Love Top Book

Chapter11 **Update

  

Chapter11

 

ใบหน้าคมคายมองท้องถนนกว้างอย่างไร้จุดหมาย เขาไม่ได้โฟกัสอะไรเป็นพิเศษ ขอแค่ประคองรถให้ปลอดภัย ลมหายใจกรพ้นถี่ราวข่มใจไม่ให้ระเบิดความโกรธออกมา

หัวใจภากรณ์ลุกเป็นไฟทุกครั้งที่รู้ว่ามายด์ตกอยู่ในอันตราย กี่ครั้งกี่หนหญิงสาวไม่เคยห่วงตัวเองก่อนเลย มีแต่จะห่วงคนอื่นจนสูญเสียความอ่อนโยนแบบเด็กสาวไปเป็นผู้หญิงหยาบกระด้าง

ใช่! ภากรณ์ต่อว่ามายด์ในใจ แต่ที่น่าโกรธกว่าก็คือตัวเขาเอง เป็นผู้ตามตลอด วิ่งไล่มายด์ไปทุกที่ทุกแห่ง เหมือนจะคว้าไว้ได้แต่ก็ไม่เลย

 

ท้องถนนกว้างตอนนี้ทอดยาวราวอยู่ในเกมส์วัดใจ มายด์รู้ว่าภากรณ์โกรธจึงใช้สายตาหวานฉ่ำจ้องปริบๆ กระเซ้าหยอกเย้าหวังให้ภากรณ์ยอมคุยด้วย จริตมายด์เกินวัยอยู่บ้าง เธอรู้ทันอารมณ์ผู้ชายไปซะทุกอย่าง จึงออกปากขอโทษชายหนุ่มทั้งยังสวมกอดอ้อนจนภากรณ์ใจเย็นลง

"เฮีย อย่าโกรธหนูเลยนะ นะๆๆ ไม่โกรธน่าา"

"ผมไม่ได้โกรธ"

"แน่ะ! ยอมคุยด้วยแล้วหรอ"

ปลายนิ้วชี้หน้าระยะใกล้ ภากรณ์คว้ามือมายด์มาเกาะกุมไว้แทนคำตอบ เขายังปั้นหน้านิ่ง มายด์ยิ้มยั่วทั้งสองสบตากันเนินนานจนกระทั้งแสงไฟรถเลนสวนสดเข้ามา 'เอี๊ยดดด!' เสียงล้อรถเบียดถนนมาพร้อมแรงสะเทือนตามจังหวะเบรก มายด์ตกใจตื่นกลัว ตวัดตามองภากรณ์ที่หน้าเสียไม่ต่างกัน

 

"เฮียเป็นอะไร"

‘!!!!!!!’

ภากรณ์ไม่ตอบ เพียงส่ายหน้า สูดหายใจลูกแล้วจับพวงมาลัยบังคับรถต่อ เด็กสาวมองสีหน้าเขาไม่ว่างตา ความห่วงใยแล่นลิ่วยิ่งถามเท่าไรไม่พูด เธอก็ยิ่งหงุดหงิด

"เมาหรอเฮีย หนูขับให้ไหม" มายด์เริ่มเซ้าซี้ถาม

"ไม่ต้อง ผมขับเองได้" ภากรณ์ตอบ

"แล้วนี่เราจะไปไหนกัน"

มายด์สังเกตมานานแล้วว่าภากรณ์ขับรถวนไปวนมาอย่างไร้จุดหมาย ทีแรกเธอว่าจะปล่อยเฉย ให้เวลาภากรณ์ได้ปรับอารมณ์บ้าง แต่พอเจอแบบนี้รู้สึกว่าแวะพักที่ไหนก็ได้จะดีกว่า

 

"ผมจะกลับบ้าน"

"ห้ะ! โอ๊ย! กลับสภาพนี้พ่อแม่ได้ตีตาย หนูไม่เอาด้วยหรอก"

"แล้วจะเอายังไง ก่อนทำไม่คิด ที่ยังงี้มากลัว"

"อย่าบ่นน่าเฮีย ไปที่อื่นไม่ได้หรอ"

"ที่อื่นนี่ที่ไหน ลองบอกผมมาซิ"

"ก็... โรงแรมอะไรยังเงี้ย"

ความเก่ายังไม่ทันหายโกรธ ความใหม่ชวนบาดหูอีกแล้ว เป็นสาวเป็นแส่ชวนผู้ชายเข้าโรงแรมแบบนี้ได้ไง ภากรณ์หงุดหงิดจนต้องขยี้เบ้าตาคลายเครียด มายด์เห็นอย่างนั้นก็ปักใจเชื่อว่าเขาเมาแน่ๆ เธอคว้ามือหนาเขามาเกาะกุมไว้บ้าง แนบแก้มลงหลังมืออุ่นแล้วปลอบประโลมต่อ

