Love Top Book

Chapter2

 

Chapter2 / Mind's Part

[ตกหลุมรักขึ้นไม่ไหว]

'เฮ้ย! ทำอะไรน่ะ' เสียงโวยวายตะโกนแข่งเสียงน้ำโครมคราม จากที่หลับหูหลับตากลั้นหายใจฉันรีบเปิดตามองกระเด้งตัวดึ๋งๆ ไปกับคนตรงหน้า ก็จะไม่ให้หวีดได้ไงก็ผู้ชายคนนั้นยังอยู่ในท่ามาตรฐาน กางเกงรูดซิปลงจนสุด มือกุมเป้า เสื้อเชิ้ตขาวสุดหรูเปียกโชกแนบเนื้อ ฉันอุดปากกรี๊ดแสร้งตกใจแต่ตาจ้องวาวไปที่เจ้างวงนั่น

"ออกไปก่อน" ผู้ชายคนนั้นรีบไล่ เขาหมุนตัวหันหลังทำอะไรยุกยิกบางอย่าง

"อ้าว! ทำไมยังอยู่อีก" พอจัดการตัวเองเสร็จก็หันกลับมาดุฉันอีกรอบ ได้แต่ยิ้มแห้งแก้เก้อ ถามจริงเถอะเจอของดีเกรดพรีเมี่ยมขนาดนี้ใครจะยอมออกง่ายๆ

"เฮ้ย! ไอ้วาเกิดอะไรขึ้นวะ" เสียงวิ่งกรูตรงมาทางนี้ราวกับกองทัพ เฮียกรณ์มาถึงก่อนใครตะโกนถามหน้าตาตื่น มองผู้ชายคนนั้นทีมองฉันทีเหมือนอยากหาต้นเรื่อง

"ไม่มีไรอะ กูผิดเองที่ไม่ปิดประตูห้องน้ำดีๆ" แทนที่ผู้ชายคนนั้นจะฟ้องว่าฉันสาดน้ำเขา กลับเล่าไปว่าตัวเองผิดตรงไหน โถ่! หล่อ ล่ำ นิสัยดี ฮืม... อยากได้จัง

"หนูผิดเองค่ะ คือ..." หัวใจบอกว่าอยากได้ ปากฉันก็ทำงานทันทีค่ะ แสร้งสวมบทคนดียอมรับความผิดเรียกร้องความเห็นใจ สมองคิดคำสวยๆ ลากเสียงอึกอักจนเฮียกรณ์ตะคอกถาม

"คืออะไร เธอมาอยู่นี่ได้ยังไง" เฮียกรณ์ที่เคยเคร่งขรึมกำลังดุหน้าดำหน้าแดง ฉันได้แต่มองตาปริบๆ เพราะไม่เคยเห็นโหมดนี้ของเขามาก่อน จากที่ปั้นหน้าเป็นเด็กซื่อใสไร้เดียงสาพอโดนถามเสียงแข็งก็เริ่มงง อิตาลุงนี่แกจนหลงๆ ลืมๆ ละมั้ง ทั้งที่สั่งฉันเองว่าให้ล้างห้องน้ำ แล้วนี่จะถามหาอะไร

"ก็เฮียใช้ให้มาล้างห้องน้ำไง แค่นี้จำไม่ได้หรอ" แว้ดเสียงกลับทันที พอเฮียได้ฟังก็นึกออกว่าเป็นคนใช้ฉันเอง เฮียหน้าเจื่อนลงส่วนเพื่อนเฮียเองก็เหวอไม่ต่างกัน

"ขอโทษนะคะคุณ" ทุกคนเงียบกริบแต่ฉันไม่สนใจหรอก ฉันสนใจแค่คุณคนแปลกหน้าจึงแสร้งลากเสียงอ่อนน้อยถามอีกครั้ง

