม้นท์บอกเค้าด้วยเด้อ




วันเสาร์ที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562

TGA รักละมุน (Full)










ชื่อผลงาน                               TGA รักละมุน
จำนวน                                     95 หน้า
ราคา                                         125 บาท
ประเภท                                  นิยายฺโรมานซ์
บทประพันธ์                           เพียงเพลิน
ผู้จัดย่อหน้า / พิสูจน์อักษร  เพียงเพลิน
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติม  https://www.facebook.com/Venus909_writer
                สงวนสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์พ.ศ. 2537 ผลงานชิ้นนี้เป็นลิขสิทธิ์ส่วนบุคคล ห้ามมีการคัดลอก ทำซ้ำ ลอกเลียนแบบ ดัดแปลงเนื้อหาบางส่วน หรือทั้งหมดไม่ว่ากรณีใดทั้งสิ้น โดยไม่ได้รับอนุญาต หากต้องการนำไปใช้เพื่อเป็นประโยชน์แก่สาธารณะกรุณาติดต่อ เพียงเพลิน (063-7979178)




               

            ลิ้นสากฉกชิมที่เดิมซ้ำๆ กระดกชิมปุ่มเสียวจนร่างฉันเด้งเร้าราวไร้การควบคุม ทุกการเคลื่อนไหวของลิ้นร้อนสร้างความรู้สึกหลากหลาย ทั้งกระสั่นซ่านยามห่อตัวจนปลายแข็งกระดกทิ่ม ทั้งหายใจไม่ออกยามกลีบปากฟัดติ่งเนื้อ ดูดดุนราวอร่อยเหลือเกิน
            พอค่ะ ชญาไม่ไหวแล้วแรงมหาศาลทำงานพร้อมกันทุกทิศทาง ฉันไม่อาจทนรับความรู้สึกนี้ได้ เนื้อเต้นใจสั่นระรวยจนสมองขาวโพลนไปหมด ไม่นานความดำมืดก็มาเยือน
            คุณ! คุณ!”
            ถึงกับสลบเลยหรอ

 
 



INTRO
            คุณหมอคะ พี่สาวหนูเป็นอย่างไงบ้างคะ
            อาการพี่สาวคุณไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงหรอก อาจจะมีอาการแทรกซ้อนที่ต้องเฝ้าสังเกตอยู่บ้าง แต่ไม่ร้ายแรงอะไร
            อาการแทรกซ้อน คืออะไรคะหมอ
            หมอสันนิษฐานว่าพี่ของคุณ อาจเป็นโรค TGA”
            โรคอะไรนะคะ
 “TGA ความจำเสื่อมชั่วขณะ
Transient Global Amnesia (TGA)
        อาการความจำเสื่อมในระยะสั้น ถูกค้นพบเมื่อปี ค.ศ. 1956 มีอัตราเกิดโรคเพียง 5คน ใน 100,000คน มักพบในผู้ป่วยที่อายุ 50ปีขึ้นไป พบได้ทั้งเพศหญิงและชาย
        สาเหตุในทางการแพทย์ยังไม่ได้ระบุแน่ชัด อาจเป็นผลข้างเคียงจากโรคลมชัก , โรคไมเกรน , สมองขาดเลือดชั่วคราว , ความเครียด , การดื่มแอลกอฮอร์ เป็นต้น
        ผู้ป่วยโดยส่วนมากจะมีอาการหลงลืมในระยะสั้น ไม่เกิน 24ชั่วโมง แล้วหลังจากนั้นจะหายเป็นปกติเอง ในทางการแพทย์จึงยังไม่มีวิธีรักษาแน่ชัด
            เสียงน้องสาวคนเดียวของฉัน พูดคุยกับคุณหมอเสียงหล่ออย่างร้อนรน ตอนแรกกะจะแกล้งหลับเพื่อแอบฟังสิ่งที่คนทั้งสองคุยกัน แต่พอได้รู้ความจริงฉันก็แทบช็อค
            มิน่าล่ะ! ทำไมเรื่องบางอย่าง ฉันนึกเท่าไรก็นึกไม่ออก ความรู้สึกควบคุมตัวเองไม่ได้ถาโถมใส่ฉันมากขึ้นทุกวัน อาการหลงๆ ลืมๆ ทำให้ทุกอย่างกระทบไปหมด ทั้งเรื่องงานทั้งเรื่องน้องสาว ฉันใช้ชีวิตด้วยความสงสัยมานาน จนวันนี้ได้คำตอบแล้ว
            ความจำเสื่อม! เป็นไปได้ยังไงคะ พี่ของหนูยังไม่แก่เลยเสียงเจื่อนแจ้วของเด็กสาวถามด้วยความไม่เข้าใจ
            โรค GTA ไม่ใช่โรคคนแก่นะครับ ยุคสมัยนี้คนเรามีความเครียดมากขึ้น อาการของโรคก็จะปรากฏกับวัยทำงานเพิ่มขึ้น เรียกง่ายๆ ว่ามาจากความเครียดของพี่คุณนั่นแหล่ะ
            เครียด เพราะหนูล่ะซิ
            ตั้งแต่เกิดอุบัติเหตุในวันนั้น ชีวิตที่เคยสดใสสวยงามทุกอย่างทุกพรากไปพร้อมกับพ่อแม่ของเรา ฉันกลายเป็นเสาหลักคอยส่งเสียน้อง ทำงานตัวเป็นเกลียวเพื่อให้ญาณินมีชีวิตสดใส แต่เหมือนยิ่งพยายาม ทุกอย่างยิ่งแย่ลง
            แล้วหนูต้องทำยังไงคะ
            ตอนนี้ทำได้เพียงเฝ้าระวังครับ ไม่ต้องกังวลไป
            เสียงหมอหนุ่มพูดตัดบทแล้วขอตัวออกไปดูแลคนไข้ห้องอื่น เสียงญาณินทิ้งตัวนั่งอยู่ไม่ห่าง บ่นพึมพร่ำเดือนร้อนใจ
            ทั้งที่คิดว่าตัวเองทำดีแล้ว เป็นพี่ที่ดีดูแลน้องได้อย่างที่พ่อแม่ต้องการ แต่เปล่าเลยตอนนี้ฉันกลับทำให้น้องสาวคนเดียวเครียดหนัก จนเริ่มเดินทางผิด
            พ่อจ๋า แม่จ๋า หนูควรทำยังไงดี เงินทองเราก็ไม่ค่อยมี พี่ยังมาเป็นโรคประหลานนี่อีก


RRRRRRRRRRRing
            อืม พี่ชญาไม่เป็นอะไรมาก
            เออแตงกวา! งานเพื่อนเที่ยวที่แกเคยชวนเดี๋ยวนี้เค้ายังรับอยู่หรือเปล่า
            รับหรอ! ดีเลยฉันสนใจทำ
            ที่ไหน เมื่อไรแกบอกมา
            ห้ะ! วันนี้เลยหรอ
            อืม.. ได้ๆ
            ญาณินคุยโทรศัพท์กับเพื่อนสนิทที่ชื่อแตงกวา ฉันแอบฟังไปเรื่อยจนได้ยินเสียงกุกกัก คล้ายหาของอะไรสักอย่าง ลืมตาแอบมองเห็นเธอกำลังตั้งใจจดอะไรบางอย่าง
            ญาติคนไข้คะ คุณหมอเชิญค่ะ
            เสียงคุณพยาบาลพูดแทรกขึ้น ทำให้ญาณินรีบร้อนออกจากห้องไป เหลือบมองสมุดจดด้วยความอยากรู้ ยัยน้องตัวดีของฉันเนี่ย ยิ่งคิดทำอะไรแปลกๆ อยู่ ต้องดูสักหน่อยแล้ว

            “23:00”
            “@XXX Hotel”
          โรงแรมหรอ ไปทำงานอะไรกัน หลายเรื่องเลวร้ายวิ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว จนตอนนี้ฉันคิดเรื่องดีดีไม่ออกเลย แค่คิดความกลัวยังทำร้ายใจมากขนาดนี้ หากน้องสาวที่เหลืออยู่คนเดียวทำอย่างนั้นจริงๆ ฉันจะทุกข์ขนาดไหน
          ไม่ได้ พี่จะไปเอง
            งานที่ญาณินทำได้ ฉันก็คงทำได้เหมือนกัน หากตอนนี้เลือกได้ฉันก็อยากเป็นตัวเลือก ไม่มีพี่คนไหนทนเห็นน้องตกนรกทั้งเป็นได้ อีกอย่างไอ้โรคขี้ลืมของฉัน
            ...คงพอช่วยรักษาแผลใจ








Chapter 1
ปรีชญา
            อ้าว! พี่ชญาตื่นแล้วหรอ
            อืม เพิ่งตื่นน่ะ ญาณินล่ะไปไหนมา
            หนูไปจัดการค่าใช้จ่ายมา หมออนุญาตให้พี่กลับบ้านได้แล้วนะ
            หมอว่าไงบ้าง เค้าบอกไหมว่าพี่เป็นอะไร
            ไม่มีอะไรหรอก พี่แค่เครียดน่ะ พี่ต้องพักผ่อนเยอะๆ รู้หรือเปล่า
            แค่นั้นเองหรอ
            ก็ใช่นะซิ!”
            เสียงเด็กสาวยังคงร่าเริง ทั้งที่แววตาวูบไหวไม่กล้าสบตา ฉันไม่ต้อนถามอะไรอีก ยิ้มรับความหวังดีของญาณินทั้งที่ในใจเย็นชาหาทางออกไม่เจอ
            เรารีบกลับบ้านกันเถอะ ตอนค่ำหนูมีนัดกับเพื่อนต่อ พี่อยู่คนเดียวได้ใช่ไหม
            หืมม.. ได้ซิ! บ่นเหมือนพี่เป็นเด็กไปได้
            ตอนนี้ก็ไม่ต่างกันหรอก
            ห้ะ! ว่าไงนะ
            ฉันแกล้งย้ำถาม เด็กสาวแรกรุ่นด้วยอายุเพียง 18 ปี ทำหน้าแบกโลกไว้ทั้งใบ เธอยังฝืนยิ้มทั้งที่ไม่ค่อยแนบเนียนสักเท่าไร
            นิ! เป็นพี่นะไม่ได้เป็นแม่ หนูจะไปไหนมาไหน ต้องคอยรายงานพี่ด้วยหรือไงเสียงตะกุกตะกักพยายามพูดเปลี่ยนเรื่อง แสร้งทำท่าทางไม่พอใจ ทั้งที่แววตาประหม่าเหลือเกิน
            จะไปหาเพื่อนที่ไหนละ พี่ขับรถไปส่งให้ก็ได้
            ไม่ต้องหรอก พี่อยู่บ้านพักผ่อนเหอะ
            แน่ใจนะ พี่ไปส่งเราก่อนไม่สะดวกกว่าหรอ
            อย่าเลย! เดี๋ยวพี่จะกลับไม่ถึงบ้านเปล่าๆ
            เราโต้เถียงกันเหมือนปกติ ญาณินหลุดคำพูดชวนคิดมาหลายประโยค กว่าเธอจะรู้สึกตัวฉันก็ยิ้มเย้ยแสดงอาการรู้ทันออกมาซะแล้ว
            โอ๊ยพี่ชญา! อย่าถามเยอะน่า ญาณินเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว รีบกลับบ้านกันเถอะ
            อืม ก็ไปซิ! อยู่ทานมื้อเย็นกลับพี่ก่อนนะ แล้วค่อยไป
            สิ่งที่ฉันทำให้ญาณินกิน มันคืออาหารที่เต็มไปด้วยความรัก รสชาติคุ้นเคยแต่แฝงความพิเศษชวนหลับใหลอยู่ในนั้น ไม่นานเมื่อยาออกฤทธิ์ น้องสาวที่เอาแต่ตั้งท่าจะออกจากบ้านก็หลับไม่ได้สติ
            หากต้องทำร้ายตัวเองเพื่อช่วยพี่ ให้พี่ไปเองเถอะ
            ประครองพาญาณินมานอนโซฟาใกล้ๆ วันเวลาเปลี่ยนเด็กสาวตัวเล็กๆ กลับสูงใหญ่สมส่วนแบบวัยรุ่น ขนาดร่างกายที่ไม่ต่างกันมาก อาจทำให้ฉันปกป้องเธอได้ไม่ดีนัก บ่อยครั้งที่ญาณินเองกลับเป็นฝ่ายปกป้องคนเป็นพี่ซะมากกว่า ซึ่งคราวนี้มันจะไม่เป็นอย่างนั้น

