Love Top Book

NC2

 

NC2

 

ความจริงแล้วศรัณย์คือสายสืบนายหนึ่ง แฝงตัวมาตามคดียาเสพติดหลายปีจนได้เลื่อนขั้นมาเป็นคนสนิทของลี การเข้าหานักการเมืองดังไม่ใช่เรื่องง่าย ทำให้เขาพุ่งเป้ามาที่คนลูกซึ่งดูง่ายกว่า

ลีเข้าหาง่ายก็จริง แต่การอยู่ร่วมด้วยนั้นยากมาก เพราะนิสัยเพลล์บอยสุรา นารี ยาเสพติดมีครบ เสเพลไปวันๆ ทำตัวได้น่าเบื่อสมกับเป็นลูกคนรวย

 

ศรัณย์ชักจะหมดความอดทนกับลีแล้ว วันนี้ทั้งวันเขาผ่านมาหลายเรื่องเหลือเกิน เมื่อกี้ก็เพิ่งช่วยจนพวกภากรณ์หลบออกไปได้ แล้วยังมาทะเลาะกับนวลฉวีอีก เขาเริ่มสติแตกจึงเดินอ้าวๆ ไปทางห้องรับรองของลี

 

"ศรัณย์ ศา... รัน... มึงมาพอดีเลย ไปตามน้องมายด์มาซิ หายไปไหนตั้งนานแล้ว"

เสียงเมางัวเงียใบหน้าแดงก่ำ ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเมามากขนาดไหน ขนาดจะยืนสั่งงานยังโซซัดโซเซพูดยานครางฟังไม่ได้ศัพท์

"นายเมามากแล้วครับ ให้ผมพากลับดีกว่า" ศรัณย์รีบไปหิ้วปีก เขาพยายามข่มอารมณ์พูดเสียงปกติทั้งที่ในใจอยากซัดสักหมัดแล้วจับไปทรมานเคล้นความจริงซะเลย

"กูไม่เมาเว้ย บอกให้ไปตามน้องมายด์มาไง มึงรีบไปเลยก่อนที่กูจะโกรธ" ร่างบางของลีดิ้นขัดขืน เขายังแหกปากสั่งทั้งที่ตาจะปิดอยู่แล้ว

"น้องเขารอที่รถครับ ผมว่าคุณลีรีบไปดีกว่า" ศรัณย์ไม่สนใจคว้าเอวหิ้วปีกได้ก็พาเดินลากกลับทันที

"ให้ผมช่วยนะเฮีย" บอดี้การ์ดคนหนึ่งเห็นศรัณย์ลากลีเดินผ่านก็อาสาช่วย

"ไม่ต้อง มึงช่วยเสี่ยๆ คนอื่นเหอะ ก็พอนายกลับเอง"

ศรัณย์บอกปัด เร่งมือรวบร่างไม่ได้สติของลีไว้ในวงแขน เขาเร่งเดินจนมาถึงรถ

 

ร่างร้อนรุ่มปะทะไอแอร์เย็นฉ่ำ เบาะหลังรถหรูนุ่มนิ่มไม่ต่างจากเตียงนอน ลีหลับตาพริ้มลืมเรื่องมายด์ไปเสียสนิท เสื้อเชิ้ตสีดำแหวกกว้างปลดกระดุมจนเกือบถึงเม็ดสุดท้าย แผงอกขาวสว่างตัดสีดำสะท้อนวาบกลางความมืด

แม้ศรัณย์จะตั้งใจขับรถแต่สภาพลีตอนนี้ก็น่าหมันไส้จริงๆ

ดวงตาคมหรี่ลง มุมปากยกยิ้มเหมือนเจอทางลัดของเรื่องทั้งหมด ใจเขาคิดจะเคล้นความจริงให้ได้ แต่พอดูๆ แล้วคนเจ้าสำราญอย่างลีไม่น่าจะรู้อะไรมาก แทนที่ศรัณย์จะพอลีกลับคอนโดหรู เขาเลือกพาลีไปห้องตัวเองแทน

 

'ตริ๊งงงงงง!'

