Love Top Book

วันอาทิตย์ที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562

ป่วนหัวใจ ยัยซื่อบื้อ



ป่วนหัวใจ ยัยซื่อบื้อ






บอกเล่าเก้าสิบ
                สิ่งที่มองไม่เห็น ใช่ว่าไม่มีอยู่จริงวีนัสเริ่มแต่งนิยายเรื่องนี้มาจากประโยคนี้ค่ะ ทุกความสัมพันธ์ย่อมมีทั้งการเปิดเผยและปิดปัง มิตรภาพและการซ่อนเร้น ตราบใดที่เรายังยึดติดกับสิ่งที่ไม่มีตัวตนอย่างความรัก เราก็ควรพร้อมที่จะยอมรับการเปลี่ยนแปลง
                ขอฝากแง่คิดและมุมมองของ #กั๋มแอ้ม ในชีวิตจริงทุกอย่างอาจไม่สวยหรูเหมือนในนิยาย แต่เชื่อเถอะว่าคุณเองก็มีสิทธินั้นเหมือนกัน
                โปรดใช้วิจารณญาณในการเสพ แนวชาย-หญิงเรื่องที่สองของวีนัส ติดขัดควรปรับปรุงตรงไหนบอกกันได้นะคะ ยินดีรับทุกคำติ-ชมค่ะ



                                                                                                             Venus909





แนะนำตัวละคร




กั๋ม / ณัฐ เศรษฐาณุสรณ์ 
                ผมใช้ชีวิตเหมือนวัยรุ่นปกติทั่วไป กินเที่ยวเตร่เฮฮา  เปลี่ยนคู่นอนเป็นเรื่องปกติของเด็กอินเตอร์แต่ผมพอได้รักใครจริงๆ สักคน ทุกอย่างกลับไม่เป็นเหมือนที่คิดไว้ คนเหมือนกันมาก นิสัยก็คล้ายกันมากๆ เราเลยอยู่ด้วยกันไม่ได้ แถมเหตุผลที่เลิกกันเพราะเธอท้อง และที่สำคัญคือผมเป็นหมันนะซิ
แล้วตกลงเธอท้องกับใคร..?

                ผมกลับมาเริ่มต้นชีวิตให้ในกรุงเทพมหานครเมืองตึกสูงระฟ้า ครอบครัวผมทำธุรกิจเกี่ยวกับหมู่บ้านจัดสรร ผมจึงได้สิทธิพิเศษอยู่ฟรีไม่มีข้อผูกมัดใดๆ อาคารทรงสูงมีเพียงสามชั้นแห่งนี้ก็คือ...บ้านที่จะเปลี่ยนผมไปอีกหลายๆ รอบ


=========





แอ้ม ลลนา

                ชีวิตหลังจากจบมัธยมปลาย เด็กบ้านนอกไม่เคยคิดเข้ากรุงมาก่อนแต่เพื่อโอกาสทางการศึกษาก็จำเป็นต้องมา มหาวิทยาลัยเปิดคงเหมาะกับฐานะการเงินฉันที่สุด แม้ว่าจะเหนื่อยทั้งทำงานพิเศษ ทั้งเรียนหนังสือแต่ฉันก็ไม่เคยบ่น ส่วนหนึ่งก็มาจากเพื่อนรักคนนี้ แม้ว่าเธอจะเอาเปรียบฉันหลายๆ อย่างแต่เธอก็ยังมีน้ำใจให้ยืมเงินใช้ตลอดนะซิ

                พอเพื่อนมีแฟนเป้าหมายในการเรียนของนางก็ลดลง ฉันยิ่งเหมือนอยู่ตัวคนเดียวเข้าไปอีก เวลามีปัญหาไม่รู้จะปรึกษาใครเลยหรือควรจะทำตามที่เธอแนะนำว่า...ให้หาแฟนสักคน มีแฟนก็เหมือนมีเพื่อน







INTRO


                ผมไม่คิดว่าจะมีวันนี้ วันที่ผมเรียกร้องอยากกลับมาอยู่เมืองไทย นิสัยเด็กติดเที่ยวอย่างผม อยากรู้อยากลองแถมสาวฝรั่งผมทองตาน้ำข้าวก็สวยบาดใจด้วย ให้ผมเบิร์นซ้ำๆ ก็ยังไหว ยิ่งกินยิ่งอร่อยยิ่งไม่รู้จักพอ ผมรู้ข้อแตกต่างแล้วว่าทำไมคนเชื้อชาติศาสนาเดียวกันถึงเหมาะสมกัน เพราะเราคุยกันเข้าใจมากกว่า เหมือนผมกับเพื่อนใหม่ที่กำลังโยกตัวอยู่บนร่างผมนี่ไง แค่ชนแก้วกันเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อน เธอก็ยอมขึ้นรถมากับผมแล้ว
                ร่างขาวหมวยหน้าใสอินโนเซ้น ความบริสุทธิ์แสนดีที่ฉาบไว้ทั่วทั้งตัว ถูกผมลอกคราบเลาะเสื้อผ้าออกครบทุกชิ้น ริมฝีปากที่เคยถามคำตอบคำพยายามจู่โจมเข้าบดจูบหลายครั้งแต่ผมก็แสร้งหันหนี เรามีเซ็กกันได้ครับ...แต่ไม่ได้หมายความว่าผมอยากจูบเธอ เพราะถ้าไม่ใช่คนที่รู้สึกดีด้วยจริงๆ ผมจะไม่ทำอย่างนั้นเลย เสียงกระเส่าตัดกับเสียงเนื้อกระแทกกันดังต่อเนื่อง เธอใช้สายตาอ่านกินร่างผม ส่วนนั้นของเธอยังกลืนกินลูกชายจนแทบหายใจไม่ออก
                "อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ อร้ายย.."
                เสียงแผดคีย์สูงเร้าร้อนตามจังหวะที่ผมแทงสวน งัดแท่งแข็งใส่เธอรัวปิดเกมส์รักยาวนานรวมหนึ่งชั่วโมง ผมชอบความร้อนแรงแบบนี้ไม่ต้องมีพิธีรีตองมาก ถูกใจก็ไปต่อไม่ถูกใจก็จบกัน ส่วนมากผมจะจบซะมากกว่าเพราะแค่ชอบผมไม่ได้รัก เข้าใจไว้เถอะผู้ชายที่มองหาแฟนดีๆ สักคนเค้าไม่เลือกคนที่ความง่ายแน่นอน
                "ขอไลน์ได้ไหม เผื่อวันหลังได้เจอกันอีก"
                หญิงสาวนุ่งผ้าเช็ดตัวผืนสั้นเข้ามาคลอเคลียผมอีกรอบ เอ่ยปากขอช่องทางติดต่อที่ผมมักจะไม่ให้ใครง่ายๆ ผมยิ้มตอบแล้วหันกับไปพ้นควันบุหรี่ออกจากปากตามเดิม เธอจับมือข้างที่คีบก้นบุหรี่ของผมไปสูบต่อหน้าตาเฉย สายตาเจ้าเล่ห์พ้นควันใส่หน้าผมแทนคำพูด
                "จูบทางอ้อมก็ได้ ใจแข็งจริงๆ เลย" เห็นไหมครับที่ผมเคยบอกว่าเราเข้าใจกันง่ายกว่า ขนาดคนเพิ่งรู้จักกันมองตากันนิดเดียวยังเข้าใจกันเลย โดยที่ผมไม่ต้องปฏิเสธมันด้วยซ้ำ
                "ใกล้ครบชั่วโมงแล้ว กลับเลยไหม" ห้องชั่วคราวที่เปิดไว้ใกล้หมดชั่วโมงแล้ว หรือจริงแล้วผมหมดสนุกกับเธอมากกว่า
                "อ้าว!! ก็นึกว่าจะค้างคืน" เสียงเง้างอนที่ยังเพลียจากกิจกรรมเมื่อกี้ทำเอาผมแทบขำ เธอคงเสียความรู้สึกที่หลงมากับผู้ชายที่รูปหล่อแต่นิสัยเอาแต่ใจแบบผม รอยยิ้มยั่วพยายามเข้าเล้าโลมอีกครั้ง แต่ผมเลือกจะปัดมือเธอออก ทิ้งก้นบุหรี่ลงถังแล้วเดินมาแต่งตัวกลับบ้านทันที

                "เราทำอะไรไม่ถูกใจหรือเปล่า ไม่เคยมีใครปฏิเสธเราเหมือนกั๋มเลยนะ
                เสียงหวานหูเรียกร้องความสงสารเห็นใจแต่ใช้กับผมไม่ได้หรอก เพราะผมก็บอกแล้วว่าผมไม่ได้รักเธอ หรือความจริงแล้วผมอาจไม่มีหัวใจรักใครอีก จบที่เตียงเสร็จก็แยกทางกันก็แค่นั้น
                "เราแค่สนุกกันไม่ใช่หรอ อย่าทำงี้ดิ" ผมตอบกลับเสียงเรียบเฉย อีกฝ่ายจ้องหน้านิ่งแสดงอาการเสียใจออกมาทางแววตา แล้วจึงยอมใส่เสื้อผ้ากลับ
                รถญี่ปุ่นคันเก่าที่ผมขุดจากโรงรถมาใช้พาเธอไปส่งป้ายรถเมล์กลางเมือง เวลานี้ตีสามกว่าแล้วในใจก็แอบห่วงจึงอยู่รอเป็นเพื่อนรอส่งเธอขึ้นแท็กซี่ แถวสวนลุมมีแต่ตึกสูงถนนสะอาดสะอานมีแสงไฟหลายสีจากป้ายโฆษณาเก๋ๆ น่าเดินเล่นถ่ายรูปมาก พูดถึงก็เห็นผู้หญิงอีกคนเดินมาแต่ไกล
                เธอทิ้งร่างเหนื่อยเพลีย หน้าตาอมทุกข์เหมือนมีอะไรในใจสักอย่าง ผมสำรวจท่าทีเธอสรุปคราวๆ ได้ว่าเธอเพิ่งทำงานเสร็จแน่ๆ เวลานี้ สถานที่นี้ คงไม่พ้นงานขึ้นห้อง ผมจอดรถอยู่ไม่ไกลนัก สามารถมองเห็นเธอได้ชัดเจนเลย ตากลมปรือเหมือนคนง่วงนอนมาก แท็กซี่ขับโฉบมาบีบแตรเรียกหลายต่อหลายคันเธอก็ส่ายหน้าปฏิเสธ แสดงว่าเธอตั้งใจรอรถเมล์จริงๆ แหม่!!อาชีพนี้เงินดีจะตายไป เจียดเงินขึ้นแท็กซี่เหอะ จะได้ไม่ต้องนั่งเป็นเหยื่อสายตาพวกแท็กซี่หื่น หรือเธอตั้งใจหาลูกค้าอีกสักรายก่อนกลับ
                "จะไปไหนหรอ ให้เราไปส่งไหม" ผมลงจากรถไปเอ่ยปากถาม ส่งยิ้มมีเลศนัยเชื้อเชิญเธอเหมือนนักเที่ยวทั่วไป เธอยิ้มตอบทำหน้านิ่งเรียบเอาแต่ส่ายหน้าไม่ยอมพูดออกมา

"นั่งคนเดียวอันตรายนะ ไปด้วยกันดีกว่าบ้านอยู่ไหนเดี๋ยวไปส่ง" ผมยังย้ำความปรารถนาดีอีกครั้ง แววตาเธอแสดงท่าทีรังเกียจอย่างชัดเจน ไม่ปริปากพูดสักคำแต่มองเหยียดเหมือนผมเป็นไอ้ตัวน่ารังเกียจ

"นายไปส่งไม่ไหวหรอก บ้านเราอยู่บางนา" คำตอบเธอทำเอาผมหน้าเจื่อนไปเหมือนกันมันไกลมากจริงๆ ให้ขับรถไปส่งเธอผมต้องแย่แน่ บ้านตัวเองอยู่โซนราม1 จะให้ขับรถไปส่งเธอที่ราม2 คงไม่ไหวมั่ง

 "งั้นก็ไปหาที่นั่งปลอดภัยกว่านี้เหอะ อยู่ตรงนี้มันอันตราย" ผมตอบกลับเสียงเรียบ ไม่อยากใส่ใจนักหรอกแต่ก็อดห่วงไม่ได้ ผู้หญิงตัวเล็กๆ จะปล่อยให้มานั่งรออยู่ได้ไง
                เธอยอมรับความช่วยเหลือจากผม เดินหน้าหวาดกลัวเข้ามานั่งในรถโทรมๆ อย่างไม่รังเกียจ ผมเองก็ไม่รู้จะพาเธอไปไหนจึงขับไปทางเดิมที่มา อย่าเพิ่งเข้าใจผิดนะ ไม่ใช่โรงแรมแต่เป็นทางกลับบ้านตังหาก









EP.1
First time with you

Gum's Part
                ท้องถนนมืดสลัวขับรถกลับเส้นทางที่คุ้นเคย โซนรามคำแหงยามหลับใหลไม่ต่างจากเมืองร้าง ตลอดทางเรายังเห็นขยะกองใหญ่ วงเหล้าเมาโต้รุ่ง หนุ่มสาวเดินพลอดรักกันกลางสนาม ผมเลี้ยวรถเข้าซอยบ้านตัวเองเทียบเข้าช่องจอด หน้าคนนั่งข้างๆ เริ่มแสดงความสงสัย
"ที่ไหนหรอ" คำถามที่ผมเองก็งงว่าตัวเองพาผู้หญิงคนนี้ติดรถมาถึงที่พักได้ยังไง ทั้งที่ปกติผมไม่ยอมเปิดให้ใครเข้าใกล้ความเป็นส่วนตัวเลย
"บ้านเราเอง" ผมตอบโดยไม่ได้มองหน้า ไม่รู้ว่าเรานิ่งใส่กันนานแค่ไหน รู้แต่ว่าหลายนาทีที่ผ่านมาผมเห็นเธอบีบมือตัวเองเหมือนชั่งใจอะไรสักอย่าง
                ก๊อกๆ ก๊อกๆ เสียงเคาะกระจกทำลายความเงียบของเรา
"คุณกั๋มครับ ลุงได้ยินเพลงเปิดเสียงดังมาถึงข้างนอก ก็จำได้ว่าคุณไม่อยู่ ลุงเลยสับคัทเอาท์ไฟไว้นะครับ จะขึ้นข้างบนเลยไหมลุงจะไปยกขึ้นให้" ลุงยามเข้ามาช่วยผมทันเวลาพอดี ตอนนี้หน้าอีกคนดูสบายใจขึ้นที่รู้ว่าบนห้องมีผมอยู่แค่คนเดียว
"ขึ้นครับ ขอบคุณนะครับลุง" ผมตอบยิ้มๆ
เรานั่งเงียบตลอดทางแต่พอมีบุคคลที่สามแทรกเข้ามา เธอก็เริ่มชวนผมคุยเปิดประเด็นถามชื่อแนะนำตัวกันเสร็จ ผมถึงได้รู้ว่าที่เธอไปอยู่ตรงนั้นเพราะเธอทำงานพิเศษเป็นตัวประกอบฉากในหนังละครที่เราดูกันนี่แหละ รถกองปล่อยลงตรงไหนก็ต้องลงเรื่องมากไม่ได้เพราะต้องร่วมงานกับคนหมู่มาก เธอใช้ชีวิตเสี่ยงแบบนี้เป็นประจำถึงกล้าขึ้นรถมากับผม เพราะอย่างน้อยผมก็ยังหน้ากลัวน้อยกว่าพี่แท็กซี่กลัดมันพวกนั้น
"เลิกกองดึกแบบนี้ทุกวันหรอ" ผมเริ่มไม่เกร็งที่จะคุยกับแอ้มแล้ว
"วันนี้ไปต่างจังหวัดนะ แต่ก็คุ้มนะได้ตั้งสองคิว ถ้าเรานั่งแท็กซี่กลับบ้านต้องไม่เหลืออะไรแน่เลย ขอรบกวนหน่อยนะ" คำพูดประโยคเดียวที่เจือป่นไว้ด้วยความเหนื่อย ความเศร้าและความร่าเริงทำเอาผมยิ้มตาม เธอก้าวเข้าห้องผมอย่างระมัดระวัง
"รกหน่อยนะ ทำไงได้ผมอยู่คนเดียว" ผมรีบชิงพูดก่อน เห็นหน้าเธอเจื่อนลงเล็กน้อยแต่ยังยิ้มแสดงความจริงใจ
"ไม่เป็นไรเดี๋ยวเราทำความสะอาดให้ ถือว่าตอบแทนที่กั๋มช่วยเราแล้วกัน" เธอเริ่มหยิบเสื้อผ้าที่กองอยู่ใส่ตะกร้า
"ได้!! แต่ทำพรุ่งนี้เหอะคืนนี้ง่วงแล้ว" ผมรีบเสนอ แอ้มเองก็ง่วงจนตาจะปิด
"ตามสบายนะ อยากอาบน้ำผ้าเช็ดตัวอยู่ตู้ในห้องน้ำหยิบเอาเลย" ผมรีบไล่เธอไปอาบน้ำ เพราะนึกได้ว่าอาโออิกับมิยาบิที่เพิ่งซื้อมาใหม่กองหราอยู่หน้าทีวี แถมในถังขยะยังเต็มไปด้วยทิชชูกับก้นบุหรี่อีกด้วย แอ้มทำตามอย่างว่าง่ายเข้าไปล้างตัวล้างหน้าอาบน้ำ เสียงฮัมเพลงเล่นน้ำอย่างสบายอารมณ์ ทำให้ผมรู้สึกแปลก
คิดอะไรวะกู ไม่รู้จักกันสักหน่อย พามาห้องทำไมคำถามที่ผมเองก็ไม่มีคำตอบ
ประตูห้องน้ำเปิดพร้อมกับความสดใส หน้าใสเนียนไร้เครื่องสำอาง กางเกงขาสั้นกับเสื้อยืดตัวใหญ่เปลี่ยนเธอไปเป็นอีกคน ความรู้สึกผมตื่นตัวตามกลิ่นคุ้นเคยจากที่หอมอยู่แล้ววันนี้กลับหอมกว่าทุกวัน
"นอนบนเตียงก็ได้นะ เดี๋ยวเรานอนเล่นเกมส์ที่โซฟาเอง" ผมพูดให้เธอสบายใจไปอย่างนั้น แล้วก็หายไปล้างความสกปรกในห้องน้ำ ออกมาเห็นเธอนอนตามที่บอกจริงๆ แต่มีหรอที่ผมจะยอมนอนโซฟาแคบในเมื่อผมเป็นเจ้าของห้อง เตียงคิงไซส์องรับเราสองคนได้สบายอยู่แล้ว ผมดึงผ้าห่มปิดให้เธอแล้วก็หลับตานอนนิ่ง แอ้มงัวเงียพลิกตัวเอาหน้ามาซุกอยู่กับแขนผม สัมผัสแผ่วเบาแค่ผิวเนื้อแตะกัน กำลังส่งผ่านความอบอุ่นเข้ามาในหัวใจ แต่อุ่นร้อนเลยครับ...มันนอนไม่หลับนะซิ

