Love Top Book

วันอาทิตย์ที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562

Alive พบรักจัดว่าหวาน



Alive 

พบรักจัดว่าหวาน




ชื่อผลงาน                               Alive พบรักจัดว่าหวาน
จำนวน                                    160 หน้า
ราคา                                       159 บาท
ประเภท                                  นิยายรักโรมานซ์
บทประพันธ์                           ว.เกตุสุทธิ
ผู้จัดย่อหน้า / พิสูจน์อักษร  ว.เกตุสุทธิ
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติม  https://www.facebook.com/Venus909_writer
                สงวนสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์พ.ศ. 2537 ผลงานชิ้นนี้เป็นลิขสิทธิ์ส่วนบุคคล ห้ามมีการคัดลอก ทำซ้ำ ลอกเลียนแบบ ดัดแปลงเนื้อหาบางส่วน หรือทั้งหมดไม่ว่ากรณีใดทั้งสิ้น โดยไม่ได้รับอนุญาต หากต้องการนำไปใช้เพื่อเป็นประโยชน์แก่สาธารณะกรุณาติดต่อ วีนัส (062-6633889)






เกริ่นนำ

            กราบสวัสดีผู้อ่านที่รักของทุกท่านค่ะ หากติดตามอ่านกันมาจะรู้ว่าวีนัสนั้นปล่อยแต่งานเรื่องสั้นชั่วโมงเดียวจบ ดราม่านิดๆ อิโรติกหน่อยๆ ตามประสามือใหม่หัดขีดเขียน หากถูกอกถูกใจ กดให้หัวใจกันได้นะคะ หรืออยากรู้จักกันมากขึ้น ติชม คอมเม้นท์ได้เลยค่ะ ติดตามอ่านทุกคำติชมเสมอ
            ขอบคุณทุกกำลังใจ ทุกอักษรที่สื่อออกไป ผ่านการกลั่นกรองแล้วทั้งสิ้น หากผิดพลาดประการใดขออภัย ณ. ที่นี่ด้วยค่ะ
ขอบคุณทุกการสนับสนุน
วีนัส เกตุสุทธิ 




แนะนำตัวละคร

            ศจีรัตน์ ไฮโซสาววัย 24ปี หน้าหมวย ความสวยตามมาตรฐาน ไม่ได้โดดเด่นนัก แต่เพราะครอบครัวเธอเป็นเจ้าของธุรกิจอาหารชั้นนำของประเทศทำให้ใครๆ ต่างอ่อนน้อมเข้าหา จนเธอระเริงไปกับชื่อเสียงและความร่ำรวย
          มาซากิ นักธุรกิจสีเทาอายุ 30ปี หนุ่มเต็มวัยลูกครึ่งไทยญี่ปุ่น ผู้มีหลายอารมณ์ ภายนอกนิ่งเงียบสุขุม ภายในกลับอ่อนโยน โหยหาความรักเป็นที่สุด
            ความเป็นไทยคืออิสระ ความเป็นญี่ปุ่นคือรับผิดชอบ

            พอล นักแสดงหนุ่มชื่อดัง อายุ 26ปี ฐานะทางสังคมโด่งดังเป็นที่รู้จักดี ฐานะทางการเงินค่อนข้างติดลบ ทั้งที่เบื้องหน้ามีธุรกิจเสริมดูดีมั่นคง จึงไม่แปลกหากคนรอบตัวเขาจะเป็นไฮโซ ผู้ดี มีเงิน
            สุชาวดี นักธุรกิจสาวฝีมือดีอายุเพียง 24ปี ได้นั่งตำแหน่งผู้บริหารบริษัทเอนเจนซี่ชื่อดัง เป็นเพื่อนสนิทและชิงดีชิงเด่นกับศจีรัตน์มาตลอด ซึ่งถ้าเทียบกันแล้ว เธอเหนือกว่าทุกอย่าง ทั้งสวย ทั้งเก่ง และทะเยอทะยาน


           
ปฐมบท
1
ศจีรัตน์
            ความงามเบื้องหน้าคือเรื่องที่ต้องลงทุนมากกว่าสิ่งอื่น แต่ดูเหมือนจะตัด จะยัด งัด เสย ดึง ก็ไม่อาจแปลงโฉมคนหน้าบ้านๆ ให้กลายเป็นหงส์ได้ ซึ่งฉันไม่ยอม ต้องได้ซิ! ฉันต้องสวยเพื่อให้คู่ควรกับแฟนหนุ่มนักแสดงชื่อดัง ทั้งที่ยอมเจ็บตัว ยอมเสียเงินมากมาย แล้วทำไมถึงเป็นแบบนี้

            โฉมหน้าผู้หญิงคนใหม่ของเพล์บอยตัวพ่อ พอล
          “FCพอล กรี๊ดหนัก ตุ๊กตาหน้ารถคนใหม่ไฉไลกว่าแฟนหน้าเหงือก
            ข่าวกอสซิปสุดป่วงประจำวัน พาดหัวข่าวตัวโต บวกโชว์รูปแอบถ่ายหน้าแย่หรา ฉันได้แต่เกร็งนิ้วขยำหนังสือพิมพ์กรอบบ่ายด้วยความโกรธ
            ตั้งแต่คบกับผู้ชายคนนี้มา ชีวิตไม่มีอะไรดีขึ้นสักอย่าง ทุกอย่างเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ ช่วงแรกติดโปรโมชั่นจีบกันใหม่ๆ เช้าถึงเย็นถึง เอาอกเอาใจสารพัด แล้วมาดูตอนนี้ซิ! แฟนประสาอะไรขยันนอกใจได้ทุกวัน บอกตรงๆ ฉันหมดใจตั้งนานแล้ว ที่ยังทนคบอยู่ เพราะคำว่า
            เสียใจได้ แต่เสียหน้าไม่ได้
           
            ผู้หญิงเรามีโหมดเอาชนะแย่งชิงเหมือนกันทุกคน ใครจะยอมเป็นของเล่นฆ่าเวลา เบื่อก็เลิก ไม่สนุกก็หาใหม่ หากคิดจะแยกกัน ฉันต้องเป็นฝ่ายบอกเลิกเท่านั้น ไม่ใช่ถูกสวมเขาเป็นอีโง่แล้วต้องมาบีบน้ำตาตอบสื่ออีกว่าถูกทิ้งเพราะอะไร
            ...ซิส์!
            อร๊าย! ขยันแอบถ่ายกันจัง ยุ่งเรื่องคนอื่นสนุกนักหรือไงเหวี่ยงหนังสือพิมพ์ลงพื้น ละเลงคัทชูเบอร์ 38 คู่สวยกระแทกหน้าผู้ชายหลายใจ เหยียบขยี้ระบายความอัดอั้นในอก ปากได้แต่สาปส่ง
          ไปตายซะเถอะ ไอ้คนมักง่าย
            วิธีระบายออกของฉันดูเด็กมากใช่ไหม ทำไงได้ล่ะก็ฉันไม่ได้มากรักเหมือนเขานี่ หรือควรไปฝึกวิชาหลายใจดู ทั้งที่ผู้หญิงควรมีร้อยเล่มเกวียน ฝึกกลเม็ดบริหารเสน่ห์ แต่นี่อะไรผู้ชายกลับแรดกว่า
            แรดบ้างก็ดี ได้สมน้ำสมเนื้อกัน
           
          แอ๊ดด…’
            อ้าวๆ เป็นอะไรไปแก กระดาษนั่นมันทำอะไรให้หรอเสียงสุชา เพื่อนสาวดังแทรกมาแต่ไกล นางคงเห็นฉันกระทืบเท้าเต้นเร่าๆ แสดงด้านหยาบคายใส่สิ่งไม่มีชีวิต ปากพร่ำด่าเยื้อกระดาษที่ไม่น่าจะรู้เรื่องด้วย เมื่อสาดอารมณ์จนเหนื่อยก็หอบสังขารมานั่งพัก
            สุชา แกดูดิพอลนอกใจฉันอีกแล้ว!” เหวี่ยงเสียงเรียกร้องความสนใจ ก้มลงไปคว้าหนังสือพิมพ์ยับเยินที่พื้นมาคลี่จัดทรงให้พอเห็นเนื้อความในนั้น
            แกก็เลิกสักทีซิ จะไปทนกับผู้ชายแบบนี้ทำไมยัยเพื่อนสาวไม่ชายตามองสักนิด กลับลอยหน้าลอยตาสวนกลับ ทั้งยังทำเสียงเหมือนเป็นเรื่องน่ารำคาญเหลือเกิน
            โอ๊ย! เพื่อนกันเปล่าเนี่ย แกก็รู้ว่าฉันไม่ยอมเลิกง่ายๆ หรอก ทนมาขนาดนี้แล้วทิ้งร่างนั่งหอบ มุ่ยหน้าเถียงเสียงดังราวกับคนต้นเรื่องเป็นเทพบุตรลงมาเกิด
            เฮ้อ! เสียดายความดัง ถ้าพระเจ้าจะมอบความหล่อเหล่าขั้นเทพมาให้ขนาดนี้ น่าจะบวกสามัญสำนึกด้านรักเดียวใจเดียวมาด้วยนะ ฉันจะได้รักเขาอย่างสนิทใจ
            ยังไง คาดหวังว่าพอลจะกลับตัวหรอสุชาถามเสียงขำ
            ก็ไม่ใช่! คือ...
            ลากเสียงยาวใช้ความคิด เพราะถูกพูดจี้ใจดำจนเถียงไม่ออก เออ! ยอมรับก็ได้ว่าเผื่อใจไว้เสมอว่าวันหนึ่งพอลจะหยุดนิสัยนี้ได้
            มันเป็นเรื่องธรรมดาของผู้หญิงไง ในตัวเราทุกคนย่อมมีโหมดที่          เรียกว่า เข้าข้างตัวเองด้วยกันทั้งนั้น ฉันก็แค่มันใจว่าเรื่องดีๆ ระหว่างเราจะทำให้เขากลับตัวกลับใจมาเป็นแฟนแสนดี
            หรือแกรักพอล สุชาจ้องหน้า นางนิ่งราวกำลังไล่ต้อนค้นหาความจริง ยัยนี่ก็แปลกคนเป็นแฟนกัน จะไม่ให้มีความรู้สึกรักชอบเลยหรือไง ถ้าฉันตอบว่า รัก จะผิดอะไรหรอ
            เฮ้ย! ไม่ใช่ แกก็รู้ว่าเพิ่งคบกันไม่เท่าไรเอง ลายออกหางโผล่ซะแล้ว แค่ไม่อยากเสียฟอร์มหรอก ไม่ได้หลงหัวปักหัวปำอะไรขนาดนั้นหรอฉันพูดเฉไฉไปอย่างนั้นเอง พยายามสบตาฉีกยิ้มเหมือนไม่คิดอะไรจริงๆ
            ใช่ แกกับพอลคบกันไม่นานเลย พอลกลับยกย่องแก ประกาศออกสื่อว่าเป็นแฟน ทั้งที่มีไฮโซอีกหลายคนรอคั่วเขาอยู่ หึ! ไม่แปลกหรอที่แกจะหลง
            ไม่จริงเลย! นี่ไม่ได้รัก ไม่ได้หลงอะไรทั้งนั้นแหล่ะ แค่ดูๆ กันอยู่ ระดับลูกเจ้าสัวอย่างฉันเนี่ย มีสิทธิเลือกก็ต้องเลือกเป็นธรรมดา ไม่ใช่ใครก็ได้ไหม!”
            งั้นก็เลิกซะซิ จะทนคบทำไมให้เสียเวลา
            ดูเหมือนแก... อยากให้ฉันเลิกกับพอลนะ
            เปล่านิ ไม่เกี่ยวอะไรกันซะหน่อย
            แสร้งลากเสียงเจ้าเล่ห์โต้กลับ ลอยหน้าลอยตากวนประสาทเหมือนถือไพ่เหนือกว่า สุชาเป็นเพื่อนสนิทที่น่ากลัว เพราะในรอยยิ้มแห่งมิตรภาพนั้น เธอแฝงการชิงดีชิงเด่นไว้เสมอ
            ค่ะ! ดูก็รู้ว่านางอยากให้เลิกกัน พูดถึงประเด็นนี้ทีไร นางวนมาประโยคเดิมๆ คือเลิกกันซะซิตลอด ฉันพยายามมองลึกลงไปในแววตาที่นางสื่อออกมา ค้นหาความรู้สึกแท้จริง ทุกคำหยอกเย้านั้นแฝงความห่วงใยไว้เสมอ ฉันจึงเลือกยิ้มรับ แล้วเงียบปากซะเอง

หลายวันต่อมา
            ยอมรับว่าพอลฮอตในหมู่สาวน้อยสาวใหญ่จริงๆ ความหล่อเนี๊ยบทุกกระเบียดนิ้วถูกปรุงแต่งมาอย่างดี ทั้งยังคารมคมคายระดับพระเอก เชื่อเถอะสาวไหนได้ใกล้ชิดก็หลงเหมือนฉันนี่แหล่ะ
            ตั้งแต่เปิดตัวคบกัน ความเป็นส่วนตัวของฉันสิ้นสุดลงทันที ถ้าเปิดทุกโซเชียวตอนนี้ คงมีแต่รูปที่แฟนคลับแท็กมาให้เยอะแยะไปหมด
            ติ๊ดๆ นี่ไงมาอีกแล้ว
            มาสนุกกันค่ะโซเชียวที่เหล่าเซเล็ปนิยมใช้อัพรูปอวดกัน ถูกมือดีแท็กรูปแฟนหนุ่มกำลังนั่งคลอเคลียผู้หญิงคนอื่นในผับหรูส่งมาให้
            ดูโปรไฟล์คนแชร์แล้วอดหงุดหงิดไม่ได้ ปากนิดจมูกหน่อย ร่างขาวใสสมสวย แต่งตัวดูดีมีรสนิยม กำลังนั่งแนบชิดหัวซบไหล่
            ไม่น่าเลย! ไม่น่ามีตรรกะชอบแย่งแฟนชาวบ้าน กล้าอวดรูปขนาดนี้ ทำเหมือนอยากให้รู้ว่ากินกันอยู่งั้นแหล่ะ แล้วไอ้คำเชิญแสนสุภาพนี่อีก อ่านยังไงก็ท้าทายกวนประสาทชัดๆ นี่ขนาดว่าปลงแล้วนะยังอดโมโหไม่ได้
            ได้! กล้าชวนก็กล้าไป คนประเภทฉัน เคยกลัวใครซะที่ไหน ถ้าไม่แน่จริงคบเพลย์บอยตัวพ่อไม่ได้หรอก

