Love Top Book

หัวใจเมียน้อย

 


[หน้าลิขสิทธิ์]

ผลงานเรื่อง                                 หัวใจเมียน้อย

จำนวน                                       100 หน้า

ประเภท                                      นิยายรักอิโรติก

ผู้แต่ง                                         พลูโตขึ้นสายแปด

จัดจำหน่ายโดย                            Daeun Time

ติดต่อ                                        0806464106

การแต่งนิยาย บทความ งานเขียน วรรณกรรม ดนตรี ภาพยนตร์  ศิลปกรรม ฯลฯ จัดเป็นทรัพย์สินทางปัญญาประเภทลิขสิทธิ์ ซึ่งได้รับความคุ้มครองทันทีเมื่อสร้างสรรค์ผลงาน  เป็นลิขสิทธิ์ของผู้แต่งแต่เพียงผู้เดียว ห้ามมีการคัดลอก ดัดแปลง ทำซ้ำ สำเนาโดยไม่ได้รับอนุญาต หากประสงค์จะใช้เพื่อสาธารณะประโยชน์ กรุณาติดต่อตามเบอร์โทรข้างต้น

 

ขอบคุณทุกการสนับสนุน

 

 

 

[ทักทาย]

            ในยุคที่คำว่า เมียหลวง เมียน้อย มีให้เห็นเป็นปกติ  ส่วนใหญ่เราเลือกเห็นใจคนมาก่อนอย่างเมียหลวง น้อยคนนักจะนึกสงสารคนเป็นเมียน้อย มันก็ธรรนดานะคะ คนมาทีหลังย่อมผิดเสมอ 

          นิยายเรื่องนี้ขออนุญาตตีแผ่ความจริงบางส่วนของผู้หญิงคนหนึ่ง ที่ตกกระไดพลอยโจรต้องมาเป็นเมียน้อย พลูโตขอออกตัวก่อนเลยว่าไม่ได้มีส่วนรู้เห็นหรือสนับสนุนแต่อย่างใด เพียงแต่งขึ้นเพื่อความบันเทิง และอยากแชร์เรื่องราวนี้ให้หลายคนได้อ่าน

หัวใจเมียน้อยเรื่องราวของผู้หญิงมือสองคนหนึ่งที่ยอมทำทุกอย่างเพื่อเงิน แม้ว่าจะต้องแลกด้วยศักดิ์ศรี ความสวยความสาวและทุกอย่างของเธอ ในความโชคร้ายย่อมมีความโชคดีแฝงอยู่ ไม่รู้นะว่าเรื่องยุ่งๆ ครั้งนี้จะเรียกว่าความรักได้ไหม

 

ขอบคุณทุกการสนับสนุน

พลูโตขึ้นสายแปด

 

[แนะนำตัวละคร]

 

            ดวิน/Davin “

          บุรุษร่างสูงขาววัย 31ปี หล่อล่ำครบสูตร แบบลูกคุณทั่วไป จะเรียกว่าโชคดีไหมก็ไม่รู้ซินะ เขาเกิดมาในตระกูลใหญ่ มีพี่ชายสามคน ส่วนตัวเองเป็นน้องคนสุดท้องที่ไม่เป็นโล้เป็นพาย ดีแต่หล่อและม่อสาวไปวันๆ ทั้งที่ครอบครัวก็พยายามกดดันให้เขาทำงาน แต่หนุ่มเจ้าสำราญถือตัวอย่างเขาก็ทนทำได้ไม่นาน

            แล้ววันหนึ่งสิ่งที่ดวินทำได้ก็มาถึง เมื่อป๊าม๊าต้องการให้เขาแต่งงานเพื่อสร้างความสัมพันธ์ทางธุรกิจ ทุกอย่างเกิดขึ้นปุ๊บปั๊บฉับพลันไม่ทันได้เตรียมใจเขาก็กลายเป็นสามี ได้เมียเป็นหญิงวัยเดียวกันเสียแล้ว

 

           

         

 

พิธีสมรสระหว่าง Ezra – Davin “ จบลงพร้อมบรรยากาศชื่นมื่น มีเพียงคู่บ่าวสาวที่เหนื่อยจัดจนไม่อยากกระดิกตัวทำอย่างอื่น

คืนแรกให้ห้องหอกับเจ้าสาวชื่อเอศรา(Ezra) แทนที่เธอจะเก้อเขินบ้างกลายเป็นเจ้าของห้องอย่างดวินเกร็งซะเอง เขานั่งสงบใจบนโซฟามุมสลัว ทอดสายตามองหญิงสาวเดินเหนื่อยๆ ไล่ถอดพร็อพชุดแต่งงานระเกะระกะให้พ้นตัว

          คุณ!” โครงชุดคอร์เซ็ทเพิ่งปลิวผ่านหน้าดวินไป เขาหันควับมองตามแรงเหวี่ยง ทันเห็นว่าตอนนี้ร่างคนที่ได้ชื่อว่าเป็นภรรยาเหลือผ้าปกปิดน้อยชิ้นแล้ว

ขนาดนั้นเลยหรอคุณ ให้ผมออกไปก่อนไหมปกติเห็นผู้หญิงแก้ผ้าดวินสู้ไม่ถอยอยู่แล้ว แต่แปลกตอนอยู่กับเอศราเขากลับรู้สึกว่าเธอคือคนแปลกหน้า มันเกร็งๆ หวาดระแวงไม่ไว้ใจผู้หญิงคนนี้เลย

ออกไปให้โดนด่าหรอ เดี๋ยวใครมาเห็นเข้าได้มีเรื่องอีก ฉันขี้เกียจแก้ตัว

เสียงหวานหูกลายเป็นเสียงเหวี่ยงไม่สบอารมณ์ ใบหน้ายิ้มแย้มที่เคยเห็นมาตลอด กลายเป็นนิ่งเรียบไร้ซึ่งความอาย ดวินมองอย่างงงๆ เริ่มไม่เข้าใจว่าเอศราเป็นอะไรกันแน่

ทำไมทำหน้าอย่างนั้นล่ะ อย่าบอกนะว่า คุณคิดว่าเราจะแต่งงานเป็นผัวเมียกันจริงๆ ที่ฉันยอมแต่งกับคุณมันเป็นแค่หน้าที่หรอก

ผมรู้

รู้ก็ดี ต่อไปคุณก็อยู่ส่วนคุณ ฉันก็อยู่ส่วนฉัน เราจะเป็นสามีภรรยากันแค่ในนามไม่ยุ่งเกี่ยวกัน หรือถ้าคุณอยากก็ได้นะแต่ต้องเป็นแบบที่ฉันชอบ

หมายความว่ายังไง

ถ้าอยากเอาฉันก็ได้ไง อยากวันไหนก็บอกมาแล้วกัน

พูดอะไรน่ะ คุณนี่แปลกคนจริงๆ เลย

อย่ามากเรื่องเลยคุณ มาถึงขั้นนี้แล้ว มีอะไรพูดกันตรงๆ มันง่ายกว่านะ ที่คุณแต่งงานกับฉันก็เพราะถูกบังคับไม่ใช่ไหมหรือไง ส่วนฉันที่ยอมแต่ง ก็เพราะอยากมีชีวิตของตัวเองเหมือนกัน หวังว่าคุณจะไม่มาเป็นพ่อฉันอีกคน

ร่างงดงามอรชรสมส่วนเปลือยแผ่นหลังจนถึงบั้นท้าย เผยให้เห็นรอยสักขนาดใหญ่ทำเอาดวินอึ้งไปทันที

 