"Morning" ผมเอ่ยทักคนที่กำลังปรือตาทำหน้างงๆ ผมสีน้ำตาลอ่อนขึ้นลอนคล้ายตัวทิ้งน้ำหนักพลิ้วสลวยเล่นแสงอาทิตย์ยามส่าย หน้างัวเงียมองผมแล้วยิ้มจาง
"กี่โมงแล้วเนี่ย" เธอรีบถามถึงเวลาทันที พอผมบอกว่าเกือบสิบโมงเช้าแล้ว ท่าทีร้อนรนฝุดขึ้นจนผิดสังเกต
"ตายละ หายไปทั้งคืนปานนี้เนยเป็นห่วงแย่แล้ว" เธอพร่ำกับตัวเองแล้วรีบคว้ากระเป๋าเอามือถือมาเปิดดู จังหวะนั้นหน้าเธอเป็นจากร้อนรอนเป็นนิ่งสลด สงสัยว่าทุกอย่างไม่เป็นอย่างที่เธอคิดไว้ เธอชั่งใจนิดหนึ่งก่อนจะกดโทรออกซะเอง
"ฮัลโหลเนย!! เมื่อคืนเลิกกองดึก ไม่ได้โทรบอกขอโทษทีนะ"
"อ้าวหรอ แล้วเราเข้าไปเลยได้ไหม"
"งั้นบ่ายๆ ค่อยเข้าไปก็ได้"
"จ๊ะเอาไรไหมเดี๋ยวซื้อเข้าไป" เสียงแผ่วแสดงความห่วงใยปลายสาย ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายพูดว่าอะไรแต่แอ้มดูแย่ลงทันที
"ดูทำหน้าซิ เป็นอะไรแต่เช้าเนี่ย" ผมถามด้วยเสียงหยอกล้อ ไม่อยากแสดงความอยากรู้ แต่จริงๆ ก็อยากรู้นั่นแหละ
"เพื่อนเรานะซิ เอาแฟนมานอนห้อง" หน้าคนเพิ่งตื่นนอนขมวดคิ้วไม่พอใจ ที่เพื่อนรักเล่นไม่บอกให้แฟนกลับไปสักที เธอก็เข้าไปห้องไม่ได้ สำหรับผมมองว่าเรื่องแบบนี้ธรรมดาจะตายไป แต่สำหรับคนไม่มีที่ไปคงคิดหนัก
"งั้นก็เก็บห้องฆ่าเวลาไปก่อนก็ได้ กว่าจะเสร็จแฟนเค้าคงกลับแล้วมั่ง" ผมยังจำได้ว่าเธออาสาจะตอบแทนผม รอยยิ้มกว้างแสดงความดีใจที่เจอทางออก ทำเอาผมรู้สึกว่าเธอนี่เด็กจริงๆ ถูกใจชอบใจหรือไม่พอใจอะไรก็แสดงออกมาหมด ไม่มีการเสแสร้งเก็บอาการเลย
สองมือรวบผมขึ้นสูงเปิดซอกคอเนียนกระตุ้นความรู้สึกผู้ชายดีจัง ไร้ผมอ่อนๆ บวกกับความขาวเนียนทำให้ผมคิดลึก ปกติผู้ชายเราชอบมองอะไรวับๆ แวมๆ เหมือนจะเปิดแต่ก็ยังปิด อะไรที่จินตนาการตามได้มันเร้าใจจริงครับ
เสื้อยืดตัวใหญ่กับกางเกงขาสั้นเต่อโชว์เรียวขาตัน เธอไม่ได้ผอมเพรียวหุ่นนางแบบออกจะธรรมดาซะด้วยซ้ำ ร่างอวบตันเอวคอดก้นกลมหน้าอกใหญ่ ส่วนสูงประมาณ160 ผิวสีน้ำผึ้งใสเวลาขยับตัวแล้วมีเสน่ห์ชวนมองมาก ยิ่งตัดกับแสงแดดยามสาย ลมพัดเอื่อยของชั้นสามยิ่งน่ามองขึ้นไปอีก
                "ไม่เสร็จไม่ต้องกินข้าวนะ" ผมแกล้งหยอก เห็นหน้าตาจริงจังของเธอแล้วก็ตลกดี เป็นผู้หญิงแท้ๆ แต่งานบ้านเธอคงทำไม่เป็นเลย ถามว่ารู้ได้ไงนะหรอก็ขนาดจับไม่กวาดเธอยังกวาดไม่เป็นเลย ผมเห็นเธอรวบเสื้อผ้าไปหย่อนใส่เครื่อง แล้วหัวหมุนอยู่กับมุมซีดี พลิกดูไปก็ร้องตามไปเดาว่าวันนี้เธอต้องเก็บไม่เสร็จแน่ เพราะเพลงผมมีเยอะมาก ไม่ว่าจะเพลงไทยเพลงสากลเธอร้องออกมาได้หมดสงสัยจะคอเดียวกัน
"เปิดไหม ได้ไม่เจ็บคอ" แอ้มคลี่ยิ้มดีใจวิ่งมาหาผมพร้อมกับแผ่นที่เธอชอบ ตอนนี้เสียงเพลงเปิดคลอพร้อมนักร้องมือสมัครเล่น ใช้ไม้กวาดแทนไมโครโฟนจงใจร้องเสียงหลงตาม ผมมองภาพตรงหน้าเหมือนความฝันไม่คิดเลยว่าเธอคนนี้ ที่เพิ่งจะรู้จักกันไม่ถึง 24 ชั่วโมง
แอ้มยังตั้งใจปัดกวาดเช็ดถู ทำไปก็บ่นเมื่อยบ่นเจ็บมือตามประสาแต่เธอก็ตั้งใจทำ แม้ว่าเธอจะรีดเสื้อผมไหม้ไปตัวหนึ่ง ก็ผมบอกแล้วว่าเธอเป็นผู้หญิงซะเปล่าแต่ทำอะไรไม่เป็นเลย
ผมอยู่เมืองนอกมาก่อนเรื่องการดูแลตัวเอง จัดการทำความสะอาดห้องตัวเองผมทำจนมันเป็นนิสัย ทำไมจะดูไม่ออกว่าทำเป็นจริงไหม ผมนิ่งเงียบดูความพยายามของแอ้ม เธอมีดวงตาที่มุ่งมั่นกลมใสแสดงอาการไม่ยอมแพ้อยู่ตลอด หรือจริงๆ แล้วเธอเป็นในสิ่งที่ผมเป็นไม่ได้กันแน่



Talk’s Ahm
                รถกองใจร้ายปล่อยลงตรงนี้แล้วจะกลับบ้านยังไง เห้อ!!..มันก็กลับไม่ได้อยู่แล้วไง หออยู่ตั้งราม2 แต่ตอนนี้นั่งค้างอยู่สีลมต้องขึ้นรถเมล์กี่ต่อ ถ้าให้ขึ้นแท็กซี่ค่าตัวอันน้อยนิดของฉันต้องหมดแน่ ฉันเดินเรื่อยเปื่อยมาถึงป้ายรถเมล์ แท็กซี่หลายคันบีบแตรทัก บ้างก็ลดกระจกลงใช้สายตาโลมเลียเหมือนฉันเป็นเด็กขายบริการ หึ..หน้าอย่างงี้หรอ..ขายแล้วใครจะซื้อห๊ะ!!

ผู้ชายหน้าตาดีคนนี้เข้ามาชวนคุยด้วยความสุภาพ กลิ่นแอลกอฮอร์จางแสดงว่าเป็นนักเที่ยวกลางคืน เค้าคงอยากช่วยเหลือล่ะมั่ง เพราะถ้าสนใจคนสวยในผับมีเยอะแยะคงไม่มาสนใจคนแบบฉันหรอก ตัดสินใจขึ้นรถไปกับเค้าเส้นทางราม1 ที่คุ้นเคย ฉันนั่งเงียบมองทางหนีที่ไล่ไว้เผยเจอแจ็คพอตขับพาเข้าโรงแรม เค้าขับไปเรื่อยๆ จนถึงซอยลึกรถจอดที่หน้าคอนโดสวย            

แค่เค้าหล่อหน้าตาดี ฉันถึงกับไว้ใจยอมขึ้นไปนอนรวมเตียงเลยหรอ ไว้ใจคนง่ายไปหรือเปล่า แต่ก็นะ...ฉันมีหน้าตาเป็นอาวุธ เค้าคงไม่มีอารมณ์กับคนไม่สวยอย่างเราหรอก









EP.2
One Night Stand

Ahm's Part
กริ๊ง กริ๊งง..
                "แอ้มมีงานซีนเที่ยวผับ ไปเปล่า" เสียงเพื่อนร่วมวงการโทรหา ไอ้ซีนเที่ยวผับเนี่ยของชอบเลย ไม่เคยไม่เที่ยวผับจริงๆ สักทีแต่ถ้าถ่ายละครเข้ามาเกือบทุกผับแล้ว แถมงานของโมเดลลิ่งนี้เงินดีซะด้วยซิ ฉันไม่ลังเลที่จะตอบตกลงตอบรับงานไปก่อน เดี๋ยวค่อยมาคิดว่าจะหาเสื้อผ้าจากที่ไหนดี
"มีเพื่อนอีกไหม คนยังขาด" เสียงปลายสายยังขอให้ช่วย
"เพื่อนหรอ ใครดีนะคิดแป๊บ" ช่วงนี้งานเยอะเป็นเอ็กตร้าคิวทองกันทุกคน ไม่รู้ว่าจะมีใครว่างไหมนะ ฉันก็พยายามช่วยคิด
"เราไปด้วยได้ไหม" เสียงกั๋มกระซิบข้างหู หน้าหล่อกว่าตัวเมนขนาดเนี่ยทำไมจะไปไม่ได้ ว่าแต่...เค้าจะไหวหรอ ดูแล้วลูกคุณหนูไม่น่าเคยทำงานมาก่อน
"ได้ซิ!! ไปเปล่าล่ะเดี๋ยวเราบอกพี่เค้าให้" สรุปแล้วก็ลากเพื่อนใหม่ไปงานด้วยกัน เราออกมาหาข้าวมื้อแรกของวันนี้ แวะหาซื้อเสื้อผ้าอีกชุดเพื่อไปงานตอนเย็น จัดแจ้งสระผมซับน้ำให้ชื้นแล้วบิดเกลียวเอาไดร์เป่าจนได้ลอนสวยเซ็กซี่ใส่กับเดสสั้นรัดรูปราคาถูก กั๋มมองฉันแทบไม่ละสายตา สงสัยไม่พอใจที่ฉันวุ่นวายในห้องเค้ามั้งนะ
ขับรถเข้าซอยผับหรูอาร์ซีเอรถกองจอดเรียงรายแน่นไปหมด ช่วงเย็นก่อนร้านเปิดไม่กี่ชั่วโมง งานของเราเร่งมือทำแข่งกับเวลา กั๋มถูกคัดไปอยู่หน้าเซตใกล้ชิดกระทบไหล่ตัวเมนเลยเพราะว่าเค้าหน้าตาดีไง ในขณะที่ฉันอยู่เกือบหลังสุด กั๋มอัธยาศัยดีเข้ากับคนอื่นได้เร็ว แอบเห็นโมเดลลิ่งขอเบอร์กั๋มด้วย ฉันมองกวาดสายตาไปทั่วแต่หยุดค้างที่กั๋ม เพราะเค้าโด่ดเด่นจริงๆ นี่น่า...มองเพลินจนสายตากั๋มจ้องกลับมา นี่เราเป็นอะไร...ทำไมใจสั่น
หน้าเซตจัดแสงจัดพร็อพเหมือนในผับจริง แถมบังคับให้เรานัวเนียกอดคอกอดเอวกันเหมือนตอนเมาด้วย
"อ้าวเดี๋ยวเต้นดิบนะครับ เอามันๆ เลยนะจะได้ผ่านกลับบ้านกัน" เสียงผู้ช่วยสั่งให้เราเต้นโดยที่ไม่เปิดเพลง ใส่ฟิลลิ่งเมาให้เต็มที่ เต้นไปเต้นมากั๋มคว้าเอวไปกอดอยู่แนบอกซะงั้น เออ...นายนี่หัวไวดีนะ ในโลกของเอ็กตร้าเค้าไม่ถือสาเรื่องแบบนี้หรอก เราเข้าใจว่าทุกอย่างเป็นการแสดง ฉันวางมือไว้บนอกกั๋มเล่นตามบทที่เค้าส่งให้ สองแขนแกร่งคลอเคลียโอบหลังดึงตัวไปซบแนบอก ใกล้ชิดจนใจเต้นแรงแปลกๆ
                "คัท!!..กู๊ดเทค กลับบ้านได้" เสียงสวรรค์ของเหล่าเอ็กซ์ตร้าคือกลับบ้านได้
"แอ้มพรุ่งนี้ มีคอนตินิวซีนเดิมนะ ที่นี้เวลาเดิมโอเคไหม" พี่โมเดลลิ่งรีบเดินมาบอกฉัน ปกติวันที่สองเค้าจะคัดไว้แต่คนหน้าตาดี...ฉันไม่เคยได้ควบสองวันสักที สงสัยรอบนี้คนที่เค้าอยากได้จริงๆ น่าจะเป็นกั๋มมากกว่า ก็เห็นพี่เค้ามองตลอดเลย

กริ๊งง กริ๊งง..
"อืม!! เนยมีไร" เสียงเรียกเข้าจากเนยเตือนสติว่านัดไว้จะกลับไปบ่ายๆ นี่ก็จะทุ่มหนึ่งแล้วยังไปไม่ถึงห้องเลย
"อ้าว!! แฟนเธอยังไม่กลับหรอ" ประโยคเดิมที่เคยถามเนยไม่รู้กี่รอบ เป็นยังงี้ทุกทีซิ พาแฟนมาห้องที่ไรก็ไล่เพื่อนเราไปมาข้างนอกทุกที
..แล้วนี่จะให้ทำไง?
รถก็ยังไม่หมด ฉันก็อยากกลับไปนอนห้องตัวเองเหมือนกัน จะให้มานอนค้างห้องของคนที่เพิ่งรู้จักกันได้ยังไงเกรงใจเค้าแย่เลย
"เนย คือเรานอนหน้าทีวีก็ได้นะ ได้เปล่า...พรุ่งนี้มีงานด้วยเดี๋ยวออกแต่เช้าเลยได้ไม่รบกวนแก เราขอเข้าไปเอาเสื้อผ้าหน่อยได้ไหม" คำขอร้องของฉันทำให้เนยเงียบ ห้องเราก็หารกันทำไมต้องรู้สึกแย่ขนาดนี้วะ แค่จะกลับไปห้องตัวเอง
"แอ้ม ไปเอาแค่ของก็ได้นอนห้องกั๋มก่อน ยังไงพรุ่งนี้เราก็ต้องไปงานด้วยกัน" เสียงกั๋มพูดแทรกทำลายความเงียบระหว่างฉันกับปลายสาย ตาเห่อร้อนเหมือนจะร้องไห้เพราะไม่อยากขัดใจเพื่อนแต่ก็ไม่รู้จะทำยังไงดี เหมือนตอนนี้กั๋มคือทางออก
"ค้างอีกคืนได้หรอ เราเกรงใจ" ฉันยังแสร้งปฏิเสธ กั๋มยิ้มตอบพร้อมมุ่งหน้าไปเส้นศรีนครินทร์ทันที
"ช่วยกันดูทางนะ นี่ก็ไปไม่ถูก" ถึงกั๋มจะใจดีแต่ก็ชอบใช้เสียงนิ่งเรียบเหมือนรำคาญที่จะช่วยแต่ก็ยังช่วย ถนนมุ่งหน้าสู่ราม2 สองข้างทางยังเป็นป่าทึบ กั๋มมองทางแล้วก็บ่น
"มืดขนาดนี้ ไปกลับคนเดียวได้ไงเนี่ย" มองคนดิ้นพล่านหวาดกลัวแสดงอาการเป็นห่วงออกนอกหน้าแต่ยังแสร้งทำเป็นเสียงแข็งดุเราซะอย่างนั้น
"ถ้าเป็นห่วงมาก ขนเสื้อผ้าไปอยู่ด้วยเลยได้ไหมล่ะ" ฉันยังหยอดเพื่อให้กั๋มคลายกังวล เรามองหน้ากันนิ่งเสียงเพลงในรถเปิดคลอเป็นใจ เพลงรักกับภาษาสายตาที่เราสื่อถึงกันแสดงความห่วงใยทั้งที่เพิ่งรู้จักกันแท้ๆ แต่ฉันรับรู้ได้
"เอามาให้พอใช้นะ จะได้ไม่ต้องไปเดินซื้อ โคตรเหนื่อย" กั๋มยังเสียงแข็งเหมือนเดิม ก็แน่ล่ะ...แค่พาไปเดินซื้อของรอบเดียวยังบ่นจะแย่ ใจคอจะให้สิงร่างอยู่แต่ในห้องหรือไง



ไลน์! ไลน์!
@อรัญ
หายหัวเลยนะมึง  Read 21.49
คืนนี้ไปเปล่า  Read 21.49
Read 21.52  ไม่ไปวะ
Read 21 52  ไว้วันหลังแล้วกัน