 

"ถ้าเฮียเมา โรงแรมไม่ต้องก็ได้ค่ะ หนูนอนตรงไหนก็ได้"

เสียงอ้อนหวานหูกว่าทุกครั้ง มายด์เจตนาอย่างนั้นจริงๆ เธอไม่อยากรบเร้าหรือสร้างปัญหาให้ภากรณ์มากกว่านี้ ใจเธออยากให้ชายหนุ่มมีความสุข ยิ้มแย้มแจ่มใสเป็นปกติ ไม่ชอบใบหน้าเคร่งเครียดแบบนี้

 

"ที่ไหนก็ได้งั้นหรอ"

"ค่ะ ที่ไหนก็ได้"

 

 

[คอนโดวาเลนซ์]

 

วาเลนซ์กดวางสายเพื่อนรักด้วยรอยยิ้ม ผู้ชายเจ้าสำราญอย่างเขาคิดเรื่องเซ็กเป็นหน้าที่การงานอย่างหนึ่ง วาเลนซ์คือลูกชายคนเดียวของตระกูลนักธุรกิจ เขาถูกสั่งให้ปั๊มเก็บสเปิร์มเก็บเป็นเรื่องปกติ ต่างจากภากรณ์เดินสายธรรมะธัมโมไม่สนใจทางโลกเลย

 

สิ่งที่ภากรณ์ขอคือสังคมแบบวาเลนซ์ โถงคอนโดธรรมดาจึงถูกปรับเป็นห้องกิจกรรมปาร์ตี้ขนาดย่อมทันที ไม่นานภากรณ์ก็มาถึง

มิ้นท์เปลี่ยนชุดเป็นชุดเดสสายเดี่ยวกระโปรงสั่นผ้าบางเบา เธอจัดอาหารง่ายๆ หลายอย่างเต็มโต๊ะ เครื่องดื่มรสแรงประเภทวิสกี้วางเรียงไว้หลายขวด

กลิ่นหอมฟุ้งเปลี่ยนอารมณ์ภากรณ์ได้ดี แถมสองสาวยังเอาใจหยอกล้อสองหนุ่มไม่ยอมห่าง วาเลนซ์นัวเนียมิ้นท์ไม่แคร์สายตาใคร ทั้งคู่กอดจูบเล้าโลมสอดฝ่ามือผ่านเรียวขาไปคลึงเคล้นเต้าอวบ ภากรณ์เห็นอย่างนั้นก็กลืนน้ำลายอึกใหญ่ เขาเบือนหน้าหนีรู้สึกเสียมารยาทที่จะมองมิ้นท์ในสภาพนั้น ในขณะที่มายด์ยิ้มล้อ เธอรู้อารมณ์ผู้หญิงดีโดนปลุกปั่นขณะนั้นคงสยิวอยู่ไม่น้อย

 

"ทำไมวะ ชีวิตกูก็แบบนี้ อยากส่วนตัวเชิญในห้องเลย"

วาเลนซ์แซวเพื่อน สีหน้าภากรณ์แดงก่ำไปด้วยความเขิน วันๆ สิงตัวอยู่กับซากรถ ไม่เคยเห็นใครเมคเซ็กจะๆ คาตาซะที่ไหน

"อืมม..."

วาเลนซ์เหมือนคนสองบุคลิก บางที่ก็สดใสอ่อนโยน บางทีก็แข็งกร้าวดุดันเอาแต่ใจ และไอ้โหมดดุดันนี่เองสั่งให้เขาเพิ่งยกร่างบางข้างตัวมาไว้บนตัก มือขยำเต้าแข็งยอดอกชูชันเต็มแรง จรดสันจมูกซุกไซ้แผ่นหลังสวยจนร่างมิ้นท์เชิดเด้งนมสวน

 

ภากรณ์ไม่กล้ามองภาพตรงหน้า มายด์เห็นเขางุ้มหน้าต่ำเขินก็ได้ใจ เธอเบียดตัวใกล้ยื่นเรียวแขนบางไปคว้าหน้าเขามาจูบ จังหวะบดเบียดโดยมีคนร่างเล็กกว่าบดนำทำงานตามใจรู้สึก

เมื่ออดีตมายด์หรือมิโกะนั้นเป็นแค่สาวไซด์ไลน์คอยปรนเปรอหนุ่มไฮโซ ซึ่งลูกค้าวีไอพีที่ชุบเลี้ยงเธอจนลืมตาอ้าปากได้ก็คือวาเลนซ์นั่นเอง

เขาปฏิบัติกับเธอเยี่ยงพนักงานคนหนึ่ง เวลาต้องการก็ทำๆ ให้เสร็จ จ่ายเงินคือจบ มายด์ปรารถนาได้เห็นความกระหายของคนเย่อหยิ่งสักครั้ง อยากรู้ว่าผู้ชายที่ดีแต่กดขี่เธอจะเป็นดั่งพระเจ้าหรือซาตาน