ผู้หญิงเรียบร้อยอ่อนหวานที่เขาเคยมองว่าน่าจะข่มเธอได้ ตอนนี้กลายร่างเป็นนางพญาที่พร้อมกดเขาให้จมดินอีกคน ลมหายใจร้อนระบายออกอย่างหงุดหงิดไม่คิดว่าเรื่องจะเป็นแบบนี้

แล้วเซ็กส์แบบของคุณน่ะ มันเป็นยังไงควันบุหรี่ลอยตัวในอากาศ เธอนั่งไขว่ห้างพิงหลังลงโซฟา แล้วอัดนิโคตินอย่างสบายอารมณ์ ทีแรกดวินก็ไม่สงสัยหรอก แต่พอเห็นอะไรหลายอย่างเข้าก็ตัดสินใจถาม

ฉันชอบปาร์ตี้เซ็กส์ ไม่ผูกมัดดี

ดวินเผลอเบ๊หน้า ใจไม่เชื่อที่เอศราพูด เดาเอาว่าเธอคงอยากป้องกันตัวเองถึงบอกแบบนั้น  กับผู้ชายแปลกหน้าไม่รู้จักมักคุ้นกันมาก่อน จะให้มีอะไรกันเลยก็ไม่ไหวป่าว

 

คืนแรกจบลงด้วยการหลับใหล ดวินคิดจะตั้งใจเรียนรู้ผู้หญิงคนนี้ ยังไงซะเธอก็เป็นเมีย เขายอมหยุดทุกอย่างเปลี่ยนบทบาทตัวเองเป็นหัวหน้าครอบครัวที่ดี

อยู่ด้วยกันนานวันเข้าดวินก็ได้เรียนรู้ว่าเอศราเป็นคนสองบุคลิก ต่อหน้าญาติผู้ใหญ่เธอจะเป็นผู้หญิงเรียบร้อย หัวอ่อน พูดง่าย แต่พออยู่กันตามลำพังเธอมักจะนิ่งเฉย เสเพล ทะลึ่งตึงตังและเซ็กส์จัด

 

หนึ่งเดือนแล้วดวินยังไม่ได้เคลมเอศราสักที ต่างคนต่างแยกกันใช้ชีวิตจนวันนี้แหล่ะ ถึงคราวที่เขาควรทำหน้าที่สามีได้แล้ว

คุณ คืนนี้เราดินเนอร์กันไหม

ได้ค่ะ เดี๋ยวฉันหาร้านเองนะคะ

ดวินโทรหาเอศรากะชวนเธอไปดินเนอร์แล้วต่อด้วยฟังเพลงชิวๆ สร้างบรรยากาศก่อนรวบรัดทำหน้าที่สามี เธอเองก็เหมือนรู้ทันตกปากรับคำทั้งยังอาสาหาร้านเองด้วย

 

.โรงแรมโซนกลางเมืองใกล้มหาวิทยาลัย ดวินขับตามโลเกชั่นที่เอศราส่งให้ เขายืนอยู่หน้าโรงแรมขนาดใหญ่ที่ดูเก่าๆ โทรมๆ คล้ายเป็นโรงแรมเซลล์วิ่งงานมากกว่า ไร้ซึ่งความโรแมนติก ไม่เหมาะกับการเดทเลยสักนิด เขายังไม่ทันได้โทรหาเธอก็มาถึงพอดี

ไปค่ะ เอศราเดินมาคล้องแขนดวิน เธอยิ้มกวนอารมณ์ดีผิดหูผิดตา แม้จะงุนงงอยู่บ้างแต่ดวินก็ยอมเดินตามอย่างว่าง่าย

เดินเข้าอาคารไปเรื่อยๆ ความคิดที่ว่านี่คือโรงแรมก็เริ่มเปลี่ยนไป มันดูโทรมเกินกว่าจะเป็นห้องพักรายวัน คล้ายพวกอพาร์ทเม้นท์รายเดือนถูกๆ มากกว่า คนอย่างดวินอยู่สังคมหรูหราจนเคยตัวเห็นอย่างนี้ก็ชักสีหน้า มองซ้ายมองขวาแล้วเอ่ยถาม

เราจะทานข้าวกันที่นี่หรอคุณ

ก็ใช่ซิคะ ที่นี่แหล่ะมีครบทุกอย่าง ลองก่อนคุณไม่ชอบก็ไม่ต้องมาอีก

เอศราตอบด้วยสีหน้ายิ้มแย้มดวงตาใสวาวเต็มไปด้วยความชอบ ดวินเชื่อว่าเธออยากมาจริงๆ ก็เลยปล่อยผ่านยอมตามใจ

 

ถึงชั้นเป้าหมายประตูลิฟท์ก็เปิดออก แค่เพียงรอยแง้มน้อยนิดก็ทำให้ดวินเห็นถึงความแตกต่าง

จากอพาร์ทเม้นท์โทรมๆ กลายเป็นแสงมืดสลัวมาพร้อมเสียงเพลงเร้าใจ เดินเลี้ยวไปไม่กี่ก้าวก็เจอพนักงานสูทดำตรวจบัตรตรวจอาวุธเหมือนหน้าผับปกติ

จะไปโซนไหนครับเจ้าหน้าที่ถาม เอศราควักการ์ดสีทองอร่ามขึ้นมาโชว์พร้อมแบงค์พันหลายใบแล้วยื่นให้

วีไอพีค่ะ

ดวินคิดว่านั่นคือเมมเบอร์การ์ดและเงินนั้นก็คือทิปให้พนักงาน เขานิ่งไม่พูดอะไรเดินตามพนักงานนำทางจนขึ้นมาชั้นบนที่เงียบสงบกว่าเดิมแต่คงความมืดสนิทไว้

 

หิวยังคะ จะกินอะไรก่อนหรือเปลี่ยนเสื้อผ้าเลยดีเอศราสังเกตเห็นคนที่มาด้วยเงียบไปก็ชวนคุย คนไม่รู้อะไรเลยอย่างดวินยังคิดทำตามแผนจึงตอบไปว่า ทานอะไรทานก่อนดีกว่าครับ

ทั้งสองเดินมาโซนเลานจ์สั่งอาหารดื่มกินกันจนอิ่มท้องแล้วก็ไปต่ออีกโซนหนึ่ง ดวินสังเกตเห็นคู่รักเดินคลอเคลียกันอย่างเปิดเผย ทุกคนสวมเพียงผ้าเช็ดตัวผืนเดียวเดินไปเดินมาอย่างไม่อายกัน

เคยมาไหมคะเอศราถามขำๆ เพราะเห็นสีหน้าตื่นเต้นของชายหนุ่มแล้วนึกตลก

ไม่เคยครับ เพิ่งรู้ว่าคุณชอบเที่ยวซาวน่าดวินตอบพลางรับผ้าเช็ดตัวผืนไม่ใหญ่นักมาถือไว้

เปลี่ยนบรรยากาศค่ะ ปกติฉันก็ไม่เที่ยวแบบนี้เหมือนกันร่างหนุ่มสาวในชุดผ้าเช็ดตัวผืนเดียวปังกายเดินเข้าโซนวีไอพีที่มืดสนิทมองเห็นเพียงเงาคนลางๆ นั่งลงโซฟากลมวงใหญ่

 

อุณหภูมิในห้องอุ่นร้อนมีควันกลิ่นฉุนคล้ายกลิ่นบุหรี่ลอยฟุ้งในอากาศ เพียงไม่นานดวินเริ่มเคลิ้มยิ้มกริ่มอารมณ์ดีคล้ายคนเมา

ดื่มอะไรไหมคะเอศรากระซิบถามเห็นเขายิ้มรับก็จัดการสั่งบรั่นดีให้ ยังไม่ทันได้เติมเชื้อแอลกอฮอร์เข้าร่าง ดวินก็เมามายจนคุมตัวเองไม่อยู่