                "โอ้ย!! เหนื่อยมากมาย" ฉันทรุดร่างลงกับโซฟาอย่างเหนื่อยเพลียทั้งที่มันเป็นปัญหาของตัวเองล้วนๆ กั๋มยังยิ้มให้ลงนั่งข้างๆ ฝ่ามือหนามือโยกหัวปลอบโยน
"ขี้บ่นจริง!! กินเบียร์ไหมจะลงไปซื้อ" กั๋มยิ้มอ่อนโยนเป็นครั้งแรก ฉันรู้สึกใจหน่วงแปลกๆ กับรอยยิ้มนั้น
"กินไม่เป็น อืม..ลองดูก็ได้" กั๋มโยกหัวอีกครั้ง มือเกลี่ยเส้นผมให้อย่างอ่อนโยน
"หัดกินไว้ก็ดีแล้ว เผื่อไปโดนใครมอบเหล้าจะได้เอาตัวรอด" 
กั๋มพูดเตือนเหมือนผู้ใหญ่บอกเด็ก ทั้งที่เราอายุเท่ากันนะแต่ทำไมเหมือนตัวเองเป็นภาระให้เพื่อนใหม่ก็ไม่รู้ซิ แก้วน้ำสีเหลืองอำพันเทไว้พร้อม เราชนแก้วแล้วปล่อยอารมณ์ไปกับแอลกอฮอร์และเสียงเพลง
กั๋มเกากีตาร์คลอร้องเพลงรักหวานหู ลมเย็นๆ พัดไล่ไอร้อนจากร่างเหลือบไปเห็นน้ำแข็งหมดฉันจึงลุกไปหยิบ พอกลับมานอกระเบียงอีกครั้ง กั๋มตบตักเรียกให้เดินเข้าไปใกล้ ร่างฉันถูกรั้งไปกองอยู่บนตักเค้าทันที
กลายเป็นทิ้งน้ำหนักตัวอวบๆ ลงบนขาข้างหนึ่ง สองแขนแกร่งสวมกอดไว้หลวมๆ มีเพียงความนิ่งเงียบระหว่างเรา สายตาจ้องมองกันเหมือนอยากจะพูดอะไรแต่เลือกไม่พูดให้เสียบรรยากาศ กั๋มฮัมเพลงเสียงแผ่วใส่หูปลุกให้ร่างร้อนเห่อตามวงแขนโอบกอด
"เกร็งหรอ ไม่เคยโดนผู้ชายกอดหรือไง" กั๋มถามเสียงเรียบ
"บ้า!! คนขี้เหร่แบบเราใครจะอยากกอด" เสียงงึมงำตอบตัดพ้อ ทั้งที่สองแขนแกร่งยังกอดร่างอุ่นอยู่ ปลายนิ้วเรียวเชยคางฉันให้จ้องหน้าเค้าชัดๆ นัยน์ตากลมใสของกั๋มมีภาพตัวเองอยู่ในนั้น มันค่อยเคลื่อนเข้ามาใกล้ใกล้จนริมฝีปากเราสัมผัสกัน กั๋มบดจูบนุ่มนวลปลายลิ้นเลาะริมฝีปากด้านล่างไล่เลียเสิร์ฟความหวานฉ่ำ งับเนื้อปากด้านบนละเลงลิ้นเลียหยอกเย้าจนตัวฉันล่องลอยตามสัมผัสที่เค้ามอบให้
เค้าผละออกจ้องหน้าฉันนิ่ง ก่อนคลี่ยิ้มเหยียดพอใจ ประกบบดย้ำๆ อีกครั้งสอดปลายลิ้นเข้ากวาดต้อนความหวานด้านในเหมือนเดิม เรียวลิ้นสากรัวสะกิดลิ้นฉันจนอยากขยับหนี ตอนนี้เราใช้ลิ้นต่อสู้กันในโพลงปาก จังหวะบดจูบเร้าร้อนเร่งให้ฉันอยากขยับตาม แต่เพราะไม่เคยจึงไม่รู้ว่าควรสนองมันยังไงดี
                "อ่อนชะมัด ไม่เคยจูบใครเลยหรอ" ปลายนิ้วเกลี่ยเช็ดน้ำลายมุมปากให้อย่างนุ่มนวล เสียงเรียบถามเหมือนฉันทำอะไรผิดงั้นแหล่ะ
"ก็จูบไม่เป็น" สวนคำตอบกลับทันที หน้ากั๋มยิ้มล้อจนฉันต้องหลบสายตา ปลายนิ้วเชยคางให้เชิดขึ้นอีกครั้ง รอบนี้ฉันรู้แล้วว่าเค้าจะประกบลงมาที่เดิม ตั้งใจรอรับรสจูบที่ไม่รู้ว่าจะมาแบบเร้าร้อนหรืออ่อนโยน แต่ยังไงซะ...รอบนี้ฉันจะไม่อยู่นิ่งให้กั๋มยิ้มเย้ยอีกแน่
รสจูบของเค้ายาวนานเหลือเกิน ละเลียดเม้มทีละนิดสอนจนฉันขยับตามได้ เบียร์หมดไปหลายขวดแล้ว ภายในร่างปั่นป่วนเนื้อเริ่มแข็งเด้งสู้มือ กั๋มลูบไล้นวดคลึงแผ่นหลังจนเสียววาบ ฉันเผลอครางอื้อในลำคอก้มหน้าเขินอายไม่กล้าสบตาแววตาเหยียดเย้ยนั้น
                เกลียด!! ถ้านายยังยิ้มแบบนี้...ใครจะกล้าสู้หน้าล่ะ เค้ารั้งร่างฉันไปกอดแน่น ฝ่ามือกระชับกดจมูกหอมไร้ผม ตอนนี้มันปั่นป่วนตีกันมั่วไปหมด อารมณ์หลากหลายตีกันจนรู้สึกว่า...ไม่เป็นตัวเองเลย
                "เบียร์หมดแล้วไปอาบน้ำเถอะ จะได้นอนกัน" คำพูดของกั๋มเหมือนคำสั่งให้ร่างฉันปฏิบัติตาม ทั้งที่ปกติก็ไม่เชื่อใครนะแต่กับกั๋มฉันไม่อยากปฏิเสธเลย
                อาบน้ำสระผมเรียกสติตัวเองกลับมาอีกครั้ง ลูบมือจับปากตัวเองด้วยความสุข ทำไมนะจูบนั้นมันยังตราตรึงอยู่ตรงนี้ บ้า!! เพื่อนกันไม่มีอะไรซะหน่อย บอกตัวเองเอาไว้ว่าเราเป็นแค่เพื่อนกัน ที่เกิดขึ้นแค่อารมณ์พาไป ฉันนอนคิดเรื่องจูบนั้นวนไปวนมาจนกั๋มลงมานอนข้างๆ
                "ฟังเพลงไหม" พยักหน้ารับเอาหูฟังมาใส่ เพลงสากลฟังสบายเปิดคลอให้เราขยับไปใกล้กันมากขึ้น กั๋มสอดแขนรองหลังคอกอบร่างฉันไปกองอยู่บนอกกลายเป็นตอนนี้ฉันแทรกร่างอวบอยู่ซอกเล็กๆ ข้างตัวเค้า
                อย่าเต้นแรงนักได้ไหม หัวใจ
                พุทโธ...พุทโธ ยุบหนอ...พองหนอ เค้าแค่อัธยาศัยดี เค้าน่ารักกับทุกคน แม้แต่คนธรรมดาแบบฉัน เค้าแค่แสนดี แค่แอลกอฮอร์ไหลทั่วร่าง เราไม่ใช่เด็กๆ แล้วนะ...ตื่นเต้นทำไม
                "ขอบคุณนะกั๋ม นายดีกับเรามากเลย โชคดีที่ได้เจอคนใจดีแบบนี้" คำพูดจริงใจของฉันพยายามสื่อออกไปว่าเค้าใจดีขนาดไหน แทนที่อีกฝ่ายจะพูดอะไรกลับมาบ้างเค้ากลับชันร่างขึ้นค่อม ระดมจูบแทบไม่เว้นจังหวะให้หายใจ ทั้งที่กั๋มสอนจูบมารวมชั่วโมงแล้วแต่พอเจอบทเร้าร้อน ฉันกลับนิ่งสนิทไม่กล้าขยับตัวดิ้นหนี
                มือแกร่งล็อคกรอบหน้าให้รอรับรสจูบหวานฉ่ำ มือกั๋มอีกข้างลูบไล้ช่วงคอลงไปจนถึงเนินอก ริมฝีปากไล่งับจากเนื้อปากลงเม้มย้ำๆ ผ่านซอกคอเลยผ่านเสื้อกล้ามตัวบาง บราตัวหลวมถูกปลดตะออกอย่างง่ายดาย สายล่วงลงจากสองบ่า มือกั๋มล้วงเข้าไปรั้งบราออกจากร่าง จังหวะนั้นเราจ้องตากันแล้วเป็นฉันเองที่ก้มหลบไม่กล้าสู้สายตาเค้า เชิดหน้าเปิดเนินคอให้เค้าซุกไซ้ เสื้อกล้ามบางปกปิดสองก้อนกลมอยู่ก็จริง แต่เม็ดยอดอกขึ้นปุ่มนูนท้าทายสายตา กั๋มลากปลายจมูกลงไปสูดดมผ่านเสื้อบาง ปากไล่งับขบยอดอกจนเสื้อชุ่มด้วยน้ำลาย
                กั๋มลุกเปิดไฟหัวเตียง แสงสลัวกระทบร่างฉันเห็นยอดอกสีช็อคโกแลตชัดเจน แววตาเจ้าเล่ห์อ่านกินร่างสั่นเทา เสียงเพลงจากโทรศัพท์เปิดคลอให้เราเริ่มต้นเล้าโลมกันอีกครั้ง กั๋มลูบไล้เนินอกขยำเน้นๆ หลายครั้งจนฉันเผลอร้องครางพอใจ
                "ไม่ต้องเกร็ง ชอบไหม" คำถามที่เพิ่งตอบด้วยเสียงครางไปแล้ว ทำให้เค้ายิ่งลูบไล้สนุกมือจากทรวงอกลากลงมาเอวคอดจมูกสูดดมผ่านเสื้อบาง เน้นเนินท้องจนเผลอเกร็งตัวแอ่น เปิดชายเสื้อขึ้นให้เนื้อสัมผัสเนื้อได้แนบแน่น แหวกกลางตัวแทรกร่างเข้าหว่างขาฉัน มือลูบไล้ลงเนื้อก้นกลมขยำเล่นมันมือ สองขาฉันหนีบกันแน่น เสียดสีจุดสงวนกับหน้าท้องเค้าดิ้นทุรนทุรายระบายความเสียวซ่านที่ยังไม่ถูกเติมเต็ม ฝ่ามือหนาจงใจลูบไล้เพียงภายนอกไม่ยอมล้วงเกินเข้าไปด้านใน แต่ฉันไม่เชี่ยวชาญเรื่องแบบนี้จึงไม่รู้จะรับมือกับความรู้สึกนี้ยังไงดี
                "ไม่ไหวแล้วใช่ไหม ให้กั๋มช่วยเปล่า" คำถามที่ฉันไม่อยากตอบที่สุด ทำไมนะผู้ชายน่าจะรู้สึกมากกว่าผู้หญิงซิ แต่ตอนนี้มันกระสั่นเสียวซ่านมากอยากให้เค้าทำต่อเหลือเกิน...จะให้พูดออกไปตรงๆ ได้ยังไงล่ะ ฉันพยักหน้ารับหายใจหอบถี่เพราะมือแกร่งยังลูบไล้ไม่หยุด
                "ครางดังๆ นะ" เสียงเจ้าเล่ห์บอกให้ฉันทำสิ่งที่พยายามกลั้นเอาไว้
                "ถอดซิ" เค้าลงจากร่างไปนั่งจ้องฉันถอดเสื้อผ้าที่ละชิ้น สายตาหวาดกลัวของฉันกับสายตาเจ้าเล่ห์อ่านกินของอีกฝ่ายวัดใจกันว่าใครจะเบือนหน้าหนีก่อน
                "ไม่เอาแล้ว!! อาย" กลายเป็นฉันเองที่แพ้ ไม่กล้าโชว์ความอวบตันของร่างตัวเอง
                แสงไฟหัวเตียงปิดลงพร้อมร่างกั๋มเข้ามาสวมกอดจากด้านหลัง มือเค้าเค้นสองเต้าเร้าอารมณ์ต่อเนื่อง จมูกไซ้หลังคอลงไปตามสันหลังจนเกร็งวูบไหว มือรั้งเสื้อถอดออกจากร่างทันที มือหนึ่งยังวุ่นวายอยู่กับเต้าแข็ง อีกมือดึงกางเกงนอนลงล่าง มือหนาเสิร์ฟความเสียวให้ต่อเนื่อง ฉันครางแผ่วตามปลายนิ้วสัมผัสร่องกลางตัว ร่างถูกพลิกขึ้นไปค่อมทับ ปากประกบเข้าจูบกันเร้าร้อน ตอนนี้ฉันขยับทุกอย่างตามจิตใต้สำนึก รู้เพียงแค่ว่ายิ่งขยับยิ่งลดอาการมวนท้องได้ 
                กั๋มชันตัวพิงหัวเตียงสอดแขนล็อกเอวให้ฉันโน้มลงไปเสิร์ฟสองก้อนแข็ง เค้าซุกไซ้สองเต้าสลับซ้ายขวาจนฉันครางหวานหู
                "กั๋ม.. อืมม กั๋ม" ไฟหัวเตียงเปิดขึ้นอีกครั้ง นายนี่โรคจิตจริงๆ อยากเห็นร่างน่าเกียจของฉันนักหรือไงนะ ตอนนี้ไม่สนใจแสงสลัวที่ส่องอยู่แล้ว สนใจเพียงปลายลิ้นที่ยั่วกระดกใส่ยอดอกไม่หยุด แขนแกร่งรั้งร่างฉันมากเท่าไร ยิ่งเด้งตัวเสิร์ฟก้อนเนื้อใส่ปากเค้ามากเท่านั้น ช่วงล่างเสียดสีระบายความเสียวพร้อมกับคำครางหวานหูเรียกชื่อเค้าไม่ขาดปาก ยิ่งทำให้ชายกั๋มพอใจและแกล้งหนักกว่าเดิม
                ฉันซบตัวเอาอกใหญ่ไปกองอยู่ตรงหน้าเค้า ชันเข่าค่อมร่างแกร่งไว้ที่หว่างขา ปลายนิ้วชายหนุ่มลูบไล้ลงเนินสะโพก ขย้ำก้นคลึงเค้นจนฉันเผลอเด้งสะโพกสวน นิ้วเรียวยาวกรีดร่องกลางก้นมือแหวกสองก้อนให้แยกออกจากกัน ตอนนี้ฉันครางใส่หน้ากั๋มด้วยความตั้งใจ สายตาจ้องสะกดคนตรงหน้าด้วยอารมณ์หื่นกระหาย นิ้วกลางของกั๋มป้อนเข้าปาก สั่งให้ฉันโลมเลียมันจนชุ่ม กระดกปลายลิ้นใส่นิ้วกั๋มจนเจ้าของยิ้มพอใจ น้ำลายฉ่ำปลายนิ้วแล้วฉันถูกคว้าไปบดจูบอีกครั้ง
                กลางตัวถูกสะกิดจนฉันอยากครางอีกแล้ว แรงสะกิดถี่ใส่เม็ดกลางตัวซ้ำๆ ทั้งเสียวซ่านทั้งปั่นป่วนไปหมด กั๋มยอมปล่อยให้ปากฉันเป็นอิสระ ร่างเด้งตัวตามแรงที่นิ้วนั้นบดบี้ใส่เม็ดกลางตัว
                "อ๊ะ อ๊ะ อ้า.. กั๋มอย่าแกล้งแอ้มซิ" ฉันครางหน้าสะบัด ก็กั๋มลงแรงใส่ส่วนบอบบางเหมือนหมันเคี้ยว ยิ่งฉันครางดังเท่าไรเค้ายิ่งกระหน่ำใส่ไม่หยุด เค้าบี้ซ้ำจนร่างฉันเกร็งปลดปล่อย มือหนาสอดเข้าโพลงชุ่มทันที ไม่ยอมเว้นจังหวะให้หายใจ
                "กั๋ม!!" ร่างฉันถูกล็อคไว้ตำแหน่งเดิม ตัวยังสั่นหอบระรวยแต่นิ้วซุกซนของกั๋มเริ่มขยับเข้าออกอีกแล้ว ทุกครั้งที่ฉันอยากเถียงเค้ามักจะจูบปิดปาก หลับตาพริ้มปล่อยอารมณ์ไปกับความเสียวซ่านที่ขับเคลื่อน จูบเร้าร้อนปลุกในร่างตอบสนองนิ้วอุ่น เด้งตัวทิ้งน้ำหนักสวนตามจังหวะนิ้วแกร่งกระแทกเข้ามา
                "ขยับให้ดูหน่อย"   
                อยู่ๆ กั๋มก็หยุดดึงนิ้วออกทั้งที่อีกนิดเดียวฉันก็จะปล่อยอีกรอบแล้ว คำพูดเค้าแหบพร่าสั่งให้ทำในสิ่งที่ไม่เคยมาก่อน มือแกร่งตบก้นให้ขยับขึ้นไปค่อมถึงเนินอกกั๋ม ระดับสายตาเค้าตอนนี้จ้องอยู่ที่ส่วนสงวนฉันไม่วางตา
                นิ้วกลางวางพื้นตั้งขึ้นเพื่อให้ฉันขึ้นไปค่อมทับ สมองเลือนลางอยากได้ส่วนเติมเต็มเหลือเกินทำให้ฉันลืมความรู้สึกอื่นไปหมด อยากแค่ขยับอีกหน่อยร่างก็จะเลิกสั่นประท้วงแล้ว จังหวะเงอะงะเพราะไม่เคยขึ้นควบมาก่อน ไม่รู้ว่าควรทำอย่างไงดี
                เสียงกั๋มสั่งให้ฉันขยับตามสัญชาติญาณ พอได้ขยับไม่กี่ที่ภายในก็ปรับสภาพเริ่มจับจุดถูกว่าควรโยกตัวส่งอารมณ์แบบไหน เสียงพื้นที่สามเหลี่ยมกลางตัวกระทบแผงอกแกร่งดังถี่ตามจังหวะที่ฉันเร่งตัว
                ฉันกลั้นเสียงครางหน้าอาย พยายามปล่อยออกมาให้น้อยที่สุด ปล่อยเสียงหายใจหอบถี่ดังกลบทุกเสียงของเรา ขาชันเข่าชาวาบไปทั้งตัว หลับตาจมอยู่กับความสุขที่ตัวเองเพิ่งได้รับ กั๋มถอยตัวลงจากหัวเตียง นอนระนาบพื้นแนบหน้ากับเนินอุ่นกระดกปลายลิ้นใส่กลีบน้ำหวานที่ชุ่มเยิ้ม แขนแกร่งรั้งตัวให้ฉันทิ้งน้ำหนักลงบนหน้าหล่อเหลา ลิ้นสากไล้เลียดูดกลืนน้ำเยิ้มที่ไหลมาจากภายใน ตอนนี้ทั้งตกใจทั้งเสียวซ่าน ร่างดิ้นพล่านกรีดร้อง ครางเสียงหลงตามสัมผัสที่ปลายลิ้นมอบให้ 
                "กั๋มพอแล้ว!! แอ้มไม่ไหวแล้ว กั๋ม!!"
                อืมม.. กั๋ม.. อ๊ะ อ๊ะ กั๋มม.. อืมม อร๊ายย" เสียงคีย์สูงตามจังหวะที่ฉันเกร็งร่าง เลือดสูบฉีดวิ่งพล่าน ครางหอบเหลือบมองเซียวหน้าคนที่ยังแกล้งไม่หยุด เค้าเลียลิ้นล้างน้ำคาวจนสะอาด เสียงฟัดส่วนล่างอย่างหมั่นเขี้ยวยิ่งตอกย้ำว่าเค้าทำอะไรไว้บ้าง แต่ตอนนี้ฉันเสียวซ่านอีกแล้ว ไม่รู้ว่าเกมส์นี้จะจบลงเมื่อไร
                ...ทำไมตัวเองรู้สึกง่ายขนาดนี้