"อย่าดุเลยมึง หาเสื้อให้กูเปลี่ยนดีกว่า" ฉันเห็นนะว่าเขาเองก็มองหยุดที่ฉัน แต่กลับไม่คุยด้วยเฉย หันไปกอดคอเฮียแล้วลากเดินหนีไปกันสองคน ฉัันหันตามอัตโนมัติตั้งใจตามไปวอแวนั่นแหล่ะ แต่ยังไม่ทันได้ก้าวเท้าแม่ก็คว้าแขนไว้ซะก่อน

"ลูกขึ้นห้องไปก่อนนะ เดี๋ยวแม่ทำให้เอง" น้ำเสียงที่แม่พูดฟังลื่นหูอยู่หรอกแต่สีหน้านี่ซิจ้องตาเขียวปั๊ดอย่างกับฉันทำอะไรผิดงั้นแหล่ะ

"ไม่ต้องหรอกแม่ ช่วยกันทำนี่แหล่ะจะได้เสร็จเร็วๆ"

สุดท้ายความดื้อของฉันก็ทำงานตามนิสัย รู้นะว่าเกิดมาเป็นคนขี้เกียจแต่ก็ไม่แย่ขนาดว่าอะไรๆ ก็ให้แม่ทำให้หมดหรอก กว่าพ่อแม่จะเลี้ยงเราจนโตไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ฉันสำนึกบุญคุณพ่อแม่เสมออะไรพอช่วยได้ก็ต้องช่วย

เป็นอันว่าล้างห้องน้ำเสร็จก็ไปรวมกลุ่มตั้งวงส้มตำอย่างทุกวัน วันนี้แม่หญิงโชว์ฝีมือทำอาหารรสแซ่บหลายอย่างเลย บุญปากของฉันจริงๆ ซัดนัวอิ่มหนำไม่ได้มีความห่วงสวยเลย

"หน้าตาก็ดี กินตะกละตะกลามเหลือเกิน" เสียงคุ้นหูลอยตามลมมาไม่ไกลนัก ฉันตวัดตามองทันเห็นว่าเป็นอิตาลุงงึมงำๆ คล้ายกำลังนินทรา ฉันถลึงตาใส่ทันทีแทนที่อิตาลุงนั้นจะสลดบ้างกลับเฮฮากลบเกลื่อน

'เอ๊ะ! ผู้หญิงคนนั้นใคร ดูสนิทกันจัง' อะไรที่ไม่เจริญหูเจริญตาก็ไม่อยากมองนานหรอกค่ะ สู้เอาลูกกะตาไปดูพี่สาวสุดสวยคนนั้นดีกว่า ความรู้สึกคุ้นเคยทำให้ฉันมองเพลิน พอเธอเห็นว่าจ้องอยู่ก็หันมาสบตาแล้วยิ้มให้

"อิ่มไหม เอาอะไรเพิ่มอีกป่าว" น้ำเสียงขี้เล่นทักทาย ฉันอึ้งไปเล็กน้อยเพราะพี่สาวคนนี้น่าจะเป็นคนสำคัญ ไม่ใช่ลูกคนงานอย่างเราแน่ แต่ทำไมเป็นกันเองเหลือเกิน

"คุณมิ้นท์เธอถามก็ตอบซิ" แม่หญิงสะกิด กระซิบสั่งให้ฉันตอบตามมารยาท

"อิ่มแล้วค่ะ กินไม่ไหวแล้ว" เจื่อนเสียงตอบ

"เฮ้ย! ไม่เอาดิ ไม่ต้องเกรงใจ เอาไก่ย่างอีกไหม เธอชอบไม่ใช่หรอ" น้ำเสียงเจือยแจ้วชวนคุยเหมือนรู้จักกันดี ฉันหรี่ตามอง หัวใจกระตุกวูบ พลังงานบางอย่างวิ่งวุ่นพาภาพกระตุกๆ คล้ายภาพตอนโทรทัศน์ปิดสถานีแทรกเข้ามา