ไลน์! ไลน์
อยู่ไหนคะ / Read 18:04
Read 18:13 / ออฟฟิศ
Read 18:13 / ทำงานอยู่ครับ
ดึกแล้วยังไม่เลิกงานอีกหรอคะ / Read 18:20
Read 18:23 / งานด่วนน่ะ
Read 18:23 / ช่วงนี้ผมยุ่งมาก
ไปหาได้ไหมคะ / Read 18:31
อยากเจอคุณ / Read 18:31
Read 18:35 / คิดถึงผมล่ะซิ
Read 18:35 / Send a sticker(หัวเราะ)
Read 18:35 / ผมมีนัดออกไปคุยงานต่อ
Send a sticker(น้อยใจ) / Read 18:40
Read 18:44 / เดี๋ยวผมบอกอีกทีนะครับ

            เมื่อตัดสินใจออกจากกะลาไปตามหาความจริงแล้ว จุดเริ่มต้นของฉันคือพอล ผู้หญิงเราเชื่อสิ่งที่เห็นมากกว่าที่ได้ยินมาอยู่แล้ว ดั้นด้นออกจากบริษัทชานเมือง ขับรถฝ่าจราจรวันสุดสัปดาห์มาบริษัทเอเจนซี่กลางเมือง พอลไม่เพียงแต่เป็นนักแสดงเท่านั้น เขายังมีบริษัทของตัวเองด้วย จึงไม่แปลกที่เราจะไม่ค่อยว่างตรงกัน
            แล้วสิ่งที่คาดหวังก็เป็นจริง เมื่อเห็นแฟนหนุ่มนั่งคุยอยู่กับใครสักคนตามที่บอกไว้ ฉันหยุดแอบมองผ่านกระจกกั้น เพราะไม่อยากเสียมารยาทเข้าไปโดยพลการ รับรู้ได้เพียงเรื่องที่ทั้งสองคุยกันเครียดอยู่ไม่น้อย
            ผู้ชายคนนั้นก้มเขียนอะไรบางอย่างให้พอล เพราะเขานั่งหันหลังให้ฉันจึงมองไม่เห็นใบหน้า ดูจากบุคลิกแล้ว ชุดสูทดำตัดเย็บพอดีตัว ผมรองทรงยาวปะคอ น่าจะเป็นพนักงานออฟฟิศที่นี่ เพราะตึกนี้เป็นตึกปล่อยเช่ามีหลายบริษัทรวมตัวกันอยู่

            เช็คหรอ ผู้ชายคนนั้น โยนกระดาษแผ่นหนึ่งให้พอล ยืนขึ้นกอดอกชักสีหน้าไม่สบอารมณ์ พูดอะไรทิ้งท้ายแล้วเดินหนี ฉันมัวแต่ยืนงงกับท่าทางที่แสดงใส่พอล จนลืมไปเลยว่าเขาต้องเดินมาทางนี้
            อุ๊ย!’ สะดุ้งสุดตัวถอยหลังหนี ร่างสูงใหญ่บังร่างฉันไว้มิด หัว วัดความสูงตอนนี้ตัวยังไม่ถึงไหล่เขาเลยด้วยซ้ำ ทั้งที่มีออฟชั่นเสริมเป็นรองเท้าส้นสูงคู่โปรดนะเนี่ย
            มาทำอะไร” 
            คุณ! จะทำอะไรฉัน
            นี่ผม กำลังช่วยคุณอยู่นะ
            น้ำเสียงนิ่งเรียบถาม จังหวะเดียวกับที่ช่วงแขนโอบเอวฉันไว้ แต่ค่ะแต่! ฝ่ามือเกร็งค้างไม่ยอมสัมผัสถูกตัว เสียงจิ๊จ๊ะรำคาญใจแสดงให้รู้ว่ารังเกียจ
            ใบหน้าเชิดเหนือหัวทำให้มองเห็นไม่ชัดว่าเขาทำหน้ายังไงอยู่ รู้เพียงแรงกระเพื่อมใต้อกขยับประมาณกลั้วขำกับท่าเขย่งมองของฉัน
            ไม่ต้อง! ใครขอร้องคุณ
            ผมทำเพราะผมเป็นคนดีไง
            นอกจากจะกระเพื่อมวูบไหว ยังขำเสียงเยาะใส่หูอีก กวนประสาทชะมัด! เสียงกระซิบพร่านี่ก็ด้วยชวนขยักแขยงพิกล  เห็นท่าไม่ดีฉันตั้งการ์ดชักเท้าหนีอีกรอบ แต่เหมือนร่างกำยำถูกตีกรอบไว้ด้วยวงแขนอุ่น ไม่ว่าจะขยับไปไหนก็โดนร่างกายเขาโอบล้อมไว้อยู่ดี
            ปล่อย!” 
            ปล่อยง่ายๆ ได้ไง นี่คิดจะมาขโมยอะไรหรือเปล่า
            บ้า! นายมีตาไหม ดูหน้าฉันดีๆ ซิ นายไม่รู้หรอฉันเป็นใคร
            ยัยหัวขโมย
            นี่คุณ!”
            มานี่เลย! ไปหาเจ้าหน้าที่กับผม
            นอกจากจะตัวใหญ่กว่ายังแรงเยอะอีกด้วย แถมแขนขายาวเกะกะ สภาพฉันตอนนี้เหมือนลอยได้ เพราะหมอนี่เล่นกระชากลากถูจนตัวปลิวลอยตามมาติดๆ
            ไม่! ฉันไม่ไป ฉันจะไปหาแฟนฉัน ปล่อย!”
            “...”
          พยายามข่มอารมณ์ใช้เหตุผลอธิบาย เขากลับทำหน้ากวนประสาทหยักคิ้วลิ่วตา ส่ายหน้าไม่เชื่อก่อนฉันจะพูดจบซะอีก นี่คิดไว้ว่าถ้าทะเลาะกันมากกว่านี้ จะตะโกนให้คนช่วย คนอะไรตาถั่วขี้เกียจจะเถียงด้วยแล้ว
            นี่ไม่รู้หรือไง ฉันจ่ายเงินซื้อตึกนี้ทั้งตึกได้เลยนะ
            หึ! ผมจะรอดูว่าคุณมีปัญญาทำอย่างที่พูดไหม
            ไอ้! ไอ้! หยาบคาย พูดกับผู้หญิงแบบนี้ได้ไง ถางตาดูซิ! นายไม่รู้จักฉันจริงๆ หรอ หรือที่บ้านกันดารข่าวสารไปไม่ถึงห้ะ! ถึงมองไฮโซอย่างฉันเป็นขโมยไปได้
            คิดว่าทุกคนต้องรู้จักคุณงั้นซิ อย่างคุณมีอะไรดี
            ก็ฉันรวยไง
            “...”
            พอบอกว่ารวย หมอนี่ไม่เถียงอะไรต่อ เชอะ! อำนาจเงินทำได้ทุกสิ่ง(หรอ) ไม่พูดแล้วทำไมยังไม่หยุดลากล่ะ นี่ออกจากตัวอาคารมาลานจอดรถแล้วนะเนี่ย เดี๋ยว! ฉันยังไม่เจอพอลเลย ให้กลับมาที่รถทำไม











พระเอกลูกหนี้
2
มาซากิ
            เวลาแห่งรัตติกาล ผู้คนทั้งหลายต่างหลับใหลไปกับหวงนิทรา ทิ้งตัวในอ้อมกอดอุ่น อยู่ในที่ปลอดภัย เสพความสุขของนิยามคำว่า ครอบครัว ในขณะที่คุณเป็นเช่นนั้นอีกหลายคนกำลังเริ่มต้นงานวันใหม่
            นายครับ ไอ้ดารานั่นมันค้างจ่ายหลายงวดแล้วนะครับ ติดต่อก็ไม่ได้ เอาไงดีครับนาย
            ส่งข้อความบอกมัน ให้หาข้อเสนอมา บอกด้วยว่าอย่าคิดหนีไม่งั้นเจอดีแน่
            ครับนาย

            เพราะเรามองกันเพียงเปลือกนอก เบื้องหน้าฉาบความโก้หรูแค่ไหนเบื้องหลังย่อมเน่าเฟะแค่นั้น ผมเจอมานักต่อนักแล้ว พวกที่ชอบดิ้นรน อยากได้อยากมีชื่อเสียง เงินทอง ของประดับยศศักดิ์พวกนี้ หลอกล่อให้หลายคนหลงติดอยู่ในวงจรสีเทา
            หากไม่ใช่นายทุน ก็เป็นนักท่องเที่ยวหาที่ประจำหวังเพื่อปลดปล่อยตัวตนออกมา เหมือนที่ไนต์คลับแห่งนี้ไม่เคยขาดดาราดัง ไฮโซ เซเล็ป และนักการเมือง
            มาชินคลับ เป็นสถานบันเทิงครบวงจร มีสโมสรออกกำลังกาย คลับบาร์ดื่มสังสรรค์ บ่อนคาสิโนและซ่องค้าบริการ เรามีหลายสาขาหลายประเทศ สังคมเรากว้างขวางรองรับแขกทุกระดับชั้น เพราะไม่เลือกรับลูกค้า จึงมีปัญหาตามมาไม่เว้นแต่ละวัน 
            ยกตัวอย่างเช่นเคสที่ลูกน้องผมถาม รายนี้รู้สึกจะเป็นพระเอกชื่อดัง ไม่อยากเชื่อว่าจะมีรสนิยมชอบเสี่ยงโชค เที่ยวผู้หญิงเหมือนกัน
            นายครับ ไอ้ดารานั่นเชิญนายให้ไปหามันเองครับ ไม่รู้มันคิดอะไรอยู่นะครับ
            อืม! ถ้าอยากเจอ เดี๋ยวผมไปหามันเอง
            แต่นายครับ!”
            ไม่ต้องห่วง ผมคิดว่าเขาคงมีข้อเสนอดีๆ รออยู่แหล่ะ
            ถึงจะเจอหน้าพระเอกคนดังนี่ไม่กี่ครั้ง แต่ผมพอดูออกว่าเขาเจ้าเล่ห์ ร้ายลึกขนาดไหน นิสัยผมไม่ใช่เจ้าหนีโหดร้ายอะไรด้วยซิ ยังไงซะคงไม่มีอะไรน่าห่วงหรอก




@ออฟฟิศพอล
            ทันทีที่เข้ามานั่งในห้องออฟฟิศหรู ลูกหนี้เจ้าปัญหาที่ออกปากนัดเองยังยุ่งอยู่กับงาน แสร้งไม่สนใจราวในห้องนี้ไม่มีผมอยู่ เหลือบมองนาฬิกาข้อมือ กะไว้ว่าถ้าอีกนาทีเดียวไม่มีอะไรคืบหน้า ผมคงต้องจัดการตามขั้นตอน
            กฎของลูกหนี้มีเพียงข้อเดียว คือชดใช้ การเจรจาไม่ใช่หน้าที่ของผมเลยสักนิด หากว่ากันตามขั้นตอนแล้ว ป่านนี้พ่อพระเอกหนุ่มคงเจอทีมทวงถาม ลากไปนอนเล่นโรงพยาบาลไหนสักแห่ง นี่ผมใจดีไปหรือเปล่าที่ให้โอกาสคนเสียมารยาทอย่างมัน 

กริ๊ง! กริ๊งง...
            พอลเหลือบมองหน้า ผมสบตาก่อนกลับไปมองหน้าจอมือถือที่ยังดังต่อเนื่อง ปลายสายไม่ใช่ใครอื่น ลูกน้องคนสนิทผมนั่นเอง
            หืม! จัดการตามกฎแล้วกัน
            ใช่!”
            หัวขโมยหรอ ตัดมือมันทิ้งซะ ดูซิ! ต่อไปจะขโมยอะไรได้อีก
            ลูกน้องผมโทรมารายงานว่าจับคนทรยศได้แล้ว ตามกฎของเราจะแบ่งโทษทัณฑ์ลดหลั่งกันไป เริ่มจากเบาสุดคือกล้อนผม กักบริเวณ จ่ายค่าปรับ ลดตำแหน่ง ตัดนิ้ว และตัดออกจากกลุ่ม 
            สำหรับการขโมยข้อมูลลับถือเป็นโทษร้ายแรง โทษทัณฑ์จึงรุนแรงตาม  กฎเกณฑ์พวกนี้สืบทอดกันมาช้านาน ทุกคนรับรู้ดีว่าชีวิตในวงจรสีเทาสวยหรูเพราะพวกเรารักกัน ใช้ชีวิตเหมือนเป็นครอบครัวเดียวกัน ทุกคนคือเพื่อน พี่และน้อง หากจะมองว่าเป็นวงจรอุบาทว์ก็จริง เพราะงานที่เราทำไม่ใช่เรื่องที่คนดีๆ ควรเฉียดใกล้ 

