Love Top Book

Chapter7

 Chapter7

เสียงโทรศัพท์ดังขัด วาเลนซ์กดรับด้วยท่าทีร้อนรน มายด์ยอมเบี่ยงตัวกลับไปนั่งที่ตามเดิม เธอยังคงจ้องหน้าเขาใช้สายตาฉ่ำวาวคลี่ยิ้มยั่ว ความรู้สึกที่เธอมีไม่ใช่รักใคร่อะไรหรอก ทุกการกระทำขับออกมาตามสัญชาตญาณอยากเอาชนะ เธอเริ่มจำได้แล้วว่าครั้งหนึ่งผู้ชายคนนี้เคยหยิ่งยโสขนาดไหน ไม่รู้ในสายตาเขาเคยมองเธอเป็นคนหรือเปล่า

"ไปหากรณ์กันเถอะ" วาเลนซ์พูดพร้อมขับรถเข้างานไปจอดเทียบรถภากรณ์

"มีอะไรวะ" ลดกระจกลงได้ก็เอ่ยถามเพื่อนรักทันที ภากรณ์หน้านิ่งไม่ตอบ กลายเป็นมิ้นท์เองที่เอี้ยวตัวเบียดภากรณ์มาคุยด้วย วาเลนซ์เองก็เช่นกันระยะห่างขนาดนั้นเขาไม่ได้ยินแน่จำต้องเอี้ยวตัวเบียดมิ้นท์ไปฟังเช่นกัน

"เข้าไปในงานกัน รอตรงนี้ไม่ได้อะไรหรอก" มิ้นท์พูด

"จะดีหรอคุณ เราไม่รู้อะไรสักอย่างนะ" วาเลนซ์พูดค้าน

"งั้นคุณไม่ต้องไป ฉันกับมายด์และคุณภากรณ์จะไปเอง"

วาเลนซ์ลอบสบตาภากรณ์นิดหนึ่งเห็นเพื่อนพยักหน้าก็ยอมตามใจ กลายเป็นว่าเหลือเขาคนเดียวอยู่เฝ้ารถ ปล่อยให้หนึ่งหนุ่มสองสาวเดินเข้าโซนนั่งชิว

แสงนวลสลัวตัดด้วยไฟกระพริบสีสันขับให้ร้านเล็กดูดีขึ้น หนุ่มสาวเต้นรำกันอย่างสนุกสนาน มือถือขวดแอลกอฮอร์กระดกดื่มปล่อยจิตใจไปกับความสนุกสนาน

มิ้นท์เดินตรงไปสั่งเครื่องดื่มมาสามขวด ภากรณ์หามุมลับตานั่ง ทั้งที่พยายามไม่เป็นจุดสนใจแล้วแต่ดูเหมือนว่าความสวยความสาวของมายด์ก็สะดุดตาอยู่ดี หนุ่มๆ มองสาวหน้าใหม่จนเลี้ยวหลัง มายด์บริหารสเน่ห์อย่างตั้งใจ

"แหม่!!! สเห่น์แรงนะ" มิ้นท์กระแซะแซว เด็กสาววัยรุ่นอย่างมายด์ใส่แค่เสื้อยืด กางเกงยีนส์ขาสั้น ปล่อยเส้นผมน้ำตาลเข้มยาวสยายแค่นี้ก็สวยเด่นกว่าใคร มายด์ลอบมองสีหน้าภากรณ์เหมือนอยากรู้ว่าเขาจะมองเธอไหม

"เต้นกันไหม รับรองรู้เรื่อง" มิ้นท์ไม่รอช้ารีบทำตามแผนทันที แสร้งเดินไปบาร์น้ำบ้าง เดินไปห้องน้ำบ้าง จงใจยั่วสายตาให้คนสนใจ หนุ่มๆ เริ่มขอชนแก้วทักทาย เต้นโยกคลอเสียงเพลงร่วมสมัย ส่งยิ้มหวานโปรยสเน่ห์

ขณะที่คนห้อมล้อมสองสาว ภากรณ์ก็โทรรายงานเพื่อนเป็นระยะๆ เผื่อว่ามีเหตุฉุกเฉินอะไรจะได้หนีออกได้ทัน มิ้นท์เองก็สอดสายตาสังเกตจนเห็นตัวเด่นๆ ของงานปาร์ตี้นี้