ประตูลิฟต์ชั้น19 ปิดออกพร้อมเสียงแจ้งเตือนดังขึ้น ศรัณย์ยังแบกร่างลีไว้ สอดแขนข้างหนึ่งไปโอบเอวแล้วพาลากเดิน จังหวะนั้นเองลีเงยหน้ามองแม้ตาจะพร่าเบลอแต่เลขสิบเก้าตรงหน้ายังแสดงชัดเจนจนลีเองถาม

 

"นี่ไม่ใช่คอนโดกูนี่หว่า มึงพากูมาที่ไหนห้ะศา.. รัน!" เสียงยานครางพูดไม่ชัดนัก ใช้ปลายนิ้วหนาชี้หน้าศรัณย์

"ห้องผม" ระยะห่างเพียงคืบบีบให้ใบหน้าศรัณย์อยู่ตรงหน้า ลีพยายามเพ็งมองทันเห็นสายตาเจ้าเล่ห์

"พากูมาทำไมวะ ที่กระจอกๆ อย่างห้องมึง กูไม่นอนหรอกนะ"

แม้จะเมาแต่ความเรื่องมากของลีไม่มีตก ความหยิ่งผยองเพิ่มความน่าหมันไส้ให้อีกสิบเท่า ศรัณย์พาเดนมาจนถึงห้องแล้วจัดการโยนร่างลีลงโซฟา

 

"โอ๊ย! ไอ้ศรัณย์มึงเบาๆ ดิ๊"

"ทำไม เมาจะเป็นหมาอยู่แล้ว เสือกบอบบางอะไรขึ้นมาอีก"

"บอบบางห่าอะไรของมึง! กูเป็นผู้ชาย ก็เจ็บบ้างไม่ได้หรือไง"

"อ่อนแอ! คนอย่างคุณถ้าไม่มีบอดี้การ์ดก็ไม่มีปัญญาทำอะไรหรอก"

"หึ! ก็จริง เพราะกูมีหมารับใช้อย่างมึงนี่ไง อะไรที่กูอย่างได้ก็ต้องได้ ไป! ไปเอาตัวน้องมายด์มาซิ ตอนนี้กูไม่มีอารมณ์เถียงกับมึง กูมีอารมณ์อยากทำอย่างอื่นมากกว่าวะ"

 

ศรัณย์เคืองตั้งแต่ถูกจิกเรียกตั้งแต่ในร้านแล้ว พอได้ยินคำว่า "หมารับใช้" เหมือนคำตอกย้ำว่าอาชีพเจ้าหน้าที่อย่างเขาก็เป็นได้แค่นี้ ศรัณย์กระชากคอดึงร่างลีในลุกยืนอีกครั้ง จ้องหน้าตาเขม็งแล้วจับโยนลงโซฟาอีกรอบ

"โอ๊ย! นี่มึงจะลองดีกับกูหรอวะ" ลีชักโมโห ลุกพรวดหมายจะเข้าไปต่อย

หมัดขวาพุ่งเฉียดหน้าศรัณย์ไปเพียงเสี้ยว ศรัณย์โน้มตัวต่ำจับสองแขนลีขึงพรืด ลีดิ้นขลุกขลักเขาจ้องตาแข็งกร้าว กัดฟันกรอดยังดิ้นขัดขืนทั้งที่ไม่มีแรงสู้

           ศรัณย์นึกสนุกที่ได้แก้แค้น เขาเลียริมฝีปากอย่างกระชาก คำด่าทอสารพัดที่ลีเคยพูดไหลเวียนมาในหัว ทั้งที่ยังเอาตัวไม่รอดแต่ลีก็ปากเก่งไม่เปลี่ยน

 

"มึง! มึงทำอะไรกู ปล่อยกูซิวะไอ้ขี้ข้า"

“ขี้ข้าหรอ ตลอดเวลามึงรู้ไหมว่ากูต้องอดทนกับสันดานเหี้ยๆ ของมึงขนาดไหน”

“กูเหี้ยแล้วมันยังไงวะ มึงไม่ได้สนใจกูนี่ มึงสนใจแค่เงินของกู”

“แน่ใจหรอว่าเงินมึง จะซื้อทุกอย่างได้”

“ได้ไม่ได้ ก็ซื้อมึงได้แล้วกัน”