            กลับมาที่บรรยากาศในห้องทำงานคุณดาราดีกว่า ตอนนี้เงียบมากกว่าเดิมซะอีก สงสัยผมจะพูดดังไป คนที่ตั้งอกตั้งใจทำงานในตอนแรก พลอยลุกขึ้นปรี่มาต้อนรับ ทั้งที่เมื่อกี้ยังเชิดหยิ่งไม่ปรายตามองผมสักนิด
            ขอโทษที่ให้รอนะครับ คุณ...”
            ผมมาซากิ
            ยินดีที่ได้รู้จักนะครับคุณมาซากิ ผมพอล
            เราทักทายกันเสร็จ ผมก็ทิ้งตัวนั่งสบายๆ รอฟังข้อเสนอที่อีกฝ่ายหยิบยื่นให้ ปกติผมไม่เสียเวลาให้ใครมากขนาดนี้นะ นี่เห็นว่าเป็นคนดัง ถึงยอมนิ่งเป็นฝ่ายรอ

          กริ๊ง! กริ๊งง...’ ยังไม่ทันพูดอะไรต่อเสียงโทรศัพท์ของพระเอกหนุ่มดังขัดขึ้นซะก่อน เสียงออดอ้อนประจบปลายสาย ไม่กระตือรือร้นรีบคุยรีบวางเลยสักนิด แล้วไอ้คำพูดสุดเลี่ยนนั่น ใช่คำที่จะคุยต่อหน้าคนอื่นไหม

            โทษทีครับ แฟนผมโทรมาไม่รับก็ไม่ได้หมอนั่นพูดด้วยน้ำเสียงเหนื่อยหน่าย ทั้งที่เมื่อกี้ยังที่รักคะ ที่รักขาอยู่เลย   
            ไม่เป็นไร พูดเรื่องของคุณเถอะผมรีบตัดบทขี้เกียจเสียเวลาไปมากกว่านี้
            ผมรู้มาว่าพวกคุณมีธุรกิจหลายอย่าง ผมมีข้อเสนออยากให้คุณพิจารณาก่อน
            ครับ
            คุณก็รู้ใช่ไหมว่าผมเป็นคนมีชื่อเสียง ส่วนแฟนผมก็ไฮโซลูกสาวเจ้าสัว
            ครับ เข้าเรื่องเลยดีกว่า
            ผมจะขายคลิปหลุดให้คุณ คลิปฉาวระหว่างผมกับแฟน เชื่อซิ! รวยเละแน่แววตาฉ่ำวาวฉายความสะใจไว้ในคำพูด นี่เขารู้ตัวหรือเปล่าว่าคิดอะไรอยู่ การกระทำแบบนั้นนอกจากผู้หญิงจะเสียหายแล้ว ตัวเขาเองก็เสียชื่อเสียงเหมือนกัน
            ของแบบนั้นจะมีราคาแค่ไหนเชียว ผมจะได้ประโยชน์อะไรผมแสร้งทำเป็นไม่สนใจ อยากรู้ความคิดคุณพระเอกต่อ
            ไม่เอาซิคุณ! อย่าเพิ่งกดราคากัน ผมรู้คุณเข้าใจ คลิปพวกนี้ขายง่าย ตัวผมเองถ้ามีข่าวเสียๆ หายๆ ก็ยิ่งดัง ส่วนแฟนผมเธอเป็นลูกเจ้าสัวใหญ่ เผลอๆ ใช่เรียกค่าทำขวัญได้อีก คุ้มใช่ไหมล่ะ
            คิดจะขายคลิป หรือขายผู้หญิงของคุณกันแน่ ฟังๆ ดูคุณมากกว่านะที่ได้ประโยชน์
            ขายก็ได้นะ ถ้าคุณจะซื้อ
            ผมไม่ขาดแคลนผู้หญิงขนาดนั้น
            แต่คนอื่นอาจขาดแคลนก็ได้
            หมายความว่าไง
            คุณไม่รับข้อเสนอนี้ก็ไม่เป็นไร แต่อย่าลืมซิ! ว่ายังมีอีกหลายคนที่ยินดีรับแน่นอน
            ได้! เท่าไร
            คลิปละแสน เริ่มจากวันนี้เลย
            หึ!”
            เดี๋ยวเธอจะมาหาผม
            “...”
            เซ็กเร่าร้อนในห้องทำงานเป็นไง คนดูน่าจะชอบนะ
            น่าปลื้มใจแทนผู้หญิงของคุณจริงๆ
            ผมไม่อาจทนมองสีหน้าคนเห็นแก่ตัวได้ ไม่นึกเลยว่าผู้ชายแสนดีสุภาพที่คนทั้งประเทศคลั่งไคล้ จะคิดอะไรได้ชั่วช้าแบบนี้ ทั้งที่อยู่ในวงการนักเลงมาตลอด ไม่เคยมีสักครั้งที่พวกเราจะทำร้ายผู้หญิง

            ผมก้มลงเซ็นต์เช็คจ่ายเงินแสนด้วยใบหน้าเรียบเฉย ทั้งที่อีกฝ่ายยิ้มกริ่มพอใจ ปากยังพร่ำโครงการสุดเลวไม่จบ ขนาดว่าไม่สนใจฟัง คำหยาบคายยังลอยลมมากระทบหู ผมละอยากให้เธอคนนั้นมาได้ยินจริงๆ เลย ดูซิว่าจะรับได้ไหม
            นี่ของคุณชูกระดาษเช็คเหนือพื้น จ่ออยู่ตรงหน้าพอดี  เขารีบยิ้มพอใจก่อนคว้ามือมาจับ แต่ไม่ทันคว้าไว้ ผมก็ปล่อยมันร่วงลงพื้นซะก่อน
            โทษที ผมมือไวไปหน่อยสีหน้าผมดุดันสวนทางกับคำพูด ตบท้ายด้วยเหยียดยิ้มพยักหน้าให้เขาก้มลงไปเก็บที่พื้น
            คุณกลับไปก่อนเถอะ เดี๋ยวแฟนผมคงมาถึงแล้ว
            หึ!”
            แม้จะชักสีหน้าไม่พอใจบ้าง แต่คุณพระเอกยังรักษามาด พูดคุยเช่นเดิม ทั้งที่แววตาแสดงชัดว่าไม่ชอบหน้าผมนัก
            ยัยนั้นไม่มีสมองหรือไง ถึงไม่เห็นเรื่องพวกนี้ หลงความหล่อ หลงคารมจนโงหัวไม่ขึ้นซิท่า
            ระหว่างที่เดินออกมา ผมคิดประโยคนี้เรื่อยเปื่อย อยากรู้เหลือเกินว่าผู้หญิงคนนั้นหน้าตายังไง คงจะดูโง่ๆ ไร้เดียงสาไม่ทันคน ถึงดูไม่ออกว่าที่คบอยู่มันมารร้ายชัดๆ

            อุ๊ย!’ สาวร่างบางในชุดเซ็กซี่ร่วมสมัย ปล่อยผมสีน้ำตาลทองสยายเคลียบ่าเนียนขาว ตาก้มโตกระพริบปรือแพขนตาเรียงเส้นสวยสงสัย กลีบปากสีหวานอุทานออกมาด้วยความตกใจ
            ผมเปิดประตูไปชนใครคนหนึ่ง เธอซุกหน้าแอบฟังเหมือนในหนัง ทั้งยังตั้งอกตั้งใจจนลืมไหวตัวอีกด้วย
            ผมรีบคว้าเอวคอดไว้ทันที ร่างบางเซถลามาซบอก ความสูงที่ต่างกันมากทำให้ผมต้องก้มลงมองใกล้ๆ ทุกอย่างบนใบหน้าเธองดงามมาก ปากนิด จมูกหน่อยชวนมองจนผมอดแกล้งไม่ได้
            ปล่อย!” จังหวะที่เธอเงยหน้าจ้อง ทำให้ผมเห็นแววตาวับวาวนั้นชัดเจน ดวงตาขุ่นไม่สบอารมณ์ของคุณหนูเอาแต่ใจ ส่งผ่านตัวตนพร้อมท่าดิ้นเร่าๆ ราวรำคาญคนเกะกะ ผมเดาได้ทันทีว่าเธอเป็นใคร
            ...ดาราเอวีคนใหม่
            ใบหน้าสวยจิ้มลิ้มน่ามอง โปกเครื่องสำอางจัดเต็มดูหนาน่าอึดอัดพิกล ปากสีแดงเข้มตามสมัยยกยิ้ม แสดงความหยิ่งยโสไม่กลัวใคร ทั้งยังขี้โม้อวดรวยโดยไม่รู้ชะตากรรมตัวเองเลย
            ผมรู้ดีว่าความสัมพันธ์ของคนรักกันนั้น มีหลายเหตุผลหลายตัวแปร นำมาซึ่งบทสรุปที่หลากหลายออกไป ชายหญิงรักกันนั้นไม่แปลกหรอก แต่สำหรับผู้ชายเห็นแก่ตัวกับยัยผู้หญิงไม่มีสมอง คงไม่ต้องคิดหาตัวแปรอื่นนอกจาก เงิน
            แรงสะดีดสะดิ้งฟึดฟัดไม่พอใจ น่ารำคาญมากกว่าน่าเอ็นดู ยั่วให้ผมสนุกกับการหยอกเย้าทั้งที่รู้ว่านี่คือผู้หญิงของคนอื่น แถมอีกไม่กี่นาทีข้างหน้าเธอก็จะเป็นเพียงสินค้าชิ้นใหม่ แต่ผมก็พอใจที่ได้กวนประสาทแบบนี้   
            สมองหยุดสั่งงานชั่วครู่ ยอมให้แรงกระทืบเท้าทำร้ายผม สุดท้ายตัดสินลากเธอออกมา ในเมื่อผมเสียเงินซื้อร่างกายนี้แล้ว จะเชยชมตอนนี้หรือตอนไหนคงไม่ต่างกัน
            ปล่อย! จะพาฉันไปไหนเนี่ยเสียงหวานหูเหวี่ยงสูง แขนบางพยายามยื้อยุดดิ้นให้หลุดฝ่ามือหนา เราเดินไปพลางเถียงกันไปพลาง ดูยัยคุณหนูนี่เพ้อเจ้อไม่เบา
            ฉันรวยพอจะซื้อตึกนี้ได้เลยนะ นายเป็นใคร อยู่บริษัทไหน เดี๋ยวจะให้ป๊าไล่ออก! คอยดูเถอะเสียงแว๊ดๆ ไล่หลังไม่หยุด โชคดีที่ตอนนี้มีเพียงรถเราสองคนจอดอยู่ ผมปล่อยแขนตามที่ร้องขอ ร่างเธอเซถลาไปกองแนบรถอีกครั้ง หึ! ยัยนี่ไร้กระดูกสันหลังหรือไง เอะอะล้ม ๆ ถ้ารองเท้าไม่ช่วยให้ทรงตัวดีขึ้น ก็ไม่จำเป็นต้องใส่สูงขนาดนั้นมั้ง เจ็บตัวเปล่าๆ
            โอ๊ย! ฉันเจ็บนะ เบาๆ ไม่ได้หรือไงเสียงกระเง้ากระงอดโอดครวญจริงจังมาก แถมจ้องหน้าผมตาถล่น ปากขยับมุบมิบราวกำลังด่าอยู่ในใจ
            คุณบอกให้ผมปล่อยเองนะแกล้งตีหน้าซื่อ แต่แอบขำท่าทางตลกๆ นั่น
            นายนี่มัน ไม่มีความเป็นสุภาพบุรุษเอาซะเลย ไอ้! ไอ้... ปากสวยพยักพเยิดคิดคำด่า แต่ดูท่าเกิดมาจะไม่เคยพูดหยาบคายมาก่อน เห็นคิดอยู่นานแต่ก็ไม่บอกสักทีว่าผมมันไอ้อะไร
            ไอ้โรคจิต หยาบคาย ไอ้!... หน้าตาก็ดีแต่นิสัยเสีย
            คุณ!”
            ผมพูดได้คำเดียว เพราะมัวแต่กลั้นขำคำด่าทอของเธอ ไม่อยากเชื่อเลยว่านิสัยคุณหนูติดหรู อวดรวยในนิยาย จะกลายร่างมาอยู่ตรงหน้าผม
            ขำอะไร! ไอ้!... ไม่เป็นสุภาพบุรุษ
            นิคุณ! แล้วที่คุณพูดล่ะ สุภาพนักหรือไง
            หืม! ไอ้บ้า! ระดับฉันน่ะนะ ไม่ลดตัวมาคุยกับคนระดับนายหรอก รู้ไว้ซะด้วย
            ระดับผม แล้วยังไง
            จงใจขยับเข้าใกล้กว่าเดิม ใช้ฝ่ามือรั้งกรอบหน้าเธอจ้องถาม
            แทนที่คนปากดีในตอนแรกจะโต้กลับ เธออึ้ง กรอกตาไปมาแสดงความประหม่า ทำอย่างกับว่าไม่เคยถูกเนื้อต้องตัวผู้ชายงั้นแหล่ะ
            กลับบ้านไปซะ ก่อนที่คนอย่างผมจะจัดการคุณ
            “…”
            สายตาหวาดกลัวผุดขึ้นตามคำขู่ เราเผลอสบตากันหลายวินาที เธอยังดึงดันจ้องตอบ ทั้งที่กำมือแน่น เกร็ง กลัวเหลือเกิน โถ่! น่าเอ็นดูขนาดนี้ เดี๋ยวผมก็แกล้งต่อซะหรอก
            หยักคิ้วกวนประสาท ขยับเข้าใกล้เธอมากกว่าเดิม กลิ่นหอมอ่อนๆ โชยออกมาจนผมฟุดฟิดจมูกสูดดม เธอเอาแต่อึ้งค้าง กรอกตาไปมา พร่ำคำว่า ไอ้โรคจิต ไม่หยุด
            กลัวหรอ!”
            ใครกลัว
            จุ๊ๆ นึกว่าจะเก่งกว่านี้ซะอีก
            “…”
            ไม่สนุกเลย ผมไปดีกว่า
           