"นี่! นี่! พูดถึงของกินแล้วทำเป็นนิ่งเลยนะ" คราวนี้เป็นผู้ชายคนข้างๆ พี่สาวพูดบ้าง ตอนแรกใส่เสื้อเชิ้ตขาวสะอาดดูลุคผู้ดี หล่อเนี๊ยบเลย มาดูตอนนี้ซิใส่เสื้อยืดเก่าๆ ของเฮียกรณ์ กางเกงบอลขาสั้น ถึงจะขาวนะแต่ก็ดูไม่ต่างจากคนงานอย่างเราๆ

"ไม่กินแล้วค่ะ เดี๋ยวอ้วน" งุ้มหน้าลงต่ำ พูดเสียงปกติตอบ นอกจากรู้สึกแปลกฉันก็อึดอัดด้วย ไม่อยากนั่งตรงนี้เลย แม่หญิงเหมือนรู้ใจกระทุ้งศอกน้อยๆ แล้วบอกให้ขึ้นไปพักก่อน

"ขึ้นไปกินยาก่อนไป เดี๋ยวหมอจะมาด่าแม่อีก"

"จ๊ะ กินอิ่มกันแล้วเรียกหนูนะ เดี๋ยวมาช่วยเก็บ"

"ไม่ต้องหรอกลูก ยังป่วยๆ อยู่ พักผ่อนเถอะ"

น้ำเสียงแม่หญิงกระด้างลงนิดหนึ่งเป็นอันรู้กันว่าห้ามฉันลงมา โถ่! แม่ไม่ต้องห้ามหนูก็ไม่อยากมาอยู่แล้ว ดูซิต้องมานั่งร่วมวงกับคนโตกว่าทั้งนั้นอึดอัดจะตายไป

สรุปฉันก็เข้าห้อง กินยา อาบน้ำ นอนเล่นโทรศัพท์แล้วหลับไป แล้วคืนนั้นเองฉันก็ฝัน ตั้งแต่ฟื้นมาฝันบ่อยมากเลย ภาพมันประมาณฉันได้แต่งตัวสวยๆ นั่งรถหรูๆ เล่าให้แม่หญิงฟัง แม่ก็บอกกินมากนอนมากเพ้อเจ้อ แค่นั้นแหล่ะ!! ฉันก็ปล่อย ไม่ใส่ใจความฝันอีก


หลายวันต่อมา

แต่ละวันผ่านไปอย่างรวดเร็ว คุณมิ้นท์แวะมาหาฉันบ่อยครั้ง ซื้อนั่นซื้อนี่มาฝากจนรู้สึกเกรงใจ "แม่! วันนี้เฮียวากับคุณมิ้นท์มาอีกแล้วหรอ หนูเห็นรถจอดอยู่" ลงบันไดมาได้ก็ถามแม่ก่อนเลย ไม่ใช่อะไรนะ ฉันได้หาทางหนีทีไร

"ทำไม ดูเอ็งสนใจเฮียวากับแฟนเหลือเกินนะ" ทั้งที่คุยกันอยู่ดีๆ แม่หญิงเหวี่ยงเสียงเฉย ฉันนี่เป็นงงเลยก็ชวนคุยปกติทำไมโดนดุด้วย

"โห่แม่! หนูก็แค่ถาม"

"อย่าสนใจคนอื่นนักเลย สนใจแค่เรื่องตัวเองเถอะ"

"ทำไมต้องดุด้วยล่ะ แค่ถามไม่ได้หรือไงแม่"

"ไม่ได้!! ฉันรู้นะแกคิดอะไรอยู่"

"คะ!! หนูคิดอะไร"

วันนี้แม่มาแปลกแฮะดูหงุดหงิดพร้อมฟาดทุกคนที่พูดไม่เข้าหู ฉันงงไปหมด ถามแค่นิดเดียวเองทำไมต้องอารมณ์เสียด้วย