 

สาวอวบอัดร่างสูงโปร่งผิวสีน้ำผึ้งเดินมานั่งใกล้พลางชนแก้วทักทาย เธอรั้งกรอบหน้าคมไปจูบ บดกลีบปากเร้าหยาบๆ แล้วย้ายตัวเองขึ้นคร่อมร่างชายหนุ่ม

เต้ากลมส่ายยั่วตรงหน้า ริมฝีปากหนาตรงเข้าไปจูบเน้นๆ ขยี้นิ้วคลึงเคล้นตามเสียงซี๊ดซ๊าดสะใจ บั้นท้ายกลมสวบลงแท่งแกร่งโยกพลั่กๆ จากเบาไปแรงขึ้นๆ จนชายหนุ่มเกร็งเสียวรัดเอวคอดไว้แน่น

เพิ่งเคยมาหรอคะทั้งที่ยังโยกตัวไหวอยู่บนร่าง เธอก็ดันตาดีสังเกตเห็นว่าเขาเกร็งมากจึงชวนคุยสร้างบรรยากาศ

ครับ ผมไม่เคยดวินกระเส่าเสียงตอบ แทนที่สาวผิวสีจะคุยต่อเธอกับยิ้มกริ่มหันไปส่งสัญญาณเรียกเพื่อนมารุมเขา

 

สาวขาวอวบแบบเอเชียคร่อมทับช่วงใบหน้าหล่อ เบียดกลีบที่ฉ่ำเยิ้มไปด้วยน้ำกามเข้าริมฝีปาก โยกตัวให้ความสากกระดกเลียกลางติ่งแตก เธอครางราวอยู่ในหนังเอวี บดสองก้อนบั้นท้ายเร่าๆ ให้ริมฝีปากเขาไปเชยชมสมใจ

ส่วนสาวผิวสีคนเก่ายังสนุกกับแท่งเอ็นลำใหญ่ เธอกระแทกเต็มแรงเด้งเด้าจวนจะเสร็จแล้วก็ผละออกมาออรัลด้วยริมฝีปาก มือชักคลึงปากครูดตามความยาวดูดดุนเอ็นลำสวยอย่างเมามัน ผงกกินซ้ำๆ จนน้ำกามแตกพล่านเต็มปาก

 เสร็จจากสองสาว ผู้หญิงแปลกหน้าอีกหลายคนก็วนเวียนมาเสพกามอย่างต่อเนื่อง ดวินเมาจนไม่รู้ตัวเลยว่าทำอะไรกับใครบ้าง ร่างกายโหมใช้งานจนสร่างเมาเขาเหลือบเห็นเอศราตอนนี้เธอเองก็ถูกรุมอยู่เช่นกัน

ริมฝีปากสวยได้รูปที่ดวินชื่นชอบแผดเสียงครวญครางพอใจ เบื้องล่างเธอมีชายหนุ่มคุกเข่าแนบพื้นจับเรียวขาทั้งสองกางกว้างเผยสองกลีบอวบอูมบานฉ่ำรับลิ้นสาก

ใบหน้าที่ไม่รู้ว่าหล่อหรือเปล่าฟัดตรงนั้นนานมาก ร่างเอศรากระตุกหอบถี่ โยกตัวเด้าอากาศไหวๆ ตามความเสียว

สองเต้ากลมเธอถูกชายสองคนซ้ายขวานวดเคล้นให้ ทั้งสองพรมจูบจากซอกคอลงไปเน้นดูดนมสวย แล้วเลียวนสีข้างก่อนกดหน้าไซจุดนั้น

คนที่บำเรอจูบกลางหว่างขา เปลี่ยนเป็นลุกยืนเต็มความสูง เขากระแทกท่อนเอ็นเข้าโพรงนำเสียวเต็มแรง ส่งท่อนสวบเข้าออกถี่จนร่างเอศรายอมโยกตาม

ดวินเห็นกลีบปากแดงซี๊ดครางพอใจ เขาเริ่มทนไม่ไหวนั่งกระสับกระส่ายจนต้องลุกไปร่วมวงด้วยในที่สุด

 

กลีบปากที่ดวิน หลงใหลกำลังกลืนกินท่อนเอ็นอย่างมันปาก เธอรู้ว่าเป็นเขาก็ยิ่งเสิร์ฟลิ้นโลมเลียให้สุดฝีมือ ครูดปากเข้าออกไม่เท่าไรน้ำเชื้อรสคาวก็แตก

ดวินย้ายไปต่อคิวเข้ารูบ้าง ดันเอวเสยงัดจนท่อนยากถูกกลืนไปสุดลำ เจ้าก้อนกลมกระแทกเนินอวบพลั่กๆ ควงของแข็งอุ่นร้อนในโพรงขรุขระไม่นานก็เสร็จ  

โทษที ผมทำคุณเจ็บหรือเปล่าดวินเผลอรุนแรงกับเอศรา พอได้สติก็ถามแต่แทนที่เธอจะเจ็บกลับยิ้มรับแล้วร้องขอการตีตบอีก

 

เมื่อสนุกกันจนเหนื่อยอ่อนสองผัวเมียก็ชวนกันย้ายห้องมาอีกโซนหนึ่ง

ห้องสีสว่างมีจากุซซี่น้ำร้อนให้แช่ตัว นั่งพักไม่เท่าไรก็ทั้งสองก็เปิดใจคุยเล่นกันได้

ดวินเห็นเรือนร่างเอศราเต็มตา ตอนนี้เนินอกเธอมีรอยแดงจ้ำหลายรอย ทั้งยังบั้นท้ายที่แดงเถือกเป็นรอยฝ่ามือ เขารู้ทันทีว่าเธอมีรสนิยมแบบไหน ใบหน้าหล่อหม่นลงน้อยเพราะก่อนแต่งคิดไว้ว่าจะเจอผู้หญิงอ่อนหวานที่ยอมเชื่อฟังเขา แต่ความจริงแล้วเธอแกร่งกว่ามาก

 

ทำไมคะ รับไม่ได้หรอ

เปล่า ผมแค่ไม่อยากจะเชื่อว่าคุณชอบแบบนี้

ก็นะ ผู้ชายทำไม่ผิดนี่ แต่พอผู้หญิงทำสังคมกลับรับไม่ได้

แล้วคุณไม่มีแฟนที่คิดจริงจังหรือไง

ก็มีนะ แต่ฉันมันพวกเบื่อง่าย แล้วก็ชอบเด็กๆ ไปดูตัวแต่ละทีมีแต่แก่ๆ ก็มีคุณนี่แหล่ะที่พอได้

แค่พอได้เองหรอ คุณไม่เห็นหรือไงเมื่อกี้ผมก็ฮอตอยู่นะ

โอเคค่ะ แต่คุณก็ไม่ใช่สำหรับฉันอยู่ดี

ครับผมรู้ เผื่อวันไหนคุณเจอคนที่ใช่บอกผมได้นะ ผมจะหย่าให้

ไม่มีวันนั้นหรอกค่ะ

มั่นใจอะไรขนาดนั้น

เพราะฉันชอบผู้หญิงไม่ใช่ผู้ชายนะซิ

ห้ะ! แต่เมื่อกี้คุณเพิ่ง...