22:56
            นายครับ อารมณ์ดีอะไรมาครับ ผมเห็นนายยิ้มไม่หยุด
            จริงหรอ ผมทำอย่างนั้นเมื่อไร
            ก็ตอนนี้ไงครับ นี่ไง! นายกำลังยิ้มอยู่
            ตั้งแต่แยกกับยัยคุณหนูอวดรวย ผมก็ตรงกลับบ้านทันที เจอลูกน้องคนสนิทถามจี้ใจดำเข้าจึงชักหน้าตึง แทนที่นายชัชจะหุบปากกลับหัวเราะร่วน ทำหน้าเหมือนผู้ปกครองจับผิดเด็กได้
            เปล่าซะหน่อย ผมไม่ได้ทำอย่างคุณว่า
            ทำหน้านิ่งก็ไม่ได้แปลว่าไม่ยิ้มนะครับ ผมอยู่กับนายมานานทำไมจะดูไม่ออก ว่ากำลังมีความสุขหรือทุกข์อยู่
            มีอะไรทำก็ไปทำไป เผื่ออยู่มานานจะไม่รู้ว่าผมยิงแม่นแค่ไหน
            เคยเป็นไหมครับพอถูกคนจี้จุด ร่างกายมันเป็นเองอัตโนมัติ อยากนิ่งกลับไม่นิ่ง อยากหุบยิ้มกลับยิ่งทั้งยิ้มทั้งขำ   
ผมแกล้งพูดขู่ไปแบบนั้นเอง เพราะลูกพี่อย่างผมไม่เคยต้องลงมือจัดการใคร แต่สิ่งไหนลูกน้องทำได้ ผมก็ต้องทำได้ จึงไม่แปลกหากผมจะเก่งการต่อสู้ทุกชนิด และเป็นนักแม่นปืนด้วย

            โห่! นาย แซวแค่นี้ต้องจริงจังด้วย ผมไปดีกว่าชัชทำท่าจะเดินเลี่ยงไป ผมนึกขึ้นได้จึงรีบถาม
            เอ่อ! ชัช ได้ข่าวว่าที่คลับช่วงนี้มีคนกวนหรอ
            ครับนาย คนต่างถิ่น ก็คุณพระเอกนั่นแหล่ะ พาเข้ามา
            จับตาดูไว้นะ ผมไม่ค่อยไว้ใจเลย
            ครับนาย
            สายผมบอกว่า คุณพระเอกติดหนีบ่อนเฮียเติงหลายล้านอยู่นะครับ ไหนจะเครดิตที่เบิกเราไปอีก ผมว่าท่าจะออกลายอีกคน
            ลองเช็คให้ผมหน่อย ว่าหมอนี่ติดหนี้ที่ไหนอยู่บ้าง เอ่อ! ดูด้วยว่ามีธุรกิจเสริมอะไรอีก
            ครับนาย
            จากสายตาผม ผู้ชายคนนี้อ่านไม่ยากนักหรอก แต่ที่ต้องตามสืบเพราะไม่รู้เค้าอยู่ในช่วงลำบากมากน้อยแค่ไหน ความจนตรอกเป็นสิ่งน่ากลัว เพราะมันทำลายทุกอย่างได้








 

ลุยเดียว
3
ศจีรัตน์

            โอ๊ย! อะไรแต่เช้าเนี่ย
            มือถือคู่ใจถูกปาลงที่นอนอย่างหัวเสีย ทั้งที่ร่างเกือบเปลือยยังงัวเงียไม่อยากตื่น บิดขี้เกียจซุกหน้ากับหมอนนุ่น สไลด์นิ้วไถ่หน้าจอเรื่อยเปื่อย สุดท้ายเรื่องที่ไม่อยากรู้ ก็ตามมาหลอกหลอน
            ไอดีนี้จงใจกวนประสาท นางพยายามส่งรูปพอลมุมส่วนตัวหลายอิริยาบถมาให้ ทั้งยังแคปชั่นหวานเลี่ยนติดเรทนี่อีก ถ้าไม่ใช่คนคลั่งไคล้มากๆ ก็น่าจะรู้จักกันเป็นการส่วนตัว
            บ้า! บ้าๆๆ
            คิดจะกวนประสาทให้บ้าตายเลยหรือไง
            ใจอยากสบถคำด่าสักหนึ่งหน้าเอสี่ แต่เพราะไม่เคยต้องพูดแย่ๆ กับใคร เลยบ่นได้แค่เพียงบ้าซึ่งรู้สึกช่วงนี้ชีวิตฉันเจอแต่คนแบบนี้ แถมยังมี โรคจิต นั่นอีก เฮ้อ! ชีวิตส่วนตัวของฉันเปลี่ยนไปหมดแล้ว
            รูปส่วนตัวน่าเกลียดๆ ถูกปล่อยลงโซเซียวจนกลายเป็นเรื่องตลกของคนหมู่มาก ใช่ซิ! ก็ไม่ได้สวยตั้งแต่เกิดนี่ ไม่เห็นต้องใช้คำพูดรุนแรงคอมเม้นท์กันสนุกปากเลย ทั้งที่ไม่รู้จักกันแท้ๆ ทั้งที่ฉันไม่เคยทำอะไรให้

          แอ๊ดด...
            ตื่นเถอะลูก วันนี้หนูต้องเข้าประชุมบอร์ดบริหารนะแม่เดินเข้ามาปลุก พร้อมกอดกระชับเหมือนตอนเป็นเด็กตัวน้อย
            ค่ะแม่สวมกอดอ้อนตามประสา ทุกครั้งที่เหนื่อยล้าอ้อมกอดนี้ช่วยฉันได้เสมอ
            ช่วงเย็นแม่กับพ่อจะบินไปดูงานที่ฮ่องกงนะ เราก็อย่ากลับบ้านดึกล่ะ
            ให้หนูไปด้วยไหมคะ เผื่อจะได้ศึกษางาน
            ไม่ต้องหรอก แม่ไปกับพวกที่สมาคม เราไปด้วยก็จะเบื่อเปล่าๆ
            อยู่ที่นี่ก็น่าเบื่อค่ะ
            อย่าไปใส่ใจเลยลูก คิดซะว่าคนที่ตัดสินลูกแบบนั้น เค้าไม่เปิดโอกาสให้เราเป็นเพื่อนซะก็จบ เค้าไม่ให้โอกาสเรา เราต้องให้โอกาสตัวเองนะลูก อย่ามั่วแคร์ในสิ่งที่บั่นทอนจิตใจ ไม่งั้นหนูจะไม่รู้เลยว่า ความสุขของแต่ละวันมันคืออะไร
            ค่ะแม่
            คำพูดแสนอบอุ่นชาร์ตกำลังใจฉันให้กลับมาเต็มล้นอีกครั้ง ทั้งยังวงแขนกอดกระชับ กลิ่นตัวหอมๆ คำพูดปลอบประโลม ที่คนเป็นแม่เท่านั้นที่ทำได้ รู้ดีว่าผู้หญิงตรงหน้ารักฉันที่สุด หวังดีกับฉันที่สุด ในเมื่อรู้ว่าใครรักเราแล้วจะมัวแคร์คนที่ไม่รักทำไม
13:41
@ออฟฟิตศจีรัตน์
          ร่างอรชรสมส่วนของเพื่อนสาวคนสนิท เดินนวยนาดเข้ามาพร้อมส่งยิ้มขำ ทิ้งตัวนั่นโซฟาสบายๆ ฉันเหลือบมองนาฬิกา เพิ่งรู้สึกตัวว่าใกล้ถึงเวลานัดแล้ว ปกติเราตัวติดกันตลอด ขนาดว่ามีแฟนแล้วก็ยังไปไหนมาไหนด้วยกันอยู่ ฉันว่าไปกันสามคนก็สนุกไปอีกแบบ
            ไงศจี ฉันนึกว่าแกบ้าตายไปแล้ว เห็นมีรูปหลุดไม่เว้นแต่ละวัน
            ฉันไม่แคร์จ๊ะ
            อืม... มั่นหน้าว่างั้นเหอะ
            สุชาเชิดหน้าถาม ฉันก็เชิดหน้าตอบ ทั้งยังนิ่งไม่สะทกสะท้านจนคนถามหน้าเสียซะเองด้วย
            แคร์บ้างก็ดีนะแก
            โนสน โนแคร์จ๊ะ
            ดูแกตอนนี้ซิ ทำงานเครียดจนริ้วรอยตีนกานับเส้นไม่ไหวแล้ว ยังไม่รวมผิวแห้งกร้านนี่อีก คิดจะเป็นแฟนพระเอกสุดหล่อ มันต้องดูแลตัวเองหน่อยนะ
            ใช่! ฉันรู้ดี เพราะสนิทกันมานานสุชาจึงเป็นเสมือนกระจก ไม่ว่าจะมุมไหนที่ฉันดูแย่ ยัยนี้ต้องสะท้อนผ่านปากนางออกมาหมด จนตอนนี้เริ่มไม่แน่ใจแล้วว่า ที่นางพูดออกมาทั้งหมดนั้น เพราะหวังดีหรือแค่สนุกปากกันแน่
            เวลาเครียดมักจะชวนสุชาออกช็อปปิ้งเสมอ ทำไงได้ผู้หญิง - ของเซลล์เกิดมาคู่กัน เดินสวยๆ ให้ห้างหรู ท่ามกลางกองเสื้อผ้ากระเป๋าแบรนด์ถูกใจ รู้สึกดีประหนึ่งบินละลิ่วกลางทุ่งลาเวนเดอร์ วันนี้เดินเที่ยวจนเหนื่อย เข้าสปา เสริมสวยคลายเครียดจนเสร็จ แล้วก็มานั่งปรับทุกข์เหมือนทุกครั้ง  
            ดูซิ! แฟนคลับพอลเอารูปแกไปแต่งล้อเลียน ตลกมากเลย สุชาจิ้มมือถือไปมาแล้วขำไม่หยุด
            เธอส่งรูปในโซเชียวให้ดู แว็บแรกก็ขำอยู่หรอก เพราะแคปชั่นมันตลกดี แต่พอดีรูปชัดๆ นั่นมันหน้าเราเองนี่หว่า
            อยากบอกทุกคนตรงนี้เลยว่า การล้อปมด้อยคนอื่นไม่ใช่เรื่องดีนะคะ เราไม่ควรเหยียดเย้ยพูดไม่ดีกับใคร เพราะทุกคนล้วนเกิดมามีคุณค่าในตัวเองทั้งนั้น
            ช่างประไร ฉันมีเงิน จะทำให้สวยยังไงก็ได้ เปลี่ยนจมูก ยกเบ้าตา ปรับโครงหน้า เติมนี่เติมนั่น ฉีดสเต็มผิวทุกเดือนก็ยังได้ ฉันไม่เดือนร้อนหรอก
            ค่ะ ชะนีรวย
            แน่นอน
            หวังว่ารวยแล้วจะไม่โง่นะ
            หืม!
            เผลอทำเสียงสูงสงสัย เพราะเพื่อนสาวชักสีหน้า ทั้งยังกระแทกเสียงใส่อีก ทำอะไรให้เธอเคืองหรือเปล่านะ ปกติเราก็พูดเล่นกันได้ แล้ววันนี้อารมณ์ไม่ดีหรือไง
            คืนนี้มาให้ได้นะ จะได้รู้ว่าพอลเค้ารักแกจริงไหมกระดาษจดชื่อสถานที่ พร้อมหมายเลขห้องถูกส่งให้ฉัน
            ก้มอ่านข้อความสลับกับมองหน้าสุชา ส่งสายตาอยากรู้อยากเห็นในขณะที่เธอคลี่ยิ้มตีหน้าไม่รู้ไม่ชี้ ฉันรู้ว่าเธออยากสื่ออะไร แต่แสร้งทำเป็นไม่สนใจ ไม่แน่นะยิ่งเบื่อๆ อยู่ ทุกอย่างอาจจะจบในคืนนี้ก็ได้
            ไปด้วยกันไหมแก  เอ่ยปากถาม สุชาไม่พูดอะไรต่อ ยิ้มระรื้นแล้วเดินออกไป ทิ้งความรู้สึกหน่วงไว้ในใจ ได้แต่มองข้อความในนั้นแล้วยิ้มปลอบตัวเอง

            มาชินคลับ
          20AVIP ‘



21:44
            ขณะนี้กำลังแปลงร่างเป็นนักสืบสุดสวยอยู่ค่ะ ด้อมๆ มองๆ ซ่อนตัวอยู่ในลานจอดรถนานแล้ว ดูเวลาตอนนี้ก็ค่ำมืดเมื่อไรพอลจะมาสักที เอ๊ะ! หรือว่าฉันจะบ้าไปเอง
            ยังไม่ทันคิดทบทวนอะไร พอลก็เดินลงมา รีบร้อนออกรถไป ฉันลนลานตามติด ใจลุ้นระทึกขอให้ไม่ใช่สถานที่ตามกระดาษแผ่นนั้นบอก สุดท้ายทั้งสถานที่ เวลา และห้องนัดหมายตรงตามนั้นทุกอย่าง ฉันรู้สึกแปลกๆ ไม่อยากยุ่งเรื่องนี้ต่อ กลัวว่าทุกอย่างจะเป็นไปตามที่คิด

            สุชา แกคิดจะทำอะไร
            เพ้อสิ่งที่กลัวออกมา ฉันไม่ได้โง่ ฉันรู้แต่เลี่ยงมันมาตลอด หากแต่ตอนนี้ระยะทางการถ่วงเวลาคงสิ้นสุดลงแล้ว