"ช่างเถอะ รีบๆ ไปปลุกเฮียกรณ์ได้ล่ะ เช้านี้มีนัดรับรถไว้" เป็นงงรอบสองค่ะ ทีกับเฮียกรณ์แม่ไม่ว่าแฮะ ทั้งที่อิตาลุงนี่น่ากลัวสุดเลย นึกถึงเฮียทีไรฉันได้กลิ่นน้ำมันเครื่องลอยมาทุกที แถมเสื้อผ้าเก่าๆ มอซอนั่นด้วยยิ่งเสริมให้ลุงดูแก่กว่าเก่าทั้งที่อายุก็ไม่เท่าไร แต่ที่น่าติดใจสุดเห็นจะเป็นสายตา ทำไมชอบมองวับวาวเป็นพวกตาแก่ตัณหากลับงั้นแหล่ะ

"ต้องปลุกด้วยหรอแม่ โตขนาดนั้นแล้ว" ฉันปั้นหน้าใสซื่อเอ่ยถาม

"ก็เมื่อคืนเฮียเร่งงานดึก เดี๋ยวลูกค้าจะมารับรถแล้ว ไปปลุกไป! เฮียจะได้กินข้าวกินปลาบ้าง" แม่สาธยายด้วยน้ำเสียงอ่อนเสียงหวาน นี่ถ้าฉันคิดอกุศลหน่อยนะ ต้องคิดว่าแม่แอบชอบอิตาลุงแน่ บรึ๊ย!!! ผู้ชายอย่างนั้นอะนะ

ตัดสินใจเดินไปปลุกเฮียกรณ์อย่างแม่สั่ง ขี้เกียจเถียงด้วยเพราะเถียงยังไงก็ไม่ชนะแน่ สู้ทำๆ ให้จบซะดีกว่า จากบ้านพักคนงานด้านหลังเดินไม่กี่ก้าวก็เข้าตัวบ้านใหญ่ ห้องเฮียอยู่ชั้นสอง ฉันกึ่งเดินกึ่งวิ่งหมายจะไปถึงให้เร็วที่สุด โชคดีจังประตูห้องเปิดอยู่ จึงพุ่งพรวดเข้าไป

'!!!!'

ร่างสตั๊นค้างยืนนิ่งมองภาพตรงหน้าอย่างไม่ละสายตา ฉันเห็นแผ่นหลังผู้หญิงเปล่าเปลือยทั้งตัว เธอนั่งคร่อมร่างผู้ชายคนหนึ่ง ตอนที่อึ้งอยู่ฉันก็แอบคิดว่าเฮียพาผู้หญิงที่ไหนมาซั่มกันหรือเปล่า จะเรียกก็ไม่กล้าได้แต่ยืนขาแข็งทำตัวไม่ถูกอยู่อย่างนั้น

ร่างบางโยกตัวไหวๆ ครางอื้ออ้าสุขสม เธอชันขาตั้งรับให้บั้นเอวเทอร์โบว์เบื้องล่างรัวใส่โพรงรักบ้าง เจ้างวงยาวขาวอวบพลุบๆ โพล่ๆ ตามแรงกระแทกที่ชายหนุ่มส่งให้

ฉันกลืนน้ำลายอึกใหญ่ รู้สึกเสียววูบไปด้วย จากขาแข็งเปลี่ยนเป็นขาสั่น มือก็สั่นเผลอกำหากันไม่รู้ตัว

ตอนนี้ร่างผู้หญิงสลับมาคลึงเนื้อก้นสวยๆ ลงท่อนแข็งบ้าง ควงเอวคอดใส่แท่งร้อนพร้อมครางหวานพอใจ ฉันไม่คิดมาก่อนว่าผู้หญิงเราจะร่านได้ขนาดนี้ เธอดูไม่อิ่มไม่พักยังอยากโยกตัวถี่ๆ แบบนั้นจนร่างกระตุกหอบ