EP.3

Take Care
 Gum's Part
                ผมเรียนรู้เรื่องแปลกใหม่จากแอ้ม เธอเป็นคนคุยเก่งอัธยาศัยดีแต่แอบย้ำคิดย้ำทำ ขี้น้อยใจ เธอมักจะย้ำว่าเธอไม่สวย ซึ่งมันก็จริงถ้าเทียบกับสเปคคนไทย ตัวสูงสัก 160 ได้ ร่างอวบตันไม่ได้เพรียวแบบพิมพ์นิยม อกกลมใหญ่เอวคอดสะโพกผาย ผิดกับผู้หญิงสมัยนี้ที่เน้นยิ่งตัวเล็กยิ่งดี ผิวสีน้ำผึ้งใสดูสะอาดตา แต่หนุ่มๆ กลับชอบขาวหมวยซะมากกว่า..ไม่เหมือนผม ลุคแบบนี้นางในฝันของหนุ่มอินเตอร์เลยรวมทั้งผมด้วย
                เอ่ยปากยอมให้แอ้มมานอนห้องผมก่อนก็ได้ ถ้าไม่สบายใจที่จะกลับหอ เราคุยเล่นจนสนิทกัน ผมเริ่มเรียนรู้ที่จะเทคแคร์ทำให้ถูกใจเธอ ร่างเธอตื่นตัวไวมาก แค่ผมแอบกอดตามบทบาทที่ได้รับ ปฏิกิริยาเธอทำให้ผมยิ้มได้ ไร้เดียงสาจัง!! คืนนี้จึงคิดจะชวนเธอเมาเพราะคติประจำใจผมคือ
                ...อยากดูนิสัยใครให้ศึกษาตอนเมา
                แอ้มมีแววตาดึงดูดชวนหลงใหล เธอคงไม่รู้ตัวเลยว่าคำพูดแสนธรรมดาของเธอแต่ผมฟังแล้วมันยั่วยวนขนาดไหน คนหัวอ่อนอย่างแอ้มตามไม่ทันความคิดผมสักอย่าง บอกให้ดื่มเธอก็ดื่ม บอกในอาบน้ำบอกในนอนเธอก็นอน ถ้าคนตรงนี้ไม่ใช้ผมไม่รู้สภาพของเธอจะเป็นอย่างไรบ้าง หน้าเธอแดงกรำด้วยฤทธิ์แอลกอฮอร์ ผมวางกีต้าร์ที่ใช้เกาคลอเพลงสร้างบรรยากาศลงข้างตัว เธอเดินเข้ามาพร้อมกับน้ำแข็งที่อาสาลุกไปหยิบมาให้ ผมแกล้งตบตักเรียกให้เธอเข้ามาหา ปกติทำแค่นี้คนอื่นเค้าก็รู้แล้วว่าหมายถึงอะไร แต่ไม่ใช่กับแอ้ม
                ร่างอวบนุ่มมือถูกรวบมากองบนตัก เธอยังแสร้งยิ้มแอบตื่นกลัวแต่เพราะอารมณ์กรึ่มเธอจึงไม่ปฏิเสธ ระยะใกล้กันแค่นี้กลิ่นเบียร์จากลมหายใจเธอ ยื่นยันได้ดีว่าเธอเริ่มเมาแล้ว คำถามคลอเคลียข้างหูที่ผมอยากรู้ซักออกมาไม่ขาดสาย
                "แอ้มมีแฟนยัง"
                "ขี้เหร่อย่างเราใครเค้าจะชอบ"
                "บ้า!! ต่างคนต่างรสนิยม มันต้องมีคนชอบแบบแอ้มบ้างแหล่ะ"
                "มีก็ดีซิ บางที่ก็เหงาที่ต้องอยู่ตัวคนเดียว"
                คำพูดแสนเศร้าเอ่ยออกมาจากปากเธอ ผมพอจะดูออกว่าชีวิตเธอไม่ได้สวยหรูนัก เสื้อผ้าไม่มีแบรนด์ โทรศัพท์ธรรมดา แถมยังวิ่งรอบทำงานพิเศษ เธอคงไม่มีเวลาคิดเรื่องแบบนี้จริงๆ
                มือข้างหนึ่งสอดเข้าโอบให้แอ้มหันหน้ามาหาผม ไล่ลูบหลังปลอบใจ อีกข้างลูบหัวเกลี่ยเส้นผมที่พลิ้วตัวตามสายลมให้เข้าที่ นาทีนี้ใจผมเองแหละที่เต้นรัวไม่เป็นท่า อยากฟัดเจ้าของตาเศร้ากับหน้าถอดสีให้หนำใจ นี่ผมผิดปกติหรือเปล่าเกิดดันมามีอารมณ์กับคนที่กำลังจะร้องไห้
                "ไม่มีแฟนก็ดี ชีวิตอิสระดี" ผมพูดคำสวยหรูออกไปอย่างนั้นเอง แต่แววตาคนฟังนี่ซิ ทำราวกับจดจำทุกอย่างที่ผมพูดไว้ในใจ สายตาเราจ้องกันเนิ่นนาน นานจนกลืนน้ำลายไปหลายอึก...แล้วผมก็จูบเธอ รสชาติริมฝีปากสาวไร้เดียงสาเป็นแบบนี้นิเอง หวานละมุนแอบแข็งเกร็งตัวไม่กล้าขยับตอบโต้ ใจเธอเต้นรัวตามบทจูบที่ผมรุกเร้า เธอเอาแต่จ้องค้างจนผมสงสัย
                "อ่อนชะมัด ไม่เคยจูบใครเลยหรอ"
                "ก็จูบไม่เป็นนิ"
                "งั้นเอาใหม่ กั๋มจะจูบจนกว่าแอ้มจะจูบตอบ"
                "ก็บอกว่า..."
                ผมไม่เปิดโอกาสให้เธอปฏิเสธหรอก ภาษากายอินโนเซ้นของแอ้มคือของโปรดผู้ชายทุกคน ลึกๆ แล้วผู้ชายชอบควบคุม ชอบเป็นผู้นำ แต่ก็ชอบให้อีกคนอ่อนโยนออดอ้อนเข้าหาเหมือนกัน สำหรับผมตอนนี้แอ้มมีทุกอย่างที่ผมต้องการ ผมจะไม่ปล่อยให้ใครมาสอนเธอจูบแน่ๆ ให้กอดเธอไว้อย่างนี้แล้วบดคลึงริมฝีปากบางทั้งคืนก็ยังได้เลย
                "แอ้มไปอาบน้ำก่อนเหอะ จะได้นอนกัน" ยิ่งจูบผมก็ยิ่งขึ้น จากลูกชายตัวน้อยตอนนี้เริ่มผงาดกายเป็นมังกรดันปั้นท้ายเธอแล้ว แต่ดูเหมือนว่าแอ้มจะไม่รู้สึกตัวเลย กลายเป็นผมเองที่กำลังคลั่งความไร้เดียงสาของเธอ

@เช้าวันใหม่
                "แอ้ม.. แอ้ม.." เสียงยานครางของผมร้องเรียกอีกคนด้วยความสงสัย เพิ่งจะเจ็ดโมงเช้าไม่รู้ว่าแอ้มหายไปไหนซะแล้ว เสียงก็อกแก็กจากประตูหลังห้องค่อยๆ เปิดแง้มเข้ามาพร้อมร่างแอ้มในชุดกางเกงนอนขาสั้นเต่อกับเสื้อกล้ามขาวบางเห็นไปยันไส้ติ่ง แสงอาทิตย์ส่องทะลุยิ่งกว่าฟิล์มเอ็กซเรย์ ผมจินตนาการถึงสัดส่วนเต็มมือที่เมื่อคืนได้เคล้าคลึง แอ้มเดินเข้ามาช้าๆ ลงนั่งฝั่งที่ตัวเองนอนประจำก้มหน้าอึกอักไม่รู้จะพูดอะไรก่อนดี
                "ไปไหนมาหรอ"
                "นั่งเล่นอยู่ระเบียง"
                "ไม่ง่วงหรอ เพิ่งนอนไปไม่กี่ชั่วโมงเอง"
                "ก็ง่วงแล้วนี่แหละ ถึงได้เข้ามา"
                ผมรั้งตัวเธอลงมานอนกอด ใช้ร่างอุ่นของเธอแทนหมอนข้าง เสียงหายใจรัวถี่กำลังประท้วงว่าผมทำเธอตื่นเต้นอีกแล้ว
                "โกรธกั๋มเปล่าเนี่ย ทำไมนอนตัวเกร็งเลย" คำถามอ้อมๆ ของผมสะกิดย้ำให้เธอนึกย้อนถึงเรื่องเมื่อคืน ผมพอจะเดาได้ว่าแอ้มต้องตอบว่าไม่ได้โกรธ เพราะเธอเป็นคนตรงๆ แถมขี้เกรงใจอีกด้วย
                "จะโกรธทำไม ก็เราเพื่อนกันนิ" คำตอบของแอ้มทำให้ผมจ้องหน้าเธอแทบทันที เธอว่ายังไงนะเราเพื่อนกัน!! เลยทำเรื่องอย่างนั้นกันได้หรอ นี่เธอคิดแบบนั้นจริงๆ ใช่ไหม
                "ก็เพื่อนไง เนอะเราเป็นเพื่อนกันแล้ว" แอ้มยังย้ำคำว่าเพื่อนอีกหลายครั้งจนผมรำคาญ จากที่อยากสะกิดให้เธอคิดเรื่องของเรา กลายเป็นผมเองกำลังทบทวนว่าที่ผ่านมาผมคิดอะไรหรือเปล่า...ไม่หรอก เวลาแค่นี้จะทำให้ผมคิดได้ยังไง
                "แอ้มไม่ชอบเราหรอปกติแค่กั๋มยิ้มให้ สาวก็แทบอยากตามมาห้องแล้วนะ" ผมยังอวดสรรพคุณว่าตัวเองหน้าตาดีมีตัวเลือกมากขนาดไหน แอ้มรีบปฏิเสธทันทีว่าไม่ชอบแล้วก็กอดตอบผมแน่น เสียงหัวใจเธอเต้นช้าลงกว่าเดิมมากหรือเธอจะไม่ชอบจริงๆ คนไม่รักกันชอบกันจูบกันได้หรอวะ หรือยุคนี้ไม่มีใครสนใจแล้วว่าต้องจูบกับคนที่ชอบเท่านั้น
                แรงฮึดอยากเอาชนะกำลังผลักดันให้สมองผมคิดแต่เรื่องเธอ ถ้าผมทำให้เธอเอ่ยปากว่าชอบผมก่อนไม่ได้ ความมั่นใจของผมก็หายไปเหมือนกัน ภาษามือของผมเริ่มลูบไล้ทำงาน เนื้อสาวอวบเต็มมือเต้นระริกชวนให้ขยำ ส่วนสะโพกผายได้รูปที่ผมชอบวางพักมือไว้ตรงนั้น แอบลูบเล้าโลมจนหน้าแดงกร่ำมุดก้มหน้าไม่กล้าสบตา
                "กั๋ม อย่าซนซิ วันนี้มีงานนะ
                "เกี่ยวไรอะ งานมีตอนเย็น"
                "ไม่เล่นแล้ว แค่นี้ก็เดินจุกไปหมดแล้ว"
                "งั้นคืนนี้นอนห้องกั๋มนะ เดี๋ยวกั๋มรักษาให้"
                เสียงเล็กหวานหูของคนสะกดกลั้นอารมณ์ไว้ แถมยังบอกออกมาตรงๆ ว่าผมแกล้งจนเธอจุกเสียดตอนเดิน ก็แหม่...จำไม่ได้ว่าครั้งล่าสุดที่ผมได้เปิดซิงสาวนี่มันชาติไหนหรืออาจจะไม่เคยเลยก็ได้ แต่อย่าบอกนะว่าแอ้มยังซิงก็ตอนที่นิ้วสอดเข้าไปมันก็ง่ายดายแต่ก็คับมาก ผมไม่ทนเก็บความสงสัยไว้อยากรู้ก็ต้องลองมุดดูอีกสักรอบ ดึงผ้าห่มที่เกะกะออกจากร่างเหลือเพียงร่างนวลสีน้ำผึ้ง กับร่างขาวโพลนของผม ชันตัวขึ้นค่อมร่างแอ้มอย่างรวดเร็ว
                จุดอ่อนของทุกคนคงเป็นริมฝีปาก ผมเข้าจูบตะกละตะกลามโรมรันไม่ให้แอ้มได้ตั้งตัว เจอไม้นี้เข้าไปร่างแอ้มเกร็งต่อต้านจนผมยิ่งอยากเอาชนะ ออกแรงบิดสองแขนต่อสู้กันผู้หญิงตัวเล็ก...จะสู้อะไรผมได้ สุดท้ายเธอก็ยอมอยู่นิ่งให้ผมจูบริมฝีปากบางอย่างเร้าร้อน สอดลิ้นเข้ากวาดต้อนรัวกระดกส่วนปลายสากใส่โพลงปากจนอีกครั้งจนเธอครางกระเส่า ลิ้นผมยังไม่หยุดชอนไชแม้ว่าเธอจะทุบอกประท้วงร้องขออากาศ น้ำลายซึมข้างมุมปากยิ่งยั่วให้ผมบดคลึงหนักขึ้นอีก แอ้มกอดผมไว้แน่น 
    

                จากตอนแรกที่เธอเอาแต่ผลักไส้กลายเป็นว่าตอนนี้เธอใช้ผมเป็นหลักพักพิงกาย สองมือเงอะงะไม่รู้จะวางมันตรงไหนดียังเกาะที่แขนผมแน่น ช่างไร้เดียงสาจริงๆ งั้นผมจะสอนเธออีกสักอย่างก็ได้ หยิบมือสั่นของแอ้มลงล่างไปวางไว้ที่เจ้ามังกรน้อยตัวอ่อนนิ่ม ผละปากมาออกคำสั่ง
                "จับไว้นะห้ามปล่อย"
                เธอเลือนลางไร้สติ หายใจรวยรินจนผมต้องกำมือเธอเน้นๆ ออกแรงสอนให้เธอบีบนวดเจ้ามังกรไปด้วย ตาพร่าเปลี่ยนสีของแอ้มกำลังทำผมหลง เธอตื่นตัวอีกแล้วซินะ
                "ถ้าปล่อย มันมุดเข้าไปไม่รู้ด้วย" ผมเย้าเธอต่อ แอ้มซบหน้าลงซอกคอผมไม่ยอมเงยขึ้นมาสบตาอีก มือขยับจังหวะให้จนมังกรน้อยเติบโตกลายเป็นเอ็นแข็งยาวกว่าหนึ่งกำมือ ผมปวดหนึบไปหมดอยากก็อยาก อดทนก็ต้องอดทนเพราะสิ่งที่ผมต้องการคือพิสูจน์ความซิงมากกว่าจะยอมเสียตัว
                "ชอบไหม ถูกใจหรือเปล่า" กระซิบคำถามจิตวิทยาลอบสังเกตอาการของผู้หญิงตรงหน้า
                "ไม่รู้!!"
                "ได้ไง!! โตปานนี้แล้ว ไม่เคยเห็นของใครเลยหรอ"
                "ไม่อะ"
                "อย่ามา เมื่อคืนเราก็ยัง..."
                "ก็นั้นมันนิ้ว ไม่ใช่ไอ้นี่สักหน่อย"
                "แล้วมันต่างกันยังไง มันก็แท่งๆ เหมือนกันไม่เชื่อลองก้มไปดูดิ"
                "ไม่เหมือน..กับไอ้นี่เราไม่เคย"
                ผมงงกับคำตอบมากอะไรคือกับไอ้นี้ไม่เคย หรือว่าเธอใช้อย่างอื่นแทนหรอในตอนที่มีอารมณ์อย่างว่าอะนะ ผมจินตนาการไปไกลมาก แล้วอารมณ์ก็พุ่งจนจะปริแตกพอกัน ดึงมือเธออกจากเอ็นแข็งแล้วปรับตำแหน่งให้ร่างเราได้ใกล้ชิดกันมากกว่าเดิม แอ้มทำหน้างงแต่ก็ยอมโดนปลดเสื้อผ้า ย้ายตำแหน่งตามท่าที่ผมจัดให้ ทำเหมือนเธอเป็นตุ๊กตาที่มีชีวิตไปได้นะเรา
                ตอนนี้ผมกึ่งนั่งกึ่งนอนบนเตียง ย้ายมาซ้อนหลังแอ้มอ้าขาออกกว้างให้ปั้นท้ายเธอเสียดสีเอ็นร้อนแนบแน่นขึ้น มือสองข้างกอบสองเต้าสวยล้นมือ เธอเงยหน้ามารับรสจูบที่ผมเสิร์ฟให้ไม่หยุด ผมไม่ยอมผละให้ส่วนไหนว่างเป็นอิสระหรอก เกมส์รักเริ่มเร้าร้อนตามมือบีบคลึงปรับจูนปลายยอดเต้าแข็ง ยอดแข็งดิ้นสู้มือจนผมต้องปั่นหัวมันเล่นหลายรอบแล้วบีบดึงจุกเน้นๆ กระตุกอารมณ์เจ้าของร่าง แอ้มครางเสียงหลงตอนที่ผมบีบยอดอกแรงๆ เธอมองผมตาพร่าไปด้วยอารมณ์หื่นกระหาย
                "เสียวล่ะซิ" ผมถามทั้งที่ก็รู้อยู่แล้ว แต่เธอนิ่งหน้าไม่ยอมตอบ ผมจึงต้องใช้กระบวนท่าเดิมจูนเม็ดยอดอกแล้วบีบแรงๆ จนร่างแอ้มดิ้นพล่านเสียดสีปั้นท้ายใส่เอ็นไม่หยุด "เออ!!" เธอตวัดเสียงตอบเหมือนไม่พอใจ แต่ตายังพร่าเยิ้มสวนทางกับน้ำเสียงที่เธอพูดกับผม