ด่ากันไปด่ากันมาราวระบายความคับแค้นมานาน เสียงลีตะเบ็งสูง เถียงคอเป็นเอ็นทั้งที่ศรัณย์ยังเหยียดยิ้มไล่ต้อนคนใต้ร่าง เขาตบหน้าลีเต็มแรงไปหนึ่งทีเพื่อให้หยุดพูด แล้วก็ได้ผล ลีสงบเงียบทำสีหน้าตกใจ ดวงตาสั่นระเรื่อ ริ้วแดงเห่อทั่วตัว

 

ศรัณย์เห็นอย่างนั้นก็ชะงักไป เขาลุกยืนเต็มความสูง จ้องภาพคนหวาดกลัวด้วยหัวใจแปลกไป ลีเค้นเสียงขำเราะแผ่วๆ ใช้มือเช็ดปากตัวเองเห็นเลือดไหลซึมออกมาก็ถุยน้ำลายใส่

 

“ถุย! มึงคิดว่ากูไม่รู้หรือไงสารวัตรศรัณย์”

ลีพูดเสียงเย้ย ยิ้มเยาะให้สีหน้าตกใจ ศรัณย์เบิกตาโพลงคิดไม่ถึงว่าลีจะรู้ ลีทำท่าจะลุกแต่ก็ถูกผลักลงนั่งอีกครั้ง

“มึงรู้ก็ดี กูก็ขี้เกียจเล่นละครแล้ว” ศรัณย์ตอบ ฝ่ามือหนาตรงไปบีบกรอบหน้าลีทั้งที เขาบีบปากให้อ้ากว้าง ถุยน้ำลายใส่หน้าอย่างที่ลีทำเมื่อกี้ คนช่างโวยวายอย่างลีไม่มีท่ายอมแน่ เขาดิ้นหนีจนศรัณย์ต้องโน้มต่ำไปบังคับอีกรอบ

 

“เก่งนักนะมึง กูล่ะอย่างชอบ”

คราวนี้น้ำเสียงศรัณย์ไม่แข็งกร้าวแล้ว กลับเป็นหยอกเย้าทั้งที่มือยังบีบคอลีไว้แน่น อีกมือที่ว่างปลดกระดุมกางเกงอย่างรีบร้อน เขาจับท่อนอ่อนนิ่มใต้ชั้นในบางยัดใส่ปากลีอย่างทุลักทุเล

 

“อ้ายยย... อ่อยอู” (ไม่... ปล่อยกู)

 

ลีส่ายหน้าไม่ยอมรับ แต่คนเมายาอย่างเขาจะสู้แรงคนเจ้าอารมณ์ได้อย่างไร ศรัณย์รู้ว่าคนอย่างลีโดดเดียวมาตลอด ถึงจะนิสัยเสียไปบ้างแต่นั้นก็เพราะอยากเรียกร้องความสนใจจากคนอื่น การเอาชนะใจคนแบบนี้มีหลายวิธี ไม่รู้ทำไมศรัณย์ถึงเลือกใช้วิธีนี้

 

แรงบังคับจับโยกให้ริมฝีปากเสียดสีเอ็นนิ่ม ยิ่งได้กลั่นแกล้งคนเย่อหยิ่งศรัณย์ก็ยิ่งสะใจ ร่างกายเขาตื่นตัว ก้อนนิ่มยืดหยุ่นกลายเป็นท่อนแข็ง แรงกระแทกส่งที่ศรัณย์มอบให้ทำเอาลีหน้าแดงตาแดงก่ำ น้ำลายไหลยืดเป็นสายตามท่อนยาวครูดปาก

ดวงตาลีวูบไหวไม่เข้าใจว่าศรัณย์ทำอย่างนั้นทำไม ถ้าอยากให้เขาเจ็บช้ำมันมีวีอื่นอีกมากแต่ทำไมถึงเลือกวิธีน่าสะอิดสะเอียนแบบนี้ด้วย

“มึงรู้หรือยัง ผู้หญิงที่มึงบังคับเขาน่ะ รู้สึกอย่างไร”

จากท่อนแข็ง ศรัณย์พูดไปด้วยใช้นิ้วหนากวาดต้อนในโพรงปากลีไปด้วย ความรู้สึกนุ่มนิ่มมีลิ้นสากแพหนาให้ความรู้สึกตื่นตัวกว่าเดิม