@มาชิน คลับ
            เดี๋ยวครับคุณผู้หญิง ขออนุญาตตรวจบัตรสมาชิกด้วยครับเจ้าหน้าที่หนุ่มหน้าประตูทางเข้ารีบขว้าง
            เอ่อ... ศจีมากับพอลค่ะ คนเมื่อกี้ไงคะ
            ครับ แต่บัตรคุณพอลเมมเบอร์เข้าครบแล้วครับ กฎของที่นี่สมาชิกเข้าพร้อมผู้ติดตามได้แค่คนเดียว ซึ่งไม่ใช่คุณ ผมขออนุญาตดูบัตรคุณด้วยครับ
            โอ๊ยคุณ! ศจีมีธุระกับพอลแค่แป๊บเดียว สัญญานะคะ ว่าจะรีบคุยแล้วออกมาเลย ไม่ให้ผิดกฎที่นี่นักหรอก
            ไม่ได้ครับ กฎก็ต้องเป็นกฎ
            นะคะ หรือคุณจะให้ฉันซื้อเมมเบอร์ใหม่ก็ได้ ฉันยินดี
            ทางเราคงไม่สะดวกสำหรับคุณครับ ที่นี่เราไม่รับลูกค้าทั่วไป รับเฉพาะลูกค้าวีไอพี ที่สำนักงานใหญ่ส่งจดหมายเชิญให้มาทำบัตรสมาชิกเท่านั้นครับ
            ห้ะ! มีแบบนี้ด้วยหรอ ค่าบัตรสมาชิกจะเท่าไรกันเชียว
            บัตรสมาชิกวีไอพีรายปี จะได้รับสิทธิพิเศษคือห้องรับรองสุดหรู บ่อสปาส่วนตัว อาหาร เครื่องดื่ม วงเงินเครดิตพร้อมใช้ ราคาสมาชิกอยู่ที่สิบล้านบาทครับ
            ห้ะ! สิบล้าน
            สะดุดหูคำว่าสิบล้านบาท จนต้องทวนคำพูดเจ้าหน้าที่ออกมาเสียงดัง เขาเพียงยิ้มรับ ในขณะที่ฉันงงหนักไม่เข้าใจในความแพงนั้น แถมยังต้องเชิญมาเสียเงินอีก โอ๊ย! คลับประเภทไหนกันเนี่ย แค่มีเงินก็เข้าไปไม่ได้หรอ

            ให้เธอเข้าไปเสียงเอ่ยปากสั่งดังไล่หลัง สีหน้าพนักงานที่เคยเชิดหน้าเก๊กมาดดุดันดูเจื่อนลงเล็กน้อย เดาว่าคนที่กำลังเดินมาคงมีอำนาจสั่งการอยู่ไม่น้อย
            ครับนายคุณเจ้านายเดินแทรกมาเปิดประตูให้ ฉันยังนิ่ง คิดจะหันไปขอบคุณเค้าสักหน่อย แต่ยังไม่ทันได้พูดอะไร เสียงกวนประสาทคุ้นหูก็ดังขึ้นซะก่อน
            ไม่เข้าแล้วหรือไง
            เข้าค่ะ อ้าวคุณ!
            ว่าแล้วเสียงคุ้นๆ ที่แท้ก็ไอ้คนหยาบคายวันนั้นนี่เอง ดูคนไม่ผิดจริงๆ เลยกะแล้วว่านิสัยอันธพาลแบบนี้ คงไม่ใช่คนดีแน่
            ฉันเพียงเชิดหน้าไม่สบอารมณ์ใส่ ในขณะที่นายนั่นแสยะยิ้มกวนประสาท หึ! อยากจะกรี๊ดนี่มันวันอะไรกันเนี่ย
            มุ่งหน้าเดินเฉิดฉายประหนึ่งทางข้างหน้าคือรันเวย์ พอลมากับใครไม่ใช่เรื่องที่ฉันอยากรู้ เหตุผลเดียวที่ตามมา เพราะนี่คือโอกาสที่ฉันจะบอกเลิกเขาได้ ระหว่างเราจะได้จบสิ้นสักที 

            สองเท้าหยุดหน้าประตูห้อง แอบข่มตาสูดลมหายใจลึก คลายความกังวลในอก นิ้วเรียวสวยกำหากันแน่น
          เป็นไงเป็นกัน วันนี้ฉันต้องเป็นอิสระให้ได้
            ไหวไหมคุณสะดุ้งจากภวังค์เพราะเสียงแทรกคุ้นหู 
            สบาย!” ตอบเสียงสูง ถ้าหมอนี่ไม่โง่จนเกินไปคงพอเดาออก ว่าฉันไม่ได้รู้สึกอย่างที่ปากพูดเลยสักนิด
            ผมล่ะเบื่อจริงๆ ฉากเมียหลวงตามอาละวาดตบตีเมียน้อย ผู้ชายมีตั้งเยอะแยะทำไม่ต้องแย่งกันด้วย
            นั่น! สายตาเย้ยหยันส่งมาด่าฉันกลายๆ หาว่าเป็นเมียหลวงขี้เหวี่ยงตามนิยายน้ำเน่าหรอ ฮัลโหล! เข้าใจใหม่นะคะ ฉันกับพอลยังไม่มีอะไรเกินเลยกัน เอาจริงๆ คือยังไม่ทันไว้ใจเลย พ่อพระเอกคนดีก็ลายออกซะก่อน
            ก็ผู้ชายเยอะแยะที่ว่าน่ะ เป็นผู้ชายประเภทคุณไง ถึงไม่มีใครเอาฉันตอบกลับเสียงเรียบ พูดจบก็เปิดประตูเข้าห้องนั่นทันที 
           
           

            กลุ่มควันฟุ้งกระจายตัว แสงสลัวพอมองเห็น เปิดเข้ามาเจอมุมโซฟายาวนั่งชิว เลยไปเป็นบ่อแช่น้ำออนเซนมอง กระจกแผงยาวเล่นเหลี่ยมโค้งเว้าสะท้อนวิวมุมสูงของกรุงเทพยามราตรี
            สวยขนาดนี้นี่เอง ไม่น่าล่ะถึงแพงนัก ภาพตรงหน้าคือความงดงามที่เจ็บปวด ราคาแพง และน่าจดจำที่สุด
            ร่างชายหนุ่มหญิงสาวคลอเคล้ากันไม่ห่าง แสงระยิบระยับจากดวงไฟน้อยใหญ่เกิดภาพชวนมอง เงาคนคุ้นเคยสะท้อนในกระจก ฉันอึ้งค้างจดจำใบหน้าระรื้นของสองคนนั้นด้วยความสับสน ฉันไม่ดีตรงไหน โง่เกินไปหรือเปล่า
            ผู้หญิงนั่นเผลอสบตาฉันผ่านเงาในกระจก เธอรู้ตัวแล้วว่าแขกที่เชิญมาถึงที่หมายและรับรู้ทุกอย่าง แทนที่จะตกใจกลับเหยียดยิ้มท้าทาย ฉันยังคงนิ่งกำมือหากันแน่น ระบายความอัดอั้นผ่านเล็บคมยาว จิกลงฝ่ามือบางด้วยความแค้น
            ร่างอรชรชันตัวขึ้นคร่อมจงใจซุกไซ้ซอกคอแฟนหนุ่มผู้ระเริงในกาม เสียงหัวเราะหยอกเย้าตอกย้ำว่าทั้งสองมีความสุขเหลือเกิน ไม่ได้ระอายใจรู้ผิดรู้ชอบเลยสักนิด 
            ...แล้วฉันจะโกรธทำไม
            ดีซะอีก! จะได้หลุดพ้นสักที
           
            เธอซุกหน้าลงซอกคอ ลากเรียวลิ้นลงแผงอก ใช้ฝ่ามือประครองกรอบหน้าหล่อเลาให้เชิดครางกระเส่า อีกมือยึกยักอยู่เบื้องล่าง สายตาจ้องวาบหวามตามด้วยจังหวะเสียดสีโยกตัวแผ่ว เธอส่งสายตาเย้ยหยัยก่อนปรับไปไม่สบอารมณ์เพราะฉันนิ่งไม่ตอบโต้
            ไม่รู้ซิแทนที่จะโกรธ วูบหนึ่งเสียงหมอนั่นดันลอยเข้าหูมาซะก่อน ฉันไม่อยากเป็นเมียหลวงขี้เหวี่ยง ฉันอยากเป็นคนธรรมดาที่มีคุณค่าและไม่ใช่คนที่ใครจะทำร้ายได้

            ศจี!” พอลพูดขึ้นก่อน คงตกใจมากที่วิวหรูในเมืองกรุงมีเงาฉันสะท้อนอยู่ในนั้น
            เชิญคุณก่อนก็ได้นะคะ ศจีรอได้ปากขยับพูดแบบนั้น แต่กลับเดินเข้าใกล้ ทิ้งร่างลงขอบอ่างน้ำกลางแสงจันทร์ นั่งชื่นชมความงามเบื้องหน้าไม่สนใจคนทั้งสอง
            ศจีฟังผมก่อน! คือผม...” พอลอึกอักรีบพูด ผลักไส้คนบนตัวให้ออกห่าง พยายามมาหาฉันทั้งที่ยังมีใครอีกคนรั้งอยู่
            พอลคะ ก็ยัยจีบอกแล้วว่ารอได้ไง คุณมาสนุกกับสุชาก่อนดีกว่าค่ะใช่! ฟังไม่ผิดหรอก เสียงสุชาเพื่อนสนิทคนเดียวของฉันพูดหน้าตาย ไม่สะทกสะท้านราวไม่รู้สึกผิดเลยสักนิด
            ปล่อยผมสุชา! ผมจะคุยกับศจีก่อนพอลดึงดัน ส่งสายตาดุดันให้เธอหยุด ฉันรู้โดยสัญชาตญาณว่าเขาทั้งสองส่งสัญญาณอะไรบางอย่าง ในเมื่อเลือกแล้วก็ไม่ควรแกล้งโง่อีก
            ไปดุสุชาแบบนั้นทำไมล่ะคะพอล เดี๋ยวเธอก็น้อยใจแย่หรอก
            เห็นไหมคะ ยัยจีเสนอตัวรอเอง เรามาสนุกกันดีกว่าค่ะ
            ตามสบายค่ะ ขอศจีนั่งนี่นะคะ ตรงนี้สวยดีนะแกว่าไหม อ่อ! ลืมไปคนระดับแกไม่เคยเห็นที่หรูๆ แบบนี้นิเนอะ หรูกว่าตลาดสดที่บ้าน แกก็ว่าดีหมดแหล่ะจงใจเหยียดยิ้ม ชักสีหน้าดูถูกจนอีกคนโกรธจัด
            แก!”
            จุ๊ๆ ไม่อารมณ์เสียซิ ฉันไม่มีเวลารอนานหรอกนะ รีบๆ ทำหน้าที่นางบำเรอของแกเถอะ
            อีนี่!”
            สุชา! หยุด คุณกลับไปก่อน!”
            ไม่ค่ะ! สุชาไม่กลับ
            ผมบอกให้กลับไป
            ไม่ค่ะ สุชาเป็นเมียคุณ ผัวอยู่ไหนเมียก็อยู่นั่น บอกมันไปซิคะ ว่าคุณเบื่อมันขนาดไหน
            สุชา!”
            อย่างคุณหนูศจีมีดีแค่มีเงิน ไม่มีอะไรสู้ฉันได้สักอย่าง หน้าตาบ้านๆ จืดชืดน่าเบื่อ ผู้ชายของแกมาติดฉันตั้งนานแล้วยังโง่ไม่รู้ตัวอีก คงมั่นใจตัวเองมากซินะว่าพอลรักแกมาก
            หรอคะ พอลไม่รักศจีหรอคะ เสียดายจังการแสดงความรักของศจีมักมาในรูปแบบของงานซะด้วย งั้นโฆษณาตัวใหม่ก็ยกเลิกไปแล้วกัน!”
            ศจีฟังผมก่อนนะ ผมรักคุณ ผมกับเขาแค่สนุกกันเฉยๆ คุณอย่าคิดมากนะ
            ศจีไม่คิดมากค่ะ แต่ศจีไม่ชอบ ไม่ชอบเรื่องเล่นสนุกของคุณและก็ไม่ชอบคุณตอนนี้ด้วย ศจีไปดีกว่าลาก่อนนะคะ
            ฉันรู้ข้อได้เปรียบของตัวเองดี จึงเล่นตัวป่วนประสาทเพื่อนชั่วกับชายชู้ไปอย่างนั้น จ้องหน้าสุชาไม่ลดละ ใช้สายตาต่อว่าแทนคำพูด เธอนิ่งดุดันราวฉันเป็นมือที่สามซะเอง
            คนอย่างพอล ถ้าไม่มีประโยชน์เขาก็ไม่คบด้วยหรอก ระดับลูกสาวเจ้าสัวอย่างฉันจึงมีค่าพอให้พอลเอ่ยปากง้อ 
            เดี๋ยว! ศจีจากที่พูดจบลุกยืนแสร้งจะเดินหนี ต้องหยุดชะงัก หันกลับตามเสียงเรียก ตีหน้าซื่อใสยิ้มรับอย่างผู้ชนะ
            สุชามองหน้าพอลทันที เธอกำลังคลั่งเกาะเขาไว้แน่น แม้ถูกสะบัดออกหลายครั้งก็ไม่ยอมปล่อย
            เรื่องงาน ผมจะได้ทำใช่ไหมสุชาหน้าเปลี่ยน เธอหัวเราะขำเสียงดังในขณะที่ฉันหน้าชา เพราะไม่คิดว่าคนโดนตัดพ้อจะห่วงงาน มากกว่าห่วงแฟนสาว
            พอลก็พูดตรงไปค่ะ ไงศจี! พอลเขาถามไม่ได้ยินหรือไง ถ้าเลิกกับเธอแล้วเนี่ย งานยังจะจ้างอยู่ไหมสุชาหัวเราะสะใจมาก ยิ่งเห็นฉันโกรธ หน้านิ่งมือจิกสะกดอารมณ์ เธอยิ่งพูดยั่วสารพัด ยอมรับว่าหนักอึ้งไม่รู้ควรทำอะไรต่อ รู้เพียงต้องพาตัวเองออกจากตรงนี้ให้ได้
            ทุกอย่างยกเลิกค่ะ คุณขาดคุณสมบัติแล้วพอล
            ไม่ซิ! ศจีนี่มันคนละเรื่องกันนะ คุณแยกแยะหน่อย
            เรื่องเดียวกันค่ะ ไม่ว่าจะเรื่องงานหรือเรื่องเป็นชู้กับเพื่อนศจี คุณก็ทำให้ศจีไม่พอใจเหมือนกัน เหตุผลแค่นี้มากพอที่บริษัทจะยกเลิกสัญญาทุกอย่างกับคุณ
            หึ! ทีนี้เชื่อหรือยังระหว่างแกกับพอล มีแต่เรื่องของผลประโยชน์ ความรักที่บูชาน่ะ มันไม่มีจริงหรอก ใครเขาจะเอาคนอย่างแก! ไม่มีอะไรดีสักอย่าง
            พอลนิ่งปล่อยให้สุชาเดินนวยนาดออกมาเย้ยหยัน ความรู้สึกชาตั้งแต่ปลายเท้าแล่นลิ่วตัดขั้วหัวใจ หนึ่งคือเพื่อนรัก สองคือแฟนคนดัง ใจฉันคงกำลังแตกสลายซินะ! ถึงอึดอัดหายใจติดขัดแบบนี้
            สายตาชิงชังในตอนแรกกำลังปรับเป็นเฉยชา ความโกรธท่วมท้นถูกความเสียใจกลบทับ ภาพอดีตต่างๆ ไหลเวียนมาในหัว เธอคือเพื่อนคนเดียวของฉัน ทำไมถึงทำร้ายจิตใจกันขนาดนี้ เพียงแค่ผู้ชายคนเดียวงั้นหรอ ทุกอย่างถึงพังสลายราวไม่เคยมีอยู่เลย 
            ถ้าแกทำร้ายพอล ฉันไม่ปล่อยแกแน่ คอยดูแล้วกันฉันหลับตาปล่อยให้สุชาโต้เถียงแทนพอล
            เงียบทำไมล่ะ ทีเมื่อกี้ยังปากเก่งอยู่เลยใช้สติทบทวนทุกอย่างจนพอใจแล้วก็ยิ้มตอบ
            ฉันไม่เก่งหรอก สู้คนดิ้นรนตั้งแต่เด็กปากกัดตีนถีบ อดมื้อกินมื้อ ต่อหน้าอย่างลับหลังอย่างแบบแกไม่ได้ แกก็พูดเองนี่ ว่าฉันมีดีแค่อย่างเดียว ซึ่งทั้งแกและพอลไม่มี เอ๊ะ! ไม่รู้ชาติไหนจะมีด้วยนะ
            น้ำเสียงเจ้าเล่ห์เน้นหนักทุกคำที่สื่อต่อว่า ลอยหน้าลอยตายิ้มขำ แสร้งทำเป็นไม่กลัว จนสุชาชักหน้าบึ้งตึงซะเอง
            อะไร!”
            ฉันรวยไง