"มาทำอะไรตรงนี้" เสียงกระชากถามมาพร้อมแรงดึงตัวฉันหันกลับไป

จากภาพสุดสยิวตอนนี้เบื้องหน้ามีเพียงผิวเนื้อสีเข้มเห็นเพียงลอนกล้ามเนื้อแน่นประดับด้วยหยดน้ำเกาะพราวกาย ฉันตกใจจนทำอะไรไม่ถูกดีทีมีวงแกร่งกระชับกอดและร่างสูงใหญ่พอเป็นหลักให้เกาะ

'เฮ้ย!" เสียงผู้ชายข้างหลังตะโกนพร้อมเสียงพ่ำพั่บ เดาว่าทุกคนคงตกใจไม่ต่างกัน แต่ฉันนี่ซิตกใจมากเพราะเสียงนั้นคือเสียงเพื่อนเฮีย

รีบเงยหน้ามองคนที่กอดอยู่ทันที '!!!' ฉิบหายแล้วตกใจหนักกว่าตอนแรกอีก เพราะคนที่รวบร่างฉันไว้คือเฮียกรณ์ มือฉันสั่นระริกวางค้างบนแผงอกแกร่งจนหยดน้ำเริ่มแห้ง 'บ้าน่า!!! เขาเพิ่งอาบน้ำหรอ' ฉันคิดวูบหนึ่งหรี่ตาลงล่างเห็นดงขนอ่อนรำไรจากสะดือลากต่ำไปค้างอยู่ปมผ้าเช็ดตัว

"เข้ามาได้ไงวะ ก็กูล็อคห้องแล้วนี่หว่า" เสียงเฮียวาถามด้วยความตกใจ ฉันดิ้นตัวขลุกขลักน้อยๆ กะจะหันไปตอบ แต่ว่าเฮียกรณ์กระชับวงแขนกดหน้าฉันแนบอกเขาแน่นกว่าเก่า

"กูเองแหล่ะ เมื่อกี้กูเข้ามาเอาเสื้อผ้าแล้วลืมปิดประตู" เฮียกรณ์ตอบ ฉันเหลือบมองสันกรามคมเป็นพักๆ ไม่กล้าดิ้นตัวมากเพราะตอนนี้ไอ้ปมผ้าเช็ดตัวหมิ่นเหม่มันถูไถตัวฉันอยู่จนนึกหวาดเสียว

"หืม... ไอ้เพื่อนเวร มึงออกไปก่อนเลย" เฮียวากระแทกเสียงไล่

"อย่าด่ากูนะ กูเป็นเจ้าของห้องเว้ย" แทนที่เฮียกรณ์จะรีบเดินออก กลับต่อล้อต่อเถียงด้วยน้ำเสียงหยอกล้อ

ฉันไม่รู้หรอกว่าเบื้องหลังเกิดสงครามอะไรขึ้นบ้าง รู้แค่วงแขนกอดแน่นกว่าเก่า ทำให้ร่างเราเบียดเสียดกันเกินไป ความรู้สึกวูบวาบทำร่างฉันเกร็งไปหมด ภาพแปลกๆ คล้ายในฝันไหลวนมาจนฉันหยุดนิ่ง

"จะดูต่อหรืออยากออกไปกับฉัน" เสียงทุ่มเอ่ยถาม ฉันยังนิ่งจนเฮียกรณ์กระชับวงแขนกอดแน่น ใบหน้าหล่อเคลื่อนมาใกล้ ฉันเห็นเงาตัวเองสะท้อนในแววตาอีกฝ่าย ภาพบางอย่างฉายอยู่ในนั้น ฉันอึ้งอยู่นานจะร่างค่อยๆ เอียงตัวถูกยกลอยเหนือพื้น