 

รสจูบที่มายด์รุกเร้าหยาบกระด้างร้าวเล่นเกมส์ยื้อแย่ง เธอจ้องวาเลนซ์ไม่บ่อยครั้ง เห็นสภาพมิ้นท์เปลือยเปล่า ถูกผ้านิ่มรัดสองแขนไปไพร่หลังมีมือหนาคลึงเคล้าไม่ห่างก็ยิ่งอยาก

"มายด์ มองผมเถอะ"

เสียงพร่าของภากรณ์กะซิบขอ ทั้งที่ใจเขาอยากลิ้มรสเซ็กโดยปราศจากความรักสักครั้งแต่ก็ห่วงหวงเกินกว่าจะทำใจได้

"เฮียลองดูซิคะ ตื่นเต้นดีออก"

มายด์พูดเย้า เธอเห็นริ้วแดงก่ำลามจากสองแก้มไปใบหูก็พอรู้ว่าภากรณ์เขินแค่ไหน

"เสียมารยาท"

"โถ่เฮีย! มามีมารยาทอะไรตอนนี้ เขาอยากให้เราดู ก็ดูซะหน่อยเถอะค่ะ"

ทั้งที่มายด์ออกปากให้ภากรณ์ดูสาวอื่น แต่เธอกับโน้มตัวไปปังไว้ ใช้ดวงตาที่เต็มไปด้วยความหื่นกระหายจ้องเขา ทั้งคู่สบตากันพักใหญ่ ประกบกลีบปากนิ่มจูบยั่วเบาๆ แล้วผละออกใช้สายตาท้าทายกันไปมา สุดท้ายเป็นภากรณ์เองที่ทนไม่ไหว เขาออกแรงยกร่างมายด์มาคร่อมทับบนตัก สอดมือเข้าเอวสวมกอดแล้วจูบเร้าเด็กสาวบนตัว

 

จูบหยาบๆ บดพลิ้วหลายจังหวะราวอยากตักตวงให้ขาดอากาศหายใจ ภากรณ์เผลอระบายความโกรธผ่านริมฝีปากนั้น เขาออกแรงโถมใส่ ทั้งกอดรัดฟัดเหวี่ยงจนจูบรสหวานกลายเป็นรสคาวเลือด

"เฮีย! หนูหายใจไม่ออก"

สองแขนมายด์ทุบอกแกร่งรัวๆ รออยู่นานกว่าภากรณ์จะยอมถอนจูบยาวนานออก

"จำไว้นะ ถึงผมจะเป็นแค่ช่างบ้านนอก ไม่ใช่นักธุรกิจโก้หรูอย่างนั้น แต่ผมก็ซื่อสัตย์ ผมห่วงคุณและต้องการแค่คุณเท่านั้น"

ภากรณ์ระบายความในใจด้วยแววตาวูบไหว เขาเคยใช้ชีวิตไปวันๆ ตั้งแต่รับมรดกเป็นอู่ซ่อมรถมา เขาก็มีชีวิตเพื่อเป็นหลักให้ลูกน้อง เขาคิดถึงคนอื่นเสมอ

 

เขาไม่เคยทำตามใจตัวเองสักครั้ง จนนานวันเข้ามันไม่รู้แล้วว่าชีวิตนี้ต้องการอะไร ขนาดสูญเสียมิโกะไปวันนั้นเขายังเอาแต่นิ่งเฉย ไม่กล้าแสดงความเสียใจออกมา เก็บตัวทำงาน เก็บความรู้สึกไว้เป็นแค่อดีต แต่ตอนนี้ชายหนุ่มรู้แล้วว่าเขารักและห่วงหวงมายด์แค่ไหน

คำหวานทำเด็กสาวตะลึงงัน เธอค่อยๆ คลี่ยิ้ม ดวงตาพราวแสงมีน้ำเอ่อกลิ้งตัวจนร่วงเป็นหยดใส ความปราบปลื้มดีใจเอ่อล้นจนภากรณ์รู้สึกได้ เขาเองก็ยิ้มรับแล้วเกลี่ยเช็ดสองแก้มให้อย่างเบามือ

 

ริมฝีปากอุ่นประทับลงเปลือกตาคู่สวย มายด์หลับตาพริ้มนิ่งรับสัมผัสอุ่นร้อนลากจากดวงตาผ่านสันจมูกแล้วจรดริมฝีปาก ความกระด้างไม่มีแล้ว เหลือเพียงอ่อนโยน นุ่มละมุนและวาบหวาม ภากรณ์จูบได้ดีมาก แถมกลิ่นกายเขายามตื่นตัวก็ยั่วเย้าจนมายด์เผลอเร่งเร้าตามไปด้วย