ผู้ร้ายใจดี
4
มาซากิ

            ก็ผู้ชายเยอะแยะที่ว่าน่ะ เป็นผู้ชายประเภทคุณไง ถึงไม่มีใครเอา
            น้ำเสียงกลั้วขำพูดด้วยท่าทางสบายๆ ส่งยิ้มหยักคิ้วตบท้ายก่อนเปิดประตูเข้าห้องวีไอพีไป ทิ้งผมไว้กับอาการประหลาด
            ตึก ตึก
          เฮ้ย! นี่เธอไม่กลัวฉันเลยหรือไง ได้แต่คิดประโยคนี้วนไปวนมา ตัวยังนิ่งค้างไม่ขยับไปไหน เลื่อนฝ่ามือวางทาบตำแหน่งหัวใจ
          เต้นแรงชะมัด เป็นอะไรไปวะเรา

            นายครับ นาย!” เสียงเรียกไล่หลังของลูกน้องคนสนิทพูดไม่ดังนัก แต่ก็ทำให้สะดุ้งได้
            หืม!”
            นายเป็นอะไรหรือเปล่าครับ
            เป็นไร! ผม... ไม่เป็นไรนี่
            หรอครับ ผมดูจากกล้องเห็นนายยืนอยู่ตรงนี้นานแล้ว มีธุระอะไรกับแขกเปล่าครับ เดี๋ยวผมไปเรียกให้
            เปล่าไม่มี
            อ่อ ครับ” 
            สีหน้ารู้ทันของลูกน้องคนสนิททำผมเสียอาการอยู่ไม่น้อย แม้จะแสร้งขึงขังแต่ก็พอดูออกว่าเก้อเขินอยู่ไม่น้อย ชัชไม่เชื่อที่ผมพูดเลยสักนิด ทั้งยังยิ้มล้อจนต้องปั่นหน้าขรึมกว่าเดิม

            เมื่อกี่คุณว่าไงนะ ดูผมจากกล้องวงจรปิดหรอ
            ครับ ซูมได้ด้วยนะครับนาย ผมลองซูมตอนนายคุยกับคุณผู้หญิงคนเมื่อกี้ เห็นนายแก้มแดงๆ ด้วย
            เดี๋ยว! พูดอะไรน่ะ ผมทำแบบนั้นตั้งแต่เมื่อไร แล้วดูมันยังทำหน้าทำตาล้อเลียนอีก ผมชักไม่สนุกด้วย ไอร้อนตีรวนมั่วไปหมด ได้แต่ยิ้มแห้งๆ ตอบพร้อมสบถคำว่า อยากตายหรือไง  แทนที่มันจะสลดยังเถียงต่อได้อีก

            อยากตายหรือไง” 
            โห่นาย! ผมพูดจริงนะครับ ไม่เชื่อไปนั่งดูด้วยกันไหม ไม่ต้องยืนให้เมื่อยด้วย
            ก็ไปซิ
            ผมไม่ได้อยากรู้เรื่องยัยคุณหนูนั่นมากนักหรอก ก็แค่สอดส่องไว้เท่านั่นเอง เผื่อเกิดเรื่องอะไรไม่ดีขึ้นจะได้แก้ไขทัน ปัญหารักๆ ใคร่ๆ พวกนี้น่ารำคาญชะมัด รักจนขาดสติ รักจนกลายเป็นคนโง่ นี่หรอสิ่งสูงสุดที่หลายคนอยากได้อยากมี
            ดูกล้องตัวที่ส่องหน้าประตูห้องด้วยใจระทึก ทั้งที่เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับผมเลย ไม่รู้ทำไมถึงอยากรู้ว่าเธอจะเป็นไงต่อ 
            ชัช มีกล้องมุมอื่นไหม
            มีครับ เอ่อ...”
            ทำไม
            อีกมุมเป็นในห้องแขกครับ นายจะดูไหมครับ
            อืม
            ภาพตัดมากล้องตัวระเบียงด้านนอก จับภาพย้อนแสงเข้าไปในห้องนั้น เห็นอ่างออนเซนชัดเจน สองหนุ่มสาวเปลือยกายกอดรัดในน้ำ ทั้งที่ผู้หญิงอีกคนนั่งเหม่อมองออกข้างนอก
            ยัยคุณหนูนั่งขอบอ่าง หันหน้ารับแสงจันทร์เจือแสงไฟดวงน้อยแบบชุมชนเมือง เป็นภาพชวนมองเหลือเกิน แม้ด้านข้างเธอคือภาพปาดตาน่ารังเกียจ ทำไมนะผมกลับเห็นเหมือนเธอยิ้ม

            คุณพระเอกนี่ใจร้ายนะครับ มีแฟนอยู่แล้วยังยุ่งกับผู้หญิงคนอื่นอีก
            ทำไงได้ ผู้หญิงเขาชอบแบบนี้นิ
            นายไม่หาสักคนล่ะครับ ได้ไม่ต้องมาแอบดูคนอื่น
            คำกระซิบกระซาบเย้าถามสนุกปาก นี่ผมดูเป็นไอ้โรคจิตในสายตาลูกน้องแล้วซินะ ก็ไม่มีอะไรน่าห่วงแล้ว ผมควรรักษามารยาทโดยการเลิกยุ่งกับเรื่องนี้สักที

            นายสงสารเธอนะครับ ทั้งที่รู้แต่แกล้งทำเป็นไม่รู้
            คุณว่าไงนะ
            เธอเคยมาที่นี่แล้วครับ แอบดูอยู่ลานจอดรถ
            แล้ววันนั้นคุณพอลมากับผู้หญิงคนนี้หรือเปล่า
            ไม่แน่ใจนะครับ แต่น่าจะใช่ครับ
            เธอออกมาแล้วครับนาย
            ภาพเปลี่ยนมามุมหน้าห้องตามเดิม เห็นเธอเดินออกมามาดนิ่ง รู้สึกได้ว่าเธอกำลังร้องไห้ ไม่นานคุณพอลก็วิ่งตามมา

            มุมกล้องวงจรปิดส่งต่อกันไปเรื่อยๆ โดยมีชัชคอยกำกับให้ ผมนั่งนิ่งดูสถานการณ์ตรงหน้าด้วยความอึดอัด 
            วงจรปิดที่มีแต่ภาพไม่มีเสียงทำให้เห็นเพียงทั้งสองยื้อยุดแต่ไม่รู้เขาคุยอะไรกัน ฝ่ายชายง้างมือนิ่ง จ้องตาดุดันหมายจะทำร้ายเธอ ในขณะหญิงสาวจ้องตอบไม่ลดละ เธอถูกบังคับกระชากลากถู หญิงสาวดีดดิ้น ร้องโวยวายขอความช่วยเหลือ แต่เพราะนี่คือชั้นวีไอพีจึงไม่มีใครได้ยินเสียงเธอ 
          เพี้ยะ!’ ฝ่ามือหนาฟาดลงแก้มหญิงสาวสุดแรง เธอพรั่งพรูน้ำตาออกมา ไม่เหลือแรงจะดิ้นร้น เพี้ยะๆแรงตบฝาดใส่สองแก้มสวยอีกสองสามครั้ง เธอไร้เรี่ยวแรงขัดขืน เธอหมดสติจนคุณพอลต้องอุ้มออกไป
            เอาไงดีครับนาย ไม่ช่วยมีหวังเธอแย่แน่
            งั้นคุณไปกับผมแล้วกัน
            ครับนาย
            ไปรีบไป!”
            เราแยกกันออกคนละทาง ผมรีบลงมาดักด้านหน้า ให้ชัชไปดักทางออกด้านหลัง ใครเจอรถพอลก่อนก็โทรบอกกัน โชคเข้าข้างผมไม่นานรถยนต์คันหรูของพระเอกสุดฮอตก็ขับออกมา ผมเห็นยัยคุณหนูนอนนิ่ง เดาว่าเธอคงสลบไป

            ชัช! ผมเจอแล้ว ออกมาด้านหน้าเลย
            ครับนาย
            โอเค
            นายครับ รู้สึกคันหน้าผมจะเป็นรถคู่ขาคุณพอลครับ
            งั้นคุณกันให้ผมด้วย
            ครับนาย

            รถคุณพระเอกขับออกชานเมืองทุกที ๆ ไม่รู้มันมีแผนชั่วอะไรกันแน่ ผมเร่งเครื่องตามไม่ห่างจนไฟละลานตาแบบชุมชนเมือง เปลี่ยนเป็นสองข้างทางมืดสนิท เหลือเพียงรถวิ่งสวนกันไปมาไม่กี่คัน
            เฮ้ย! ขับยังไงของมัน เผลอพูดออกมาตามที่ตาเห็น ก็รถคันที่ตามอยู่เหวี่ยงซ้ายเหวี่ยงขวาไปมา คล้ายเสียหลักประคองไม่อยู่
            แอ๊ด!!! โครม ยังไม่ทันสิ้นเสียง มอเตอร์ไซค์ถูกรถยนต์หรูพุ่งชนอย่างแรง ชาวบ้านสองคนลอยละลิ่ว คนหนึ่งตกลงคูน้ำข้างทาง อีกคนกระแทกหัวน็อคพื้นกลางถนน
            ผมไม่กล้ามองภาพสยองตรงหน้า รู้เพียงคันที่ย้อนศรมาน่าจะไม่รอด

            คุณทำใจดีๆ ไว้นะ
            คุณ!”