                เราแทบไม่ปล่อยให้ปากได้แยกจากกัน จูบซับนุ่มนวลสลับกับเร้าร้อนตามเกมส์ที่ผมต้องการ มือลูบจากสองเต้าลงต่ำไปเล่นเนินสามเหลี่ยมอูมเต็มฝ่ามือ ผมสั่งให้เธออ้าขากว้างๆ แต่เธอยังรั้นที่จะหุบสองขามาเบียดระบายความเสียวเองอยู่ได้ จำเป็นต้องออกแรงยกตัวเธอมาทับอยู่บนตัวผม ใช้ขาแกร่งของผมกางบังคับให้เธออ้าออกกว้างเพื่อรับส่วนกระตุ้นเสียเอง
                ผู้หญิงบนตัวผมกางขาเป็นตัวเอ็มงอเข่าซ้อนอยู่บนร่าง เธอทิ้งน้ำหนักมาทั้งตัวเสียดสีร่างเธอกับร่างผมจนอุ่นร้อน สองมือผมลงล่างไปจัดการเนินเยิ้มชุ่มไปด้วยสารหล่อลื้น นิ้วจากมือทั้งสองข้างกำลังช่วยกันแหวกกลีบชุ่มน้ำหวานให้แยกออกจากกัน นิ้วชี้ผมเข้าทำงานปาดร่องกลางพร้อมสะกิดปุ่มเสียวจนแอ้มดิ้นหนี แต่ยิ่งดิ้นผมยิ่งชอบเพราะร่างเธอบดเจ้ามังกรโดยไม่รู้ตัว
                มือยังแหวกสองกลีบให้แยกออก นิ้วรัวสะกิดปุ่มย้ำๆ จนร่างแอ้มเด้งตัวตามสัญชาตญาณอยู่กลางอากาศ เธอเกร็งปลายเท้าจิกมันลงพื้นแล้วขยับขึ้นลงโดยไม่รู้ตัว ภาพแอ้มตอนนี้น่าแกล้งเป็นบ้า "กั๋ม!!" เสียงเรียกชื่อผมเจือด้วยความไม่พอใจ ก็แน่แหล่ะ!!..เพราะผมแกล้งหยุดตอนเธอใกล้จะเสร็จนะซิ
                "ทำไมหรอ"
                "เปล่า"
                "แน่ใจ"


                ผมพูดว่าแน่ใจแล้วรัวนิ้วใส่ปุ่มซ้ำๆ จนแอ้มครางหวานเรียกหาผมไม่หยุดปาก คำตอบกระท่อนกระแท่นจับใจความไม่ได้ รู้แต่รูเธอตอนนี้ชุ่มมากจนผมอยากมุดนิ้วเข้าไปทักทาย ผมดันพรวดเดียวสองนิ้วแล้วแช่ไว้แบบนั้น แอ้มร้องเสียงหลงกระตุกตัวจุกเพราะส่วนที่ผมสอดเข้าไปเพิ่มมันทำให้ภายในคับมากจริงๆ
                "เจ็บไหม"
                ผมถามเพราะเธอนิ่งเอามือกุมท้องไม่ยอมขยับ เธอกระพริบตาปริบๆ พยักหน้าแทนคำตอบ โถ่เอ้ย!! โดนเข้าไปสองนิ้วหนายังน้ำตาปริ่มขนาดนี้ ถ้าโดนเข้าไปเต็มๆ เธอจะงอแงขนาดไหน แต่ไม่รู้ทำไมยิ่งเห็นตาฉ่ำวาวยิ่งยั่วยวนเหลือเกิน ผมขยับนิ้วเข้าออกโพลงพังผืด ครูดทุกปุ่มภายในจนทางสะดวกไม่ฝืดเคืองแล้ว
                "ตอนนี้ล่ะ เจ็บหรือเสียว"
                "...."
                "ห๊ะ...ว่ายังไงเจ็บ หรือเสียว"
                "อ๊ะ.."
                "เจ็บหรอ"
                "เสียวว.."



                ตาพร่าหวานมีผมฉายอยู่ในนั้น พูดคำว่าเสียวออกมาอย่างเขินอาย กระตุกใจผมให้วูบไหว ผมรู้ว่าตอนนี้จังหวะนิ้วควรรัวให้เครื่องเธอร้อนยิ่งขึ้น ถ้าผมอยากเห็นปฏิกิริยาเธอมากกว่านี้ เสียงครางหวานร่างสั่นตามแรงที่นิ้วสวาทผมกระแทกใส่ทำๆ หยุดๆ แวะถามโน้นถามนี่ไปเรื่อย จนคนบนร่างผมเริ่มสติเลือนลางเอาแต่ครางไม่เป็นคำพูดแล้ว
                "แอ้มเล่นของตัวเองให้ดูหน่อยซิ" ผมวางมือเธอลงที่หน้าอก สองก้อนเนื้อส่ายกระเพื่อมตามแรงหายใจน่าขยำนัก ยิ่งถ้ามือตรงนั้นเป็นมือบางของเจ้าตัวผมยิ่งปั่นป่วน คำกระซิบสั่งของผมเร้าให้เธอทำตามทุกอย่าง นิ้วเรียวบีบนวดสองเต้าพร้อมกัน เธอคลึงเค้นเล่นส่วนยอดจนผมอยากช่วยละเลงลิ้นสากใส่ทั่วร่าง หน้าครางเชิดรับทุกสัมผัสบนร่างครางกระเส่าปล่อยออกมาต่อเนื่อง เป็นภาพที่ผมเคยเห็น แต่ไม่เคยรู้สึกดีเท่านี้มาก่อน
                "แอ้ม เอามาป้อนหน่อยซิ" ผมหยุดมือจากส่วนล่าง ลูบขาบีบเนื้อสะโพกกดให้มันเสียดสีมากขึ้นอีก แอ้มย้ายตามท่าที่ผมบอก หันหน้ามาหาผมชันตัวขึ้นค่อมเหมือนที่เมื่อคืนเราทำกัน แต่รอบนี้กลางตัวเธอมีเอ็นแข็งยาวใหญ่เต็มวัยของผมพลาดอยู่ด้วย เราไม่ได้สอดใส่กันแต่มันก็เร้าอารมณ์ได้ดีจริงๆ ปากผมเข้าชิมยอดอกที่มองจากมุมเมื่อกี้แล้วเม็ดเล็กนิดเดียว แต่ตอนนี้ซิใหญ่พอดีคำ ปากงับเน้นๆ ที่ส่วนยอด ลิ้นไล่เลียทั่วทรงตั้งแต่ฐานขึ้นมาจนถึงยอดอก ร่างแอ้มส่ายตามอารมณ์ดิบของเธอ พาให้เจ้ามังกรผมถูกถูไถขยับตามไปด้วย



                ตบก้นบังคับจังหวะส่งให้เธอโยกตัวบนร่างผม เสียดสีเจ้าลูกชายกันเนินสามเหลี่ยมอุ่นไปในจังหวะเดียวกัน เราช่วยกันโยกขยับจากเบาเป็นถี่รัวจนปลดปล่อยน้ำคาวออกมา ผมรั้งร่างเธอมากอด ชอบฟังเสียงครางเหนื่อยเวลาที่ผมเป็นคนทำ แอ้มทิ้งตัวไว้บนอกผมเนินนานจนน้ำคาวเปรอะเปื้อนไปทั่ว
                "อาบน้ำด้วยกันไหม"
                "บ้า!! ไม่เอา"
                "ก็ไม่ได้ให้เอา ให้ไปอาบน้ำ"
                "อาบก่อนเลย เรารอได้"
                "จะรอได้ไง ตัวเปื้อนหมดแล้วเนี่ย"
                "..."
                "หรือว่าเธออาย อายเพราะได้อาบน้ำกับคนที่ชอบใช่ไหม"
                "เปล่าอายซะหน่อย ไปอาบด้วยก็ได้"
                ผมรู้จุดอ่อนอีกอย่างหนึ่งของเธอแล้ว ยิ่งแกล้งเย้าว่าเธอชอบผมมากเท่าไร เธอยิ่งแสดงมันออกมา ยัยโง่เอ้ย...ไม่รักไม่ชอบ เธอไม่ใจเต้นแรงขนาดนี้หรอก เธอเดินหนีบๆ ก้าวเล็กๆ เข้ามาในห้องน้ำกับผม มือข้างหนึ่งยังปิดส่วนสงวนข้างบน ข้างที่เหลือปิดส่วนสงวนข้างล่าง ก้มหน้าก้มตาอาบน้ำหันหลังไม่ยอมมองผมเลย


                "เห็นจนหมดแล้ว จะอายอะไรนักหนา แต่ก็เข้าใจนะอยู่กับคนที่ชอบก็ต้องหวั่นไหวเป็นธรรมดา
                คำพูดยืดยาวของผมไม่สามารถเรียกร้องความสนใจให้เธอหันมามองได้ เธอยังหันหน้าเข้ามุมห้องน้ำรีบชโลมครีบจนฟองฟูทั่วร่าง ในเมื่อใช้ไม้อ่อนแล้วไม่ได้ผล ต่างเจอท่าไม้ตายซะแล้ว ยืนประชิดตัวด้านหลังเอาอกแกร่งไปแนบหลังเธอ พร้อมพ่วงนิ่มเสียดสีปั่นท้าย กระซิบคำถามติดเรทจนเธอแทบกรีดร้องออกมา
                "แอ้มว่า...ของเราเล็กไปไหม"
                "บ้า!! จะไปรู้ได้ไงล่ะ"
                "จะไม่รู้ได้ไงล่ะ เธอจับเล่นตั้งนานสองนาน"
                "โอ้ย!!..ไม่รู้" เสียงดังกลบเกลื้อนไม่ว่า ยังเผลอมือสะบัดมาโดนลูกชายผมจนจุกอีก ผมง้อตัวมองเธอเดินจากไปอย่างเขินอาย โถ่!!ยัยบ้าเอ้ย.. เดี๋ยวก็ให้ใช้ปากรักษาอาการจุกซะนิ
                กว่าผมจะทรงตัวได้ แอ้มก็ใส่เสื้อผ้าเรียบร้อยพร้อมไปหาอะไรลงท้องและเลยออกไปทำงาน ชุดสายเดียวเกาะแค่เนินอกเว้าเอวสองข้างกระโปรงสั่นเต่อ ทำเอาอาการจุกผมกลับมาทันที เดี๋ยวนะ...นี่เธอจะไปทำงานชุดนี้เลยหรอ



                "โห้!! ตกใจหมด นึกว่าใครเอาโต๊ะสนุกมาวางไว้ในห้อง" ผมปล่อยคารมเฉียดเฉือน ใช้สายตาจ้องขาอวบส่งซิกแนวว่าหมายถึงอะไร กระโปรงสั้นปิดก้นแค่คืบกับคัทชูส้นสูงยิ่งทำให้ขาเธอเพรียวยาว ปรับเข้าโหมดเซ็กซี่ไม่ได้น่าเกียจอย่างที่ผมพูดเลย แต่ไม่รู้ทำไมปากกลับแซวออกไปอย่างนั้น
                "แล้วดูซินั้น นมก็ลายใส่ไปนี่นึกว่าลูกสอง" ปากผมยังไม่หยุดวิจารณ์ทั้งที่ความจริงอกล้นขอบบราขาวเนียนกว่าทุกส่วนด้วยซ้ำไป
                "น่าเกียจมากเลยหรอ" แอ้มตวัดเสียงไม่พอใจถาม
                "ก็ไม่นะ ดูรวมๆ ก็พอได้ แต่ไม่มีชุดอื่นหรอ" ผมรีบเดินเข้าไปใกล้
                "ก็มี แต่นี่ชุดหากินเลยนะ ใส่ที่ไรมีแต่คนชม" เสียงเง้างอนไม่มั่นใจเริ่มเถียง
                "เชื่อกั๋ม ใส่ปล่อยคนเค้าเบื่อแล้ว"
                ยิ่งมองใกล้ๆ ยิ่งเซ็กซี่คูณสิบ ผมลอนคลายยาวน้ำตาลอ่อน ตัดกับชุดสีดำเล่นส่วนเว้าส่วนโค้ง เธอรื้อเสื้อผ้าออกมากองเต็มหน้ากระจก แค่ผมชายตามมองปร๊าดเดียวไม่มีชุดไหนให้ผ่านได้เลย ไม่เกาะอกก็สายเดียว ไม่เดสสั้นก็กางเกงรัดรูปเสมอก้น ถ้าเลือกปิดได้ทั้งสองส่วนก็คงดี แต่ที่ผมหวงจริงๆ คงเป็นเจ้าสองเต้านี้แหละ



                ทำที่เป็นเข้าไปวิจารณ์ชุดนี้ติชุดนั้นไปเรื่อย จนแอ้มเหลือตัวเลือกที่ผมเล็งไว้ โน้มตัวไปกอดเธอจากด้านหลังสายตาเราสะท้อนภาพในกระจกกำลังจ้องกันหวาน ผมโยกตัวอ้อนหวังให้เธอเลือกระโปรงบานทรงตุ๊กตาบาร์บี้ ปากเธอพร่ำพูดว่าถ้าเป็นกระโปรงตัวนี้ต้องใส่กับเกาะอกสั้น เธอว่าจะโป๊เกินไปแต่เธอก็ยังจะใส่มัน
                ผมพลิกร่างเธอเข้ามาหาตัว กดริมฝีปากจูบเนินอกเธอจนแดงสอง สามรอย ทำแบบนี้ซะจะได้จบปัญหาดูซิยังจะอยากโชว์อีกไหม "กั๋ม ทำอะไรเนี่ย"
                ผมยิ้มเย้ยแล้วผละออกมาแต่งตัว แสร้งทำเป็นไม่สนใจเธอแต่ยังแอบเหลือบมองว่าเธอจะทำยังไงต่อ ตอนนี้เธอจ้องตาวาวมองรอยนั้นผ่านกระจก รอยยิ้มจางๆ ปลายนิ้วลูบไล้ที่รอยแดง หึหึ!! ผมทำถูกแล้ว คิดถูกแล้ว
                ...เธอชอบผม






EP.4

Wanna be your friend

Ahm's Part
                ปกติไม่เคยเครียดเท่านี้เลยนะ เจอปากเพื่อนใหม่จิกกัด,ขาไม่สวย,เอวหนา นมลาย ฉันล่ะหมดปัญญาจะหาเสื้อผ้าใส่ไปงานแล้ว แถมรอยแดงเนินอกนี้ยังตีตราว่าเพิ่งได้มาสดๆ ร้อนๆ เด็กประถมดูยังรู้เลยว่ารอยอะไร แล้วนี่ถ้าใส่โชว์เปิดบนไปต้องโดนแกงค์เอ็กซ์ตร้าด้วยกันล้อแน่เลย
       สรุปไม่เหลือตัวเลือกเลย คว้ากระโปรงบานผ้าแก้วทรงเจ้าหญิงสีดำเงา ใส่กับเสื้อยืดเอวลอยลายกราฟฟิกเท่ห์ๆ ถึงมันจะไม่เข้ากันสักเท่าไร ก็ถือว่าเป็นสไตล์แล้วกัน รองเท้าส้นสูงสีดำทำให้ฉันดูเพรียวขึ้นมาก ชุดดำบนล่างพรางให้รูปร่างสมส่วนยิ่งขึ้น แอบโชว์เอวคอด หน้าท้องแบนราบเล็กน้อย เลือกบราสปอตมิดชิดปิดถึงรอยเนินอก