'!!!' มิ้นท์สังเกตเห็นผู้ชายหล่อ ขาวตี๋ดูมีสกุล ข้างกายเป็นร่างหญิงสาวคุ้นตาที่เธอรู้จักดี

"น้ำตาล!!" มิ้นท์หันหลังควับ เผลอเรียกชื่ออดีตเพื่อนสนิทอย่างลืมตัว มายด์ที่เต้นอย่างเพลิดเพลินอยู่ได้ยินอย่างนั้นก็มองตาม แม้ความทรงจำยังเลือนลางแต่มายด์ก็คุ้นหน้าผู้หญิงคนนั้น

"เพื่อนคุณหรอ" มายด์กระซิบถาม มิ้นท์พยักหน้ารับ ทำตัวเลิ่กลั่กคิดไม่ตกว่าควรทำยังไงดี แถมผู้ชายคนนั้นก็มองเราสองคนอย่างสนใจ อีกไม่นานน้ำตาลต้องเดินมาหาเรื่องเราแน่

"งั้นคุณกลับโต๊ะก่อนก็ได้ เดี๋ยวทางนี้หนูจัดการเอง" มายด์แตะไหล่มิ้นท์ดันให้เธอกลับโต๊ะก่อน เธอยังลังเลเพราะมายด์เด็กเกินจะอยู่คนเดียวตรงนี้

"จะดีหรอ"

"เชื่อมือฉันเถอะน่าา"

เสียงคุ้นหูทำมิ้นท์ขนลุกเกลียว ปกติมายด์ก็แค่หน้าเหมือนมิโกะ แต่โทนเสียง สไตล์การพูดและการแทนตัวเองไม่ใกล้เคียงเลย เห็นจะมีครั้งนี้แหล่ะที่น้ำเสียงเย้ยพูดพร้อมยกยิ้มเหยียด

มายด์จ้องตามิ้นท์แทนคำสั่ง เธอเห็นน้ำตาลกำลังเดินมาทางนี้จึงเต้นเบี่ยงตัวมาบังให้มิ้นท์ได้หนีสะดวก

ผู้ชายคนนั้นเดินนำน้ำตาล ก้าวไม่กี่ก้าวก็เข้าถึงตัวมายด์ได้ "อ้าวเฮีย!" แค่วางฝ่ามือลงไหล่ ผู้ชายคนที่เต้นอยู่กับมายด์ก็ถอยกรู่ทันที

"กูชอบคนนี้" เสียงทุ่มพูดนิ่งเป็นคำสั่ง หนุ่มๆ เริ่มปลีกตัวออกไป เหลือแค่น้ำตาลที่ยืนคุมอยู่ห่างๆ ไม่เข้ามาใกล้

"เต้นกับพี่สักเพลงนะครับ"

"ได้ซิคะ หนูชอบคนหล่ออยู่แล้ว"

"พี่ชื่อลี หนูชื่ออะไรคะ"

"หนูชื่อมายด์ค่ะ"

ลูกล่อลูกชนเสือหนุ่มดูด้อยไปเลยเมื่อเทียบกับมารยาเด็กสาว เธอยิ้มเชิญชวน เรือนร่างสาวสะพรั่งเบียดกายใส่ร่างแกร่งตามจังหวะ ฝ่ามือบางลูบไล้ทั่วแผงอกแกร่ง ดวงตาวับวาวสื่อให้เห็นว่าต้องการผู้ชายตรงหน้าเหมือนกัน

"เดี๋ยวรอดูพี่แข่งรถด้วยนะครับ มายด์มากับใครรีบกลับหรือเปล่า" บ่วงที่มายด์สร้างไว้เกี่ยวปลายตัวใหญ่ติดแล้ว ลีเริ่มกอดอ้อนแสดงชัดว่าอยากสานสัมพันธ์ต่อ มายด์วาดวงแขนคล้องคอคนร่างสูง เธอตัวแนบชิดพลางเต้นโยกย้ายปลายสายตาเย้ยไปทางน้ำตาล