            “23:00”
            “@XXX Hotel”
            ที่นี่ซินะ ฉันขับรถตามจีพีเอสมาเรื่อยโดยไม่รู้ว่าข้างหน้ามีอะไรอยู่ โรงแรมระดับสามดาวชานเมือง ดูเงียบเหงาจนน่ากลัว จอดรถนั่งสูดลมหายใจ ตั้งสติลบล้างความประหม่า ฉันมักจะลืมเรื่องที่เกิดในตอนกลางคืน
            ...คืนนี้ก็คงเช่นกัน
            เอาเถอะ เดี๋ยวเช้าเราก็ลืมทุกอย่างที่นี่ นั่งปลอบใจตัวเองอยู่สักพัก
            ก๊อกๆ ก๊อกๆๆ ใครอีกคนเคาะกระจกเรียกร้องให้ฉันสนใจ ลังเลไม่กล้าลดกระจกลงมอง แอบดึงกระชับเสื้อคลุมตัวให้ยิ่งปกปิดร่างกาย
            คะ
            เด็กที่นายนัดไว้หรือเปล่า
            เด็ก... ไหนคะ
            ก็เด็กที่นายเรียกมาไง ใช่หรือเปล่า!”
            ออ ชะ.. ใช่! ค่ะ
            ใช่ก็ลงมาซิ นายคอยอยู่นานแล้วชายวัยกลางคนแต่งชุดสูทดูภูมิฐานถามด้วยเสียงสุภาพ หน้านิ่งเรียบแต่คำพูดเร่งเร้าให้รีบ รู้สึกตัวอีกที่ก็มาหยุดอยู่หน้าห้องนี้ซะแล้ว
            เข้าไปซิ นายรอนานแล้วผู้ชายคนนั้นเปิดประตูห้องให้ ใช้สายตากดดันจนต้องก้าวขาเข้าไปตามที่สั่ง ห้องสลัวมีกลิ่นบุหรี่ลอยคลุ้งในอากาศ เสียงทีวีเปิดดังชัด แต่ฉันกลับฟังไม่ออก
          ใครนะ ดูข่าวเศรษฐกิจภาคภาษาญี่ปุ่นด้วย คิดความสงสัยในใจ จนกระทั้งผู้ชายร่างสูงใหญ่เดินออกมาจากห้องน้ำ
            มาดูแลผมหรอเสียงเรียบเย็นชาไม่ต่างจากคนข้างนอก แถมคนนี้หน้านิ่งกว่ามากไม่มีความเป็นมิตรฉายไว้ให้อุ่นใจเลย ฉันเลือกพยักหน้าแทนการตอบ
            เป็นใบ้หรือไง นี่หูตึงด้วยไหมเนี่ยเสียงเรียบในตอนแรก เริ่มกระแทกเน้นพูดดังจนฉันสะดุ้ง
            เปล่าค่ะ
            ก็พูดได้นิ ทำไมตอนผมถาม ถึงทำหน้าคิดหนัก
            แหม่! คนตกอยู่ในสภาพฉันก็ต้องคิดหนักทั้งนั้นแหละ ไม่รู้ว่าต้องมาทำอะไรที่นี้ แถมไอ้คนถามยังใส่เพียงผ้าเช็ดตัวพันช่วงล่างไว้หมิ่นเหม่
            มีอะไรให้ฉันทำก็ว่ามา
            ใจร้อนจังคุณ รีบทำเวลาหรือไง
            รีบทำเวลาไม่ดีหรือไง รีบเสร็จจะได้รีบกลับ
            ถามกลับด้วยความไม่เข้าใจ ก็เห็นใครๆ เค้าชอบทำงานให้เสร็จเร็วๆ จะได้รีบพักผ่อน จะได้รีบกลับบ้าน แล้วเขาไม่ชอบหรอ
            พูดตรงดี งั้นก็ไปอาบน้ำซะ
            อาบน้ำ! อาบทำไม
            อย่ามาแกล้งถามผมให้มากความน่า! ก็คุณรีบไม่ใช่หรอ ไปซิ! งานของคุณจะได้เสร็จๆ
            นิ่วหน้าใช้สายตาจ้องค้างที่ฉัน มันเป็นสายตาแบบคาดคั้นจ้องจับผิด พร้อมเดินเข้ามาทีละก้าวอย่างใจเย็น ฉันยังโต้เถียงราวไม่เกรงกลัว ทั้งที่ใจอยากถอยหนี   
            ผู้ชายกับผู้หญิงในโรงแรมเค้าทำอะไรกันล่ะ อย่าบอกนะว่าที่มานี่ไม่รู้!”
            คือฉัน.. ฉัน
            หรือคิดจะขึ้นค่าตัว
            .ใบหน้าหล่อเหลาดูอ่อนวัยกว่าเคลื่อนเข้ามาใกล้ นัยน์ตาสีดำขลับเบิกโตจ้องจนฉันไม่กล้าขยับหนี  ปลายนิ้วคลอเคลียข้างแก้ม นิ้วหัวแม่มือเกลี่ยคลึงริมฝีปากบาง
            ฉัน.. อาบมาแล้วหลุดปากพูดออกไป สะบัดหน้าหลบสายตา อีกฝ่ายยิ้มเย้ย ยิ่งขยับเข้ามาใกล้กว่าเดิม นิ้วมือเรียวยาวหยิบเส้นผมสยายขึ้นมาสูดดม
            งั้นก็ถอด
            ห้ะ!”
            ตกใจอะไร! คุณเตรียมพร้อมมาสนุกแล้วนิ
            คือฉัน...
            เท่าที่รู้งานง่ายเงินดีที่กลุ่มญาณินรับทำคือรับควงออกงานเป็นเพื่อนเที่ยว เป็นเพื่อนกินให้กับบรรดาเสี่ยขี้เหงา ไม่นึกเลยว่าจะรับเป็นเพื่อนนอนด้วย นี่ฉันเป็นพี่ที่แย่มาก ทำไมเลี้ยงดูน้องให้ดีกว่านี้ไม่ได้
            หรือว่ายังไม่เคย
            เปล่า! ฉันแค่... ยังไม่รู้จักคุณเลย
            ต้องรู้จักด้วยหรอ
            “…”
            อีกอย่าง ผมก็สั่งเอาเด็กใหม่ ไม่ผ่านใครมาก่อนนิ คิดจะยอมแมวหรือไง
            นี่คุณ!”
            ดูจากหน้า คุณน่าจะอายุมากกว่าผมนะ รสนิยมผมตกต่ำขนาดนี้แล้วหรอ
            พอเห็นฉันลืมตัวคุยโต้ตอบปกติ หมอนี่ก็ยิ่งพูดต้อนจนน่าหมั่นไส้ แววตาเหยียดเชิงล้อเลียนทำงานพร้อมยิ้มมุมปากถูกใจ ฉันรู้ว่านี่คือคำกวนประสาท แต่อดรู้สึกแย่ไม่ได้
            ฉันก็ไม่ชอบเด็กๆ ไร้เดียงสาเหมือนกัน ขอโทษที่ทำคุณเสียเวลา ฉันกลับล่ะ
            กะรีบพูดรีบชิ่งหนี ในเมื่อเขาไม่พอใจแบบฉัน ก็ไม่ต้องเสียเวลาคุยอะไรกันอีก ต่างฝ่ายต่างแยกย้ายก็น่าจะจบ แต่ยังไม่ทันที่ฉันจะหันหลังกลับ มือแกร่งก็ปรี่เข้ามาคว้าตัวไว้
            ว่าผมไร้เดียงสา แล้วคิดจะหนีหรอร่างถูกดึงไปอยู่ในอ้อมอกเขาทันที่ สันจมูกสูดดมแถมซอกคอ กระซิบเสียงถามแผ่วเบาจนจั๊กจี้
            นายไม่ชอบอายุมากกว่า ฉันเองก็ไม่ชอบเด็กเหมือนกัน แยกย้ายนั่นแหล่ะ ถูกแล้ว!” ด้วยแรงที่พอมีอยู่พยายามดีดดิ้นขัดขืน ทั้งที่รู้มาสู้เขาไม่ได้ ยิ่งขยับหนียิ่งจมลึกลงไปในอ้อมกอดจนสองถูกแขนแกร่งพันธนาการไว้ทั้งตัว
            คิดว่าเดินเข้าห้องผมแล้ว จะออกไปง่ายๆ งั้นหรอ
            ก็ไม่น่าจะยากนะ ปล่อยซิ!”
            แสร้งปากดีโต้กลับ ทั้งที่เขาน่าจะรู้อยู่แล้วว่าฉันสั่นขนาดไหน เขาเริ่มซุกไซ้ใช้ปลายจมูกหยอกเย้าซอกคอขาว สูดดมกลิ่นน้ำหอมจางๆ มือลูบไล้จากเอวคอดขึ้นมาเกาะกุมเต้าแฝด
            ปล่อย!” เสียงแข็งร้องค้าน แต่ยังยืนรับทุกสัมผัส ไม่อาจดิ้นหนีไปไหนได้
            เดี๋ยว! จะทำอะไร ร่างถูกยกสูงลอยเหนือพื้น นอกจากเค้าจะกอดฉัน ตอนนี้ยังช้อนตัวอุ้มเดินมาทางเตียงอีกด้วย
            โอ๊ย! เจ็บนะ
            เดี๋ยวคุณได้เจ็บกว่านี้แน่
            ร่างฉันถูกโยนตกลงพื้นเตียง ทั้งที่บ่นเสียงดังหวังให้อีกฝ่ายสำนึกแต่เปล่าเลย เค้ากลับยิ้มยั่วย่างสามขุมขึ้นมานั่งข้างๆ เขาไม่เปิดโอกาสให้พูดต่อ มือหนาเรียวยาวบีบกรอบหน้าฉันให้เชิดจ้องระยะสายตา แววตาดำขลับสะกดให้ใจเต้นรัว
            อายุเท่าไรแล้วคุณ ดีดดิ้นทำเป็นไม่เคยไปได้สูดลมหายใจลึกๆ เก็บกดความประหม่าไว้ ใช้สายตาจ้องดุดัน แม้คนตรงหน้ายังยิ้มเย้ยกวนประสาท แต่ฉันก็จะไม่โต้เถียงอีก
            เขายิ่งขยับเข้าใกล้ ใช้สันจมูกดันชิดแก้ม ไอร้อนสัมผัสผิวหน้าทำสะดุ้ง ฉันไม่อาจถอยหนีไปไหนได้เพราะแขนแกร่งประครองกอดไว้เรียบร้อยแล้ว
            ทั้งที่อยากดิ้นหนีร่างกับถูกพันธนาการไว้ด้วยวงแขน เขาเริ่มซุกไซ้ซอกคอ ริมฝีปากละเลียดชิมผิวเนื้อ กดย้ำราวอยากตราตรึงรอยรักไว้ ทั้งที่ฉันควรผลักไส้แต่เพราะความตื่นเต้นแปลกใหม่ ทำให้ฉันนิ่งทำอะไรไม่ถูก
            ใครกันแน่ไร้เดียงสาเสียงเหยียดกระซิบพร่า เค้าคงจับความรู้สึกตื่นเต้นได้ เพราะฉันสั่นเทาแถมยังครางเสียงน่าเกลียด
            อืมม...
            ถอดชุดออกซิ ให้ผมถอดเองเดี๋ยวจะกลายเป็นเศษผ้าซะเปล่าๆ
            ไม่! นายสั่งฉันไม่ได้หรอก เสียงแห่งห้วงความคิดมันใจว่าปฏิเสธได้ แต่ร่างกายกลับสวนทาง
            ฝ่ามือหนากว่าช้อนมือฉันขึ้น พรมจูบจากหลังมือไล่ขึ้นจนถึงเรียวแขน ไอเห่อร้อนวูบไหวตามทุกส่วนที่สัมผัส สายตาเขานิ่งค้างสองก้อนแฝดที่หลบซ้อนอยู่
            ถอดซิเขายกมือฉันมาวางค้างที่กระดุมบนหน้าอก ทุกอย่างเกิดขึ้นราวมนตร์สะกด ปลายนิ้วเรียวกรีดกรายปลดออกทีละเม็ดช้าๆ จนอีกฝ่ายทนรอไม่ไหว กระชากพรวดเดียวหลุดออกจนหมด
            บราสีดำเรียบลอยเด่นตัดกับผิวเนื้อขาวเนียน วงแขนล็อคเอวรั้งฉันไปใกล้กว่าเดิม ใบหน้าหล่อเหลาจมหายไปกับร่องอกอวบอิ่ม ฝ่ามือเคลื่อนตัวส่งความเสียววาบทั่วร่าง
          แคว๊ก เสียงฉีดผ้าดังปลุกฉัน กว่าจะรู้ตัวตอนนี้ก็เหลือเพียงแพนตี้ลูกไม้ตัวจิ๋ว
            โทษทีเดี๋ยวผมซื้อให้ใหม่ เขาเงยหน้าจากเนินท้องขึ้นพูดกวนประสาทนิดหนึ่ง แล้วลากต่ำลงไปหยกล้อเนินสามเหลี่ยม
              ทั้งที่ฉันควรดิ้นหนี แต่พอได้ไออุ่นแบบนั้นกับเปิดทางอ้ากว้างให้ร่างเค้าแทรกเข้ามา
            พรมจูบลงไปเรื่อยๆ จนถึงเนื้ออ่อนต้นขาด้านใน ความจั๊กจี้ปั่นป่วนให้ฉันอยากหุบขาหนี แต่ไม่ทันทำได้แขนแกร่งกว่าก็ล็อกสองขาแยกออกจากกันซะแล้ว
            ลิ้นสากละเลียดชิมทีละน้อย อ้อยอิ่งสะกิดทุกซอกหลืบอย่างอยากรู้ ร่างกายฉันถูกสำรวจจนความเสียวซ่านตีรวนกันมั่วไปหมด ไม่อาจขัดขืนความนุ่มละมุน แข็งกระด้าง และสั่นเทานี้ได้
            รู้สึกง่ายจัง คุณเสร็จไปกี่ทีแล้วเนี่ยเสียงที่เคยนิ่งเรียบ เริ่มหยอกเย้ายียวนพร้อมปลายนิ้วซุกซน เขากำลังยิ้มขำที่ร่างกายฉันตื่นตัวตาม
            ปล่อย
            ไม่
            สวบ แรงดันจุกแน่นทิ่มเข้ามาสุดลำ ฉันอึ้งด้วยความเจ็บปวด เผลอปล่อยเสียงครางน่าเกลียดอีกแล้ว ภายใต้ร่างกำยำของชายหนุ่ม ฉันเหมือนเครื่องรองรับอารมณ์ใคร่ ตั้งท่ารอการโยกขยับ
            แน่นจัง อย่าบอกนะว่าคุณไม่เคยสีหน้ากวนประสาทเปลี่ยนเป็นถามจ้อง สายตายียวนเปลี่ยนเป็นคาดคั้น ฉันจุกจนพูดไม่ออก ได้แต่ส่ายหน้าปฏิเสธทั้งที่มันคือความจริงทุกอย่าง
            พอเห็นฉันไม่ตอบแรงมหาศาลก็ถาโถมใส่ฉัน ทุกส่วนของร่างกายทุกสัมผัสถูไถทำให้เราใกล้กันมาก ตึก ตึก เสียงใจเต้นถี่แข่งกันทำให้อบอุ่น เขาเป็นคนแปลกหน้าที่ร่างกายกลับยอมรับ
            ทุกจังหวะที่ท่อนเนื้อเสียดสีเข้ามาในร่าง มันหนักหน่วงแต่ก็แฝงความอ่อนโยนในเวลาเดียวกัน เขาโอบกอดฉันไว้แน่น กระเส่าเสียงลมหายใจอยู่ใกล้ พร่ำถามคำห่วงใย
            อืมม... เจ็บหรือเปล่าถามบ้าอะไร! ถูกกระแทกกระทั้นขนาดนี้จะไม่เจ็บได้ไง แล้วฉันเป็นบ้าอะไรเนี่ย! ทำไมพูดตอบไม่ได้ อึดอัดคับแน่นทำได้เพียงครางระงมอย่างลืมตัว
            อ๊ะ! อ๊าซ.. อ้า…ไม่มีอะไรจะโต้เถียงอีก ทำได้เพียงกระเส่าเสียงหวาน ตั้งท่ารับแรงดันเข้าออก ฝ่ามือแกร่งกอดเขาไว้แน่น ทำหน้าที่จนแรงดันน้ำอุ่นพ้นฉีดเข้ามา เราสองคนกอดกันแน่น กระตุกตัวถี่พร้อมกัน  
            เจ็บไหม
            ค่ะ
            แล้วชอบหรือเปล่า
            ฉันไม่กล้าตอบ ทำได้เพียงเบี่ยงหน้าหนีอย่างเขินอาย อิตาบ้านี่จะถามย้ำอะไรนักหนานะ ปกติแค่คู่นอนเค้าสนใจกันด้วยหรอว่าเจ็บหรือไม่
            ผมรักษาให้ไหมเขาพลิกตัวกลับมาคร่อมทับอีกครั้ง ฝ่ามือหนาลูบปล่อยเนินเนื้อแผ่วเบา ปะป่ายวนเวียนอยู่แถวนั้นไม่ยอมห่างไปไหน ฉันไม่เข้าใจในสิ่งที่พูด จนร่างเขาค่อยๆ ก้มลงต่ำดอมดมทุกสัดส่วนบนร่างลงไปจนถึงเนินน้อย
            จูบละมุนพรมทั่วเนื้ออ่อนต้นขาทั้งสองข้าง สันจมูกคมตามสำรวจซอกหลืบไร สะกิดลิ้นทักทายร่องระบมครั้งแล้วครั้งเล่า
            คุณ ทำอะไรร้องถามเสียงหวาน แรงสะกิดติ่งเนื้อยิ่งรัวถี่แทนคำตอบ
            หน้าหล่อเหลาจมหายไปกลางหว่างขาเนินนาน ทำฉันกระตุกตัวเกร็งปลดปล่อยนับครั้งไม่ถ้วน หายใจหอบระรวย ครางอื้อหมดฟอร์ม สมองขาวโพลนเกินควบคุม
            รู้สึกอุ่นสบายดีเหลือเกิน ทุกจังหวะหวานละมุนทำให้ร่างฉันเด้งสวนกลีบเนื้อไม่หยุด ปากได้รูปดูดทึ้งจนหนำใจ ขบเม้มจนติ่งเสียวสั่นตามหัวใจปรารถนา
            ลิ้นสากฉกชิมที่เดิมซ้ำๆ กระดกชิมปุ่มเสียวจนร่างฉันเด้งเร้าราวไร้การควบคุม ทุกการเคลื่อนไหวสร้างความรู้สึกหลากหลาย ทั้งกระสั่นซ่านยามห่อตัวจนปลายแข็งกระดกทิ่ม ทั้งหายใจไม่ออกยามกลีบปากฟัดติ่งเนื้อ ดูดดุนราวอร่อยเหลือเกิน
            พอค่ะ ชญาไม่ไหวแล้วแรงมหาศาลทำงานพร้อมกันทุกทิศทาง ฉันไม่อาจทนรับความรู้สึกนี้ได้ เนื้อเต้นใจสั่นระรวยจนสมองขาวโพลนไปหมด ไม่นานความดำมืดก็มาเยือน
            คุณ! คุณ!”
            ถึงกับสลบเลยหรอ