                ตอนนี้กั๋มเงียบปากสนิท ไม่เอ่ยแซวอะไรให้น่าโมโหอีก ถ้าไม่นับรวมความหื่น,ปากหมา,หลงตัวเอง,ชอบฉวยโอกาสนะ...นายก็เป็นเพื่อนที่ดี แต่ที่พูดมาทั้งหมดเป็นข้อเสียที่ฉันเคยรังเกียจนิน่า ทำไมกับกั๋ม...ฉันถึงรับมันได้ทุกอย่าง
                นั่งนิ่งคิดอะไรเรื่อยเปื่อยตลอดทางจนรถเลี้ยวเข้าห้างเล็กๆ ในซอยที่ต้องมาทำงาน "กินข้าวในฟูดได้ไหม" เสียงกั๋มถามเหมือนลังเลกลัวว่าฉันจะกินไม่ได้งั้นแหละ โถ่!! กินมาม่ากับหมาหน้าเซ่เว้นยังนั่งกินมาแล้วเลย นับประสาอะไรกับฟูดคอร์ทในห้างนี้ แค่ลงจากรถเดินเข้าไปด้านในก็เริ่มเจอคนที่มาเข้าฉากร่วมกัน สมาคมเอ็กซ์ตร้าเราเป็นมิตรกลมเกลียวกันมาก เจอที่ไหนแวะทักทายกันตลอด
                เหมือนผู้หญิงกลุ่มนี้ไง เกาะแขนซ้ายขวาเอาหน้าอกตู้มๆ ถูไถจนน่าหมันไส้ ฉันกลายเป็นคนเดินตามหลัง ส่งสายตามองเค้าจากมุมนี้เห็นความร่าเริง อัธยาศัยดีเจ้าคารมหยอกล้อเล่นกับสาวทุกคนอย่างเป็นกันเองตัวเองก็ไม่ได้พิเศษอะไรนิน่า เค้าแค่สงสารจึงช่วยเหลือ เราแค่สนุกกันตามที่ร่างกายเรียกร้องก็เท่านั้นเอง
                ฉันแยกตัวออกมาซื้อคูปองและเลือกซื้ออาหารบรรเทาความหิว แสร้งทำเป็นลืมไปว่าเรามาด้วยกัน ตรงนี้ยังมีคนรู้จักอีกตั้งเยอะหันไปคุยกับคนอื่นก่อนก็ได้ ก็เค้าบอกเองนิว่า
                "ไม่มีแฟนก็ดี ชีวิตอิสระดี"
                นายคงชอบอิสระซินะ งั้นฉันก็จะอยู่แบบเพื่อนนี่แหล่ะ นายได้ไม่อึดอัด ปรึกษาตัวเองเสร็จเรียบร้อยก็เริ่มยิ้มได้หน่อย "แอ้ม..แอ้ม" เสียงเรียกดังมาจากด้านหลัง ไม่ต้องหันไปดูก็จำได้ดีว่าเป็นเสียงใคร
                "อ้าว!! เอ็มมาด้วยหรอ" หนุ่มหล่อลุคเกาหลีดีกรีนายแบบหน้าใส เดินเข้ามากอดคอฉันทันที เวลาคุยกับเอ็มต้องเงยหน้ามองคนสูงกว่ามาก หรือไม่เอ็มก็จะโน้มตัวลงมากระซิบซะเอง
                "พี่เค้าโทรตามเรามาเล่นบทน่ะ" เอ็มตอบเสียงใส โยกหัวฉันอย่างเบามือ แถมช่วยยกอาหารไปวางไว้ที่โต๊ะอีกด้วย ก้าวขาสั้นๆ ตามหลังคนตัวสูงใจดีอย่างว่าง่าย ความจริงแล้ววันนี้ไม่อยากมาเลย ทั้งเพลียทั้งเจ็บเสียดไม่สบายตัว แต่เพื่อเงินจึงต้องอดทน กั๋มหันมาสบตานิดหนึ่งแล้วเดินเข้ามารวมวงด้วย คนอัธยาศัยดีแบบกั๋มคุยได้ทั้งผู้หญิงผู้ชาย แป๊บเดียวกั๋มกับเอ็มก็ต่อกันติด คุยกันถูกคอเหมือนรู้จักกันมานาน กลายเป็นฉันมองสองคนนี้ตาปริบๆ อีกแล้ว
                "เจอกันในกองนะ พี่เค้าโทรมาตามแล้ว"
                "แอ้มเอาขนมอะไรไหม เดี๋ยวเอ็มแวะซื้อไว้ให้"
                ฉันส่ายหน้าปฏิเสธ แต่ก็รู้ว่าเอ็มต้องซื้อขนมติดไว้ให้อยู่แล้ว ทำไมนะ..ผู้ชายคนนี้ถึงรู้ใจฉันทุกอย่าง ตรงนี้เหลือเพียงกั๋มกับฉันที่เงียบใส่กันและเกมส์จ้องตาของเรา
                "เสน่ห์แรงนะเนี่ย แล้วบอกว่าไม่มีแฟน"
                "ไม่ใช่ซะหน่อย นั้นเพื่อนกัน"
                "เพื่อนหรอ เพื่อนแบบกั๋มหรือเปล่า"
                "..."
                "ไม่ตอบ!! ก็ดีไว้ค่อยเคลียกันคืนนี้"
                "เพื่อนแบบคอยบอกงานกันน่ะ อยู่วงการนี้ไม่มีเพื่อนก็ตกงานซิ"
                ทำไมนะฉันรอให้ถึงคืนนี้ไม่ไหว อยากพูดมันออกไปตอนนี้เลย แววตากดดันของคนตรงหน้ากับน้ำเสียงสบายๆ พูดคำกำกวมเหมือนจะหึงแต่ก็ไม่ใช่ กำลังทำให้ฉันปั่นป่วน ใจเต้นรัวรู้สึกเจ็บแสบตามรอยดูดที่เค้าฝากไว้ เดี๋ยวนะ...นี่ร่างกายฉันกำลังจดจำทุกสัมผัสของเค้าหรอ
                "ใจลอยไปไหนเนี่ย" เสียงกั๋มแว่วมาในโสตประสาท เค้าชอบลูบเส้นผมทำยังกับหัวฉันยุ่งเหยิงมาก ปลายนิ้วเกลี่ยเส้นผมให้เข้าทรง แต่ทำไม..รู้สึกเหมือนเค้าสัมผัสที่หัวใจ
                "เปล๊า!!" หน้าเห่อร้อนปฏิเสธ แว๊บหนึ่งในใจเห็นภาพที่เค้าอยู่บนตัวฉัน ดวงตาสะกดให้ต้องมนตร์ ริมฝีปากบางที่สอนวิชาเสียวให้ทั้งคืน พลังงานทั้งหมดวิ่งพล่านทั่วร่างแล้วมารวมตัวประท้วงอยู่เนินท้องน้อย เสียววาบจนฉันเผลอมือลูบอย่างสงสัย หรือจริงๆ แล้ว
                ...เราชอบเค้า
                ฉันสูดลมหายใจเข้าลึกๆ และผ่อนยาวๆ พยายามปรับอารมณ์ตัวเองให้ปกติ กั๋มออกปากชวนให้กลับไปที่รถ เพราะใกล้ได้เวลาที่พี่เค้านัดแล้ว กระเป๋าถือถูกกั๋มรวบไปถือให้โดยไม่ได้เอ่ยปากขอ ฉันเดินตามช้าๆ เพราะยังงงอยู่...อะไรของเค้านะ คุยกันอยู่ดีๆ แล้วนี่เป็นอะไรอีกเนี่ย ทำหน้านิ่งเหมือนฉันทำอะไรผิด


                ร่างถูกจับใส่รถแต่แทนที่มันจะขับต่อไปอีกหน่อยก็จะถึงโลเกชั่นแล้ว รถกลับแล่นไปอีกทาง ตึกสูงระรานตาน่าสงสัยว่า..เรามาแถวนี้ทำไม? คุณพนักงานเปิดรั้วโปกรถให้กั๋มขับขึ้นลานจอดรถด้วยท่าทีนอบน้อม ทั้งที่สภาพรถเก่าๆ ของกั๋มจอดหน้าห้างหรูยามยังไล่เลย แต่นี้อะไรตึกไฮโซโรงแรมหรูกลับเปิดรับเค้าอย่างง่ายดาย เราขับวนตามทางลาดเอียงหน้ากลัวขึ้นมาเรื่อยๆ
                กั๋มถอยรถเข้ามุมมืด เหลือบหน้ามายิ้มนิดหนึ่งแล้วทำในสิ่งที่ฉันพยายามทำให้มันปกติ มือแกร่งเข้าฉวยลูบเนินท้องน้อยอย่างรู้ทัน ร่างฉันสั่นแทบทันทีที่มือนั้นสัมผัส ตัวเจ้าของร่างเองยังตกใจ ทำไมเค้ามีอิทธิพลกับเราขนาดนี้นะ
                "จะ..จะทำอะไร" คำถามแรกหลุดจากปากฉันทันที แล้วตามด้วยเสียงอู้อี้ไม่มีความหมาย
                กั๋มบดริมฝีปากเร้าร้อนจนวูบไหวไปทั้งตัว มือสองข้างพันพัวเหมือนผลักไส้ยิ่งไม่สามารถต้านทานได้ ปัดป้องข้างบนมือซุกซนกลับลูบไล้ลงล่าง ปัดป่ายข้างล่าง มือนั้นกลับอ้อมไปด้านหลัง ฉันจนใจจะขัดขืนทำได้แค่เรียกกั๋มเสียงแผ่ว ไปกล้าระบายออกมาว่าตัวเองรู้สึกดีขนาดไหน
                "พอแล้ว!! เดี๋ยวคนเห็น" ฉันพยายามพูดขัด กั๋มซุกไซ้ซอกคอลากลิ้นลงล่างจนเสื้อที่เคยมิดชิดถูกถกขึ้นมากองเนินอก โชว์บราสปอตที่ใส่ปังสายตาไว้ ปลายนิ้วกั๋มยังไม่ละความพยายามเกลี่ยคลึงปลายยอดจนตุ่มไตแข็งค้าน เค้าเงยหน้าขึ้นมายิ้มก่อนจะปลิ้นเอาส่วนยอดออกให้พ้นขอบบรา ปากกั๋มประกบดูดเม็ดยอดอกอย่างเอาแต่ใจ ตอนนี้เสียวซ่านไปทั่ว ขาที่เคยหนีบชิดกันไม่ให้อีกฝ่ายล้วงเข้ามาเริ่มคลายตัวอ้ารับมือแกร่งมาทักทาย


                "ถอดกางเกงในออกให้หน่อยซิ" กั๋มเอ่ยปากขอในสิ่งที่ฉันอยากปฏิเสธ แต่มือกลับยอมดึงสองขอบข้างกางเกงตัวจิ๋ว ยกปั้นท้ายปล่อยมันลงไปกองที่หน้าขา สภาพฉันตอนนี้ติดเรทสุดๆ เสื้อยืดเอวลอยปลิ้วออกจากร่างไปแล้ว เหลือเพียงบรายังเกาะอยู่แน่น แต่ก็ปลิ้นยอดอกให้แข็งสู้ลมแอร์ กระโปรงสั้นบานสยายปิดส่วนสงวนไว้หมิ่นๆ มีมือกั๋มล้วงขยับเขี่ยเม็ดเสียวให้ไม่หยุด ฉันจิกมือลงกับเบาะที่นั่งระบายความเสี่ยว ใกล้แล้วอีกนิดเดียวร่างก็จะเลิกดิ้นพล่านแบบนี้

ก๊อก! ก๊อกๆๆ
                เสียงเคาะกระจกฝั่งที่ฉันนั่งดังขัดจังหวะ ตกใจมองเห็นเป็นผู้ชายคนหนึ่ง กั๋มคว้าเอาฉันไปกอดซบแนบอก คงอยากปิดใบหน้าไม่ยอมให้อีกฝ่ายเห็นสภาพตอนนี้ก่อนลดกระจกลง
                "แป๊บนึ่ง กูใกล้เสร็จแล้ว"
                ทั้งกลัว ทั้งงง ทั้งอยากตีกันมั่วไปหมด...นี่เค้าทำบ้าอะไรเนี่ย เราจ้องตากันเนิ่นนาน ราวกับอยากพูดคุยออกมาแต่เวลามีจำกัดทำให้เราเลือกบดจูบแทนคำอธิบาย มือเล้าโลมเข้าออกในช่องสุข ขยับรัวถี่จนฉันครางเสียงหวานรอดไรฟันดังลั่นรถ เค้าสนองทุกสัมผัสจนร่างฉันเกร็งปลดปล่อย รอยยิ้มร้ายบนหน้ากั๋มเคลือบแฝงไว้ด้วยความซะใจ ที่ทำให้ฉันคลั่งได้ขนาดนี้

                "ชอบใช่ไหม" คำถามที่ไม่ต้องการคำตอบ มือหนาจัดแจงดึงเสื้อผ้าทุกชิ้นให้เข้าที่ ไอ้เสื้อที่ปลิวหลุดไปเค้าก็คว้ามาสวมใส่ให้ ตอนนี้สภาพฉันกลับมาปกติแล้ว แต่ในใจนี่ซิจะให้รู้สึกยังไง...เราเพิ่งเกี่ยวกันในที่จอดรถนะ
                กั๋มลงจากรถไปคุยกับผู้ชายคนนั้น คงจะเป็นเพื่อนนะเห็นยืนสูบบุหรี่พ้นควันออกมาทั้งคู่ ทั้งที่ป้ายก็เขียนอยู่ว่าห้ามสูบบุหรี่ คุยกันแป๊บเดียวเค้าก็กลับเข้ามา "แอ้ม คืนนี้พาเพื่อนไปดื่มที่ห้องนะ" แล้วฉันจะว่าอะไรได้ก็เค้าเจ้าของห้อง หรือว่าเราควรกลับไปนอนห้องตัวเองดี ไม่มีเหตุผลอะไรให้ค้างนี่แล้วนิ
                "เดี๋ยวแอ้ม กลับหอก็ได้" ฉันตอบกลับ กั๋มเงียบไปพักนึ่งแล้วก็พูดขึ้นมาว่า
                "ไม่เอา เราต้องเคลียกันต่อ" น้ำเสียงนิ่งเรียบก็จริง แต่แววตาเจ้าเล่ห์อ่านกินสื่อความหมายว่าเค้าอยากเคลียเรื่องอะไร ทำให้ฉันเลือดสูบฉีดหน้าเห่อร้อน
                กว่าจะมาถึงโลเคชั่นเราก็เลทไปสิบนาที พี่โมเดลลิ่งโทรจิกตลอดทาง ก็มันผิดแผนนิน่า ไม่ได้แพลนไว้ว่าจะไปจัดกันที่ลานจอดรถก่อนนิ คำด่าของพี่เค้าตอนนี้ฟังเพลินหูเลย สงสัยเป็นเพราะฉันอารมณ์ดีร่างกายผลิตโฮโมนแห่งความสุขออกมาบ่อยขนาดนี้
                เอ็มแต่งหน้าทำผมจนหล่อเนียน ยิ่งแสงไฟสลัวยิ่งขับให้หน้าขึ้นเงาเด้งกว่าผู้หญิงตัวเมนซะอีก นิสัยเอ็มขี้อ้อนแอบมีลักษณะแบบเคะในนิยายที่ฉันชอบอ่าน บางทีก็เผลอคิดว่ามีเพื่อนสาวมากกว่าเพื่อนหนุ่ม
                "แอ้ม!! นั่งด้วย" โซฟามีคนนั่งเต็มพื้นที่ แทบจะเบียดก้นยัดกันไม่ลงอยู่แล้ว เอ็มยังอยากมานั่งรวมกับพวกเราอีก
                "จะนั่งยังไง พื้นไหม" ฉันแกล้งพูดไปอย่างนั้นเอง ไม่ได้คิดจะให้นั่งจริงๆหรอก หมั่นไส้สายตากั๋มที่ปากยังคุยจ้อกับสาวกลุ่มนั้นแต่ยังแอบส่งสายตามองทุกความเคลื่อนไหวของฉัน
                "แอ้มลุกดิ เราก็ได้นั่งแล้ว" ทางออกที่เอ็มเสนอทำเอาฉันขำ ก็จริงของเค้า จึงยอมสละที่ตัวเองให้อีกฝ่ายแต่โดยดี แทนที่เอ็นจะนั่งเฉยๆ กับรั้งร่างฉันไปไว้บนตัก
                "เฮ้ย!! ไม่เป็นไรเรายืนได้" ฉันรีบปฏิเสธจะชันตัวลุก เอ็มรีบสอดแขนมากอดเอวไว้แน่น เออ!! เดี๋ยวนี้เป็นตุ๊กตาหรือไง...คนนั้นกอดทีคนนี้กอดที แต่อ้อมกอดนี้กลับไม่ทำให้ฉันรู้สึกอะไรเลย
                ไม่ตื่นเต้นไม่มวนท้องไม่เห่อร้อน ไม่เหมือนที่รู้สึกกับกั๋มเลย ชัดเจนแล้วซินะ...ว่ารู้สึกแค่กับกั๋มคนเดียว
                ...ทำไมรวดเร็วอย่างนี้นะ ความรัก
                ทั้งที่เราเพิ่งเจอกันได้ไม่กี่วันเอง แล้วถ้าเค้าถามฉันอีกครั้ง ฉันจะตอบยังไง ยิ่งโกหกใครไม่เป็นด้วยซิ แต่ถ้าตอบตรงๆ เราจะเป็นเหมือนผู้หญิงตรงหน้าเค้าหรือเปล่า ผู้หญิงรอบๆ ตัวเค้า ที่เค้าพูดคุยยิ้มให้ใกล้ชิดแต่ไม่ได้สำคัญอะไรเลย
                "แอ้ม เป็นไรใจลอย"  หืม!!สะดุ้งตัวตามเสียงกระซิบคุ้นหู
                "เปล่า!! เราแค่ชอบ" สะดุ้งแล้วเผลอพูดความในใจออกมางั้นหรอ แต่คนตรงหน้าเป็นเอ็มนะ ไม่ใช่กั๋ม!! ยัยโง่เอ้ย จะทำไงดีล่ะเนี่ย?
                "เราชอบเพลงนี้นะ เลยตั้งใจฟัง" แถไปเรื่อย หน้าเจื่อนของฉันกำลังทำให้เอ็มยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ไม่อยากหันไปดูเลยว่ากั๋มจะทำหน้ายังไงอยู่ตอนนี้ เพลงสากลที่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันเป็นของศิลปินคนไหนร้องว่าอะไร ช่วยทำให้ฉันกลับมาคุยได้ปกติ แอบมองกั๋มก็ยังเหมือนเดิมไม่มีสัญญาณอะไรบ่งบอกว่าเค้าไม่พอใจ

@in car
                "แอ้ม เราแวะซื้อไรไปทำกินกันไหม"
                เลิกงานกั๋มชวนแวะซุปเปอร์มาร์เก็ตซื้อของสด ของใช้อีกหลายอย่าง แถมคะยั้นคะยอให้ฉันซื้อของใช้พวกแชมพู,โฟมล้างหน้าที่ใช้ประจำอีกด้วย ทำอย่างกับจะอยู่ไปตลอดงั้นแหละ แต่นิสัยผู้หญิงอะนะ ถ้าบอกให้เลือกได้ตามสบายก็ต้องหยิบซิคะ เลือกของใช้จำเป็นนิดหน่อยเพราะสิวขึ้นง่ายมาก ไม่ใช้โฟมตัวนี้หน้าพังแน่ แถมติดแป้งเด็กมากๆ หยิบแค่นี้ไม่กี่บาทหรอก ทั้งที่เกรงใจแต่ก็แอบเข้าข้างตัวเองว่ากั๋มคงจ่ายได้สบายมาก
                กั๋มเดินเลือกอีกหลายอย่างจนเต็มรถไปหมด ของกิน,นม,ผลไม้,น้ำอัดลม, เบียร์ รวมถึงน้ำรสต่างๆ ที่ฉันชอบ กั๋มก็หยิบให้อีกหลายแพ็ค เดินจนเมื่อยแล้วเราก็มาคิดเงิน คุณพนักงานดีดแป้นจนครบทุกรายการแจ้งยอดที่ชำระเกือบสี่พันสำหรับการซื้อของครั้งนี้ขนาดไม่รู้จะซื้ออะไรนะเนี่ย กั๋มหน้านิ่งไม่ตกใจ ผิดกับฉันนั้นมันค่าแรงทั้งเดือนเลยนะ แอบเปิดกระเป๋าตัวเองอยากช่วยจ่าย แต่กั๋มชิงตัดหน้ายืนบัตรให้พนักงานซะก่อน
                หน้ายิ้มหวานของคุณพนักงานเจื่อนลงเล็กน้อยรวมทั้งฉันด้วย เพราะบัตรที่กั๋มส่งให้มันโคตรจะไม่ธรรมดานะซิ ทั้งโลกบัตรใบนี้มีคนถืออยู่ไม่ถึงหมื่นคน ไม่รวยจริงเลิศจริง ไม่ได้ใช้มันแน่
            ถามว่าทำไมถึงรู้? เพราช่วงหนึ่งเคยทำพาร์ทไทม์เป็นพนักงานห้าง เราต้องท่องโปรโมชั่นของแต่ละบัตรและความหมายของบัตรบ่งบอกสถานะการเงินของแต่ละคนด้วย บัตรที่กั๋มส่งให้เค้าเรียกว่า American Express Centurion Card หรือเราเรียกกันว่า เครดิตดำ