คุณยังแยกความรักกับเซ็กส์ไม่ออกล่ะซิ  ทำไมคะเป็นเมียคนหนึ่งได้จะเป็นผัวอีกคนหนึ่งไม่ได้หรือไง

 

คุยถึงตรงนี้ดวินทำหน้างงงวยกว่าเดิม จากที่เคยคิดว่าตัวเองผ่านอะไรมาเยอะ แต่ตอนนี้กลับเจอคนที่เหนือกว่า   

ตลกจังผมเตรียมใจมีเมีย ทำไปทำมาได้เพื่อนซะงั้นดวินพูดอย่างอารมณ์ดี เป็นครั้งแรกเลยที่เขาไม่เกร็งและไม่คิดว่าเอศราเป็นคนอื่น

ถ้าอยากให้ฉันทำหน้าที่ภรรยาบอกได้เลยนะคะ ฉันไม่ใช่คนให้ความสำคัญกับเซ็กส์เพราะฉะนั้นคุณไม่ต้องเกรงใจเลย หรือถ้าคุณรักชอบใครแล้วอยากดูแลเธอก็บอกกันได้ ฉันใจกว้างพอ

อืมม.. ผมเชื่อ

ดวินตอบยิ้มๆ เขาเริ่มยอมรับแล้วว่าไม่มีทางใช้ชีวิตปกติเหมือนคนอื่นได้ คนอย่างเขาสังคมไม่มี ทำงานไม่เก่ง ไม่มีความสามารถอะไร คงเป็นได้แค่หุ่นเชิดเท่านั้น 

 

           

         

 

 

 

 

[แนะนำตัวละคร]

 

                นารา/Nara “

          หญิงสาวร่างบางกะทัดรัดวัยเพียง 25ปี ตอนนี้ความสวยกำลังบานสะพรั่งทั้งที่มีเป็นคุณแม่ลูกหนึ่งก็ยังดูงดงามราวภาพวาด เธอเป็นแม่ค้าปากตลาดทั้งที่เรียนมาสูงแต่เหมือนโชคชะตาโหดร้ายกับเธอมาก จนชีวิตต้องเป็นแบบนี้

 

ย้อนไปเมื่อสามปีที่แล้ว นาราเรียนจบและได้ทำงานบริษัทสัญชาติต่างประเทศชื่อดัง แม้จะเป็นเพียงเด็กต่างจังหวัดซื่อๆ เซ่อๆ ไม่ทันคน แต่ก็เป็นที่รักของรุ่นพี่ที่ทำงานเพราะเธอเป็นคนขยัน เรียกใช้ง่ายเอาการเอางานทุกอย่าง เธอหวังจะเก็บเงินให้ได้สักก้อนแล้วย้ายกลับต่างจังหวัดไปดูแลพ่อแม่

ความเป็นคนดีย่อมดึงดูดคนดีเข้ามาหา วันหนึ่งหนุ่มรุ่นพี่ดีกรีข้าราชการไทยก็เข้ามาจีบ ความสัมพันธ์ระหว่างนาราและพี่ปรีชาดำเนินไปอย่างราบรื่น

ทั้งสองเป็นกำลังใจที่ดีให้แก่กัน คอยเรียนรู้กันจนนาราเริ่มมั่นใจในตัวพี่ปรีชา ทั้งสองตกลงใจเป็นแฟนกันแต่เพราะทำงานไกลกัน ความสัมพันธ์จึงไม่คืบหน้าเท่าไร

 

พี่นารา กลับยังไงครับ ปกตินารานั่งวินนิดเดียวก็ถึงบ้านแล้ว แต่วันนี้ฝนตกราวพายุเข้าทำให้เธอจดๆ จ้องๆ ชะเง้อคอยาวก็ยังไม่เห็นวินสักคัน

กลับด้วยกันไหม เดี๋ยวผมไปส่งนัทรุ่นน้องเป็นช่างไฟที่บริษัทเดียวกัน จอดมอเตอร์ไซค์เทียบฟุตบาทแล้วเอ่ยถามอย่างห่วงใย

ขึ้นมาพี่ ตอนนี้ไม่มีวินหรอก หรือว่ารังเกียจรถผม นัทตะโกนฝ่าเสียงฝน แม้เขาจะพูดยิ้มๆ ไม่ได้ดุดันนักแต่ตะโกนดังขนาดนั้นใครๆ ก็ได้ยินแล้วพลางมองเธออย่างหมันไส้

รังเกียจอะไรกันล่ะ พี่ก็ซ้อนวินอยู่ทุกวันพอเห็นว่าสองไหล่ของนัทชุ่มไปด้วยน้ำที่ไหลมาจากกันสาด นาราก็ไม่ลีลารีบเดินมาซ้อนท้ายเขาทันที

นัทเป็นหนุ่มรุ่นน้องเคยเห็นหน้าคาดตากันบ้างแต่ก็ไม่สนิทนัก นาราซึ้งในน้ำใจครั้งนี้ของนัทมาก เห็นฝนยิ่งตกแรงขึ้นๆ เธอก็เอ่ยปากชวนให้นัทหลบฝนที่ห้องก่อนได้ และนั่นเองก็ทำให้ทั้งสองเริ่มสนิทสนมกัน

ช่วงที่แฟนไม่ว่างมาทำหน้าที่ ก็ได้นัทนี่แหล่ะคอยดูแลตามรับตามส่งทุกวัน ใจหญิงสาวคิดเสมอว่านี่คือน้องชาย ในขณะที่อีกฝ่ายคิดไกลเกินกว่านั้นมาก

 

พี่ปรีชาหายไปหลายวันแล้วทั้งที่ปกติจะโทรมาบ้าง วันหยุดเสาร์อาทิตย์ก็จะขับรถมาหา ผ่านมาเดือนหนึ่งเขาไม่ติดต่อมาเลยแทนที่นาราจะผิดสังเกต กลับคิดเอาเองว่าที่แฟนหายไปเพราะทำงานยุ่ง

ไงพี่! แฟนมาหายิ้มหน้าบานเลยนะเช้าวันจันทร์นาราเข้าบริษัทมาด้วยใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส เจอหน้านัทปุ๊บเขาก็ทักปั๊บ ทั้งยังยิ้มล้อเลียนแต่นารากลับนิ่งเฉย

โห่! แซวแค่นี้ทำเป็นโกรธหรอนัทอ่อยเสียงทำหน้าเจื่อนจนนาราต้องเป็นฝ่ายพูดบ้าง

ไม่ได้โกรธ พี่แค่งงว่านัทพูดเรื่องอะไร

อ้าว! ก็แฟนพี่มาหาไง ผมก็เลยแซว

ใคร! พี่ปรีชาน่ะหรอ ไม่ได้มาสักหน่อย

ไม่มาได้ไง เมื่อวานผมยังเจอเขาอยู่เลย

เจอที่ไหน นัทจำคนผิดหรือเปล่า

ไม่ผิดหรอกพี่ ก็เมื่อวานผมไปเดินห้างเจอพี่เขา เรายังทักกันอยู่เลย เห็นหัวเราะหน้าบาน ผมก็นึกว่ามากับพี่เลยรีบคุยรีบปลีกตัวออกมา

 

นัทเล่าเป็นฉากๆ นาราเองก็เชื่อว่าหนุ่มรุ่นน้องพูดความจริง เธอพยายามโทรหาพี่ปรีชา แต่โทรเท่าไรก็โทรไม่ติด ดังเป็นสายไม่ว่างตลอด

โทรไม่ติดเลยหลังจากกดเบอร์ซ้ำๆ มาร่วมครึ่งชั่วโมง นาราก็ถอดใจพร้อมบ่นด้วยเสียงไม่ดังนัก นัทตามฟังเหตุการณ์ตั้งแต่แรกก็อาสาช่วยโทรด้วย

ไหน ผมลองโทรบ้างซิ ตอนแรกนาราก้มหน้าอยู่ พอได้ยินว่านัทจะช่วยโทรก็จะเปิดเบอร์ให้ แต่ผิดคาดนัทกลับหยิบโทรศัพท์กดโทรทันทีราวมีเบอร์พี่ปรีชาอยู่แล้ว กดโทรครั้งแรกไม่มีคนรับ จนนัทกดซ้ำครั้งที่สอง

ฮะโหล! ใครครับเสียงตะคอกดังผ่านสปีกเกอร์โฟนให้นาราได้ยินด้วย

พี่นาราอยากคุยด้วยครับนารามัวแต่อึ้ง นัทจึงเป็นฝ่ายบอกจุดประสงค์เสียเอง

ผมไม่มีอะไรจะคุย

ตรู๊ดๆ ๆๆ  ๆๆๆ ...