"รีบไม่รีบไม่รู้ค่ะ มายด์มากับแฟน" เสียงพร่าหวานกระซิบแนบหู ลีหยุดนิ่งไม่คิดว่าเด็กสาวที่สวมกอดเขาอยู่จะพูดตรงๆ แบบนี้

"คนไหนแฟนมายด์" ลีจับสองไหล่มายด์บังคับให้ร่างหยุดนิ่งพร้อมถามเสียงแข็ง มายด์ยิ้มหวานแทนคำตอบขืนตัวไปสวมกอดเข้าช่วงเอวหนา

"อย่าโกรธซิคะ พี่ก็มากับแฟนไม่ใช่หรอ" มายด์ได้ทีพูดอ้อน เจื่อนหน้าลงน้อยๆ อย่างเสียดาย

"ใช่ที่ไหน! ก็แค่เพื่อนน่ะ" ลีเถียงกลับทันที ทั้งยังเผลอมองน้ำตาลแล้วแสยะยิ้มเย้ย มายด์ได้ใจยิ่งยิ้มยั่ว ทั้งกอดซบเต้นโยกเย้าราวจะเอาผู้ชายคนนี้ให้ได้

น้ำตาลเดาสีหน้าคนทั้งสองออก รู้ว่าเขาพูดถึงตัวเองแต่ก็ไม่กล้าเข้าไปขัด ถูกผู้หญิงอื่นจ้องจะแย่งซึ่งๆ หน้าย่อมโกรธแค้นเป็นธรรมดา เธอหงุดหงิดจนอยากไปผลักคนทั้งคู่ออก แต่ไม่ทันได้ทำอย่างนั้นมายด์ก็ควงแขนลีเข้ามาหาซะก่อน

"มายด์เอาพี่ลีมาส่งค่ะ พี่น้ำตาลเพื่อนพี่ลีใช่ไหมคะ ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ" มายด์เปิดศึกก่อนขนาดนี้คนอย่างน้ำตาลต้องทนไม่ได้แน่ เธอปรี่เข้าไปผลักอกมายด์เต็มแรง ง้างมือจะฟาดลงใบหน้าแต่มายด์ลบได้

ความชุลมุนเกิดขึ้นทันที สองสาวตบตีกันเสียงดัง ภากรณ์ปรี่มาคว้าร่างมายด์ ใช้ร่างที่สูงใหญ่กว่าเป็นกำบังไม่ให้น้ำตาลเข้ามาทำร้ายได้ น้ำตาลระบายความโกรธทุบตีแผ่นหลังหลายครั้งจนเหนื่อยหอบ ภากรณ์เริ่มหมดความอดทนจึงออกแรงสะบัดผลักคนบ้าคลั่งออกห่าง

"โอ๊ย! กูเจ็บนะ" น้ำตาลถูกผลักอย่างแรง เซถลาไปชนลีเข้าเต็มแรง แทนที่ลีจะประคองรับคนของตัวเองกลับปล่อยเธอร่วงลงพื้น เดินอ้าวๆ มากระชากคอเสื้อภากรณ์

"มึงแน่นักหรอวะ กล้าดียังไงมายุ่งกับผู้หญิงกู" แรงกระชากทำภากรณ์เชิดหน้า เขายังใช้ช่วงแขนเอื้อมไปด้านหลังปกป้องไม่ให้มายด์เป็นอันตราย ผู้ชายทั้งสองจ้องกันตาเขม็ง ไม่ได้มีความเกรงกลัวเลยสักนิด รู้แค่ว่าเขาจะไม่ยอมให้ใครทำร้ายมายด์เด็ดขาด น้ำตาลได้ยินลีออกหน้าแทนก็เริ่มยิ้มออก เธอลุกยืนเต็มความสูงเดินมาเกาะแขนลีไว้ แล้วยิ้มเหยียดไปทางมายด์

"มายด์ ไปกับพี่ครับ" ลีสะบัดแขนที่ถูกเกาะกุมออก ตวัดตากลับไปจ้องภากรณ์แล้วเรียกมายด์ให้ไปกับเขา

"ห้ะ! ลีทำไมพูดยังงี้ล่ะ น้ำตาลมากับคุณนะคะ" น้ำตาลหมดความอดทนแล้ว เธอเหวี่ยงเสียงใส่ลีทั้งยังเขย่าแขนเร้าๆ อารมณ์เสีย