          

ตามข้อมูลที่รู้คือ
-          ไม่จำกัดวงเงิน
-          ไม่ใช่ใครอยากมีก็ได้ ต้องถูกเชิญไปสมัครเท่านั้น
-          ต้องไม่มีประวัติเสียด้านการเงิน
-          มีค่าใช้จ่ายต่อปีประมาณ 750,000$ หรือคิดเป็นเงินไทย 25,125,000 บาท
-          ค่าธรรมเนียมออกบัตร 25,000$ หรือคิดเป็นเงินไทย 837,500 บาท 
            พนักงานคิดเงินส่งบัตรคืนมือสั่นนอบน้อมเป็นพิเศษ เพราะเราถูกสอนมาว่าให้ดูแลลูกค้าทุกระดับแต่ถ้าเป็นลูกค้า VVIP แบบนี้ บางคนแทบจะเข็ญรถเดินตามเลย ลูกค้ามีหน้าที่ชี้นิ้วอย่างเดียวพอ ฉันยิ้มเจื่อนให้สิ่งที่เพิ่งรู้ใหม่ แอบรู้สึกหน่วงเพราะถ้าเค้ารวยจริงๆ เราก็ยิ่งห่างกันไปอีก
                "เป็นอะไร เงียบนานไปแล้วนะ รำคาญกั๋มหรอ" คำถามหยอกเย้าสไตล์เค้าเริ่มปลุกให้ฉันกลับมาอยู่โลกความจริง
                "เปล่า คิดอะไรไปเรื่อยน่ะ" ตอบโดยไม่ได้มองหน้า ถนนเวลาสองทุ่มกว่าๆ รถติดจนเห็นแสงไฟเป็นริ้วยาวมองแล้วได้หลายความรู้สึก บางทีก็อึดอัดเพราะไฟสีแดงอร่ามกระจายอยู่ตรงหน้า บางทีก็สบายตาตามไฟสีนวล



          "ซื้อของมาตั้งเยอะ เราทำอะไรกินกันดีล่ะ แอ้มทำกับข้าวเป็นไหม" กั๋มยังชวนคุยต่อ ฉันส่ายหน้าได้แต่ตอบว่า
                "เป็นดิ แต่มาม่านะ อย่างอื่นทำไมเป็นเลย" ฉันตอบยิ้มๆ ชีวิตเด็กหออย่างเรา อาหารหรูสุดก็มาม่านี่แหละ อิ่มง่ายสบายกระเป๋า ไม่มีอารมณ์เดินซุปเปอร์หาอะไรมาทำกินเองหรอก
                "งั้นกินฝีมือกั๋มแล้วกัน เดี๋ยวทำให้กินเอง" เราเลี้ยวรถเข้าซอยมาแล้ว แต่อยู่ๆ รถก็ดับไป
                "สงสัยรถติดนานไปหน่อย รถเก่ามันก็งอแงเป็นธรรมดา" กั๋มแสดงท่าทีปลง เหมือนคุยกับตัวเองแต่จงใจให้ฉันได้ยินด้วย
                "ทำไงดีละ อีกนิดหนึ่งก็ถึงแล้วเนี่ย" ฉันก็อยากช่วยนะ แต่ไม่รู้ว่าต้องทำยังไงดี
                "งั้นแอ้มลงไปเข็ญรถหน่อยได้ไหม" กั๋มทำหน้าเกรงใจ ที่ใช้ให้ผู้หญิงลงไปเข็ญรถ
                "ได้ดิ เรื่องออกแรงเราถนัด" ลงไปออกแรงเข็ญเจ้ารถกระป๋องรุ่นเก่า เหล็กหนาน้ำหนักเยอะดันทีแทบไม่ขยับ แต่ก็พยายามออกแรงจนเสียงเครื่องสตาร์ทดังรอดออกมาพร้อมควันดำพุ่งโขม่งพุ่งใส่หน้าฉันเต็มๆ
                "อีกนิดหนึ่งแอ้ม ออกแรงอีกหน่อย" น้ำเสียงกับแววตากลมใสเคลือบไว้ด้วยความพอใจ
                "เออ!!" ตวัดเสียงตอบ แต่ก็ยอมออกแรงดันแต่โดยดี แล้วเสียงเร่งเครื่องก็ดังขึ้น สภาพฉันตอนนี้มอมแม้มมาก กั๋มขำรอยเขม่าควันดำๆ บนหน้า ยังไม่พอปลายนิ้วเรียวยังช่วยปัดให้มันเปื้อนทั่วแก้มอีกด้วย
                "ปัดแก้มสีนี้ ก็สวยดีนะ" รอยยิ้มเหยียดเย้ยกับแววตาหยอกล้อนี่อะไร นายตั้งใจแกล้งหรอ
                "ตั้งใจแกล้งกันใช่ไหมเนี่ย นายนี่มันร้ายจริงๆ" ฉันหงุดหงิดไม่สบอารมณ์เมื่อจับได้ว่ากั๋มแกล้ง ทุกอย่างเป็นแผนของนายบ้านี่
                "เออ..ขอโทษ!! ก็อยากเงียบทำไมล่ะ ถามอะไรก็ไม่ตอบ" เค้ารีบไล่ให้ฉันไปอาบน้ำสระผม ส่วนตัวเองจะเป็นพ่อครัวหนุ่มทำอาหารให้ สักพักเพื่อนที่นัดไว้ก็มาถึง
                "แอ้ม เปิดหน่อย"
                เสียงเคาะประตูห้องน้ำกับเสื้อผ้าที่กั๋มยื่นส่งมาให้ คงไม่อยากให้ออกไปเจอเพื่อนสภาพผ้าเช็ดตัวผืนเดียวซินะ แต่เสื้อผ้าที่นายเลือกมาเนี่ย มันโป๊เกินไปหรือเปล่า เสื้อสายเดียวคว้านคอลึกโชว์แผ่นหลัง กับกางเกงผ้าขาสั้นเอวสูง มันเป็นเซตที่จัดลงตัวดีแต่คงเซ็กซี่มาก ถ้าอยู่บนร่าง 38-26-34 ของฉัน มองตัวเองในกระจกตอนนี้ยังรีบเบือนหน้าหนีเลย



                ฉันเดินออกมาจากห้องน้ำด้วยความไม่มั่นใจ สายตาเพื่อนกั๋มที่มองมาไม่ต่างจากเสือจ้องจะเขมือบเหยื่อ กั๋มตาค้างไปนิดหนึ่งแล้วก็แสร้งยิ้มเจื่อนกลบเกลื่อน ยืนเป่าผมจนเสร็จเรียบร้อยสักพักเสียงกั๋มก็เรียกให้ไปนั่งร่วมวงด้วย
                มือตบตักเหมือนเคย เรียกให้ฉันขึ้นไปนั่งบนนั้นในเวลานี้เนี่ยนะ ไม่อายเพื่อนตัวเองหรือไง ยังนิ่งไม่ยอมขยับจนอีกฝ่ายเอ่ยปากเรียกอีกครั้ง รอบนี้เดินไปหาแต่โดยดีหยุดอยู่ข้างๆ แสร้งทำเป็นไม่เข้าใจ
                "มานั่งบนตักนี่" พูดออกมาตรงๆ อย่างนี้ ใจก็สั่นแย่ซิ ทิ้งน้ำหนักตัวลงบนตักกั๋มหันหน้ามาเผชิญกับเพื่อนเค้า สองแขนแกร่งสอดมาโอบกอดไว้ ใช้หลังฉันพิงแนบหน้าเหมือนคนง่วงนอนเต็มที่ แต่ยังเจ้าคารมคุยเล่นเหมือนเดิม
                แก้วเบียร์ในมือถูกยกป้อนใส่ปาก ฉันแค่จิบๆ แต่อีกฝ่ายกลับให้ดื่มได้ตามสบายเราได้สนิทกันเร็วๆ เหตุการณ์ในวงเหล้ามักเป็นไปตามกฎของความเมาเสมอ ร่างฉันถูกกั๋มคลอเคลียหอมไรผม เรื่อยลงมาจนถึงข้างแก้ม เชิดปลายคางให้รับจูบรสเปรี้ยวที่กั๋มมอบให้ เราจูบกันต่อหน้าเพื่อนชายอีกคน มือสองข้างคลึงเต้าอวบอย่างมันมือ ฉันอยากจะขัดขืนแต่ตัวเองก็ตื้นเต้นกับมือนั้น
                "ชอบกั๋มไหม" คำถามน่ากลัวดึงสติฉันกลับมาอีกครั้ง นั่งนิ่งไม่ตอบอะไรออกมา มือแกะแขนแกร่งออกจากเอว ตอนนี้อยากลุกหนีไปก่อนไม่อยากรับรู้ว่าตัวเองทำอะไรไปบ้าง กั๋มรู้ทันความคิดฉันทุกอย่างล็อคเอวไว้แน่นไม่พอ มือยังบีบเต้าแฝดจนเจ็บมากกว่าเสียว ปากประกบคลึงสอดลิ้นสากมาทักทาย ช่างหยาบโลนน่าสะอิดสะเอียนกว่าทุกครั้งที่เราเคยสัมผัสกัน


                "กั๋ม ปล่อย!!" เสียงพร่าน้อยใจที่เค้าทำแบบนี้ต่อหน้าคนอื่น ทำให้ฉันอยากผละหนีแทนที่อีกฝ่ายจะหยุด กับส่งสายตาให้เพื่อนรวมวงฟัดร่างฉันด้วย เพื่อนกั๋มเข้าจับขาล็อคให้แยกออกจากกัน สอดตัวเองมาคั้นไว้ ผู้ชายสองคนล็อกร่างฉันให้อยู่นิ่ง กั๋มล็อกแขนสองข้างไม่ยอมปล่อย อีกคนพยายามรั้งกางเกงฉันให้ออกจากร่าง
                "จะทำอะไร ปล่อยนะ" ฉันตวาดสุดเสียง ร่างสะดุ้งสุดตัวเพราะลิ้นสากแทงสะกิดที่เม็ดกลางตัวย้ำๆ ไม่ได้เตรียมใจว่าจะมาเจอเรื่องเลวร้ายแบบนี้
                 "ปล่อยนะ!!" ออกแรงดิ้น สะบัดก้นหนีปลายลิ้นที่รู้จุดอ่อนฉันดีทุกอย่าง ลิ้นเลียอยู่ปากทางอุ่น สอดส่วนปลายลิ้นเข้าไปกวาดต้อนด้านให้ ในโพลงเต้นถี่ต่อต้านแต่ก็เสียวซ่านพอกัน ฉันเลือนลางกับคนตรงหน้าเพราะมัวแต่หลับตาสะกดอารมณ์ไม่ให้รู้สึกดีไปกับความเลวร้ายนี้
                "ชอบกั๋มหรือยัง" คำถามเดิมกระซิบข้างหูอีกครั้งนายจะอยากรู้ไปทำไม
                "ไม่ตอบมันก็ไม่หยุด จะให้มันเลียทั้งตัวเลย" กั๋มยังขู่ต่อ ทำไมฉันรู้สึกรังเกียจถ้าลิ้นนั้นจะเลยมาถึงส่วนอื่นในร่างกาย แต่ถ้าเป็นแค่เม็ดกลางตัวก็ไม่เท่าไร หรือเพราะจุดนั้นคนเราควบคุมไม่ได้นะ
                ฉันออกแรงดิ้นขัดขืน ไม่อยากตอบและไม่ยอมให้คนอื่นล่วงเกินมากไปกว่านี้ "ปล่อย!!" ยิ่งเสียงดังยิ่งยั่วยุให้กั๋มเอาแต่ใจมากขึ้น เสื้อกล้ามขาวบางถูกมือกั๋มฉีกออกจนกลายเป็นเศษผ้า บราดำเด้งตัวตามแรงหายใจ
                "ว่าไง จะตอบไม่ตอบ"
                เห็นสายตาเพื่อนกั๋มที่จ้องเจ้าเต้าแฝดแล้วขยักเขย่งน่ารังเกียจมาก มือเค้าเริ่มลูบจากเนินสามเหลี่ยมขึ้นมาท้องน้อย นิ้วกรีดแหวกร่องสวาทเปิดสองกลีบให้แยกออกจากกัน ลิ้นสะกิดลงปุ่มเดิมย้ำๆ จนฉันบิดตัวกรีดเสียงคราง ตัดกับเสียงฟัดปากใส่จุดสงวนดังเหมือนคนหื่นกระหาย
                "พอแล้ว!! เราชอบกั๋ม ชอบ..ได้ยินไหม" ฉันพยายามครางให้เป็นคำ ตามองแค่กั๋มไม่ยอมลดสายตาลงมองที่หว่างขา กั๋มยิ้มเย้ยพอใจที่ฉันยอมพูดคำนี้ออกมา แต่ยังไม่สั่งให้เพื่อนหยุดสักที
                "ก็บอกชอบแล้วไง หยุดได้แล้ว" พิงหลังลงกับอกกั๋ม เริ่มไร้แรงต่อต้านเสียงกระเส่าครางหวานกับสัมผัสที่คนอื่นเสิร์ฟความเสียวให้
                "ชอบจริงๆ นะ" กั๋มยังเล่นลิ้นถามอะไรที่ไม่น่าจะอยากรู้ตอนนี้ เค้าพอใจที่เห็นฉันกำลังทรมานสมองตีรวนมั่วไปหมด
                "อืมม.. ชะ ชอบ" คำครางตอบ เพราะอารมณ์วูบวาบใกล้ปลดปล่อยเต็มทีแล้ว ฉันไม่ได้อยู่กับปัจจุบันที่มีคนอื่นเสิร์ฟลิ้นร้อนให้ แต่ฉันอยู่กับจินตนาการว่าทุกสัมผัสคือกั๋ม
                "งั้นก็ผลักหัวเพื่อนเราออกซิ"

               
                คำสั่งเล่นแง่อะไรเนี่ย เค้าก็น่าจะรู้ว่าอีกนิดเดียวฉันก็จะเสร็จแล้ว แต่กลับสั่งให้แสดงความชอบโดยการผลักไส้ออกไป เค้าจ้องตาท้าทายเหมือนรู้ทันทุกอย่าง แล้วความชอบก็มาก่อนความอยาก ฉันใช้สองมือผลักหัวที่จมกับหว่างขาออกไปแรงๆ มือดันไม่ยอมให้เค้าเข้ามาทำแบบเดิมอีก ภายในร่างถูกเติมเต็มจนใกล้เข้าที่เต้นประท้วงเร้าจนร่างฉันสั่นไปหมด
                "ขอบใจโว้ย ไว้วันหลังกูเลี้ยงเหล้ามึง" กั๋มบอกเพื่อนแถมสั่งให้ล็อกประตูให้ด้วย แล้วตอนนี้ฉันควรทำยังไงกับตัวเองดี ทั้งอยากทั้งอายทั้งรู้สึกแย่กับเหตุการณ์เมื่อกี้ กั๋มอุ้มร่างฉันมานอนบนเตียงห่มผ้าให้อย่างเอาใจ ลมหายใจยังหอบถี่ปากสั่นไร้ความอยากรู้ใดๆ อีก ตอนนี้ขอสงบอารมณ์ก่อนจะลุกขึ้นไปฆ่านาย
                ...ไอ้โรคจิต





EP.5
Heart Attack
 Gum's Part
 ไลน์!! ไลน์!!
@อรัญ
กูกำลังไปหามึงนะ  Read 21.44

 Read 21.48  มาทำไม กูไม่สะดวก
 สัสเหอะ  Read 21.50
กูอยู่ข้างล่างแล้วเนี่ย  Read 21.50

 Read 21.52  วันหลังเหอะมึง วันนี้กูไม่สะดวก

 
ติดหญิงหรอวะ  Read 21.52

 Read 21.55  เออ ประมาณนั้น
 ระวังนะมึง  Read 21.57
เพิ่งเจอกันเสือกพามาห้องเนี่ย  Read 21.57
ระวังเค้าจะได้แล้วทิ้ง  Read 21.57

                ผมกลัวว่าแอ้มจะเป็นอย่างที่เพื่อนผมว่า ขนาดเข็ดกับผู้หญิงแล้วนะคิดอยากสนุกไปวันๆ ไม่อยากจริงจังกับใคร แต่กับแอ้มผมรู้สึกพิเศษ เธอแตกต่างผมเองก็บอกไม่ถูกแต่เวลาเห็นเธออยู่กับคนอื่น มันทำให้ผมคลั่งแล้วอยากครอบครองไว้คนเดียว
                ทุกอย่างเป็นไปตามแผนที่วางไว้ ที่ให้ไอ้อรัญร่วมทดสอบผู้หญิงคนนี้ด้วย ถ้าเธอเป็นคนอย่างว่าจริงคงได้สนุกกันแน่ เธอกับดิ้นคัดค้านไม่ยอมแม้ว่าร่างจะสั่นตอบสนองลิ้นสาก ปากกลับพร่ำปฏิเสธ เธอคงทรมานมากจริงๆ แต่ผมกลับมีความสุข สำหรับผมแล้วผู้หญิงคนนี้อ่านง่ายมาก ผมดูรู้ว่าเธอชอบแต่ทำไมไม่ยอมรับออกมา ในแววตาของเธอมีภาพผมฉายชัดอยู่ในนั้น เธอมองผมตลอดไม่ชายตามองอรัญเลยสักนิด ยิ่งทำให้ผมแน่ใจว่าเธอไม่ได้เป็นแบบนั้น 

            วิชาลิ้นร้อนของอรัญถ้าเบิร์นให้ผู้หญิงคนไหน รับรองติดใจครางขอซ้ำแน่นอน มันเชี่ยวชาญเรื่องนี้ไม่มีใครเกินเลย แต่แอ้มยังปฏิเสธแถมกลั้นเสียงครางผมอดทนรอจนเธอใกล้เสร็จเต็มทีแล้วก็แกล้งต่อปากต่อคำให้เธอแสดงความชอบออกมา จังหวะที่เธอดันหัวอรัญออกจากจุดสงวนมือปัดป่ายไม่ยอมให้เข้าใกล้ เหมือนคำตอบว่าเธอเลือกผม ไม่ได้เลือกความใคร่