            รอบด้านมืดสนิท ผมรีบจอดรถ กดโทรหาชัชแล้วลงไปช่วยยัยคุณหนูออกมา ร่างเธอสลบคาที่ สะบักสะบอมเศษกระจกแตกละเอียดเต็มตัวเต็มหน้าไปหมด เลือดแดงฉานไหลท่วม ปรือตาจ้องผมก่อนหลับไป 
            ชัช ผมพาตัวผู้หญิงออกมาแล้ว ที่เหลือคุณจัดการทีนะ
            ครับนาย ผมโทรแจ้งรถพยาบาลแล้ว นายไม่ต้องเป็นห่วง
            ขอบใจคุณมากนะ
            ผมไม่รู้เลย ที่มายุ่งเรื่องคนอื่นแบบนี้ทำถูกแล้วหรือไม่ รู้เพียงสายตาอ้อนวอนนั้น หลอกหลอนจนไม่อาจปล่อยเธอไปได้ 
            อย่าเป็นอะไรนะคุณ ผมมาช่วยแล้วพูดกับร่างไร้สติ จัดท่าทางให้เธอนอนยาวเบาะหลัง ผมเองก็ไม่มีความรู้เรื่องปฐมพยาบาล ไม่รู้เผลอทำกระดูกเธอแตกหักบางหรือเปล่า 
            ...ใช่! ผมไม่รู้ แต่คนนี้รู้แน่



อุบัติเหตุร้าย
5
ศจีรัตน์

            ปล่อยนะ! จะพาศจีไปไหน
          ไปไหนหรอ ก็ไปทำเงินไง คุณรู้ไหมมันมีวิธีอีกเยอะแยะที่ผมจะหาเงินจากคุณ ในเมื่อให้เป็นแฟนคอยซัพพอทผมคุณไม่พอใจ งั้นก็เป็นเหมือนคนอื่นแล้วกัน
          ปล่อย! ศจีเจ็บ
          เพี้ยะ! ไม่เอาน่าคุณหนู คุณไม่น่าทะนุถนอมขนาดนั้น  หน้าตาอย่างคุณถ้าไม่รวยคิดหรอ ว่าผมจะเอา
          หยาบคาย
          แน่นอน! ผมทำได้ทุกอย่างเพื่อเงิน รู้ไว้เลย
          ศจีมีเงินนะ พอลปล่อยศจีไปเถอะ
          โถ่ศจี! ผมจะโง่ทำอย่างนั้นทำไม ในเมื่อผมจะเอาทั้งเงินและตัวคุณด้วย

            เฮือก!’
            ฟื้นแล้วหรอ
            เสียงแหบพร่าของหญิงชราสูงวัยเอ่ยถาม ฉันพยายามปรือตามอง แต่ทุกอย่างกลับมืดสนิท เปลือกตาหนักอึ้งไม่อาจมองเห็นภาพรอบกายได้
            ศจีเป็นอะไรเมื่อไม่อาจลืมตาได้ ความหวาดกลัวก็แล่นลิ่วเซาะผ่านทุกอณูเนื้อ ภาพเหตุการณ์ในคืนนั้นไหลวนไปมา ฉันยังนิ่งพร่ำย้ำถามเหมือนคนขาดสติ 
            เธอหลับไปหลายวันเสียงเรียบตอบในขณะที่ฉันเริ่มกลัวหวีดเสียงโวยวายไม่ได้ศัพย์ 
            ไม่! เกิดอะไรขึ้น บอกมา! ที่นี่ที่ไหนความกลัวลนลานทำให้มือไขว่คว้ากลางอากาศ ควานหาคนที่พอจะตอบได้ว่าเกิดอะไรขึ้น  เสียงครางในใจหวีดหวิว กลัวเหลือเกิน ไม่รู้อุบัติเหตุวันนั้นพรากอะไรจากฉันไปบ้าง 
            บ้านผมเองน้ำเสียงนิ่งเรียบพูดสวน เสียงฝีเท้าใครสักคนเดินเข้ามาใกล้ ฉันหมุนซ้ายหมุนขวาไม่ชินกับความมืดสนิทนี้
            เธอรู้สึกยังไงบ้าง เพิ่งจะฟื้น อย่าถามมากนักเลยมือแห้งกร้านแบบหญิงชราคว้าแขนฉันไว้ พร้อมดุเสียงเข้ม 
            ผมอุตส่าห์ช่วยคุณนะ เงียบทำไมล่ะ ขอบคุณผมซะซิ” 
            “...”
            คุณหนูคะ เธอเพิ่งฟื้นคงยังมึนๆ ฤทธิ์ยาอยู่ อย่าเพิ่งแกล้งเธอนักเลยค่ะ
            โถ่! ผมทำอย่างนั้นตั้งแต่เมื่อไรกัน คนทำดีก็ควรได้รับคำขอบคุณไม่ใช่หรอครับ
            คุณหนูมาซากินี่ล่ะก็ ทำตัวเป็นเด็กๆ ไปได้
            เสียงออดอ้อนแบบฉบับคุณหนูหนุ่ม ต่างจากอีตาปากจัดขี้บ่นนั่นจริงๆ ทั้งที่จำได้แต่แรก ทั้งที่คิดคำขอบคุณอยู่ พอเจอมุมแบบนี้ของชายหนุ่ม ฉันกลับนิ่งพูดอะไรไม่ออก

            ซาบซึ้งล่ะซิ แค่ขอบคุณผมก็พอไม่ต้องตบรางวัลหรอกนะ ผมช่วยไม่ได้หวังผลตอบแทน
            ค่ะ คุณเป็นใครคะ
            อะไรกัน แค่นี้จำผมไม่ได้หรือไง
            “...” #ส่ายหน้า
            ก็คนที่!”
            คงเห็นฉันนิ่งไป เสียงที่เคยหยอกเย้าสบายอารมณ์เริ่มสงบลง จนพูดไม่เต็มคำในที่สุด
            คุณเป็นใคร แล้วฉันเป็นใครคะ ทำไมฉันถึงอยู่ที่นี่
            นี่คุณจำไม่ได้หรอ
            ฉันเป็นใคร คุณเป็นใคร ฉันเป็นใคร คุณเป็นใคร ฉันเป็นใคร ฉันเป็นใคร ฉันเป็นใคร!”
            แสร้งพูดคำเดิมซ้ำๆ หวีดเสียงกลัวรนรานจนทั้งสองปรี่มาช่วยกันจับไว้ ยังพูดวนไปวนมาแค่ประโยคนั้นจนหญิงชราพูดห้าม 
            พอก่อนเถอะ! นึกไม่ออกก็ช่างมัน ตอนนี้เธอควรพักผ่อนให้มากๆ เดี๋ยวจะตามหมอมาดูอาการให้นะ เธอจัดการดันร่างฉันลงนอน จัดท่าทางให้ ห่มผ้า พร้อมโทรตามใครสักคนที่น่าจะเป็นหมอ ตึก ตึก ความรู้สึกเกร็งสั่นนี่คืออะไร ทำไมฉันสัมผัสได้ว่ามีอีกคนคอยอยู่ใกล้ไม่ห่าง 
            แกล้งสะเปะสะปะมือคลำตามทิศทางที่รู้สึก คว้านิ้วเรียวยาวได้ก็รีบชักมือกลับ กลายเป็นเขารีบคว้าตาม ดึงมือฉันไปกอบกุมไว้พร้อมพูดอะไรบางอย่าง
            ทำไมชอบให้เป็นห่วงอยู่เรื่อย
            ไอ้โรคจิต ไอ้คนบ้ากวนประสาทที่สุด กลายเป็นชายหนุ่มคนเดียวที่อยู่ข้างกันตอนนี้ เขาพูดอะไรออกมา คำความหมายดีๆ พวกนี้ไม่ใช่ตัวเขาเลยสักนิด แล้วเมื่อกี้ว่ายังไงนะ เป็นห่วง หรอ เป็นห่วงทำไมไม่ได้เป็นอะไรกันสักหน่อย
            ทั้งเพื่อนสนิท ทั้งแฟนหนุ่มผู้เลอเลิศ ทิ้งขวางไม่สนใจใยดีฉันสักคน แต่กับคนแปลกหน้า คนที่ยอมให้ต่อว่าสารพัดกลับเป็นห่วงเป็นใย คอยช่วยเหลือไม่เคยห่าง อย่างน้อยในเรื่องเฮงซวยพวกนี้ก็ยังมีเรื่องดีๆ อยู่บ้าง

            พี่หมอมาได้กี่โมงครับ
            เธอบอกออกเวรเย็นๆ จะแวะมาค่ะ คุณหนูไม่ต้องเป็นห่วงหรอก มีงานอะไรก็ไปทำเถอะค่ะ
            ช่วงเย็นผมมีประชุม ถ้ามีอะไรคืบหน้าโทรบอกผมหน่อยนะครับ
            ดูคุณหนูเป็นห่วงเธอมากนะคะ นมชักสงสัยแล้วซิว่าแค่คนรู้จักกันจริงๆ หรือเปล่า
            โถ่! ผมกับยัยนี้เจอหน้าเป็นทะเลาะกันทุกที ถ้าเธอจำไม่ได้ แล้วผมจะทะเลาะกับใครล่ะครับ
            แค่นั้นเองหรอคะ ไม่อยากเชื่อว่าคุณหนูมาซากิแห่งมาชินกรุ๊ป จะห่วงกลัวไม่มีคนทะเลาะด้วย
            ผมไปดีกว่า ฝากเธอด้วยนะครับ
            ค่ะ นมจะดูแลเหมือนตอนเลี้ยงคุณมาเลย ไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ
            ผม! ผมไม่ได้ห่วงซะหน่อย
            เสียงงอแงประหนึ่งเป็นเด็กน้อย เถียงเสียงใสจนฉันอดยิ้มขำไม่ได้ แต่ต้องเก็กหน้านิ่งจนเส้นเลือดใต้ผ้าพันแผลเต้นตุบๆ การแกล้งความจำเสื่อมก็สนุกดีนะ ฉันชักอย่างเล่นต่อแล้วซิ

            คนไข้ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงนะครับ ภายนอกปกติดีทุกอย่าง เราต้องลองดูว่าภายในมีส่วนไหนกระทบกระเทือนไหมครับ
            ค่ะ
            ส่วนอาการความจำเสื่อมชั่วขณะ น่าจะมาจากความมึนงงเพราะฤทธิ์ยา จะเป็นเพียงชั่วขณะหรือระยะยาวไม่แน่นอน ทุกอย่างยังสรุปผลไม่ได้ครับ ต้องตรวจให้ละเอียดถึงจะรู้
            คุณหมอร่ายยาว ตรวจนั่นตรวจนี่ ดีนะที่อาการฉันยังคลุมเครือ งั้นขอแกล้งจำไม่ได้ก่อนแล้วกัน อย่างน้อยอยู่ตรงนี้ก็ยังมีคนคอยห่วง
            ตึก ตึก ใจเต้นแรงทำไม แค่คิดตามที่หมอนั่นพูดเองนะ






Extra Scene
1
พอล-สุชา

            แสงแดดอุ่นๆ ยามใกล้เที่ยงปลุกฉันจากการพักผ่อนอันแสนสั้น เพิ่งนอนไปไม่กี่ชั่วโมงเอง ยังเหนื่อยยังเพลียอยู่เลย ทำไมนะ พอลไม่เช่าห้องที่ดีกว่านี้ให้อยู่ ดูซิ! วิวก็แย่ ห้องก็แคบ ร้อนก็ร้อน
          เฮ้อ! ช่างเถอะ แค่เขาเป็นของฉันคนเดียวก็พอ
            อ่านข่าวซะหน่อยดีกว่า หยิบมือถือมาเปิดดูโน่นดูนี่ไปเรื่อย เหลือบมองคนข้างตัวที่ยังหลับไม่ได้สติ คลี่ยิ้มภูมิใจที่สุดท้ายฉันก็ได้เขามาครอง แม้พอลจะมีข้อเสียอยู่บ้าง แต่ฉันเชื่อว่าไม่มีใครรับเรื่องแบบนั้นได้แน่