@Morning
            สองแขนบิดขี้เกียจตามความเคยชิน กลิ้งร่างบนเตียงกว้างเร่งปลุกทุกเซลล์ให้ทำงาน นี่คงเป็นวันน่าเบื่ออีกวันหนึ่ง ตื่นนอน , ไปทำงาน , กลับบ้าน , เข้านอน วนเวียนอยู่อย่างนั้น
            อืมม... สบายจัง
            ตื่นแล้วหรอคุณ
            “!!!”
            เสียงแหบพร่าพูดแทรกขัดอารมณ์สุนทรียามเช้า เข้ายืนเสริมหล่ออยู่หน้ากระจกหันหลังให้ฉัน ตึก ตึกรอยสักมังกรตัวใหญ่ประทับอยู่บนแผ่นหลังกำยำ แถมประดับด้วยรอยแผลบากขนาดใหญ่เฉียงตัวตามความกว้าง
            ฉันแทบลืมหายใจ มองรอบตัวดีๆ แล้วอยากด่าตัวเองอีกหลายระรอก ที่นี่ที่ไหน แล้วฉันมาทำอะไรกับนายมาเฟียน่ากลัวนี่เนี่ย
            เห็นแล้วซิ กลัวผมหรือไง ดูทำหน้าเข้า
            เออ... ชญากลับก่อนดีกว่า
            ปล่อยเสียงอึกอักพูดไม่เป็นคำ จนอีกฝ่ายทำหน้างง มือหนารีบคว้าแขนฉันไว้ ใช้สายตาดุดันจ้องถาม
            รังเกียจผมหรือไง
            เปล่า!”
            ฉันรีบตอบปฏิเสธทั้งที่เสียงสั่นส่อพิรุธ เขายื่นหน้ามาใกล้เอียงคอเลี่ยงหาองศาราวจะจูบ สายตาดุดันจ้องค้าง อ่านกินทุกความรู้สึกทะละปุโปร่ง ฉันไม่อาจเลี่ยงได้จนหลับตานิ่งไม่กล้าแม้แต่ขยับหนี
            หึ!’ เสียงเย็นชาเยาะเย้ยไม่มีความหมาย เขาทิ้งตัวลงนอนตะแคงข้าง โชว์แผ่นหลังรูปมังกรตัวใหญ่กับรอยบากแผลทางยาว ยอมรับว่ามันน่ากลัว แต่ก็ไม่สยองเท่าที่ฉันจำไม่ได้ว่าเมื่อคืน ...เกิดอะไรขึ้นบ้าง
            จ้องแผ่นหลังคนตรงหน้าให้เต็มตา รอยกรีดน้อยใหญ่อีกหลายเส้นถูกกลบทับตัวมังกรสีสด แรงหายใจแผ่วไหวบ่งบอกว่าอีกฝ่ายกำลังรู้สึกแย่ ฉันทิ้งตัวลงนอนข้างๆ ช่างใจคิดก่อนทำบางอย่าง
            สอดแขนบางข้ามไปกอดเขา สันจมูกคลอเคลียรอยแผลเป็น ประทับริมฝีปากจูบซับเจ้ามังกรขี้น้อยใจ กระชับวงแขนให้แน่นขึ้น แนบหน้าฝากไออุ่นลมหายใจไว้ตรงนั้น
            เช้าแล้ว ญชาขอไปทำงานนะคะ
            ก็ไปซิ! ผมไปส่ง
          โอ๊ย! อะไรก็เนี่ย 