"มายด์ มายด์! เป็นอะไรไป" เสียงกระซิบดึงฉันออกจากภวังค์ ตอนนี้เรายืนกอดกันในห้องรับรอง ฉันมองไปที่ประตูเห็นกลอนกดล็อคเรียบร้อย เบือนกลับมามองหน้าเฮียกรณ์อีกครั้งซึ่งคราวนี้มันต่างไป ดูอ่อนโยน นุ่มละมุนและคุยเล่นเสียงหวาน

"ตกใจไหม" ฝ่ามือหนาวางพาดไหลสองข้าง เขาตัวสูงใหญ่กว่าฉันมากจึงกลายเป็นว่าวงแขนนั้นพาดกอดคออยู่ ตัวเราสองใกล้ชิดกันมาก ส่วนถูไถที่ควรจะเป็นปมผ้าเช็ดตัวกลับเป็นของอุ่นร้อนท่อนนุ่มๆ หยุ่นๆ ทำเอาฉันจินตนาการไม่ออกเลยว่ามันคืออะไร

"ค่ะ" เป็นครั้งแรกที่ฉันพูดไม่ออก ปกติกับอิตาลุงนี่ฉันจะปากกล้าอยู่มาก สนุกที่ได้ต่อปากต่อคำแต่วันนี้ความรู้สึกหลากหลายทำฉันแปลกมันไม่ออก

'เฮ้ย!! หรือว่าเราเขินเฮียกรณ์วะ' จังหวะชั่งใจคิดถามตัวเองขึ้นมา มันอึกอักทำตัวไม่ถูก จะมองลงต่ำก็ไม่กล้าจะเงยหน้าก็เขินไปหมด

"ไม่ต้องกลัวนะ มันก็เรื่องธรรมดา" เสียงเฮียกรณ์ปลอบประโลมอย่างนุ่มนวล ฉันรู้สึกได้ว่าอบอุ่น กลิ่นหอมๆ ลอยตามเตะจมูกเร้าให้ฉันอยากรู้ว่ากลิ่นนั้นลอยมาจากส่วนไหน

"ค่ะ! เรื่องธรรมดา แล้วเฮียล่ะคะไม่พาแฟนมาทำมั้งหรอ" ฉันเงยหน้าจ้องเย้ย เป็นครั้งแรกที่ได้มองใบหน้าหล่อเหลาของเฮียเต็มตา ดวงตาสีน้ำตาลทองวูบไหว ปลายสันจมูกโด่งรับกับริมฝีปากกระจับได้รูป กวาดสายตาลงต่ำ ผ่านสันกรามและช่วงคอระหงส์ มือที่วางค้างแผงอกอยู่ก่อนค่อยๆ ลากปลายนิ้วเกลี่ยคลึงสันไหปลาร้า

"ทำอะไร หืมม.." ดวงตาวาวจ้องกลับเช่นกัน แต่ลูกกระเดือกนูนวูบไหวประจานว่าเฮียกลืนน้ำลายกลบความประหม่า ฉันยิ้มเพราะนึกสนุกที่ได้แกล้ง ลูบมือปลงเร้าผ่านสีข้าง ยื่นหน้าเข้าใกล้ไปถาม

"ก็ทำอย่างนั้นไง"

"ไม่อะ ฉันไม่ใช่คนอย่างนั้น"

"อย่างนั้นน่ะยังไงเฮีย โห่! ยังไม่มีแฟนก็บอกมาเหอะ เฮ้ย! หรือว่าเฮียไม่สนผู้หญิง"

"เดี๋ยวเถอะ!"