 

สายถูกตัดไปด้วยความงุนงง นาราไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เธอรีบโทรกลับไปอีกครั้งแต่ก็เป็นสายไม่ว่างเหมือนเดิม ทั้งที่นัทโทรติดแต่เธอโทรไม่ติด อย่าบอกนะว่าพี่ปรีชาบล็อกเบอร์เธอแล้ว

ใจเย็นนะพี่ เผื่อพี่เขาจะยุ่งอยู่นัทช่วยปลอบใจ นาราพยักหน้ารับทั้งที่รู้ว่าไม่จริงเลย เธอนั่งนิ่งทบทวนเรื่องที่เกิดขึ้น พี่ปรีชาหายไปตั้งแต่ตอนไหนนะ ครั้งสุดท้ายที่เจอกันมันตอนไหน เหตุการณ์วันนั้นเกิดอะไรขึ้นบ้าง เธอทำอะไรให้เขาไม่พอใจหรือเปล่า

 

พอได้อยู่กับตัวเองทบทวนเรื่องต่างๆ นาราก็คิดได้ว่าทุกช่วงเวลาเธอมีนัทตามติดตลอด ช่วงเดือนกว่าๆ ที่พี่ปรีชาหายไปเป็นช่วงที่นัทเข้ามาพอดี งั้นเหตุผลที่พี่ปรีชาหายไปอาจเป็นเพราะเธอไม่ชัดเจนหรือเปล่า

ฝ่ามือบางวางทาบลงตำแหน่งหัวใจ  แรงเต้นเอื่อยในอกบ่งบอกว่าเธอไม่ยินดียินร้ายที่เรื่องมันเป็นแบบนี้  เธอไม่รู้สึกโหยหาอยากให้พี่ปรีชากลับมาเหมือนเดิม และไม่ได้รู้สึกดีใจที่เขาจากไปด้วย

 

เย็นนี้ก็เหมือนๆ ทุกวัน นัทรับนาราไปส่งห้อง แวะหาซื้อกับข้าว กินข้าวเย็นด้วยกันจนเสร็จแล้วนัทก็ถามขึ้นด้วยความเป็นห่วง

พี่แม่งแปลกวะ แฟนหายไปทั้งคนยังทำนิ่งอยู่ได้นัทพูดหยั่งเชิงเพราะดูไม่ออกว่านาราคิดยังไง

ทำไมล่ะ นัทคิดว่าพี่ต้องร้องไห้ฟูมฟายหรอนาราย้อนถาม

ก็ควรเป็นแบบนั้นไม่ใช่หรือไง คู่พี่ดูรักกันมากนี่นัทพูดเสียงอ่อย เจื่อนหน้าอย่างทุกครั้ง นาราดูออกว่านัทเองก็ฝืนพยายามเลี่ยงไม่พูดสิ่งที่ตัวเองรู้สึก

รักหรือไม่รักแล้วมันเกี่ยวอะไรกับเด็กอย่างเธอล่ะ

นาราเป็นฝ่ายหยั่งเชิงดูบ้าง คราวนี้สายตาที่นัทมองนาราเปิดเผยชัดเจนมาก สายตาที่เต็มไปด้วยความรักล้นเอ่อกำลังสั่งให้นัทขยับปากพูดแต่เขาเลือกเม้มกลืนมันไว้แล้วแสร้งมองไปทางอื่น

นั่นซิเนอะ ผมไม่เกี่ยวนี่

นาราไม่ใช่คนโง่เธอดูออกว่านัทรู้สึกอย่างไร ในเมื่อผู้ชายไม่พูดเธอก็ไม่คาดครั้น ปล่อยให้ความเงียบเบลอเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อกี้ไป

 

กริ๊งงง...

ขณะที่คนทั้งสองจ้องตากันเงียบๆ เสียงโทรศัพท์ก็ดังขัด นัททำหน้าเศร้าอีกแล้ว เขาเผลอยิ้มแห้งแล้วเบือนมองทางอื่น สายที่พอคาดเดาได้ว่าควรเป็นใครร้องเรียกอยู่นาน

 

อ้าวลุงผู้ใหญ่ มีอะไรคะนารารู้ว่าไม่ใช่เบอร์พี่ปรีชายิ้มก่อนกดรับ นัทพอรู้ว่าไม่ใช่เบอร์แฟนนาราก็เริ่มยิ้มออก ทั้งคู่ส่งยิ้มให้กันอยู่ๆ ดวงตาของนาราก็สั่นระริก เสียงเครือ ปล่อยร้องไห้โฮ

ลุงผู้ใหญ่บอกว่ายังไงนะจ๊ะ พ่อแม่หนูถูกรถชนตายงั้นหรอ

นาราร้องไห้ไปด้วยพูดทวนประโยคที่ได้ยินไปด้วย ความสูญเสียทำอ่อนแรง เธอช็อคจนหมดสติไปทันที นัทที่ฟังเหตุการณ์อยู่ตั้งแต่แรกปรี่เข้ามาคว้าตัวทันก่อนจะล้มลง

ฮะโหล! ฮะโหลครับ! ตอนนี้พ่อแม่พี่นาราอยู่โรงพยาบาลไหนครับ ผมจะรีบไปแม้ในวงแขนจะมีร่างนารานอนหมดสติอยู่แต่นัทยังสติดี นัทจัดการเช่ารถอุ้มนาราที่ยังนอนนิ่งเข้านั่งข้างคนขับแล้วออกเดินทางไปบ้านเกิดของเธอ

 

นาราฟื้นขึ้นมาระหว่างทาง เธอปลื้มใจมากที่นัทจัดการทุกอย่างให้ ตอนนี้ชายหนุ่มตรงหน้าเป็นเหมือนที่พึ่งเดียวที่เหลืออยู่ ทุกอย่างพังทลายในพริบตา สิ้นพ่อขาดแม่แล้วนาราก็ไม่รู้จะอยู่ยังไงต่อ

ไม่เพียงแค่ขับรถให้ นัทยังช่วยจัดการงานทุกอย่าง ช่วงไหนที่นาราเอาแต่ร้องไห้เสียใจเขาก็คอยปลอบ ทั้งยังกล้าจุดธูปบอกกล่าวพ่อแม่ว่ารักนารามากและจะเป็นคนดูแลเธอเอง

 

 

คนเราจะเห็นใจกันก็ยามลำบากนี่แหล่ะ ตอนนี้นัทได้ใจนาราไปเต็มๆ เธอยอมตกลงเป็นแฟนเขาทั้งที่รู้จักกันแค่ไม่กี่เดือน ข่าวสองคนเป็นแฟนกันดังทั่วบริษัท บ้างก็เห็นด้วยเพราะสองคนดูรักกันมาก บางก็ไม่เห็นด้วยเพราะนัทยังอายุน้อย

 

ไม่ต้องห่วงนะพี่ ผมจะดูแลพี่เอง

นัทให้คำมั่นก่อนบรรจงจูบแสนหวานลงกลีบปากสวย เตียงหนานุ่มเป็นใจรับร่างบางไปนอน สันจมูกซุกไซ้ลากต่ำลงซอกคอ นาราเชิดรับปล่อยตัวไปกับความอยากใคร่ที่ร่างกายโหยหา