TGA
รักละมุน


             
แนะนำตัวละคร
ชเว พารัน
            นักธุรกิจหนุ่มไฟแรง อายุ 28 ปี เก่ง กร้านโลก เพราะวงการนี้ทำให้เขาผ่านอะไรมามากจนกลายเป็นเสือยิ้มยาก
แนะนำตัวละคร
ปรีชญา
            หญิงสาววัย 30ปี พนักงานออฟฟิตใช้ชีวิตตามมาตรฐาน ไม่หวือหวาออกไปทางน่าเบื่อซะด้วยซ้ำ วันหนึ่งโชคชะตาก็กลั่นแกล้งให้ยิ่งทุกข์นัก หรือจะเรียกว่าความสุขก็อาจได้
Chapter 2
พารัน
            มาดูแลผมหรอผู้หญิงคนที่ยืนอยู่ตรงหน้า แตกต่างจากทุกคนที่เคยเจอมา เธอดูเรียบร้อยนุ่มนวลเกินกว่าจะทำงานขายบริการ
            ท่าทางอึกอักหวาดกลัวยิ่งตอกย้ำว่านี่คือครั้งแรก ผมแกล้งลองใจลูบไล้หยอกล้อ เธอก็บ่ายเบี่ยงปฏิเสธ แสดงออกชัดเจนว่าไม่ใช่คนแบบนั้น แล้วเธอมาที่นี้ทำไม
            นี่คุณ!”
            ดูจากหน้า คุณน่าจะอายุมากกว่าผมนะ รสนิยมผมตกต่ำขนาดนี้แล้วหรอ
            ฉันก็ไม่ชอบเด็กไร้เดียงสาเหมือนกัน กลับล่ะ
            ยัยผู้หญิงใสซื่อในตอนแรก พอโดนล้อเรื่องอายุเข้าหน่อย ทำเป็นชักสีหน้าแง่งอน แก้มกลมตุ้ยปากเม้มหากันแน่น ใครกันแน่ทำตัวเป็นเด็ก นาทีนี้ผมรู้สึกเหมือนเจอเรื่องสนุกแล้วซิ
            เสียงครางหวานหูดังระงมทั่วห้อง แม้จะมีเสียงเร่งควบบดเบียดก้อนเนื้อกระทบกัน แต่เธอก็ยังสะกดผมไว้ได้ดี
            ทุกอย่างบนเรือนร่างหอมสะอาด นวลเนียนเต่งตรึงราวไม่เคยผ่านมือใครมาก่อน ผมไม่รู้เลยว่าวินาทีนี้ผมจะห้ามใจได้ไหม เพราะทุกสัมผัสเชิญชวนให้ครอบครองเหลือเกิน
            กลีบเรียบสนิท ไม่ยอมเปิดทางให้สิ่งแปลกปลอมแทรกผ่าน ผมจำเป็นต้องใช้ลิ้นร้อนเซาะชิม
            บดคลึงจุดเสียวเพื่อให้เธอผ่อนคลาย แต่ยิ่งจมหายไปตรงนั้นเท่าไร ผมยิ่งหลงใหลราวมันยั่วให้ยิ่งอยาก
            คุณ! คุณ!”
            ถึงกับสลบเลยหรอ
            ร่างบางโดนผมกระทำซ้ำๆ ไม่นานเธอก็หลับไป ไล่เช็ดทำความสะอาดทุกซอกมุม พร้อมหลับใหลไปกับคืนแสนสุข ผมไม่ได้นอนหลับสนิทนานแค่ไหนแล้วนะ 1เดือน 1ปี หรือมากกว่านั้น
           
@ระหว่างทางไปบริษัท
            วันนี้เจ้านายดูอารมณ์ดีจังนะครับ
            ผมออกอาการขนาดนั้นเลยหรอ
            เสียงบอดี้การ์ดหนุ่มร้องทัก ทั้งที่ก็รู้อยู่แล้วว่าผมอารมณ์ดีเพราะอะไร หรือว่าวันนี้ผมผิดปกติจริงๆ
            ปกติผมอารมณ์ร้ายนักหรือไง
            ไม่ร้าย แต่ก็ไม่ดีขนาดนี้ครับ
            คงเป็นเพราะได้หลับสนิทมั้ง
            เอ๊ะ! แค่หลับอย่างเดียวหรอครับ
            รู้อยู่แล้วยังจะแซวผมอีก
            รู้ครับรู้ แต่ปกติคุณพารันไม่อารมณ์ดีขนาดนี้
            แล้วปกติผมเป็นอย่างไง
            ปกติก็นิ่งๆ เงียบๆ แต่กับคนนี้เธอทำให้คุณยิ้มได้
            พลขับหน้ารถชวนคุย เราคุยเล่นกันเป็นเรื่องปกติ ทุกเรื่องเกี่ยวกับตัวผม ธรรมรู้ดีทุกอย่าง เพราะนอกจากเค้าจะเป็นพลขับ เขายังเป็นบอดี้การ์ดอีกด้วย
            อย่าว่าแต่คนอื่นดูออกเลย ขนาดตัวผมเองก็เริ่มไม่มั่นใจเหมือนกัน ว่าอารมณ์ดีอย่างนี้เพราะอะไร
            ...เพราะเธอ จริงหรือเปล่า
            เมื่อเช้าเราแยกกันหน้าโรงแรมเลย ทั้งที่ผมอาสาไปส่งแต่เธอกลับปฏิเสธ ตอนแรกไม่คิดอะไรมากแต่ตอนนี้ซิ ความรู้สึกอยากรู้อยากเห็น กำลังถามว่า
            ...เธอคือใคร
            ทำไมโง่อย่างนี้นะ มีเวลาอยู่ด้วยกันตั้งนานน่าจะขอเบอร์ติดต่อหรืออะไรไว้สักหน่อย แล้วผมจะหาเธอได้จากที่ไหน เพราะดูท่าแล้วเธอไม่ใช่ผู้หญิงแบบนั้นแน่
            คิดอะไรอยู่หรอครับคุณพารัน
            เรื่องผู้หญิงคนนั้นน่ะ
            ยังไงครับ อย่าบอกนะว่าติดใจ
            ไม่ใช่! คือผมจะถามว่า เธอเป็นใคร
            ธรรมนี่รู้ทันทุกอย่างจริงๆ เห็นแค่สีหน้าก็ตีความได้อ่านทะลุปรุโปร่งหมด ผมตอบเสียงแผ่วราวไม่อยากยอมรับว่าคิดถึงเธอคนนั้น
            เดี๋ยวผมถามให้ครับ เพราะต้องเอาเงินไปจ่ายอยู่แล้ว
            ประโยคนี้ฟังแล้วเหมือนถูกไม้หน้าสามฟาดใส่ นี่ผมลืมไปหรือเปล่าว่าคนที่นอนด้วยเป็นแค่ผู้หญิงขายบริการ เธออาจจะมีมารยาขั้นสูงหลอกล่อจนผมหลงเชื่อสนิทใจก็ได้
            หวนคิดถึงภาพเมื่อคืนที่ผมทั้งอ่อนโยน ทั้งทะนุถนอม มันย้อนกลับมาฟ้องว่าผมหลงกลเธอเข้าแล้ว ย้ำถามตัวเองชัดๆ ว่าที่ทำลงไปเพราะอารมณ์ชั่ววูบหรือใจต้องการ
            ...ไม่มีผู้ชายคนไหนทำให้ขนาดนั้น
            ...ถ้าไม่รู้สึกอะไรเลย

            ทำไมครับ เธอถูกใจคุณขนาดนั้นเลยหรอ
            เปล่าหรอก แค่ผมรู้สึกว่าเธอไม่เหมือนคนอื่น
            ก็จริงนะครับ เพราะที่ตกลงไว้เค้าจะส่งเด็กใสๆ 18-19 มาให้ ตอนแรกผมยังไม่เชื่อเลยว่าจะเป็นคนนี้
            หรอ
            ครับ อีกอย่างในสังกัดเจ๊นี่มีแต่เด็กๆ ไม่มีอายุเกิน 20สักคน ผมก็ว่าแปลกเหมือนกัน
            ผมเงียบไม่ได้โต้ตอบอะไรอีก เรื่องวุ่นๆ ระหว่างวันทำให้ผมลืมเรื่องผู้หญิงคนนั้นซะสนิท
            วันเวียนเปลี่ยนผ่านไป ความชินชาเข้ามาแทนที่ สิ่งที่ทำให้ผมยิ้มได้ค่อยๆ เลือนหายจนผมลืมซะสนิท