"อย่ายุ่ง รำคาญ!" ลีกระแทกเสียงใส่ ทั้งยังผลักน้ำตาลเต็มแรงแล้วจะปรี่ไปคว้าแขนมายด์ให้ได้ คราวนี้ภากรณ์ก็ไม่ยอมเหมือนกันผลักมือดันร่างลีให้ห่างจากตัว

"กล้าดีนักนะมึง ไม่รู้ซะแล้วกูเป็นใคร" ลีขับฟันพูดอย่างโกรธแค้น

"กูไม่สนเว้ย" ภากรณ์จ้องกร้าวดุดัน ลีเห็นอย่างนั้นก็ยิ่งทนไม่ได้ ทั้งสองกระชากกันไปมา ลีรุกใส่ตั้งใจปล่อยหมัดใส่หน้าแต่ภากรณ์หลบได้

"พอ! หยุด!" คราวนี้มายด์เหวี่ยงเสียงใส่บ้าง เธอตะโกนห้ามทั้งยังย้ายตัวเองมากั้นกลางผู้ชายทั้งสอง

"อย่ามาทะเลาะกัน มันไม่เท่ห์หรอกนะ ถ้าอยากได้หนูเอาชนะให้ได้ซิ"


การแข่งขันรอบพิเศษถูกจัดขึ้นในหนึ่งชั่วโมงต่อมา ภากรณ์ใช้รถสปอร์ตคาร์ของวาเลนซ์เข้าแข่ง เครื่องยนต์หลายร้อยม้าคำรามเสียงขู่ ลีไม่มีสีหน้าหวาดกลัวเลยสักนิด เขายังกระหยิ่มยิ้มยักคิ้วท้าทายราวมีแผนร้ายในใจ

น้ำตาลนั่งหน้าหม่นเคียงข้าง เธอจ้องมายด์ไม่วางตา ใบหน้าคุ้นๆ น้ำเสียงท่าทางแบบนี้เหมือนเธอเคยเจอที่ไหนมาก่อน เพียงแต่นึกเท่าไรก็นึกไม่ออก

"คุณจะแข่งจริงๆ หรอลี นั่นมันลัมโบกินี่เลยนะ" น้ำตาลถามเพราะรู้ดีว่ารถเมอร์เซเดสเบนซ์เครื่องยนต์ไม่กี่ร้อยแรงม้าจะไปอาจหาญเทียบรถสปอร์ตคาร์อย่างนั้นได้ยังไง โดยพื้นนิสัยของน้ำตาลเป็นคนสนใจวัตถุสิ่งของอยู่แล้ว พอเห็นผู้ชายคนใหม่ที่ดูจะสูงส่งกว่าลีก็ยิ้มเย้ย

"ของอย่างงี้มันไม่เกี่ยวกับรถหรอก มันอยู่ที่ฝีมือมากกว่า" ลีตอบเสียงเครียด ดวงตามุ่งมั่นมองไปข้างหน้า

"อย่าให้เหมือนคราวที่แล้วล่ะกัน ฉํนไม่อยากซวยไปด้วย" น้ำตาลเหยียดเสียงตามหน้าตา

"อย่าพูดมาก ระดับผมเคลียได้ทุกอย่างอยู่แล้ว" ลีพูดยิ้มๆ ดวงตาที่ใช้มองกันเต็มไปด้วยความเยาะเย้ยคลายอยากยุติข้อตกลงใช้ร่างกายแลกเงินแล้ว

"สนใจมันหรือไง" ลีเลือกถามตรงๆ

"ก็น่าสนใจดี ถ้าฉันได้คุณก็ได้ วินๆ ไม่ชอบหรอ" น้ำตาลตอบเมื่อดิวกันเรียบร้อยทั้งสองก็เงียบ ใช้ช่วงเวลานี้เตรียมสมาธิเพื่อเข้าแข่งขัน

ทางด้านภากรณ์เข้านั่งในรถได้ก็ปั่นหน้าเคร่งเครียด มายด์รู้ว่าเขากำลังโกรธ ได้แต่นิ่งใช้นิ้วเกี่ยวพันกันหวั่นใจอยู่ไม่น้อย