            อุ้มร่างที่เหลือเพียงบราสวยมานอนบนเตียงนุ่ม "โกรธหรอ" ผมถามแอ้มเสียงหยอกล้อ รู้อยู่แล้วว่าตอนนี้เธอกำลังสะกดกลั้นอารมณ์อยากแถมไม่พอใจด้วยที่ผมเล่นแรงขนาดนี้
                "ชอบจริงเปล่าเนี่ย" อยากได้ยินคำเดิมซ้ำๆ
                "รอบที่เท่าไรแล้วเนี่ย" แอ้มหงุดหงิด ไม่อยากตอบ
                "ก็อยากรู้...ชอบมากไหม ชอบตั้งแต่ตอนไหน" ผมซบหน้าลงเนินอกเธอแล้วพูดมันออกมาช้าๆ
                "จะตอนไหนล่ะ เราเพิ่งรู้จักกันไม่กี่วันเอง แล้วกั๋มจะคิดอย่างไง ถ้าคนอย่างเราบอกว่าชอบเธอ" แอ้มเสียงเครือ เริ่มน้อยเนื้อต่ำใจอีกแล้ว
                "..."
                "เราจะตัดใจ ให้เวลาเราหน่อยนะ"
                "ชอบแล้วชอบเลยซิ กั๋มไม่ได้ว่าอะไรสักหน่อย" ผมรีบห้ามความคิดตัดใจทำไมคำนี้ทำให้ผมเศร้าจัง
                "ได้หรอ ชอบมากๆ ชอบไปตลอดเลยได้หรอ" แอ้มเสียงใส ตอบกลับด้วยความดีใจ
                ยัยโง่เอ้ย...ไม่กล้าอะไรสักอย่าง แม้แต่คนที่ชอบยังไม่กล้าจะคว้าเอามาเป็นของตัวเอง เธอพลิกตัวขึ้นอยู่ด้านบนถามผมด้วยความดีใจว่าเธอสามารถชอบผมได้จริงๆ ใช่ไหม? ผิดกลับผมที่อยากรู้ว่า...เธอชอบผมจริงๆ ใช่ไหม? แววตาเราท้าทายกัน
                "จูบกั๋มซิ" ผมพูดยั่วเพราะตอนนี้อ่านใจเธอออกหมดแล้ว
                "อยู่กับของที่ชอบ ไม่อยากสัมผัสอยากสัมผัสบ้างหรือไง" คำถามลองใจของผม ทำให้เธอกดริมฝีปากมาบดชิมเนื้อปากย้ำๆ เธอชิมอย่างละเมียดละไม ค่อยบดคลึงไล่เลียริมฝีปาก ดูดเนื้อปากด้านล่างอย่างนุ่มนวลผละมาจูบซับเนื้อปากบน ลิ้นร้อนเลียเร้าจนผมวาบหวิวในหัวใจ
                "จูบต่อซิ" ผมร้องขอให้อีกฝ่ายเปิดเกมส์ตีตราจองผมบ้าง เธอซบหน้าลงซอกคอปลายจมูกสูดดมกลิ่นสาปหนุ่มของคนที่เธอชอบ สัมผัสนุ่มนวลที่เธอมอบให้ กระตุ้นหัวใจผมเต้นแรงจนแทบระเบิดออกมา เธอลากริมฝีปากลงล่างแวะขับเม้มเม็ดยอดอก เธอดูดชิมคำแรกแล้วร้องยี้ออกมาทันที่
                "อี้..เค็ม!! คนไม่อาบน้ำ" เสียงหวานหยอกเย้า แต่ก็ยอมย้ำปากลงที่เม็ดนิ่มจนแข็ง รู้สึกเธอจะชอบฟัดเม็ดยอดอกเป็นพิเศษ มือลูบไล้กล้ามท้องเร้าอารมณ์
                ผมรีบพลิกตัวขึ้นค่อมแทน หายใจหอบถี่จ้องตาคนด้านล่างด้วยความสับสน "อาบน้ำให้หน่อยซิ" ผมไม่รอให้เธอตอบ แต่กลับอุ้มเธอเข้าไปในห้องน้ำแทน

                แอ้มหน้าเปลี่ยนสี เธอคงงงว่าทำไมอยู่ๆ ผมก็รีบเปลี่ยนเรื่องมาต่อกันในห้องน้ำ ละอองน้ำจากฝักบัวปล่อยใส่ร่างเราจนผิวชุ่มชื้น เธอเบือนหน้าหนีไม่กล้ามองผมตรงๆ ฟองสบู่ในมือเรียวลูบไล้ทั่วร่างผม ลากจากซอกคอลงแผงอกอย่างใจเย็นแวะเน้นส่วนยอดอก แอบเห็นรอยยิ้มถูกใจที่เธอได้ดูแลมัน มือเรียวเล็กลูบสีข้างชวนเสียววาบ ขยับเข้ามาใกล้ใช้หน้าอกเกินตัวดันชิดตัวผม มือลูบไล้เนื้อก้นแผ่วเบา หน้าเขินอายไม่กล้ามองตามฝ่ามือที่กำลังเคลื่อนมาด้านหน้า เธอลูบไล้ไม่ยอมโดนส่วนแข็งของผม
                "ยังไม่ทั่วเลย ตรงนี้ด้วย" เป็นผมเองที่จับมือเธอไปวางไว้ที่แท่งแข็ง สองแขนผมสอดเข้ากอดเอวคอด เธอสอดแขนกอดผมกลับเช่นกัน อีกมือลูบไล้ฟองสบู่ใส่แท่งแข็งต่อเนื่อง ละอองน้ำละเอียดไล่ล้างสิ่งสกปรกจนหมด ร่างอุ่นเราเล้าโลมกันไม่ยอมหยุด ปากเชิดประกบจูบกันตามใจต้องการ ร่างผมอยากขับดันกระแทกส่วนแข็งใส่ร่างเธอเหลือเกิน แต่มันเหมาะสมแล้วใช่ไหม? เราไม่ได้คบกันแค่เซ็กใช่หรือเปล่า ผมยังมีปมกลัวเธอจะรับไม่ได้
                ผมดันร่างแอ้มหันหน้าเข้ากำแพง สอดส่วนแข็งเข้ากับร่องบั้นท้าย ใช้เนื้อขาหนีบมันไว้ให้ร่างสองเราได้เสียดสีกันอยู่อย่างนั้น แอ้มใช้แขนคำผนังห้องน้า สองเต้าใหญ่ถูกผมนวดคลึงจนเธอครางพอใจ แรงกระแทกถี่ดันขยับจนร่างเราสั่นไปตามจังหวะเดียวกัน

                ผมดันขยับไม่กี่ที ร่างก็กระตุกปล่อยความอยากออกมา รั้งร่างแอ้มมาลงนั่งที่ขอบอ่างอาบน้ำ จับปลายนิ้วเธอขยับแก่นให้
                "ลองกินนะ" นิ้วผมคลึงบีบปากให้เธออ้ารับแท่งแข็งไซส์เกินมาตรฐานเข้าไป เธอยอมเปิดปากรับมันแต่โดยดีผมบังคับจังหวะนุ่มนวลใส่โพลงปากอุ่น ดันแท่งลึกเข้าไปจนถึงคอหอยแช่ค้างไว้อย่างนั้น จนกระตุกปล่อยของคาวลงคอแอ้ม
                เธอหน้าเหวอเพราะไม่เคยรับรสคาวแบบนี้ ผมจึงรีบบดจูบล้างรสฝาดคาวให้ทันที ร่างหนาวสั่นของแอ้มไม่รู้เพราะหนาวหรือกำลังประท้วงเพราะยังไม่ได้ปลดปล่อยเลยตั้งแต่โดยอรัญเบิร์นให้ นี้ผมรู้สึกง่ายไปหรือเปล่า ทำไมถึงเอาเปรียบผู้หญิงขนาดนี้ หยิบผ้าเช็ดตัวพันร่างให้แอ้มพาเธอมานั่งรอปลายเตียง ผมแยกไปหยิบโลชั่นกลิ่นหอมที่ผมชอบ
                ผมตบตักเรียกเธอมานั่งซ้อนทับเหมือนทุกครั้ง บีบครีมใส่ฝ่ามือชโลมเต้ากลมจนทั่ว นวดคลึงให้อีกฝ่ายรู้สึกดี ปาดขึ้นจากเต้าไปหัวไหล่กดปลายนิ้วนวดเฟ้น พ้นลมหายใจอุ่นให้เธอตื่นตัว ย้ายจากบนลงล่างแยกขาสองข้างเธอออกกว้าง กดฝ่ามือลงนวดท้องน้อยไล่ลงไปจนถึงเนินหญ้าอ่อน ผมนวดรอยพับขาที่ติดอยู่กับส่วนสงวนกดนิ้วลงโดยยังไม่ได้ยุ่งกับส่วนนั้นเลย แอ้มมีอาการตามปลายนิ้วผมสัมผัส เธอพิงซบลงบนอกครางหวานหู ปล่อยให้ผมนวดกลีบนิ่มจนหนำใจ
                "ถ้าเบิร์นซ้ำไอ้อรัญ จะทำได้ดีเท่ามันไหมนะ" ผมพูดลอยๆ แอ้มจ้องตอบตาวาว

                "ตอนนั้นแอ้มคิดว่ากั๋มกำลังทำให้" เธอตอบเสียงเขินอาย ที่เอาผมไปจินตนาการเสียวแบบนั้น
                "ร้ายนักนะ นี่กั๋มเสียตัวให้แอ้มไปกี่รอบแล้วเนี่ย" ผมแกล้งหยอกล้อ เธอเอียงอายซบหน้านิ่งกับแขนผม
                "ยังไม่เคย" ผมดันนิ้วสอดในโพลงอุ่น
                "ทำจริงก็ได้ ไม่เห็นต้องเอาไปจินตนาการเลย" นิ้วขยับให้เธอต่อเนื่อง ผมแกล้งอ่อยอยากให้เธอเป็นฝ่ายขอ เพราะไม่อยากทำอะไรให้เธอไม่พอใจ
                "กั๋ม!!" เสียงครางหวานหู เรียกผมคีย์นี้ที่ไร ร่างเธอกำลังต้องการผมทุกที
                "ครับ ว่าไง" ผมยังแสร้งทำเป็นไม่รู้ความต้องการเธอ
                "เสียว" เสียงพร่าตอบผม แววตาเว้าวอนขอร้อง
                ผมนวดคลึงลูบไล้ขยับนิ้วเข้าออก ชอบให้เธออ้อนขอความเสียวแบบนี้ นิ้วผมเริ่มชุ่มน้ำหวานเสียงแจ๊ะๆ ทำเอาผมยิ้ม
                "เสียวมากหรอ" แอ้มพยักหน้ารับ
                ผมขยับรัวสุดแรงจนร่างแอ้มส่ายเด้งเร้ากลางอากาศ เสียงครางรอบนี้เต็มไปด้วยความต้องการ ไม่ใช้เสียงสะกดกลั้นเขินอายเหมือนทุกครั้ง
                "กั๋ม...ใกล้แล้ว" เธอสลัดความอาย ร้องขอแรงกระแทกเติมเต็มให้ร่างเธอบิดเกร็งปลดปล่อย
                ย้ายร่างเรามากลางเตียง รวบขาแอ้มยกสูงเปิดบั้นท้ายและร่องสวาทเอาหมอนมารองก้น เชิดให้ส่วนสงวนอยู่ใกล้ผมมากขึ้น มือหนึ่งรวบขา อีกมือล็อกบั้นท้ายอยู่ในตำแหน่งที่ผมเบิร์นลิ้นได้ กลีบฉ่ำที่เพิ่งเยิ้มด้วยน้ำใสกำลังถูกลิ้นสากผมไล่เลียปลุกทุกส่วน ปุ่มนูนถูลิ้นสะกิดรัวจนมันโผล่ออกมานอกกลีบ สองกลีบชิดสนิทเหมือนไม่เคยใช้งาน กำลังยั่วลิ้นสากให้เข้าไปหยอกล้อ 
                "อืมม อ๊ะ อ๊ะ กั๋ม.." เสียงเร้าครางหวานหน้าส่ายสะบัด มือเธอขยำหัวผมอย่างนุ่มนวลไม่มีทีท่าอยากผลักไส้ออก ร่างแอ้มเกร็งสะดุ้งทุกครั้งที่ผมรัวลิ้นสะกิดให้ เธอกรีดเสียงโหยหวนระบายความเสียวจนใจผมเต้นรัวตาม ไม่นานร่างเธอก็เกร็งปล่อยอีกรอบ ปากทางตอนนี้ฉ่ำเยิ้มทั้งน้ำหวานและน้ำลาย ผมสอดสองนิ้วเข้าโพลงฟิต แอ้มปรือตามองผม
                "กั๋ม แอ้มไม่ไหวแล้วนะ" เสียงอ่อยบอกผมด้วยความเพลีย คำว่าไม่ไหวรอบนี้ของเธอน่าจะหมายถึง ไม่มีแรงแล้วมากกว่า ถ้าแค่นี้เธอยังรับไม่ไหวเจอของจริงเข้าไป ผมกลัวเธอจะรับคนเซ็กจัดอย่างผมไม่ได้ อุ้มร่างเธอในท่าเจ้าหญิง ยกบั้นท้ายกลมว่างไว้บนหัวเอ็นแข็ง สายตาเราจ้องกันไม่ว่างตา แอ้มสอดแขนคล่องคอผมแน่น แขนแกร่งอุ้มรอยพับข้อขาสองข้างประครองหลังตั้งท่าพร้อมกระแทก ขยับแท่งแข็งจนชนปากทางเข้า เนื้อก้นครูดสร้างความเสียวให้ผม ออกแรงยกตัวเธอขึ้นลงซ้ำๆ หน้าแอ้มฉ่ำวาวเพราะโดนแท่งแข็งทิ่มตำแหน่งเดิมซ้ำ แต่ยังไม่สอดใส่เข้าไป



                 รูฉ่ำเริ่มขมิบเกร็ง ผมสัมผัสได้ว่าเธอต้องการมันมากแค่ไหนแต่ยังไม่ยอมร้องขอ แทงเอ็นเข้าร่องหน้าขาบดบี้เม็ดเสียวไปด้วย แอ้มเลือนมือลงมาขยำส่วนหัวบี้คลึงให้ผมยิ่งเสียวซ่าน แรงโหมกระแทกสุดตัว ยกร่างเธอกระแทกใส่เอ็นแข็งซ้ำๆ เธอเด้งเร้าตามเกมส์ทันทุกอย่าง แถมจงใจครางยั่วให้ผมยิ่งต้องการ ไม่นานร่างผมก็เกร็งพ้นน้ำขาวออกมา
                "อีกรอบนะ" ผมรีบขอวางร่างเธอลงพื้น จัดให้นอนคว่ำหน้ายกสะโพกขึ้นสูง ออกแรงควบร่องบั้นท้าย ท่านี้ผมใส่เต็มแรงจนร่างแอ้มสั่นเทาเด้งสวนระบายความอยากตัวเองออกมา เอื้อมมือไปบี้เม็ดเสียวให้เธอกดย้ำๆ จนเธอหวีดเสียงสูง ครางระงมไม่เป็นภาษา เสียงเนื้อกระทบกันตับๆ รับกันเสียงเล็กครางลั่น ทำเอาผมคิดอะไรขึ้นได้
                จากที่เป็นฝ่ายดันใส่ร่องก้น ตอนนี้ขยับให้เธอเป็นฝ่ายเด้งเข้ามาใส่เองดีกว่า สอนจังหวะโยกตัวช้าๆ ให้เธอขยับบั้นท้ายมาหาผม ไม่นานแอ้มก็ควบท่านี้ได้เอง เธอเร่งจังหวะกระแทกถี่ครางเสียงหวานพอใจ แอบเหลียวหลังใช้สายตาสะกดผม เธอย้ำถี่ๆ หลายทีจนกระตุกตัวแรง
                แอ้มฟุบหน้าลงพื้นขาสั่นเทา ยังชูบั้นท้ายสวยอวดสายตาผม เธอก้างแยกสองขาออกกว้างเปิดให้ส่วนสงวนเป็นอิสระ นอนหอบถี่เพราะเหนื่อยจัด ผมเห็นปากทางขมิบตัวถี่จึงใช้นิ้วสะกิดปลอบ ปาดน้ำเยิ้มไปจนถึงรูหลัง ค่อยๆ ดันนิ้วตัวเองเข้าไปทีละนิด เธอเหลียวมองจ้องส่ายก้นหนีเพราะไม่เหลือเรี่ยวแรงปฏิเสธ ผมจึงดื้อดึงดันเข้ามาจนถึงข้อนิ้วได้



                ผมดันเข้าดันออกสร้างความคุ้นเคยให้ช่องทางเกินหน้าที่ เธอปฏิเสธมันก็จริงแต่ภายในกลับขมิบตัวตอดนิ้วผมไม่หยุด ควงนิ้วให้เกิดโพลงชุ่มก่อนจะจงใจดันพรวดเข้าไปทั้งนิ้ว
                "โอ้ย!! จุก" เสียงแอ้มกระส่ายบอกผม เธอตาฉ่ำตัวงอเพราะไม่เคยคิดว่าจะโดนแบบนี้ ผมแช่นิ้วค้างไว้อย่างนั้น แล้วหมุนควงจนความฝืดกลายเป็นความเคยชิน ดันเอ็นเข้าขาหนีบตามเดิม รัวสะโพกกระแทกถี่ นิ้วช่วยขยับให้แอ้มรู้สึกตื่นตัวตาม เราขยับรัวจนปลดปล่อยออกมาอีกหลายรอบ ลมหายใจแผ่วประสานกันอย่างเหนื่อยอ่อน
                "ไงครับ อาบน้ำอีกรอบไหวไหม" ผมถามแอ้มเสียงหยอกล้อ เธอปรือตาส่ายหน้า ซบแนบอกอ้อนจนผมต้องตามเก็บงานให้ เนื้อตัวคลุ้งน้ำคาวปะทะกับกลิ่นสาปสาว ผมดึงผ้าห่มลงไปกองที่พื้น เปิดไฟสว่างเห็นเรือนร่างเธอเต็มตา บรรจงเช็ดตัวซับน้ำกามออกให้จนสะอาดเกลี้ยงเกลา นั่งมองร่างเปลือยตรงหน้าด้วยความหลงใหลในขณะที่อีกฝ่ายหลับสนิทด้วยความอ่อนเพลีย



                "แอ้ม.. แอ้ม.." ผมเรียกหาแอ้มอยู่บนเตียง แต่ไม่มีเสียงเธอตอบกลับ ผมเริ่มใจไม่ดีแล้วลุกขึ้นมองกระเป๋าเสื้อผ้าที่เธอวางไว้ก็ไม่มี เหลือบไปเห็นกระดาษโน็ตแปะอยู่บนกระจก
                "กลับห้องก่อนนะ ขอบคุณมากที่ดูแลเราอย่างดี"




To be Continue

ถูกอกถูกใจ อ่านต่อได้ใน Mebmarket ค่ะ






































                

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น