@ออฟฟิต
            คุณพารันคะ บริษัทออแกไนเซอร์จะเข้ามาเสนองานบ่ายนี้ คุณจะเข้าฟังด้วยไหมคะ
            เอาซิ! วันนี้ผมว่างทั้งวัน
            ได้ค่ะ งั้นเดี๋ยวถึงเวลาพิมพ์มาเรียกนะคะ
            เสียงเลขาสาวสวยเจื่อนแจ้ว ผมอ่านสายตาเธอออก เพียงแต่ยังรักษาระยะห่างระหว่างเจ้านายกับลูกน้องเอาไว้ แม้เพียงวันไนท์สแตนท์ผมก็ไม่ต้องการ หรือลองคิดดีๆ ตั้งแต่คืนนั้น ผมก็ไม่ใช้บริการใครอีก
            ทีมงานออแกไนท์เซอร์มาถึงแล้วนะคะ เชิญคุณพารันที่ห้องประชุมใหญ่เลยค่ะ
            ครับ เดี๋ยวผมตามไป
            ปกติแล้วบริษัทเราจะเปิดให้ประมูลงานปีละครั้ง บริษัทออแกไนท์ไหนได้งานเราไป ก็จะได้ทำตลอดทั้งปี
            เจ้านายระดับบริหารอย่างผมปกติก็ไม่ได้เข้าฟังการพรีเซนต์หรอกเพียงแต่วันนี้ว่าง และอยากเข้าไปเรียนรู้งานเฉยๆ
            กว่าผมจะเดินไปถึงห้องประชุม เค้าก็เริ่มพรีเซนต์กันไปหลายบริษัทแล้ว ผมมองผ่านช่องกระจกด้านนอก ไล่สายตาสำรวจคราวๆ จนสะดุดตากับผู้หญิงคนหนึ่ง
            ...โลกกลมจังนะ
            ผมเดินเข้าไปร่วมวงฟังด้วย ทีมงานหลายคนเห็นผู้บริหารอย่างผมเข้าไปก็เริ่มเกร็ง ขณะที่เธอคนนั้นยังก้มหน้าก้มตาร่างสคิป
            เธอเงยหน้ามาเจอผมแล้วแสร้งก้มต่ำทำงานต่อ เขี่ยนิ้วไปมาใส่หน้าจอสี่เหลี่ยมทำราวกับไม่รู้จักกัน จ้องหน้าจนหมดความอดทน ยัยนั้นก็ยังเพิกเฉยไม่สนใจ
            เชิญออแกไนท์เซอร์ทีมต่อไปเลยค่ะพิมพ์เรียกให้ทีมต่อไปเตรียมพร้อม ยัยหน้าอึนกระตือรือร้นเตรียมงานทันที แล้วก็ลุกขึ้นพรีเซนต์
            จากข้อมูลที่มีตลอด 6เดือนที่ผ่านมา บริษัทคุณมีข่าวเสียหายทั้งหมด 22รายการ แบ่งเป็นข่าวใหญ่เชิงธุรกิจ 3รายการ ข่าวโดนลูกค้าคอมเพลน 2รายการ และที่เหลือคือข่าวกอสซิปเชิงชู้สาวของ CEOหนุ่ม
            จากข้อมูลนี้แสดงให้เห็นว่าบริษัทคุณต้องการมืออาชีพอย่างเรา ที่ไม่เพียงจะจัดกิจกรรมอีเว้นท์เท่านั้น ยังพร้อมส่งเสริมและดูแลหน้าตาบริษัทอีกด้วย
            เธอพูดจาฉะฉานน่าฟัง มีชั้นเชิงในการพรีเซนต์จนคนในห้องให้ความสนใจ ดูท่าจะมาวินสุดในตอนนี้แล้ว
            เดี๋ยวถ้าทางเราสรุปได้จะรีบแจ้งกลับไป ขอบคุณทุกท่านมากที่สละเวลามา พิมพ์พูดปิดการประชุม
            ผู้หญิงคนที่เพิ่งหยิบยกเรื่องชู้สาวของผมมาพูดยังหน้าตาเฉย ทั้งที่ตัวเองก็คือหนึ่งในนั้น ได้โอกาสรีบเข้าไปคว้าแขนเธอทันที
            จะทำอะไรคะ
            ไปกับผม!”
            ไปไหน!”
            เดี๋ยวก็รู้เอง ตามมา
            เรายื้อยุดกันเพียงไม่นาน ความที่ผมแรงเยอะกว่าก็ลากตัวเธอติดมือมาอย่างง่ายดาย รถหรูแล่นกลับไปทางเก่า สถานที่แห่งความทรงจำของเราสอง
            มาที่นี่ทำไมคะ
            นี่คุณ! ตรงนี้มีแค่คุณกับผม เลิกเสแสร้งได้แล้ว
            จริงๆ ก็ไม่ได้มีแค่เราสองคนหรอก ยังมีบอดี้การ์ดคอยประกบอยู่ใกล้ เธอมองรอบตัวอย่างหวาดระแวง หวาดกลัวทุกอย่างทั้งที่คืนนั้นมันน่ากลัวกว่านี้
            ชญาจะกลับบ้าน ป่านนี้ญาณินคงกลับจากโรงเรียนแล้ว
            เดี๋ยวซิคุณ! เพิ่งมาถึงจะรีบกลับทำไม
            ขอโทษทีค่ะ ถ้าคุณมีข้อสงสัยเรื่องงานเพิ่มเติม ชญาว่าเราคุยกันพรุ่งนี้ดีกว่า
            ชายหญิงมาทีนี่ คุณคิดว่าเรื่องงานหรอ
            นี่คุณจะทำอะไร
            เธอตีหน้านิ่งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้อย่างแนบเนียน ยิ่งถูกกวนใจผมยิ่งกวนประสาทกลับ ผู้หญิงคนนี้ครั้งหนึ่งเธอเป็นฝ่ายเดินมาหาผมเอง แต่วันนี้กลับดีดดิ้นทำเหมือนจำไม่ได้
            ไม่ใช่ผม คุณตังหาก
            ฉัน
            ใช่! อย่าเรื่องมากน่าจะเรียกเท่าไรก็ว่ามา
            คุณพูดเรื่องอะไร 
            รู้ว่าคำถามผมอาจไม่สุภาพ แต่สำหรับตอนนี้ สถานะเราไปไกลเกินกว่าจะมัวมาออมคำอยู่ได้ ผมไม่ได้หวังเสพเรือนร่างนี้อีกครั้ง  ขอเพียงเราคุยภาษาเดียวกันสักที
            หยาบคาย
            อย่ามาทำเป็นรับไม่ได้ คุณเองนะที่อาสามาดูแลผม
            ไม่! ไม่จริง!”
            แล้วความอดทนผมก็หมดลง ปรี่เข้ากอดฟัดซอกคอขาว สองแขนกอดรัดพันธนาการไว้ไม่ให้หนีไปไหน
            ยื่นกลีบปากเข้าบดคลึงขยับเม้ม รสจูบกักขฬะเต็มไปด้วยแรงอยากเอาชนะถูกส่งต่อ ผมคิดวิธีอื่นไม่ออกจริงๆ ไม่ได้อยากรังแกเธอเลยสักนิด 
            คิดว่าเงินของคุณซื้อทุกอย่างได้หรือไง
            ถึงจะซื้อไม่ได้ทุกอย่าง แต่เงินของผมก็ซื้อคุณได้
            งั้นก็ทำเลยค่ะ แต่ขอให้รู้ไว้ ว่าเงินคุณซื้อตัวตนคุณในความทรงจำของฉันไม่ได้
            คุณ!”
            แววตาจ้องเย้ยกับคำพูดท้าทายทำให้สติผมขาดสะบั้นลง ในเมื่อเธอเอ่ยปากอนุญาต ผมก็ไม่จำเป็นต้องรู้สึกผิด
            ปากประกบบดจูบ ย้ำคลึงเร่งเร้าจนอีกฝ่ายรัวมือบางใส่อก เธอหอบระรวยตัวสั่น ครางเสียงพร่าตามทุกจังหวะที่ผมมอบให้
            ปลดเสื้อผ้าเกะกะออก ร่างเปลือยเปล่านวลเนียนจนผมไม่อาจยั้งมือได้ ทั้งลูบไล้บีบเค้น ละเลงลิ้นเลียทุกส่วน ส่งความเสียวซ่านให้อีกฝ่ายนึกถึง
            แทรกตัวเข้ากลางสองขา เปิดปากทางอ้าลงลิ้นฉกชิมติ่งเนื้อ จนชญาเกร็งตัวกระตุก เธอหวีดเสียงร้องห้าม แต่ยังเด้งร่างสวนปลายลิ้นไม่หยุด
            สวบ
          สวบ
            ความอดทนผมหมดลง แท่งแกร่งแทรกปากทางเข้าไป กระแทกสลายความฝืดคับ จนจังหวะเนิบนาบเริ่มทำงาน
            เครื่องยนต์แห่งความโหยหาสตาร์ทขึ้น เร่งควบตามเสียงใจเรียกร้อง เราสองสร้างจังหวะรัวถี่ ครางกระเส่าตัดกับเสียงก้อนเนื้อกระทบกัน
            ดูซิ! ตื่นมาจะแกล้งลืมอีกไหม เมื่อสองเราปลดปล่อย เธอก็หลับใหลอีกครั้ง ภาพร่างเปลือยเปล่านวลเนียนเล่นแสงไฟสลัว ปากนิด จมูกหน่อย นอนหลับตาพริ้ม กำลังทำให้ผมหลงใหล อยากรู้จังว่าจะแกล้งไม่รู้อีกไหม

Ringgggggggg
            ฮะโหล ธรรม
            ผมรบกวนคุณไปดูบ้านชญาให้หน่อยซิ เห็นเธอบ่นห่วง น้องสาวอยู่บ้านคนเดียว
            ขอบใจมากนะ
          หึ!’ คำพูดเล็กๆ น้อยๆ ของเธอผมกลับจำมันได้ดี พูดย้ำแต่เรื่องน้อง ไม่รู้จะห่วงอะไรนักหนา

@Morning เช้าวันใหม่
            อืมม... สบายจังเสียงหวานพูดแผ่วเบา ทั้งที่ยังหลบตาอยู่
            เธอนอนกลิ้งไปกลิ้งมา บิดร่างไล่ความขี้เกียจ โดยไม่รู้ตัวเลยว่าผมจ้องมองอยู่
            อุ๊ย!”
            ตกใจอะไร
            คุณมาอยู่ห้องฉันได้ไง
            ห้องคุณ แน่ใจ
            ผมถามเสียงกลั้วขำ เธอรีบมองดูรอบๆ พอสมองเริ่มสั่งงาน เธอก็ก้มหน้าบ่นปากมุบมิบราวคุยกับตัวเอง
            ฉัน กลับดีกกว่าแก้มขาวขึ้นสีแดงระเรื้อ ตอนนี้เธอคงจำทุกอย่างได้แล้ว ท่าทางเก้อเขินยิ่งทำให้เธอน่ารักกว่าเดิม มีหรอที่ผมจะปล่อยไปง่ายๆ
            รีบกลับไปไหนล่ะ อีกไม่กี่ชั่วโมงก็จะเย็นแล้วผมแกล้งยั่ว เดินเข้าไปสวมกอดเธอจากด้านหลัง
            ป่านนี้ญาณินเป็นห่วงแย่แล้ว ชญากลับก่อนดีกว่าค่ะ
            ไม่ต้องรีบหรอก ผมส่งคนไปดูแลให้แล้ว
            คุณ!”
            ซาบซึ้งล่ะซิ ที่นี้คุณก็อยู่กับผมได้แล้ว ใช่ไหม
            กระชับวงแขนแน่นขึ้น กอดรัดจนชญานิ่ง เธอไม่มีทีท่าปฏิเสธ มีเพียงอาการตัวสั่น ใจเต้นแรง ราวเป็นเด็กสาว
            จ๊อกก...ระยะใกล้ขนาดนี้ทำผมได้ยินเสียงนั้นชัดเจน เราหัวเราะให้กันเป็นครั้งแรก ก็แหม่! มัวแต่ทำเรื่องนั้นจนลืมหิวไปเลย
            หิวแล้วหรอ
            ค่ะ
            ไม่น่าถามเนอะ ใช้พลังไปเยอะขนาดนั้น
            คุณ!”
            ผมพูดเย้า ตอนนี้ระหว่างเรามีแต่เรื่องในปัจจุบัน คลอเคลียหยอกล้อ ศึกษากันไปทีละนิด จนทุกนาทีผ่านไปอย่างรวดเร็ว
Chapter 3
ธรรม
            นี่บ้านคุณชญาหรือเปล่า
            ค่ะ บ้านพี่สาวฉันเอง
            คือ ตอนนี้พี่สาวคุณเดทอยู่กับเจ้านายผม คืนนี้เธอคงไม่กลับบ้าน
            แล้วไง
            เจ้านายผมเลยส่งมาดูแลคุณ
            ดูแลฉันเนี่ยนะ คิดว่าตัวเองเป็นใคร
            น้ำเสียงเด็กสาวตรงหน้าผมไม่เป็นมิตรเอาซะเลย ถ้าไม่ใช่เพราะเจ้านายสั่ง ผมไม่มาหรอก เด็กอะไรดูมั่นใจตัวเองมากเหลือเกิน
           
กริ๊งง! กริ๊งง!’
            ค่ะเจ๊พิ้งค์ ไปค่ะ มีงานอะไรเรียกญาณินได้เลยค่ะ ช่วงนี้เร่งปั๊มเงินอยู่
            ไม่เป็นไรค่ะเจ๊ หนูหาสำรองไว้รักษาพี่ชญาเฉยๆ
            ค่ะ เวลา สถานที่ตามนี้นะคะ พรุ่งนี้เจอกันค่ะ
            ขอบคุณมาก
            เด็กนั่นรับโทรศัพท์ต่อหน้าผม ปลุกต่อมเผือกในร่างให้ทำงานตาม สมองผมประมวลหลายอย่างเข้าด้วยกัน รอจังหวะเธอวางสายแล้วเอ่ยถาม
            รู้จักยัยเจ๊พิ้งค์ด้วยหรอ
            รู้ซิ แกดังจะตาย ใครๆ ก็รู้จัก
            รับงาน นี่รับงานอะไร
            แล้วทำไมฉันต้องบอกคุณด้วย
            อย่าบอกนะ! ว่าเธอรับงานนอน
            มันก็เรื่องของฉันไหม
            เด็กก็ยังคงเป็นเด็ก ถูกผมถามจี้จุดเข้าหน่อยเธอก็เสียอาการเถียงต่อไม่ออก ตอนนี้ผมไม่ต้องการคำตอบแล้ว แค่เธออ้ำอึ้งผมก็รู้ทันทีว่า
            ...ที่คิดถูกต้องแล้ว
            พี่สาวคุณเป็นอะไร
            เปล่านิ!”
            ท่าทีลนลานรีบปฏิเสธ ทำให้เธอเผยความลับออกมาเองทีละอย่าง
            ความจำเสื่อมหรอ
            “!!!”
            พี่คุณเป็นโรคความจะเสื่อมหรอ
            ไม่ใช่! TGA ไม่ใช่โรคความจำเสื่อม พี่แค่จำบางเรื่องไม่ได้ชั่วขณะหนึ่ง ความจำช่วงนั้นอาจจะหายไปในระยะสั้น หรืออาการหายไปถาวร แต่ก็ยังจำได้เหมือนคนปกติ
            มิน่าล่ะ! พี่คุณถึงจำผมไม่ได้
            นายเป็นใครกันแน่
            ก็ลูกค้าที่นัดกันที่โรงแรม XXX ไง
            อ๋อ!”
            ผมพูดความจริงตอบแทนที่เธอยอมบอกเรื่องสำคัญ แววตาเด็กสาวตอนรู้เรื่องอึ้งไปชั่วขณะ เธอตัวสั่น น้ำตาคลอ
            ไม่ต้องห่วงหรอก โชคดีของพี่สาวคุณ เจ้านายผมใจดีแถมตอนนี้หลงพี่คุณมากซะด้วย
            จะเป็นไปได้หรอ ผู้ชายที่รู้ว่าเรา... จะมาให้เกียรติทะนุถนอมเรา ไม่มีหรอก
            เป็นไปได้ซิ อีกหน่อยโตแล้วก็จะเข้าใจเอง
            ระยะเวลาแค่ไม่ถึงชั่วโมง ผมเห็นหน้าเธอหลายอารมณ์เหลือเกิน สุข เศร้า มั่นใจ กวนประสาท คิดมาก ไปจนถึงเพ้อ เธอเองคงทุกข์ใจไม่แพ้คนเป็นพี่เลย