จูบเลื่อนต่ำลงๆ จากไหปลาร้าโครงสวยแวะพรมจูบเต้ากลมซ้ายขวา เม็ดไตที่กระตุ้นเพียงน้อยก็พร้อมชูชันทำให้นัทยิ่งคลั่ง เขาโลมเลียขบดูดราวอยากลงโทษมันที่เอาแต่ชูคอท้าทาย

ร่างบางรับแรงฟัดคลึงเริ่มหายใจพร่า นาราผู้ไม่เคยเรื่องบนเตียงมาก่อน กระตุกตัวถี่ตามจังหวะเรียวลิ้นซุกไซ้ ยิ่งตอนที่นัทเกร็งลิ้นสากให้แข็งแล้วแทงคว้านลงไปกลางกลีบ เฉียดเม็ดเดียวซ้ายทีขวาทียิ่งทำเธอเสียววาบ บั้นท้ายเกร็งร่อนเหนือพื้น ใจหนึ่งอยากให้นัทหยุดหยอกล้อแต่อีกใจก็นึกชอบที่ได้รับความรู้สึกแสนวิเศษ

นัทไม่ได้เก่งแค่คารม เรื่องบนเตียงเขาก็ถึงอกถึงใจไม่แพ้กัน ยิ่งได้เมียที่เรียนรู้เร็วอย่างนาราด้วยแล้ว เซ็กส์ก็เหมือนเกมส์ของหนุ่มสาวที่แพ้ชนะไม่รู้จบ

 

ความสุขอยู่กับใครไม่นาน ผู้หญิงที่ดีพร้อมอย่างนาราก็เช่นกัน เธอตั้งท้อง หลงรัก ห่วงหวงลูกน้อยในครรภ์มากจนไม่ยอมปรนเปรอสามีหนุ่ม ความห่างเหินนี้เหมือนเป็นช่วงวัดใจสามี ผู้ชายดีๆ ที่คู่ควรเป็นพ่อของลูกย่อมผ่านไปได้ ส่วนผู้ชายที่เห็นผู้หญิงเป็นแค่เครื่องระบายอารมณ์ก็มักจะมีคนอื่น

นัทก็เช่นกัน

 

ความเป็นช่างกลับบ้านไม่เป็นเวลาอยู่แล้ว พอเมียท้องยิ่งหนักกว่าเก่า กลับบ้างไม่กลับบ้างปล่อยนาราอยู่คนเดียวทั้งที่อุ้มท้องแก่ หนักเข้าเมากลับบ้านมาด้วย แรกๆ นาราก็บ่นแต่พอเป็นแบบนี้ทุกวันเธอก็เลิกสนใจ

 

เปิดโว้ยย!! นารา เปิดด!! อีนารากูบอกให้เปิด!” เสียงโวยวายตอนตีสองปลุกนาราให้ตื่น ตอนนี้เธอท้องเจ็ดเดือนกว่าแล้วจะลุกจะนั่งก็ลำบาก พอไม่รวดเร็วทันใจ ผัวขี้เมามันก็ยิ่งถีบประตูเสียงดัง กว่าจะเดินไปถึงประตูนาราก็ถูกด่าสารพัดแล้ว

โอ๊ย!” ประตูเปิดออก ทำให้มือที่ทุบประตูอยู่พลั้งมาโดนนารา เธอแค่ร้องแล้วชักสีหน้าเจ็บปวด แทนที่คนเมาอย่างนัทจะรู้สึกตัวบ้างกลับผลักซ้ำที่ไหล่บางแล้วด่าต่อ

มัวทำอะไรอยู่วะ กูเรียกตั้งนานหูหนวกหรือไงแม้จะเมามายแต่แรงผู้ชายก็เยอะกว่า นัทผลักร่างนาราไปชนกำแพงทั้งยังปรี่จะซ้ำ ทำให้นาราต้องป้องกันตัวโดยการผลักเขาออก

นี่มึงกล้าผลักกูหรอนัทเซเล็กน้อยแต่ยังอวดดีอาระวาดทั้งที่คนท้องเซจนต้องใช้มือจับพนังห้องไว้

เมาแล้วก็ไปนอน ดึกแล้วเกรงใจคนอื่นบ้างนาราตอบน้ำเสียงราบเรียบ เธอไม่อยากทะเลาะด้วยเพราะเริ่มเอือมระอา คิดเอาว่าเป็นกรรม ตัดสินใจเลือกมันมาเองนี่ จะดีจะร้ายยังไงซะมันก็ผัวเรา

ไม่ต้องมาทำเป็นหน้าบาง มึงเป็นผู้ดีนักหรือไง หึ! อีนารา อีเมียปลิงที่เกาะให้ผัวอย่างกูทำมาหาเลี้ยงอยู่ทุกวัน

พอเหล้าเข้าปากนัทจะขุดเรื่องนี้มาพูดทุกที ทั้งที่เขาเองเป็นฝ่ายขอให้นาราลาออกจากงานเมื่อตอนท้องได้ห้าเดือน บอกห่วงโน้นห่วงนี่สารพัด แต่พอลาออกจริงๆ แค่เงินเดือนเขาคนเดียวก็ไม่พอใช้

ทนหน่อยนะนัท อีกสามเดือนเอง พอคลอดเสร็จพี่จะกลับไปทำงานเหมือนเดิม

นาราพูดเสียงอ่อน เพราะเรื่องนี้ก็ทำให้เธอเกรงใจผัวเด็กอยู่ไม่น้อย ตั้งแต่เกิดมานอกจากพ่อกับแม่เธอก็ไม่เคยเป็นภาระใคร ทำงานหาเงินเองตั้งแต่เด็ก พอถูกต่อว่าแบบนี้ก็อดคิดมากไม่ได้

 

สามเดือนหรอ เหอะ! ทำเป็นพูดดีไป มึงคิดว่าจะอยู่เกาะกูกินอีกสามเดือนเลยหรอ กูไม่น่าแย่งมึงมาจากไอ้โง่นั่นเลย ดูซิ! เอาไม่เท่าไรก็ท้องซะแล้ว ท้องง่ายฉิบหาย คนเมาไม่เคยโกหก นาราได้ยินเต็มสองหูแต่ยังไม่เข้าใจว่านัทหมายถึงใคร

แย่งใครนาราแกล้งถาม

ก็ไอ้พี่ปรีชาของมึงไง แค่กูโทรไปบอกว่ามึงกับกูแอบคบกัน มึงนอกใจมันมาเอากับกูทุกวัน  แค่นี้ไอ้ผู้ชายแสนดีนั่นก็พร้อมจะทิ้งมึง โง่ชะมัดเลยวะ พูดอะไรก็เชื่อ ควายชะมัด

นัทเล่าเป็นฉากๆ ว่าทำอะไรลับหลังนาราบ้าง สองมือบางกำหากันอย่างโกรธแค้น พอลายออกก็รู้นะว่านัทมันเลว แต่ไม่คิดว่าจะได้ผัวออกสาวด้วย ทั้งตอแหล อิจฉา ริษยาและมั่วไม่เลือก สันดานแบบนี้ไม่รู้หลับหูหลับตาเอาไปได้ยังไง

 

แม้จะโกรธแต่นาราก็พยายามครองสติ ไม่อยากทะเลาะกับคนเมาให้เรื่องราวใหญ่โตแต่เหมือนนัทไม่จบ เขายังพูดจี้ใจดำต่อ

แล้วมึงรู้ไหม นอกจากกูจะโกหกผัวเก่ามึง กูยังใจดีส่งคลิปที่เราเอากันไปให้มันดูด้วย กูว่ามันน่าจะชอบนะ เห็นเปิดดูทุกคลิปเลย ไม่ว่าอะไรกูสักคำ

 

นัทไม่เพียงพูดเปล่ายังเปิดโทรศัพท์ที่มีคลิปบนเตียงของทั้งคู่ในนาราดูด้วย จากที่โกรธอยู่แล้ว คราวนี้หนักอึ้งสติหลุด นาราคว้ามือถือมาดูเต็มตา เธอร้องกรี๊ดระบายสิ่งที่คิดในใจเป็นเสียงหวีด ตรงไปทุบตีไอ้ผัวนรกส่งมากเกิด

มึงทำอย่างงี้ทำไมห้ะ!”