"โกรธฉันหรอคะ" คราวนี้มายด์เลือกใช้น้ำเสียงอย่างที่มิโกะพูด แอบคิดว่าถ้าเป็นมิโกะที่โตเป็นผู้ใหญ่ น่ารัก แสนดีจะทำให้ภากรณ์โกรธน้อยลง

"คุณรู้ใช่ไหมว่าผมควรโกรธ" ภากรณ์ถาม

"รู้ค่ะ แต่ฉันก็ทำเพื่อคุณนะคะ"

"ไม่จำเป็น ถ้าอยากทำเพื่อผมไม่จำเป็นต้องเปลืองตัวอย่างงั้นก็ได้"

"แหม่! ก็นึกว่าโกรธอะไร ที่แท้หวงหรอคะ"

"แล้วผมหวงคุณไม่ได้หรือไง"

ภากรณ์เองก็หึงหวงจนสติแทบหลุดเหมือนกัน ใครจะไปทนได้เห็นคนของตัวเองกอดรัดคลอเคลียผู้ชายคนอื่นเต็มตา ทั้งที่ตีกันเกือบตายเธอยังมีหน้ามาท้าทายแบบนี้อีก ไม่คิดเลยหรอว่าถ้าเขาแพ้ขึ้นมาจะเกิดอะไรขึ้น

"หวงได้ค่ะ ห่วงได้ค่ะ หึงก็ได้ค่ะ ไม่ได้ว่าอะไรสักหน่อย" มายด์ซบหัวลงไหล่หนาวางวงแขนกอดเอวคนข้างตัว ถูจมูกเบาๆ ลงไหล่แล้วจรดริมฝีปากผ่านเสื้อเชิ้ตผ้าบาง จูบเบาๆ พ้นลมหายใจร้อนตราตึงภากรณ์ไว้

"ชนะให้ได้นะคะ เดี๋ยวฉันมีรางวัลให้คุณ" จากช่วงเอว ฝ่ามือบางลูบไล้ขึ้นสูงมาที่กรอบหน้า เชิดตัวขึ้นไปประทับจูบ เม้มกลีบปากคลึงเคล้นบดจูบแผ่วเบาจนภากรณ์ยอมจูบตอบ

สิ่งที่ภากรณ์เห็นตอนนี้คือมิโกะที่แสนดีของเขา ความโหยหาที่เก็บซ้อนไว้ถูกพังทลายเพียงแค่เธอจูบซับ ความหึงหวงแปรเปลี่ยนเป็นอยากใคร่ เขาคิดอยากลงโทษผู้หญิงคนนี้เหมือนกัน

"ถึงไม่ชนะผมก็ไม่ยอมแล้ว" ภากรณ์ตอบอายๆ ก่อนจะคว้าร่างบางมากอดแนบอก ประกบจูบราวร้อนสอดลิ้นสากรุกเร้ากระดกโลมเลียจนเสียงครางอื้อแผ่วหวาน

"ก็ไม่เคยขอให้ยอมนี่คะ"


5! 4! 3! 2! 1! go!!!

สองข้างทางมีรถจอดแรงตลอดทาง เล่านักซิ่งออกมาโบกมือแย้วๆ เชียร์การแข่งขันรอบพิเศษอย่างออกรถ ความจริงดูด้วยตาก็น่าจะรู้ว่ารถใครจะชนะ เพียงแต่ว่าที่ลียอมแข่งด้วยรถที่ด้อยกว่าเพราะมีแผนชั่วอยู่ในใจ

เสียงเครื่องยนต์เคลื่อนตามกันมาติดๆ ลีไม่มีทางแซงรถภากรณ์ได้แน่ เขาต้องการขับตามให้ใกล้ที่สุด จงใจวิ่งอยู่ข้างหลังจนรถวิ่งยาวขึ้นทางด่วน ช่วงที่จะยูเทิร์นวนกลับมาทางเดิม ในเวลาตีสองกว่าๆ ไม่มีรถบนถนนเลย ลีเห็นว่าได้จังหวะจึงควักปืนที่เตรียมไว้ออกมายิงใส่ยางคู่แข่ง