Chapter 4
พารัน
กริ๊งง! กริ๊งง!
            นายครับสาเหตุที่คุณชญาเธอจำนายไม่ได้ เพราะเธอเป็นโรค TGA ความจำเสื่อมชั่วขณะครับ
            มันมีโรคนี้ด้วยหรอ
            มีครับนาย เธอไปหาหมอที่โรงพยาบาลมาแล้ว
            โอเค ขอบคุณมาก
           
            สิ่งที่ธรรมบอกผม ทำให้สายตาที่มองเธอเปลี่ยนไปทันที จากที่เคยหลงใหลอยากครอบครอง อยากเอาชนะ แปรเปลี่ยนเป็นเห็นใจและสงสาร
            ผมอยากดูแลคุณ
          ให้โอกาสผมนะ
            ข้อความในใจที่ผมยังไม่กล้าพูด ยอมรับว่าตอนนี้เปิดใจให้ผู้หญิงคนนี้มากขึ้น มองเธอในมุมใหม่ๆ เธอเป็นคนที่อยู่ใกล้แล้วมีความสุข
            เราเดินช๊อปปิ้ง เที่ยวเล่น หาของอร่อยกินอย่างสนุกสนาน ใช้ชีวิตเหมือนคู่รักจนถึงช่วงค่ำ ผมตั้งใจจะขับรถไปส่งเธอที่บ้าน แต่ระหว่างทางดันเกิดสิ่งผิดปกติขึ้นซะก่อน
            ฮะโหล่ธรรม! มีคนขับรถตามผม
            ได้! เดี๋ยวผมจะแกล้งขับวนไปก่อน
            สังเกตมานานแล้ว รถคันเดิมขับตามมาตั้งแต่ออกจากห้าง อาชีพนักธุรกิจอย่างผม มือไม่ได้ขาวสะอาดนักหรอก ทุกคนพร้อมจะฟาดฟันเพื่อขึ้นเป็นเบอร์หนึ่ง ในวงการนี้
            ธรรมตามตัวผมได้จากจีพีเอสในมือถือ จึงไม่ห่วงว่าตัวเองจะตกอยู่ในอันตราย แต่ชญานี่ซิ ผมไม่อยากให้เธอมาเสี่ยงด้วย
            ขับรถวนไปเรื่อยๆ หาเส้นที่ถนนโล่ง รถเคลื่อนตัวได้สะดวก เพื่อให้ไม่เป็นเป้านิ่ง รอให้ธรรมส่งคนมาช่วย
            คุณ! บ้านฉันเลี้ยวขวาค่ะ คุณเลี้ยวซ้ายเดี๋ยวเราก็วนไปที่เดิมอีก
            ออ! พอดีผมมีธุระน่ะ จากตรงนี้คุณนั่งแท็กซี่กลับเองได้ไหม
            ได้ค่ะ
            ชญาพูดเสียงอ่อย เธอไม่ใช่คนโง่ คงพอดูออกว่าผมไม่ปกติ เพียงแต่ไม่กล้าถาม
            เล็งป้ายรถเมล์ไฟสว่างไสว คิดเอาเองว่าถ้าเธอลงรถตรงนี้คงไม่น่ากลัวเท่าไร
            ผมส่งตรงนี้นะ ถึงบ้านแล้วโทรบอกด้วย
            ค่ะ
            ปัง!’
          ปัง! ปัง! ปัง!’
            ยังไม่ทันที่ชญาจะก้าวลงรถ เสียงปืนก็ดังดักทางซะก่อน โชคดีที่ประตูรถช่วยกันไว้ เธอหวีดเสียงตกใจ ร้องหาผมเสียงหลง
            นี่มันอะไรกันคะ
            หมอบลง! อย่าเพิ่งถาม
            อร๊าย!”
            ไม่ต้องกลัวนะ ผมจะดูแลคุณเอง
            ค่ะ
            ไว้ใจผมใช่ไหม
            เรากุมมือกันไว้แน่น สะกดความกลัวไว้ในฝ่ามือ การไล่ล่าบนท้องถนนค่อนข้างลำบาก พอเหลือช่องว่างให้ผมหลบหนี

Ringggggggggggg
            นายครับ ขับตรงเลย แยกหน้ามีลูกน้องเรารอสกัดอยู่
            ดีมาก ขอบใจทุกคน
            นาที่นี้โล่งอกเป็นพิเศษ ปกติผมไม่เคยกลัว ไม่ว่าเหตุการณ์โหดร้ายแค่ไหนผมก็พร้อม หรือที่ใจเต้นแรงแบบนี้เพราะมีคนข้างๆ อยู่ด้วย
            ปัง!’
          เอี๊ยด!’
            กระสุนยิงเข้าล้อเต็มๆ รถเสียหลักจนพุ่งชนกับบังเกอร์ข้างทาง ชญาหวีดเสียงหวาดกลัว เธอกระแทกคอนโทลหน้าเต็มแรง หัวแตกเกิดริ้วเลือดแดงฉาน
            เป็นอะไรหรือเปล่า
            ไม่เป็นไรค่ะ
            เราต้องออกจากรถ ไหวไหม
            คุณหนีไปเถอะ พวกมันต้องการตัวคุณมันคงไม่ทำอะไรฉันหรอก
            ไม่! ไม่ต้องกลัวนะ ธรรมกำลังมาช่วย
            แต่ฉัน..”
            ไป หนีเหอะ
            ต่อให้ผมต้องอุ้มเธอออกไปผมก็จะทำ พวกมันไม่ปล่อยเธอไว้แน่ ใครที่เกี่ยวข้องกับผมก็มักมีจุดจบไม่ต่างกัน ผมนี่มันตัวซวยจริงๆ น่ารังเกียจเหมือนที่ผมเคยถามเธอนั่นแหละ
            รักกันดีนี่มึง อยากรู้จริงๆ ถ้าอีนี่มันต้องตายเพราะมึง มันยังจะรักมึงอีกไหมมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์ ขับมาขวางหน้าจ่อยิงไปที่ชญา มันพูดเสียงเหยียด กลั้วขำ แต่ผมรู้ว่ามันทำจริง
            เธอไม่เกี่ยว ถูกสั่งมาเก็บกูไม่ใช่หรอ ทำเลยซิผมเอาตัวขวางเธอไว้ พูดท้าทายให้มันเบี่ยงปืนมาที่ผม
            ไม่ต้องรีบ มึงได้ตายสมใจแน่
            งั้นก็ยิงเลย
            แต่ก่อนตาย เซ็นต์ซะ
            เอกสารยินยอมขายที่บนเกาะ มรดกของพ่อแม่ผม ท่านฝากฝั่งให้รักษาไว้ มันไม่ใช่แค่สมบัติของผม แต่มันเป็นสมบัติของคนทั้งเกาะ
            อยากได้ไปทำไม เกาะไกลผู้ไกลคนแบบนั้น
            ไม่เกี่ยวกับมึง! ขอซื้อดีๆ ไม่ขายมึงก็ต้องเจออย่างนี้
            ฝากไปบอกเสี่ยด้วย กูยืนยันคำเดิม
            เห็นรถลูกน้องผมแล่นมาใกล้ พูดถ่วงเวลาจนถึงจุดที่น่าจะปลอดภัยแล้ว รถยนต์พร้อมอาวุธของทั้งสองฝั่งขับมาใกล้ ระเบิดควันลอยมาตกใกล้เรา เปิดทางให้ผมหนี
            ปัง!’
          อึก!’
            เราวิ่งหนีท่ามกลางหมอกควัน ความชุลมุนวุ่นวายเสียงปืน เสียงเสียดล้อรถเกิดรอบทิศทาง ธรรมขับมาดักหน้าพาผมรีบพาชญาออกจากจุดนั้น
            ปลอดภัยดีไหมครับ
            ผมไม่เป็นไร คุณล่ะ
            ตึก ตึก
            สภาพชญาทำให้ผู้ชายแข็งแกร่งคนหนึ่งกลัวจนตัวสั่น เลือดแดงฉานเต็มฝ่ามือ ร่างนอนซมหอบรวยริน
            อดทนไว้คุณ! มองผม อย่าหลับนะ
            “…”
            เธอพยักหน้ายิ้มจาง ใจผมร้อนรนเกิดกว่าจะพูดอะไรต่อได้ ธรรมเร่งความเร็วพาชญาไปส่งโรงพยาบาล
            ตลอดทางเธอกุมมือผมไว้แน่น สายตาเหนื่อยล้ามองผมตามที่สั่ง กลายเป็นผมเองที่อยากหลับตาหนี ไม่กล้าต่อสู้ความจริง

@โรงพยาบาล
            ไม่ต้องกลัวนะครับ ถึงมือหมอแล้ว
            “…”
            ใครว่าความกลัวอยู่กับเราไม่นาน แต่ละนาทีผ่านไปอย่างช้าๆ ความรู้สึกอึดอัดตอกย้ำให้เราจดจำทุกอย่าง ความกลัวขยายเส้นใยฝังรากลึกในหัวใจเรา จนก้อนเนื้อเคลื่อนไหวด้านชาและไม่รู้สึกอะไรอีก
            นี่ซินะ ตายทั้งเป็น
            พี่สาวฉันอยู่ไหน
            เด็กผู้หญิงคนหนึ่งเดินมาถามหาชญา ธรรมแนะนำว่าเป็นน้องสาวที่ชื่อญาณิน เธอหน้าตาคุ้นมาก
            ออ! ผู้หญิงในรูปที่ผมเลือก
           