สองแขนบางทุบรัว ปากก็ด่า ดวงตาก็ร้องไห้ไปด้วย แรกๆ นัทเพียงปัดป้อง ยอมให้นาราทำร้ายจนถูกด่าว่า หน้าตัวเมีย แค่นั้นแหล่ะ สติสุดท้ายก็ขาดพรึงพลั้งมือผลักนาราเต็มแรง แล้วปรี่ไปคร่อมทับฝ่ามือหนาฟาดลงแก้มซ้ายขวาอย่างโกรธเคือง

 

โอ๊ย! ..’

นาราได้แต่ร้องโอดโอ๊ย เธอถูกทำร้ายจนเย็นชาไปทั้งตัว พยายามขยับหนีแต่เหมือนของเหลวบางอย่างไหลออกมาทำให้เธอไม่กล้าลุกขึ้น

นัท! นัทหยุดก่อน ดูนี่

นาราเรียกชื่อผัวซ้ำ ใช้สองแขนปัดป้องไม่ให้เขาทำร้ายเธอได้ พอตบตีจนเหนื่อยนัทก็อ่อนแรงลง ยอมมองคนเบื้องล่างชัดๆ เห็นเลือดสีแดงฉานไหลนองเต็มพื้นก็กลัวลนลาน

เฮ้ย! พี่

นัทเองก็ตกใจไม่ต่างกัน นาราร้องไห้ละล้ำละลักร้องขอให้นัทพยุงขึ้นก่อน ส่วนนัทเริ่มได้สติรีบประคองเมียขึ้นรถแล้วขับไปโรงพยาบาล

 

การรักษาผ่านไปด้วยดี คุณหมอช่วยลูกของนาราได้สำเร็จ นัทที่น่าจะรู้สึกผิดอยู่เฝ้าตลอดเวลา กลายเป็นนาราที่เฉยเมย สีหน้าไม่ยินดียินร้าย นัทไม่คุ้นเคยเลยคาดเดาไม่ได้ ทั้งสองเลี่ยงพูดถึงเรื่องที่ทะเลาะกันแล้วหันมาสนใจลูกน้อยในอ้อมกอดแทน

 

กริ๊งงง... เสียงโทรทัศน์ดังแต่เช้า นารารีบรับเพราะกลัวเสียงนั้นจะไปรบกวนการนอนของยัยหนูน้อย

ค่ะ ลุงผู้ใหญ่มีอะไรคะ

คืองี้นะนารา มีคนสนใจที่ดินบ้านพ่อแม่หนู เขาขอให้ลุงติดต่อให้ ลุงก็เลยจะถามหนูว่าสนใจขายไหม

ยังหรอกจ๊ะ

เอางั้นหรอลูก เขาให้ราคาดีนะ เองอยู่กรุงเทพได้ผัวดี ก็สุขสบายดีแล้วไม่ใช่หรือไง

อะไรก็ไม่แน่หรอกลุง เผื่อหนูสู้ในกรุงเทพไม่ไหว ได้ย้ายกลับไปอยู่นั่น

ตามใจเอ็ง ถ้าเปลี่ยนใจโทรหาลุงได้ตลอดนะ

นาราปฏิเสธแทบจะทันที เธอไม่คิดขายสมบัติชิ้นเดียวที่มีอยู่ พอมีลูกจะทำอะไรก็ต้องคิดถึงลูกก่อนเสมอ นาราไม่อยากให้ลูกลำบากเหมือนตัวเองจึงอยากรักษาไว้  คิดแล้วถ้าขายไปจริงๆ เงินมากมายเท่าไร มีผัวขี้เหล้าเมายาเดี๋ยวเดียวก็หมด

 

คุณหมออนุญาตให้กลับบ้าน โดยนัดมาตรวจพัฒนาการลูกทุกเดือน ช่วงเดือนแรกนัทยังเห่อลูกก็ประคบประหงมตามดูแลไม่ห่าง แต่ทำได้ไม่นานก็กลับไปเมาหัวราน้ำเหมือนเดิม หนักเข้าตอนนี้เริ่มคบซ้อน  ได้รุ่นน้องที่แผนกเดียวกับนาราเป็นกิ๊กอีก

ในขณะที่คนเป็นแม่เลี้ยงลูกอย่างใกล้ชิดทุกวัน เริ่มสังเกตเห็นความผิดปกติ  นาราพยายามเชื่อตามหมอว่าเด็กกำลังสร้างพัฒนาการ บางคนเติบโตเร็วบางคนเติบโตช้าไม่เหมือน แถมลูกเธอคลอดก่อนกำหนดพัฒนาการก็อาจจะช้ากว่าปกติ ผ่านมาหลายเดือนแล้ว ลูกของเธอก็ยังไม่ได้ยินเสียงใดๆ เลย

 

 

จากที่คิดจะรักษาที่ดินผืนสุดท้ายไว้ พอหมอยืนยันว่าลูกน้อยมีอาการหูหนวกก็เปลี่ยนใจ นาราไม่สนใจทรัพย์สมบัติแล้วเธอต้องการเพียงเงินมารักษาลูก เมื่อคิดทบทวนอย่างมีสติขืนยังอยู่กับนัทเธออาจไม่เหลือเงินรักษาลูกก็ได้

...สุดท้ายนาราก็ตัดสินใจหนีออกมา

 

เงินจากการขายที่ดินถูกใช้เริ่มต้นชีวิตใหม่ นาราแบ่งเงินจำนวนหนึ่งมาเช่าล็อกในตลาดเปิดร้านน้ำ  เงินส่วนที่สองถูกแบ่งไว้เป็นค่าหมอ ค่ายาที่ต้องใช้รักษาลูก และเงินส่วนสุดท้ายเป็นเงินเก็บที่ตั้งใจไว้ให้ลูกได้เรียนหนังสือ

นาราพาลูกตระเวนเข้าออกโรงพยาบาลนั้นที โรงพยาบาลนี้ที  หลายครั้งที่คำตอบทำเธอผิดหวัง เงินทองร่อยหรอลงไปมากแถมเศรษฐกิจก็เป็นแบบนี้ ชีวิตสิ้นหวังลงทุกทีจนวันหนึ่งโชคชะตาก็เข้าข้างให้ได้พบข่าวดีบ้าง

คนเป็นแม่ทำได้ทุกอย่างเพื่อลูก และนี่อาจเป็นจุดเริ่มต้นของความสุขอันเป็นนิรันดร์แล้วก็ได้

 

 

[Chapter1]

Nara’s Part

 

เสียงนาฬิกาปลุกห้องข้างๆ ดังเป็นรอบที่สองแล้ว แต่เจ้าของห้องยังไม่มีทีท่าจะปิด ในขณะที่คนหูดีอย่างฉันลุกขึ้นมาล้างหน้าล้างตาเตรียมของไปร้าน