ฉันแกล้งยียวนไปงั้นเอง สีหน้าเฮียดูแปลกใจอยู่มาก ผิดกลับฉันที่คุ้นเคยเหลือเกินเหมือนเคยทำอย่างนี้มาก่อน

"เดี๋ยวอะไรคะ เดี๋ยวนี้เลยไหม"

ไม่รู้ว่าเป็นอะไรเหมือนกัน จากที่สั่นประหม่าตอนนี้กลับเลื่อนลอยปล่อยตัวเองให้ทำตามใจ ในเมื่อคนตรงหน้าไม่ว่าฉันก็รู้สึกอยากสัมผัสเขาสักครั้ง

จรดสันจมูกลงกลางอก ปลายนิ้วลูบจากสีข้างลากขึ้นสูงจนถึงเม็ดตุ่มไตอันน้อย กลิ่นผู้ชายเต็มวัยมันเป็นแบบนี้เอง อธิบายไม่ถูกว่าหอมเหมือนอะไรรู้แค่ว่ายิ่งดมยิ่งหอม

ฉันลากจมูกสูดดมไปทั่วแผงอก เม็ดเล็กซ้ายขวาที่ปลายนิ้วยั่วเย้าจนอยากลองชิมสักครั้ง ฉันไม่รู้จริงๆ ว่าตัวเองเป็นอะไรไป รู้แค่หวงแหนอยากครอบครองเอาไว้คนเดียว

จรดริมฝีปากลงฐานปานน้อย สีแดงกร่ำประจายทั่วตัวราวอยากประจานว่ารู้สึกไม่ต่างกัน ดูดดุนน้อยๆ ร่างเฮียกรณ์กระตุกสั่น ฉันจึงวาดวงแขนกอดกลับ ปลายนิ้วลูบเล่นสันหลังในขณะที่ปากมอบเรียวลิ้นใหเเม็ดกลางอก

"ยังเด็กอยู่ไหมคะ"

ฉันถามเพราะเห็นเฮียสั่นระริกตามมือ เฮียเพียงมองใช้สายตาอ่อนโยนแทนคำตอบ สีหน้าแดงกร่ำ ริมฝีปากเม้มหากันแน่นกำลังบอกฉันว่าเฮียเองก็พอใจ ฉันยิ่งได้ใจเริ่มปัดป่ายมือลงต่ำกระตุกปมผ้าเช็ดตัวจนผ้าผืนนิ่มร่วงลงพื้น

ฉันรู้ตัวทุกอย่างแต่หยุดความปรารถนานี้ไม่ได้ ใจอยากสัมผัสทุกส่วนของเฮีย อยากลูบไล้ปรนเปรอในสิ่งที่เฮียชอบให้ถึงที่สุด อยากครอบครองผู้ชายคนนี้ อยากแสดงให้เขารู้ว่าแรงปรารถนาของฉันมากมายขนาดไหน

กลีบปากรู้งานครอบครูดไปที่เอ็นแกร่ง มือเรียวเล็กกำชักท่อนแข็ง ลิ้นสากเล้าโลมส่วนปลายแท่ง ห่อปากดูดดุนเน้นๆ ส่งเสียงจ๊วบจ๊าบคล้ายคนตะกละตะกลาม ฉันรู้สึกอยากใคร่เจ้าเอ็นแข็งนี้เหลือเกิน ทั้งที่ความยาวใหญ่ของมันน่ากลัวเกินกว่าเด็กสาวจะรับได้ ฉันจูบทุกซอกหลืบอย่างมีความสุข ดมกลิ่นงวงยาว สอดจมูกมุดไปจนถึงสองก้อนกลมนุ่มนิ่ม

ฝ่ามือหนาขยุ้มเส้นผมตามความเสียว เร่งปากดูดไม่เท่าไรร่างเฮียกรณ์ก็กระตุกปล่อยน้ำคาวออกมา ทั้งที่ฉันไม่เคยลิ้มรสมันมากก่อน กลับไม่รังเกียจแถมอร่อยที่ได้กลืนกินเสียด้วยซ้ำ

ของแข็งในปากยังเสียบคาอยู่อย่างนั้น ฉันหลับตานิ่งปล่อยให้ภาพความฝันเวียนมาในหัวอีกแล้ว ลมหายใจติดขัดทำฉันอึดอัดคล้ายถูกบีบคอ รู้สึกเหมือนตัวเองดิ้นขัดขืนแล้วความดำมืดก็เข้าแทนที่



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น