            คนไข้ปลอดภัยแล้วค่ะ
            อยู่รอไม่นานหมอก็ออกมาบอกอาการ สำหรับผมขอแค่รู้ว่าเธอปลอดภัย ก็พอใจแล้ว ไม่ได้หวังว่าความอึดอัดนี้จะหายไป อยากให้มันอยู่ตอกย้ำว่าผม
            ...ไม่เหมาะจะมีใครทั้งนั้น



in phone
ธรรม ญาณิน
 กริ๊งง! กริ๊งง!’
            ฮะโหล่! มีไร
            เจ้านายคุณไปไหนเนี่ย จนป่านนี้แล้วยังไม่โผล่หน้ามาเยี่ยมพี่ชญาอีก
            เฮ้อ! อย่าว่าแต่ไปเยี่ยมพี่คุณเลย ออกมาจากห้องสักก้าวยังไม่ทำเลย
            เค้าเป็นอะไร คิดจะไม่รับผิดชอบหรือไง
            ไม่ใช่นะคุณ เจ้านายผมไม่ได้เป็นคนอย่างนั้น
            แล้วมันยังไง มัวโทษตัวเองอยู่งั้นซิ!”
            ก็ประมาณนั้น
            โอ๊ย! เวรกรรมอะไรของพี่ชญา ต้องมารักคนอย่างเจ้านายคุณด้วยเนี่ย
            คุณว่าอะไรนะ
            ช่างเหอะ! ฝากบอกเค้าด้วยว่าพี่ออกจากโรงพยาบาลพรุ่งนี้ ถ้ายังไม่มาก็ไม่ต้องมาอีกเลย!”
            โห่! โหดจัง นี่น้องหรือแม่เนี่ย
            ไม่ตลก!”
            ฝากบอกพี่สาวคุณด้วยแล้วกัน ทบทวนให้ดีก่อน ถ้ารักเจ้านายผมจริง เธออาจจะเจอเรื่องแบบนั้นซ้ำไปซ้ำมา จุดที่เจ้านายผมอยู่มันน่ากลัวเกินกว่าเค้าจะเปิดใจให้ใคร
            ขี้ขลาด!”
            แต่ก็ดีกว่าเอาคนอื่นไปเสี่ยงด้วยไม่ใช่หรอ
            คนอื่นที่ไหน นั่นเมียเจ้านายคุณนะ หรือว่าไม่ใช่
            นิ! แก่แดดใหญ่แล้วนะเรา
            พูดเรื่องจริงทำเป็นรับไม่ได้
            พอเลย! แล้วนี่อยู่ไหน วันนี้ให้ผมไปรับไหม
            ไม่ต้อง!”





Chapter 5
ปรีชญา       
            ป่านนี้แล้ว ตามาเฟียนั่นก็ยังไม่มาเยี่ยมพี่ เค้าคิดอะไรอยู่นะ
            ไม่เป็นไรหรอก คงงานยุ่งมั้ง
            ยุ่งจนลืมเลยหรือไง ตัวเองเกือบพาผู้หญิงคนหนึ่งไปตายเลยนะ
            ญาณิน!”
            พี่ก็! ญาณินพูดเรื่องจริง
            เค้าไม่ได้ตั้งใจ ใครจะตั้งใจให้ตัวเองไปเสี่ยงอันตรายจริงไหมล่ะ
            ก็ใช่! แต่เค้าก็ควรจะมาดูแลพี่บ้าง
            ไม่เป็นไรหรอก พี่ก็มีเราอยู่แล้วนิ
            ถามจริงเหอะ! พี่จำเหตุการณ์ตอนถูกยิงได้ไหม
            จำได้ แม้มันจะขาดๆ หายๆ ไปบ้างแต่พี่รู้ว่าเค้าเองก็เสียใจ
            ไม่ใช่ความจำจะหายไปเลยสักหน่อย พอไปเจออะไรคุ้นๆ ความจำส่วนที่ซ่อนอยู่ก็ถูกกระตุ้นกลับมาอีกครั้ง
            ฉันไม่ได้ลืมเค้าเลย ทุกวินาทีที่อยู่ด้วยกันมันค่อยๆ ไหลกลับมา ภาพรอยสักเต็มแผ่นหลัง รอยบากทางยาวกลางหลัง ตอกย้ำให้รู้ว่าเค้าผ่านอะไรมามากเหลือเกิน
            ฉันไม่กลัว กลับสงสารด้วยซ้ำไป หากเป็นคนปกติใช้ชีวิตอยู่กับความทรงจำแสนโหดร้าย ฉันขอเลือกเป็นโรค TGA ดีกว่า จำได้บ้าง ลืมไปบ้าง ไม่จมปรักดี
            แล้วทีนี่จะเอาไงต่อญาณินถาม
            ตั้งแต่เข้าโรงพยาบาล ญาณินดูห่วงใยฉันมากเป็นพิเศษ คงเพราะเรามีกันแค่สองคน ถ้าน้องไม่รักพี่แล้วน้องจะรักใคร
            ก็เหมือนเดิม
            เหมือนเดิมคือ
            ก็ใช้ชีวิตแบบเดิมไง เมื่อก่อนพี่ก็มีความสุขอยู่แล้ว
            หมายความว่าพี่จะกลับไปหามาเฟียนั่นอะนะ
            ญาณิน ไม่ชอบเค้าหรือไง
            คบกับเค้ามันอันตรายนะ พี่แน่ใจแล้วหรอ
            พี่แน่ใจ แต่ถ้าเราไม่ชอบไม่อยากให้คบพี่ก็จะเลิก พี่ให้เราตัดสินใจ
            ญาณินเกี่ยวอะไรด้วย!”
            อ้าว! ก็เรามีกันแค่สองคนพี่น้อง
            สำหรับฉันญาณินคือคนสำคัญที่สุด ถ้าน้องไม่เห็นชอบด้วย ฉันก็ไม่ฝืน แม้ใจเผลอรักเข้าแล้ว แต่ก็ยินดีตัดใจ
            ญาณินนั่งตีหน้ามึนยังปากแข็งไม่ยอมตอบ ฉันก็ไม่เร่งเร้า ให้เวลาแกได้คิดทบทวนสักพัก ใช้ชีวิตว่างๆ ทำหน้าที่พี่ที่ดีจนครบวันหยุดของบริษัท
           
@หลายวันต่อมา

            เสร็จหรือยังเรา พี่จะสายแล้วนะ ทำงานวันแรกไม่อยากไปสายเร็วๆ หน่อย
            เสร็จแล้วค่ะ
            ทุกอย่างกลับสู่ปกติ เกือบเดือนแล้วที่ฉันลาหยุดรักษาตัว ไม่ได้เจอหน้าเพื่อนฝูง ไม่ได้เจอหน้าคุณพารันเลย
            พี่ไหวแน่นะ ยังเจ็บแผลอยู่หรือเปล่า
            ไหวซิ! ขืนหยุดมากกว่านี้บริษัทไล่ออกแน่
            พี่! อะไรที่พี่ชอบ หนูก็ชอบด้วย สู้ๆ นะ
            ญาณิน ขอบใจนะ
            น้องสาวตัวเล็กๆ อายุห่างจากฉันหลายปี พูดคำนี้ด้วยรอยยิ้ม หลายวันที่ฉันให้เวลาเธอคิด ความจริงแล้วรอลุ้นอยู่ตลอดว่าเธอจะยอมรับไหม แล้ววันนั้นก็มาถึง

@ออฟฟิต
            ปรีชญาช่วยหน่อยนะ มาทำงานวันแรกผมก็ใช่คุณออกภาคสนามเลย
            ไม่เป็นไรค่ะ หยุดไปตั้งหลายวัน ชญาเองก็เบื่อเหมือนกัน
            งั้นไปงานนี้นะ อีเว้นท์บริษัทคุณพารัน
            คะ
            ความประหม่าโลดแล่นเข้ามาในหัวใจ ไม่คิดว่าจะเจอเร็ว ขนาดนี้ยังไม่ได้เตรียมใจเลย นั่งคิดคำทักทายตลอดทาง ซักซ้อมเพื่อไม่ให้ประหม่า จังหวะที่รถเลี้ยวเข้าบริษัทดันเหลือบไปเห็นผู้ชายคนนั้นกับเลขาสาว
            วงแขนชายหนุ่มประครองเธอไว้ ร่างบางออดอ้อนจนเค้ายิ้มตอบ ภาพระยะไกลกลับทำใจฉันสั่นมาก หรือว่าทุกอย่างเปลี่ยนไปแล้ว
            คุณปรีชญาเชิญหน้างานด้านนี้ค่ะ
            ค่ะ
            เจ้านายที่รีบมาต้อนรับ ฉันเห็นคุณธรรมวนเวียนอยู่ใกล้แต่ก็ไม่เข้ามาทัก ทำเหมือนคนไม่รู้จักกันงั้นแหละ
            พี่ชญา มาพอดีเลยช่วยเล็งให้หน่อยซิ ป้ายมันเบี้ยวไหม
            ไหน! มาพี่ช่วยดู
            ยืนเล็งซ้ายนิดขวาหน่อยจนน้องทีมงานบ่น พื้นที่มันจัดให้สวยอยากจริงนั่นแหละ ฉันลงมือช่วยทำงานทุกอย่างที่พอช่วยได้ ทำเพลินๆ จนลืมเรื่องนั่นซะสนิท
            พี่ชญา พักก่อนเหอะ! เดี๋ยวจะหาว่าผมใช้งานคนแก่
            ปากดีนะ อย่างงี้พี่ไม่ต้องช่วยแล้วมั้ง
            ไปทานข้าวได้แล้ว เพิ่งหายป่วยอยู่ด้วย
            ได้! เดี๋ยวพี่ทำตรงนี้ให้เสร็จก่อน
            ซุ้มดอกไม้หน้างานสูงจากพื้นไม่เท่าไร ฉันหยิบเก้าอีกมาวางแล้วปีนขึ้นไปจัดสลับดอกไม้เพื่อความสวยงาม นอนอยู่บ้านสบายๆ หลายเดือน พอได้ออกภาคสนามก็เหนื่อยเหมือนกันนะ
            ความหิวบวกกับอาการเวียนหัว ทำให้ทุกอย่างรอบตัวมืดไปหมด รู้สึกตัวอีกทีเสียงโวยวายรอบด้านก็รุมมาทีฉัน
            คุณ! คุณเป็นอะไรหรือเปล่าเสียงไม่คุ้นนักพยายามปลุก ทั้งที่พอรู้สึกตัวแต่กลับแกล้งหลับตาดูสถานการณ์
            เจ้านายครับ คุณชญาเธอตกลงมารีบพูด
            ยัยนี่นิ! ปล่อยคาดสายตาไม่ได้เลยเสียงนี้ กลิ่นนี้แหละที่ฉันคุ้นเคย
            ตามรถพยาบาลไหมคะ เดี๋ยวพิมพ์โทรตามให้ นี่พวกนายอะมาอุ้มคุณชญาไปซิ
            ไม่ต้อง ผมดูแลเอง
            ร่างฉันถูกยกขึ้นเหนือพื้น วงแขนแกร่งโอบกอดไว้แน่น เสียงหัวใจเต้นแรงจนรู้สึกได้ ฉันแสร้งหลับทั้งที่ใจก็สั่นไม่ต่างกัน
            ให้เรียกรถพยาบาลไหมครับนาย
            ไม่ต้องหรอก เธอแค่เป็นลมเดี๋ยวก็ฟื้น
            เจ้านายรู้ดีจัง เธอเป็นบ่อยหรอครับ
            อืม
            น้ำเสียงตึงเครียดในตอนแรก กลายเป็นกลั้วขำในตอนท้าย ฉันเดาออกเลยว่าเค้ากำลังเรื่องอะไรอยู่
ก็อกๆ ก็อกๆ
            พิมพ์มาช่วยทำแผลให้ค่ะ
            ไม่เป็นไร เดี๋ยวผมทำเอง
            คุณดูเป็นห่วงเธอมากนะคะ
            ถ้าคนที่คุณรักเจ็บป่วย คุณไม่ห่วงหรอ
            หมายความว่า... แล้วพิมพ์ล่ะคะ ตั้งแต่พิมพ์สารภาพรักไป คุณก็ดีกับพิมพ์มาก พิมพ์นึกว่าเราใจตรงกันซะอีก
            ถ้าทำให้คุณเข้าใจผิด ผมขอโทษนะ แต่ถ้าผมจะรักใครสักคน ก็ต้องเป็นผู้หญิงคนนี้แหละ
          ตายแล้ว!’ บทดราม่าต่อหน้าฉันทำใจรัวถี่กว่าเดิม ขืนตื่นเต้นกว่านี้เค้าต้องรู้แน่เลยว่าฉันไม่ได้หลับ
            เสียงคุณพิมพ์เดินกระแทกส้นเท้าออกไป ตามด้วยเสียงบอดี้การ์ดถามต่อ
            เอาไงต่อดีครับนาย ให้ผมไปส่งบ้านไหม
            ไม่ได้กอดเธอนาน ก็อุ่นดีนะ
            เจ้านาย!”
            เป็นเอามากเนอะ ทั้งที่ผมพูดเองว่าจะปล่อยเธอไป
            ถ้ารักชอบกัน ก็ไม่เห็นต้องฝืนนี่ครับ
            อยู่กับผมมันอันตราย วันนี้โชคดีแค่บาดเจ็บ แต่วันข้างหน้าเธออาจไม่โชคดีอย่างนี้
            นี่ซินะเหตุผลที่เค้าไม่ติดต่อฉันเลย ทั้งที่ฉันรอมาตลอด น่าโมโหนัก ไอ้เราก็หลงเป็นห่วง คอยดูเถอะเดี๋ยวจะแกล้งซะให้เข็ด
            ฟื้นแล้วครับนาย
            แสร้งสะลืมสะลือตื่นจากความฝัน มองรอบห้องราวไม่คุ้นตา มองคนตรงหน้าเหมือนไม่รู้จัก สายตาชายหนุ่มจ้องวิบวับสื่อความรู้สึกออกมามากมาย แต่ยังทำฟอร์มจัดไม่ยอมพูดก่อน
            เป็นอะไรไหมคุณชญา เจ็บตรงไหนไหม
            ไม่ค่ะ คุณ? เออ...
            แสร้งยิ้มเก้อๆ จำเรื่องราวที่เกิดขึ้นไม่ได้ คุณธรรมรีบแนะนำตัว ส่วนคุณพารันยังนิ่งไม่พูดจา
            ขอโทษที่รบกวนนะคะ ฉันกลับก่อนดีกว่าฝืนลุกขึ้นยืน ร่างเซทรุดลงไปในอ้อมกอดพารันอีกครั้ง แขนสั่นกอดไว้ด้วยความตกใจ ฉันปรือตายิ้มตอบ  
            คุณมายังไง คำถามแรก หลังจากไม่ได้เจอกันนาน
            ขับรถมาค่ะ ขอตัวก่อนนะคะ
            ผมไปส่ง
            บริษัทชญาอยู่แค่นี้เอง ขับแป๊บเดียวก็ถึง
            นี่คุณจะไปทำงานต่อหรอ
            ก็ใช่ซิค่ะ
            ไม่ได้! กลับไปพักที่บ้านดีกว่า
            ไม่ได้หรอกค่ะ เดี๋ยวโดนไล่ออกกันพอดี
            แสร้งทำเสียงสยอง ผลักตัวเองออกจากอ้อมกอดคนที่เอาแต่ถาม ยิ้มแห้งร่ำลาแล้วหันหลังกลับ มือหนาคว้าแขนฉันไว้อีกครั้ง ทำหน้าจริงจังแล้วพูด
            ใครจะกล้าไล่คุณออก! ไปกับผมดีกว่าดิ้นขัดขืนเล็กน้อย ทำท่าอึกอักไม่เต็มใจ ทันทีโคตรตื่นเต้น
            จะเดินเองดีๆ หรืออยากให้ผมอุ้ม!”
            ชิส์!’ อยากจะขำ แต่ยังหรอก นี่ยังไม่สาสมกับที่นายทิ้งให้ฉันคิดถึงอยู่นานสองนาน
            คุณชื่ออะไรคะ ชญาจะได้โทรบอกออฟฟิตถูก ว่าออกไปกับใคร
            นี่คุณจำผมไม่ได้หรอ
            “…”
            ฉันเพียงนิ่งไม่ได้ตอบรับหรือปฏิเสธ แสร้งยืนเซจะเป็นลมอีกรอบ ทำให้ชายหนุ่มช้อนร่างไว้ในอ้อมแขนอีกครั้ง เค้าอุ้มฉันเดินผ่านทุกคนหน้าตาเฉย มีคุณบอดี้การ์ดเดินประกบ พูดแซวตลอดทาง
            ซุกหน้ากับอกแกร่ง หลบซ่อนรอยยิ้มไว้ไม่ให้อีกฝ่ายเห็น อยากรู้จักว่าใจที่เต้นแรงอยู่เนี่ย กำลังคิดอะไรอยู่
            ไปไหนดีครับเจ้านาย ไปส่งที่บ้านเธอ หรือบ้านเราดี
            ไปโรงแรมแล้วกัน
           