ชุมชนเมืองที่มีแต่เสียงปลุกปลอมๆ ไม่มีเสียงธรรมชาติ หริ่งเรไรไก่ขันเหมือนบ้านนอก ทำให้สังคมนี้ดูแข่งขันกันตลอดเวลา

พี่สาวห้องข้างๆ เนี่ยแกชื่อพี่ดวงใจ ทำงานเป็นแม่บ้านธนาคารโดนผัวทิ้งเหมือนกันเลยเข้าอกเข้าใจกันดี เห็นบ่นแว่วๆ ว่าจะถูกพักงานไม่กี่วันนี้แล้ว เพราะโรคโคขวิดที่เป็นอยู่ทำเจ๊งทั้งระบบ เฮ้อ! ฉันก็ได้แต่รับฟัง เพราะลำพังเป็นแม่ค้าหาเช้ากินค่ำยังเอาตัวไม่รอดเลย

 

อ้าวนารา! ตื่นเช้าจังนะทุกเช้ามืดเราจะเจอกันตรงระเบียงหลังห้อง พี่ดวงใจจะเตรียมข้าวไปกินที่ทำงานทุกวัน ส่วนฉันก็ออกไปต้มน้ำเตรียมข้าวเช้าเพื่อไปเปิดร้าน

หมดแล้วหรอเคาะกระป่องนมผงก๊องๆ พยายามใช้ช้อนตวงตักนมกระป๋องให้ได้มากที่สุด แต่เหมือนว่าถ้าเอาน้ำร้อนใส่กระป๋องแล้วเขย่าๆ ยังได้ออกมาไม่ต่างจากน้ำเปล่าเลย

แล้ววันนี้ยัยหนูจะกินอะไร

ฉันพูดพร้อมถอนหายใจ พี่ดวงใจเห็นก็เดินเข้าห้องไปแล้วกลับมาพร้อมแบงค์ร้อยสองใบยื่นให้

อ่ะ เอาไปซื้อนมให้ลูกก่อนพี่ดวงใจยิ้มอ่อน ฉันรีบส่ายหน้าไม่กล้ารับเงินนั้นทันที

ไม่ต้องเกรงใจ พี่ไม่ได้ช่วยเธอหรอก พี่สงสารหลาน

หนูขอบคุณมากนะพี่ ไว้วันนี้ขายของได้จะรีบคืน

ไม่ต้องรีบก็ได้ พี่ยังพอมี

 

ใบหน้าละมุนยิ้มอ่อนเหมือนทุกครั้ง ฉันนึกขอบคุณตัวเองมากที่เลือกออกมาใช้ชีวิตเองแบบนี้ ขอบคุณความพยายามของตัวเองที่รักษาลูกจนหายดี แม้ว่าต้องทนอดมื้อกินมื้อแต่ก็มีความสุข

หลังจากผ่านเรื่องร้ายๆ มา ชีวิตฉันเหมือนเดินอยู่เส้นขนาน ถ้าพี่ดวงใจเป็นเหมือนด้านสว่าง อิเจ๊เปรี้ยวนี่แหล่ะก็คือด้านมืด

ว่าไงนารา เสนอหน้ามาเปิดร้านแต่เช้า ทำไมมึงไม่นัดลูกค้ามาด้วยวะ นั่งเฝ้าร้านจนรากงอกแล้วมึง

เสียงแหวดสูงมาพร้อมของกินเต็มมืออย่างทุกวัน แม้จะปากร้ายแต่เจ๊เปรี้ยวเป็นคนใจดีมาก นอกจากจะมาเป็นลูกค้าสั่งกาแฟเลี้ยงวินมอเตอร์ไซค์หนุ่มๆ แล้ว ยังมาช่วยเลี้ยงยัยหนูด้วย

โห่เจ๊! สั่งลูกค้าได้ก็ดีซิฉันตอบ

อ๊ะอีนี่! ความสวยความสาวมีก็ใช้ให้เกิดประโยชน์ซิวะ กูบอกให้มึงแต่งตัวเลิศๆ ชงกาแฟก็หัดก้มๆ เงยๆ ส่ายนมเยอะๆ เดี๋ยวคนก็ติดเองแหล่ะ นี่ดูซิ! แต่งตัวมิดชิดปิดตั้งแต่ลูกกระเดือกยันเล็บตีน  มันเจริญตาตรงไหนวะ กูถามจริงเหอะ!”

นั่นไง! คุยกันทีไรอีเจ๊นี่ก็คิดแผนอ่อยให้ทุกที บอกตรงๆ ฉันโคตรเข็ด ไม่อยากเอาตัวเองไปยุ่งกับผู้ชายให้ปวดหัว  

อ่ะ! เงียบเลยอีดอก ด่ากูในใจอยู่ล่ะซิมึงเจ๊เปรี้ยวเห็นเงียบไปนานก็พูดขัด

นกรู้นะเจ๊ แล้ววันนี้จะกินอะไร เดี๋ยวหนูชงให้

ฉันรีบพูดประจบเอาใจ เจ๊เปรี้ยวแกเปรี้ยวสมชื่อ ลุคผู้ดีขาว หมวย สวย อวบ แต่งตัวดีเสื้อผ้าแบรนด์เนมตั้งแต่หัวจรดเท้า วันๆ เดินตามจิกลูกแชร์รอบตลาด ต้นเดือนกลางเดือนรับจดหวยบ้างแล้วแต่อารมณ์

ฉันเคยสงสัยว่าจริงๆ แกทำงานอะไรกันแน่ เพราะดูจากรายรับหักรายจ่ายนี่ติดลบมากโขอยู่ แต่อิเจ๊เปรี้ยวก็ยังเลิศๆ เชิดๆ โนสนโนแคร์ใช้ชีวิตมีความสุขไปวันๆ จนวันหนึ่งเจ๊แกมีรอยช้ำตามหน้าตามตัว ฉันคาดครั้นถามก็เลยรู้ว่าแกขายตัว

ถึงเป็นกระหรี่ ก็โหมดกระหรี่นางงามนะคะ  เจ๊เปรี้ยวแกรักเด็กมาก เวลายู่กับยัยหนูแกจะใช้เสียงสี่เสียงแปพูดจาไพเราะไม่มีคำหยาบสักนิด

 

นี่นาราแล้วหมอนัดอีกเมื่อไร

มะรืนนี้ค่ะ

หรอ แล้วมีเงินไปหาหมอยัง

ยังเลยค่ะ เดี๋ยวหนูรวมตังค์ขายของวันนี้กับพรุ่งนี้ก็น่าจะได้

หืมม... อย่ามามโน แกก็รู้อยู่ว่าลูกค้าเงียบขนาดไหน ขายของแก้วละสามสิบสี่สิบ ค่าห้อง ค่าเช่าที่ก็หมดแล้ว ไม่เหลือไปจ่ายค่าหมอทุกอาทิตย์หรอก

ก็สู้ๆ กันไปเจ๊

อย่ามา! นี่มันชีวิตจริง ไอ้เราจะอดยังไงก็ได้ แต่ลูกเนี่ยปล่อยมันอดไม่ได้นะ เด็กกำลังโตต้องหาให้เขากินอย่าให้ขาด

ที่เจ๊เปรี้ยวพูดก็จริง สถานการณ์ตอนนี้ใครชนะหรือแพ้ฉันไม่รู้นะ  แต่แม่ค้าหาเช้ากินค่ำอย่างฉันกำลังจะตาย ถ้าไม่มีค่าหมอค่ายาก็พอไหว แต่นี่ทั้งนมลูก ค่ายา ค่าเดินทางไปโรงพยาบาลมันเยอะจนอดท้อไม่ได้



ติดตามต่อในรูปแบบอีบุ๊กที่นี่ 

หัวใจเมียน้อย


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น