ยิงครั้งแรกไม่โดน ภากรณ์หันเลี้ยวควับหลบได้ทัน รถเสียหลักจนเกือบชนข้างทางเหลืออีกเพียงนิดเดียวลีจะตามทันแล้ว 'ปัง!' เสียงปืนดังมาอีกครั้งแต่คราวนี้ยิงพลาดไม่โดนอะไรเลย แต่นั่นก็เป็นสัญญาณบอกว่าภากรณ์ต้องทำอะไรสักอย่าง

ภากรณ์เลือกใส่เกียร์ถอย เร่งเคลื่อนไปข้างหลังจนรถลีขับแซงไป เขาเริ่มเป็นฝ่ายไล่ตามบ้าง ลีคิดไม่ถึงว่าภากรณ์จะทำอย่างนี้ เขาทำอะไรไม่ถูกจึงได้แต่เร่งเหยียบจนสุดความเร็ว

แต่เครื่องยนต์เจ็ดร้อยกว่าแรงม้าไม่ยอมปล่อยให้หนีไปไหน ภากรณ์ขับจี้ปาดซ้ายทีขวาทีแซงหน้าบ้าง ขับถอยหลังบ้างจนคาดเดาไม่ได้ ความรู้สึกของลีเหมือนถูกหยอกเย้าว่าอ่อนด้อยตลอดเวลา ไม่ว่าเขาจะขับเร็วเท่าไรก็ไม่อาจสลัดรถคู่แข่งได้

'ปังๆ' เสียงปืนสองนัดดังต่อเนื่อง คราวนี้ไม่ใช่ลีแต่ภากรณ์ที่ยิงขู่บ้าง เขาเลือกแซงซ้ายลดกระจกลงแล้วเล็งกระบอกปืนไปทางรถลี ความกลัวรนรานทำให้ปรี่คว้าตัวน้ำตาลมาปังไว้ ทั้งที่ก็มีกระจกกั้นแต่เขาก็ยังความกลัวอยู่ดี น้ำตาลเห็นอย่างนั้นก็ยิ่งหัวเสียไม่คิดว่าคนที่ปากเก่งมาตลอดจะทำตัวน่าไม่อายขนาดนี้

"อย่า! อย่าค่ะ! ฉันไม่เกี่ยว" เห็นภากรณ์ยังเล็งปืนอยู่น้ำตาลก็คิดว่าต้องมีนัดที่สามแน่ เธอรีบลดกระจกลงร้องขอชีวิต นั่งพิงเต็มหลังให้ปลายกระบอกปืนนั้นหันไปทางลีไปถนัดขึ้น

"นี่มึงคิดจะให้มันยิงกูหรือไง" ลีเห็นท่าทางของน้ำตาลก็ตวาดกลับ

"เออ! ก็เหมือนที่มึงอยากให้ยิงกูนั่นแหล่ะ" เธอเถียงกลับไม่ลดละ จ้องตาเดือดใส่กัน ภากรณ์เห็นอย่างนั้นก็พอใจ เขายอมละปืนลงแล้วขับแซงไปในที่สุด

ภายในห้องโดยสารที่มีเพียงมายด์กับภากรณ์ เด็กสาวมองปืนในมือชายหนุ่มแล้วก็สั่น เธอไม่คิดมาก่อนว่าภากรณ์จะดุเดือดได้ขนาดนี้ ก็เห็นเป็นลุงธรรมะธรรมโม หน้านิ่งดุ ปากเสียไปวันๆ ใครจะคิดละว่าบทบ้าระห่ำก็ไม่แพ้ใคร

"เป็นอะไรไป กลัวผมหรอ" ภากรณ์ถาม

"ป่ะ.. ป่าว ค่ะ" มายด์ตอบเสียงกระท่อนกระแท่น เธอยังตกใจอยู่แล้วก็สับสนมากด้วยว่าภากรณ์คนไหนที่รักเธอกันแน่

"ที่คุณรู้จักนะ มันแค่ส่วนเล็กๆ ในตัวผมก็แค่นั้น เห็นอย่างนี้แล้วยังแน่ใจที่พูดอยู่ไหม"



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น