@XXX Hotel
            ประตูห้องเดิมเปิดรับร่างฉันอีกครั้ง เค้าวางร่างบนเตียงอย่างนุ่มนวล ปรือตามองตอนที่ระยะใบหน้าเราอยู่ห่างกันเพียงคืบ ใช้สายตาสะกดยั่วจนอีกฝ่ายเคลิ้มหวาน
            ตื่นแล้วหรอ
            อืมม..
            ทำไมชอบเป็นลม ให้ผมต้องดูแลอยู่เรื่อยเลย
            เวลาฉันตื่นเต้น ฉันมักจะคุมมันไม่ได้
            ตื่นเต้นหรอ ผมนึกว่าคุณกลัว
            สายตาเราสองวาบหวามกลืนกินกันไปมา คำถามของเค้าตะกุกตะกักราวกับไม่เคยรู้มาก่อนจริงๆ
            เป็นใครก็ต้องตื่นเต้นทั้งนั้นแหละ ก็คุณเล่นละบางคำไว้ให้เขาย้อนถามกลับ
            ผมทำไมสีหน้าอยากรู้ ทำให้ฉันยิ้มเฉลย
            โน้มคอชายหนุ่มให้ยิ่งลงมาใกล้ ใช้สายตาสะกดจนอีกฝ่ายเบี่ยงสายตาหลบ จังหวะที่เค้าแสดงความประหม่า ฉันฉวยโอกาสนั้นประกบริมฝีปากบดคลึง
            คนบนร่างสะดุ้งตัวเล็กน้อย เค้าจ้องตอบทันที สีหน้าตกใจอยากถาม แต่พอเห็นฉันเร่งเร้าจังหวะกลีบปากมากกว่าเดิม ก็เปลี่ยนมาจูบตอบ
            แล้วคุณก็ทำอย่างนี้ด้วยพลิกร่างตัวเองขึ้นคร่อม ซุกไซ้ซอกคอชายหนุ่ม ลูบฝ่ามือไล่ปลดกระดุมออกที่ละเม็ด ลากลิ้นสากชิมกลิ่นสาปชายหนุ่ม
            แอ๊ดดด
            เจ้านายครับ ยาได้แล้ว...
            เออสงสัยผมมาผิดเวลา
            คุณบอดี้การ์ดสุดกวนเปิดประตูเข้ามาหน้าตาเฉย ในขณะที่ฉันคร่อมอยู่บนร่างชายหนุ่ม ริมฝีปากไล่จูบซับจนอีกฝ่ายผ่อนคลาย
            คุณนี่! ทำไมไม่ล็อกประตูแว๊ดเสียงใส่อีกฝ่าย
            ก็ใครจะรู้ล่ะ ว่าคุณจะหื่นใส่ผมเขาหัวเราะตอบ
            เรายิ้มให้กันแก้เก้อ เค้าดึงร่างฉันลงไปกอดฟัด บดจูบแลกลิ้นจนหน่ำใจ ตักตวงทุกนาทีที่ขาดหาย จนความคิดถึงถูกเติมเต็ม
            ต่อไหม หรืออาบน้ำก่อนเขาแกล้งถาม ทั้งที่บางส่วนจะมุดหัวเข้ามาอยู่แล้ว
            อย่าแกล้งซิคะร้องขอจังหวะสุขสม ลูบมือเล่นแถวบั้นท้ายสอบ เด้งตัวสวนแผ่วๆ ยั่วให้อีกฝ่ายอยากสานต่อ
            แล้วทีคุณแกล้งจำผมไม่ได้ล่ะ
            ก็คุณน่ะ! แกล้งชญาก่อน หายไปตั้งนานรู้ไหมค่ะว่าคิดถึงทำพูดฉันทำให้อีกฝ่ายสลดลงเล็กน้อย พลอยทำให้จังหวะที่รอคอยเลิกล้มไปด้วย เค้าพลิกตัวนอนข้าง พร่าบ่นในเรื่องที่รู้อยู่แล้ว
            อยู่กับผม อันตรายนะ
            ฉันไม่กลัวค่ะ ตอนนี้กลัวอย่างอื่นมากกว่า
            ขึ้นคร่อมอีกครั้ง ถอยตัวลงต่ำ แท่งเป้าหมายเริ่มอ่อนนิ่มจนฉันต้องสะกิดลิ้นทักทาย
            อืมม..
            ลากตามความยาวแท่งแกร่ง ครอบปากทับดูดดุนร่องหยักในโพรงปากอุ่น มือกำชักปลุกเร้าจนเสียงครางพร่ากระเส่า ลิ้นสากฉกชิมจนหน่ำใจ เลาะลงจนถึงสองก้อมกลมแฝด
            ปากเม้มราวอยากกลืนกินเข้าไปทั้งพวง ยิ่งความต้องการพุ่งสุดเท่าไร ร่างกายเรายิ่งถ่ายเทความร้อนให้กัน
            ที่รัก ทำเถอะผมไม่ไหวแล้วคำหวานปรนเปรอให้ต่อเนื่อง เขาน่ารักเหลือเกิน โดยเฉพาะเวลาร้องขอความเสียวซ่าน เห็นแล้วยิ่งอยากแกล้ง
            ที่รัก ชอบคำนี้จัง ไหนพูดอีกซิคะ
            ที่รัก ที่รักของผม
            แหม่! ทีตอนนี้นะจากมาเฟียคิดมาก กลายร่างเป็นลูกแมวเชื่องๆ เชียว พร่ำคำหวานตามที่ขออย่างไม่ขัดเขิน น่ารักขนาดนี้ ฉันหรือจะแกล้งต่อได้
            ชันตัวขึ้นครอบทับแท่งแกร่ง ดันหัวหยักเข้าโพรงอุ่นทีละนิด บนคลึงบั้นท้ายให้ทุกส่วนกระชับหากันก่อนโยกตัวแผ่วๆ บรรเลงเพลงรักตามที่อีกฝ่ายขอ
            ชญา คุณสวยเหลือเกิน ที่รักของผม
            ค่ะ อืม.. คุณก็เก่งเหลือเกิน
            คำหวานเยินยอตอนฉันเร่งควบอยู่บนร่างแกร่ง สมองขาวโพลน กระเส่าเสียงตอบยากเย็น ฉันรู้เพียงทุกอย่างเกิดขึ้นตามแรงปรารถนา เป็นความสุขที่ไม่ต้องการเงินทองมากมาย ขอแค่ใจเราตรงกัน
            เก่งยังไง
            ก็อย่างงี้ไงคะ
             กระแทกร่างขึ้นลงไม่กี่ที ฉันก็เกร็งตัวปลดปล่อย คำตอบของฉันทำให้อีกฝ่ายยิ้มเย้ย พลิกตัวเป็นฝ่ายนำเกมส์บ้าง แรงมหาศาลถาโถมรัวถี่ สุดท้ายก็เหมือนเดิม
            คุณ! คุณ!”
            ถึงกับสลบเลยหรอ

           


ENDING





ถูกอกถูกใจ จิ้มลิงค์เลยจ้า 👇😗



คลิกที่นี้ เพื่อกดซื้อฉบับเต็ม