"ไปในห้องกันไหม"

ภากรณ์ยังคงความเป็นสุภาพบุรุษ เขาถามทั้งที่มายด์ไล่ปลดกะดุมเสื้อเชิ้ตเขาจนครบเม็ดแล้ว

"ตรงนี้ไม่ได้หรอคะ หนูก้อยากอวดว่าเฮียสุดยอดแค่ไหน"

แน่นอนว่าพอถูกตอบกลับแบบนี้หัวใจภากรณ์ก็ไม่อาจทานทนได้ เขากระชับเอวคอดให้เนื้อแนบเนื้อทันที ให้ส่วนลุกชูชันเราสองเสียดสีกันไปมาจนชุดเดรสผ้าบางถูกถกมากองอยู่แค่เอว

ร่างเด็กสาวขาวผ่องชวนมอง หน้าอกคู่งามเชิดตั้งมีปานชมพูสวยประดับดวงเม็ดยอดเต่งตึงสีแดงก่ำ แค่คิดว่าวาเลนซ์จะเห็นหุ่นทรงของมายด์หรือเปล่าเขาก็ยิ่งหวง มือหนากอบสองเต้ามาฟัดอย่างเอาแต่ใจทั้งยังดูเน้นๆ ราวอยากกลืนจุกสีหวานลงคอ

มายด์ช่วยปลดกระดุมรูดซิปกางเกงยีนส์ลง เธองัดเจ้าแท่งแข็งออกมารับอากาศข้างนอก ใช้มือชักคลึงจนแท่งร้อนตอดตุบๆ เห็นสีหน้าเหยเกของภากรณ์ก็พอเดาได้ว่าอยากใคร่เหลือเกิน ในที่สุดมายด์ก็ชันขาสูงก่อนจะจับท่อนอุ่นสะกิดเปิดปากทางแล้วครอบทับลงไป

ความเสียววูบทำหนุ่มสาวเผลอครางสั่น มายด์จิกนิ้วลงแผ่นหลังสูดลมหายใจลึก ระบายความเจ็บปวดออกมาเป็นจังหวะเคลื่อนไหว

 

"ไหวไหมคนเก่ง" ภากรณ์ถามด้วยความเป็นห่วง เหมือนมายด์จะลืมตัวไปว่าตอนนี้เธออยู่ร่างเด็กสาวไม่ใช่แม่เสือกร้านโลกอย่างอดีตแล้ว

"ของเฮียใหญ่จังค่ะ ทั้งใหญ่ทั้งคับ มันฝืดจนหนูไม่กล้าขยับแล้ว" มายด์บ่นอุบ

"ก็หนูใจร้อนเองนี่คะ" เป็นครั้งแรกที่ภากรณ์พูดย้อนคำไม่ใช่คุณกับผมเหมือนทุกครั้ง แล้วมันก็ทำให้มายด์ใจเต้นแรงกว่าเดิม

ธรรมดาร่างกายมนุษย์เรา พอตื่นตัวอะไรๆ ที่เคยขยายก็หดตัวทันที ภายในตัวมายด์ตอดถี่กว่าเก่า ภากรณ์ปวดหนึบจำต้องกระแทกเอวไหวๆ ให้ข้างในเชื่อมต่อกันดีขึ้น

 

"เฮีย!"

มายด์หวีดสุดเสียง เพราะแท่งยาวกระทุ้งชนพนังมดลูกอย่างจัง ร่างบางโยนตัวหอบสั่นในวงแขนชายหนุ่ม เขากระซิบถามเสียงหวานพยายามชวนคุยเพื่อให้เธอผ่อนคลาย

 

"ครับ"

"มันใหญ่กว่าเดิมไหมคะ คราวก่อนไม่เห็นเจ็บเท่านี้เลย"

"หนูเจ็บหรอครับ ผมว่าน่าจะเสียวได้แล้วนะ"

เอวไหวๆ กระแทกถี่จนร่างมายด์สั่นคลอนไร้ทิศทาง เธอกอดภากรณ์ไว้แน่น ครางเสียงหวานหูปล่อยอารมณ์ไปกับรสสวาทตรงหน้า ชายหนุ่มที่เธอคิดว่าทึนทึกไม่ใช่คนเจ้าเล่ห์กำลังหลอกตะล่อมจนไม่อาจซ่อนไว้ต่อได้

จริตร่านแบบผู้หญิงถูกปล่อยออกมาตามท่วงท่าทางกาย

มายด์จมหายไปกับร่างแกร่ง ภากรณ์คือคนที่เปลี่ยนเธอมาตลอด และตอนนี้ก็กำลังเปลี่ยนให้กลายเป็นคนของเขาอย่างสมบูรณ์แบบ



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น