ศรัณย์สั่งสอน โดนไปขนาดนั้นแทนที่ลีจะสงบลงกลับจ้องตาแข็งแล้วกัดนิ้วแข็งเต็มแรง แรงตบปะทะแก้มอีกรอบ ไม่เพียงแค่นั้นร่างศรัณย์ก็โถมมากดทับพร้อมปลุกปล้ำราวลีเป็นผู้หญิงคนหนึ่ง

 

 

ร่างบางกว่าถูกจับกดนอนคว่ำหน้า สองแขนถูกรวบไพล่หลังไว้ ช่วงบั้นท้ายยกสูงแอ่นรับแรงลงทัณฑ์

ท่อนแข็งลำเขื่องสอดเข้าอย่างยากลำบาก คนไม่เคยทั้งสองไม่อาจรู้เลยว่าเพศสัมพันธ์แบบนี้มีอุปสรรคอะไรบ้าง ศรัณย์หงุดหงิดที่ดันเท่าไรก็เข้าไม่ได้สักที ในขณะที่ลีเจ็บปวดรวดร้าวไปทั้งตัว

 

“ปล่อยกูเถอะศรัณย์ กูสัญญาว่าจะไม่พูดเรื่องนี้กับใคร”

ลีถูกทรมานมาร่วมชั่วโมง แม้จะเป็นรสจูบแสนหวาน สัมผัสซุกไซ้อ่อนโยนกว่าครั้งไหน แต่พอถูกท่อนแข็งทิ่มช่องทางหลังเขาก็เจ็บปวด ความหวาดกลัว ความอัปยศสับสนตีรวนในใจจนต้องขอร้อง

“คิดว่ากูจะปล่อยไหม อุตส่าห์ปล้ำจนเหนื่อยขนาดนี้”

ศรัณย์กระซิบเสียงพร่าแนบหู จัดท่วงท่าลีเสียใหม่ บรรจงจูบปลอบ ไซ้ซอกคอพร้อมลูบไล้สีข้าง พ้นลมหายใจหื่นกระหายราวอยากให้ลีรู้สึกเหมือนกัน

“อย่าเกร็งนะ ถ้ามึงไม่อยากเจ็บตัว”

เสียงปลอบโยนกระซิบสั่งอีกครั้ง ลีเม้มปากแน่นไม่อยากตอบอะไรอีก ตอนนี้ร่างเขาคร่อมทับอยู่บนตักศรัณย์ ในท่วงท่านั่งมีปลายท่อนแข็งจ่อปากทาง เหลือแค่เขาทิ้งตัวกลืนกินมันไป

ฝ่ามือตบสะโพกสอบเบาๆ เร้าให้ลีกดตัวครูดปากทางกดทับท่อนแข็งลำโต ลีเจ็บจนน้ำตาไหลริน ศรัณย์เห็นอย่างนั้นก็กระชับกอดแล้วเช็ดน้ำตาให้อย่างแผ่วเบา

แรงกระแทกกระทันส่งผ่านร่างหนึ่งไปอีกร่างนึ่ง ศรัณย์ตักตวงความสุขจากเรือนร่างคุณหนูจากหยิ่งอย่างสะใจ เขาคลั่งใคร่มันเอามาก ทั้งจูบ ทั้งกอด ลูบคล่ำทุกสัดส่วนราวอยากเป็นเจ้าของ

 

เช้าวันใหม่ลีตื่นก่อน จะให้หลับได้ยังไงในเมื่อความเหนอะหนะ กลิ่นคาวคลุ้งเหม็นเอียดจนแทบนอนไม่ได้ ไหนจากร่างหนากว่าของศรัณย์ที่กอดเขาไม่ยอมปล่อย ค่อยๆ เบี่ยงตัวออกอย่างยากเย็น จนลีลุกมายืนข้างเตียงได้

เขาอยากจะฆ่าศรัณย์ให้ตายซะตอนนี้เลย พอคิดดีๆ ก็รู้ว่าสู้ไม่ได้ เขาต้องเอาตัวรอดก่อน พอมีแรงค่อยกลับไปจัดการพวกมันทุกตัวก็ได้

  

 

 

 

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น