            พระเอกหนุ่มเคราะห์ร้าย เกือบเป็นแพะให้แฟนสาวขาซิ่ง ขณะนี้มีตาดีเห็นควงสาวใหม่ ดีกรีทายาทพันล้าน
          ย้ำสัมพันธ์ชัด โมจิชูแหวนแทนใจคู่พระเอกหนุ่ม เอ่ยปากชม พี่พอลเทคแคร์ดีทุกอย่าง
            อร๊าย!’
            พอล พอลคะ! ตื่น
            อะไรสุชา ผมจะนอน
            บอกมา นี่มันอะไรกันคะ!”
            อะไรอีกล่ะ เรื่องเยอะจริงๆ เลยคุณ
            สุชาก็ไม่อยากเยอะหรอกค่ะ ถ้าไม่มีข่าวแบบนี้ บอกมาซิ! มันเป็นใคร
            อะไรอีก
            อารมณ์เดือดพล่านของฉัน ทำให้เหวี่ยงเสียงกระชากแขนพอลให้หันมาตอบ แต่คนขี้เซายังเอาแต่นอนนิ่งขดตัวสบายอารมณ์ ตอบเสียงงัวเงียไม่เป็นคำ
            เพี๊ยะ!’ กว่าจะรั้งตัวพอลที่นอนตะแคงหันหน้าไปอีกฝั่งมาตอบได้ ฉันต้องออกแรงมากเหลือเกิน เขาดิ้นสะบัดจนฉันเผลอตบหน้าหล่อเต็มแรง
            นี่มึงกล้าทำกูหรอเสียงตวาดมาพร้อมฝ่ามือเหนือกว่า เพียงวูบเดียวเขาก็ดีดตัวขึ้นสูง ออกแรงกดหัวฉันจนจมลงที่นอน
            ปากมากนักนะมึง มีปัญหาอะไรอีกห้ะ!” จากพระเอกสุดหล่อ เปลี่ยนเป็นคนขี้โมโหได้ในเสี้ยววินาที
            หลายคนไม่มีทางรู้เลยว่าตัวจริงพอลเป็นคนยังไง ถ้าคิดว่าแค่เห็นแก่ตัวโมโหร้ายล่ะก็ นั่นยังธรรมดาเกินไป
            ปล่อยนะ! สุชาเจ็บฝ่ามือหน้าจิกทึ้งผมสลวยกดหน้าแนบหมอนจนเริ่มหายใจไม่ออก ปากกรี๊ดเสียงโวยวาย สองแขนตบลงเตียงสะบัดคว้าคนบนตัว
            มึงชอบเจ็บตัวไม่ใช่หรอ กวนประสาทกูดีนัก มีอะไรนักหนาห้ะ!” พอลจิกหัวจนหน้าเงยขึ้น ระยะหน้าเพียงคืบทำให้สายตาเราสองจ้องดุดันใส่กัน
            มันเป็นใคร คุณนอกใจสุชาอีกแล้วหรอ
            นอกใจหรอ! กูกับมึงเนี่ยนะ
            พูดให้ดีๆ นะพอล
            เราคบกันตอนไหนหรอ หรือแค่นอนเอากันเรียกว่าคบกันแล้ว
            พอล!”
            สุชา แค่นี้คุณก็พิเศษกว่าผู้หญิงทุกคนแล้ว ยังจะเรียกร้องอะไรอีก
            พอลทำหน้าเหยียด แสยะยิ้มกวนประสาทใส่ ฉันรู้ดีว่าพอลเลือกคบแต่คนรวยๆ เท่านั้น ซึ่งฉันไม่ใช่! ความน้อยอกน้อยใจนี้เก็บงำมาเนินนานแล้ว เคยคิดว่ากำจัดศจีให้พ้นทางได้พอลจะเป็นของฉัน แต่ที่ไหนได้กลับมีผู้หญิงหน้าโง่คนใหม่เข้ามาให้เลือกไม่เว้นแต่ละวัน
            พอล! คุณจะทำอะไร
            สีหน้าเยาะเย้ยปรับเป็นเจ้าเล่ห์ แววตาวับวาวแบบนี้ฉันไม่สนุกด้วย กำปั้นหนักแน่นแบบผู้ชายกระทุ้งเข้าท้องน้อยฉันหนึ่งครั้ง ความเจ็บจุกแล่นลิ่วจนตัวง้อแล้วร้องถาม
            สนุกกันดีกว่า เวลาคุณดื้อ รู้ไหมมันทำให้ผมมีอารมณ์มากพอลคร่อมทับตัวฉัน ใช้เส้นเชือกจากชุดคลุมหัวเตียงรวบมัดสองแขนอย่างใจเย็น ชุดนอนซีทรูบางแนบเนื้อถูกฉีกรวดเดียวกระเด็นออกจากร่าง โชว์ร่องรอยแดงจ้ำที่เขาทำไว้
            สวยเหลือเกิน คุณชอบไหม
            ไม่นะพอล อย่า! สุชาไม่ไหวแล้ว
            ไม่เอาซิ พยศอีกซิ ทำตัววุ่นวายแบบที่คุณชอบไง แบบนั้นเร้าใจผมมากกว่า
            สงสารสุชาเถอะค่ะ เมื่อคืนคุณก็ทำจนเกือบเช้า
            หึๆ สงสารทำไม คุณก็ชอบไม่ใช่หรอ
            พอล
            ระหว่างที่เชือกพันธนาการมัดปมอยู่นั้น ฉันพยายามเลี่ยง อ้อนวอนร้องขอความเห็นใจ ในขณะที่พอลเริ่มกักขฬะ หยาบคาย แววตาโหดเหี้ยมคล้ายพวกโรคจิต
            ผัวะ!’ ฝ่ามือที่แฟนคลับหลายคนคลั่งไคล้ ยอมเสียเวลาหลายชั่วโมงเพื่อได้สัมผัสมัน ตอนนี้ทำงานไม่ต่างจากอาวุธ 
            อร๊าย!’ ฉันหวีดเสียงเจ็บปวดทุกครั้งที่ฝ่ามือนั้นสัมผัสลงผิวเนื้อ ยังไม่รวมกรงเล็บจิกทึ้ง หยิกสองเต้าแฝดอย่างมันมือ แล้วตบซ้ำจนเจ็บจุกไปหมด
            เงียบ! กูบอกให้มึงเงียบ
            พอเถอะ สุชาเจ็บ
            ทำเป็นกระแดะสำออย กูรู้มึงเจ็บได้มากกว่านี้อีก
            นิ้วหนาทะลวงเข้าปากทางช้ำสุดแรง ร่างกายฉันยังไม่พร้อมรับการสอดใส่ ของเหลวไม่มีหล่อลื่น ตอนนี้จุกจนพูดไม่ออก
            อร๊าย! เอาออกไป สุชาเจ็บหวีดเสียงสั่ง จังหวะมือกระแทกกระทั้นแม้ฉันพยายามบิดตัวหนี แต่เพราะถูกมัดตรึงอยู่อย่างนี้ จึงเหมือนเป็นเป้านิ่งให้อีกฝ่ายทำตามใจชอบ
            สมน้ำหน้า ผู้หญิงอย่างมึงอยากได้เพราะกูหล่อล่ะซิ เป็นไงล่ะสมใจอยากไหม
            ไม่นะพอล สุชารักพอลนะ
            รักหรอ เสียใจด้วยนะ อย่าฝันว่ากูจะลงเอ่ยกับมึง เพราะอะไรรู้ไหม
            “…”
            เพราะมึงมันจนไง
            ฉันอึ้งไปนิดหนึ่ง ยอมรับว่าเถียงไม่ออกเพราะที่เขาพูดคือเรื่องจริง แค่รักไม่เพียงพอสำหรับเขา เพราะสิ่งที่ผู้ชายคนนี้ต้องการคือเงินต่างหาก
            อ๊อกๆ
            พอลชันตัวสูง จับแท่งเอ็นแข็งขึ้นลำกระทุ้งลงโพรงปากบางไม่ยั้ง สายตาสะใจที่ได้ข่มเหงจิตใจอีกฝ่าย แรงจิกทึ้งรั้งกลีบปากให้เคลื่อนเข้าหาแท่งแข็ง วินาทีนี้น้ำตาฉันไหลโดยไม่รู้ตัว
            บุญปากมึงแล้วอีสุชา ทำไม! ดีใจจนร้องไห้เลยหรอมึงจังหวะโยกตัวไม่ได้ลดลงเลย มีแต่จะเร่งทำงานจนปากฉันชาไร้ความรู้สึก น้ำตายังไหลพรากอาบสองแก้ม ฝ่ามือเขาเมตตาเกลี่ยเช็ดให้ก่อนจะตบซ้ำลงมาสุดแรง
            น่ารำคาญ!”
            พอล สุชารักพอลนะคะ
            ดี! รักกูให้มากๆ ทำตัวให้เชื่องๆ แล้วกูจะเมตตามึง
            ค่ะ สุชาจะอยู่ในที่ของตัวเอง
            จุดอ่อนของผู้ชายคนนี้คือคำป้อยอ เขาชอบฟังคำหวานแบบที่ยัยศจีไม่มีทางพูดออกมาแน่ ฉันรู้ดีว่าที่ผ่านมาระหว่างเราสามคนจึงมีแต่เรื่องหลอกลวง หากย้อนเวลากลับไปได้ฉันจะไม่ทำอย่างนั้น
            ...ขอโทษนะศจี
           
            นิ้วเรียวยาวบีบบี้ติ่งเนื้อไม่ยั้ง แทนที่จะเสียวซ่าน กลับเจ็บแสบจนต้องงดิ้นหนี ร่างกำยำสมส่วนเสยงัดอาวุธเข้าโพรงพังผืดหลายครั้ง จัดท่าทางฉันให้นอนคว่ำหงายตามใจปรารถนา ตอนนี้สมเพชร่างกายตัวเองที่สุด เพราะมันไม่ต่างจากตุ๊กตาไร้ชีวิตเลยสักนิด

15:17
            เสียงโทรศัพท์พอลดังปลุกฉันอีกรอบ ดูเวลาตอนนี้แล้วใจหาย ตั้งแต่เช้าข้าวน้ำยังไม่ตกถึงท้อง แถมยังถูกทารุณขนาดนั้น โชคดีแค่ไหนแล้วที่ยังหายใจอยู่
            พอล พอลคะ แก้มัดให้สุชาหน่อยค่ะ
            พอล!”
            อยากบิดขี้เกียจไล่ความเมื่อยล้า แต่ติดตรงที่สองแขนยังถูกรวบมัดไว้เหนือหัวเหมือนเดิม เรี่ยวแรงน้อยนิดตอนนี้ทำได้เพียงเรียกหาคนมัด เสียงแหบพร่าปล่อยเบา พอลไม่มา ร้องหาอยู่นานจนฉันต้องหยุดไปเอง

            จะรีบแก้มัดทำไมล่ะจ๊ะ เสี่ยยังไม่ได้สนุกกับหนูเลยเสียงคนแปลกหน้าพูดขึ้น ตามด้วยภาพชายฉกรรจ์และไอ้เสี่ยตัณหากลับหลายคน
            พอล! คุณจะทำอะไรรีบถามด้วยความกลัว
            รักผมไม่ใช่หรอ ทำเพื่อผมสักครั้งนะ รู้หรือเปล่าค่าตัวคุณเสี่ยเติงใจดีให้ตั้งหนึ่งล้านแน่ะ
            หมายความว่าไง แก! มึงขายกูหรอ
            เข้าใจอะไรง่ายดีนิ ขอให้สนุกกับผัวใหม่นะ
            ไอ้เลว! ปล่อยกู ไม่! อย่าเข้ามา
            พอลดีดเช็คใส่หน้าโชว์ตัวเลขหนึ่งล้านบาทบนนั้น ฉันอึ้งพูดอะไรไม่ออก ไม่คิดเลยว่ามันจะเลวร้ายได้ขนาดนี้ ที่ผ่านมาหลงทำดีกับมันทุกอย่าง ทนทุกเรื่อง แล้วดูสิ่งที่มันตอบแทนซิ
            ตอนนี้ร่างกายฉันไม่ต่างจากสัตว์ สมสู่ไม่เลือกหน้า นอนสลบไสลพร้อมตั้งรับความใคร่ที่สัตว์นรกพวกนี้มอบให้ ปากพร่ำร้องขอชีวิตอย่างคนขาดสติ จนทุกอย่างดับวูบ
            อึก!’
          โอ๊ย! กลัวแล้ว ปล่อยหนูไปเถอะ
           

         

หวาน หวาน
7
มาซากิ

#คุยคุ้ยข่าวคนดัง
            จริงๆ ผมก็ไม่อยากพูดถึงเหตุการณ์วันนั้นนะ แต่เมื่อทุกคนถามผมก็จะตอบ คือเรานัดทานข้าวกันปกติ หลังจากเธอดื่มไปนิดหน่อยก็เริ่มชวนทะเลาะ
            แล้วยังไงต่อคะ
            ผมพยายามง้อครับ แต่เธอไม่ฟังหนีออกจากร้านเลย ความเป็นห่วงผมเลยรีบตามไปนั่งข้างคนขับ เธอเอ่ยปากไล่นะ แต่ผมไม่ลงเพราะเธอขับรถไม่แข็งนัก
            คุณพอลรู้อยู่แล้วหรอคะ ว่าแฟนคุณยังขับรถไม่เก่ง
            ครับ แล้วเธอก็เมาด้วย โมโหผมด้วยเลยอดเป็นห่วงไม่ได้
            พอจะจำได้ไหมคะ ว่าเหตุการณ์มันเป็นยังไงต่อ
            รถมอเตอร์ไซค์ขับย้อนศรมาครับ ทางมืดมาก เราเบรคไม่ทัน หลังจากนั้นผมก็สลบ รู้สึกตัวอีกทีก็อยู่โรงพยาบาลแล้วครับ ผมจำได้แค่นี้
            ไม่เห็นแฟนคุณเลยหรอคะ
            ผมไม่ทราบครับ
            มีอะไรอยากบอกแฟนคุณ หรือครอบครัวเหยื่อไหมคะ
            ถึงแฟนผมจะไม่รับผิดชอบ แต่ไม่ต้องห่วงนะครับ ผมจะดูแลครอบครัวผู้เสียชีวิตแทนเธอเอง
            แล้วอยากฝากบอกถึงแฟนคุณไหมคะ เผื่อเธอดูอยู่
            เอ่อครับ ศจีกลับมามอบตัวเถอะ ขับรถชนคนตายแล้วหนีไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้นหรอก ไม่ต้องกลัวนะ ผมอยู่ข้างคุณเสมอ
            น่าดีใจแทนแฟนคุณนะคะ ที่คุณพอลทั้งรักทั้งห่วงใยเธอมากขนาดนี้
            คลิปสัมภากษ์เช้านี้ทำเอาผมอึ้งอยู่นาน พ่อพระเอกคนดีของประชาชนสวมบทแฟนหนุ่มแสนดี ป้ายความผิดให้ผู้หญิงหน้าตาเฉย ทั้งที่ผมเป็นคนอุ้มเธอออกมาจากฝั่งข้างคนขับเอง แล้วเรื่องมันกลับตาลปัตร กลายเป็นศจีผิดได้ยังไง
            สมแล้วที่เป็นพระเอกนะครับนาย สัมภากษ์ทีคนสงสารทั้งประเทศเลย
            ชัช วันนั้นคุณเห็นอะไรบ้างไหม
            ผมไม่ได้สังเกตครับ มัวแต่โทรตามรถพยาบาลอยู่
            หลังจากที่ผมออกมาแล้ว มีใครเข้าใกล้ที่เกิดเหตุอีกไหม
            ไม่แน่ใจนะครับนาย แถวนั้นมืดมาก ผมรีบโทรตามรถพยาบาลเสร็จแล้วก็ลงไปดูฝั่งมอเตอร์ไซค์ก่อน
            แปลว่าไม่มีใครสนใจ พอลอาจสลับที่นั่งเองก็ได้
            แต่นายเห็นมันสลบคาที่ไม่ใช่หรอครับ
            ใช่ หรืออาจจะมีคนช่วยก็ได้
            งั้นผมเริ่มตามจากกล้องวงจรปิดในคลับเราดีไหมครับ เผื่อตัวไหนเก็บภาพตอนคุณพอลขับรถออกไปได้บ้าง
            ก็ดี ผมฝากด้วยแล้วกัน
            ชัชอาสาตามเรื่องให้ จริงๆ เรื่องชนแล้วหนีมันพิสูจน์ได้ไม่ยากหรอก แต่เพราะสังคมไทยมักเชื่อคนที่ออกตัวก่อนเสมอ ความมาที่หลังจึงมักเป็นฝ่ายผิด และไม่มีใครอยากฟังคำแก้ตัว

            เอ่อ... นายครับเก็บตัวคุณศจีไว้แบบนี้ ผมเกรงว่าเธอจะทำให้นายเดือดร้อนนะครับ
            ผมไม่มีทางเลือก ถ้าเธอความจำไม่เสื่อม พอช่วยเหลือตัวเองได้บ้าง ผมคงไม่เข้าไปยุ่ง แต่นี่มากเกินไป ผู้หญิงคนนั้นเถียงอะไรไม่ได้สักอย่าง ส่งตัวกลับบ้านก็เท่ากับส่งแพะไปให้ไอ้พระเอกนั่นพ้นผิดเปล่าๆ
            ดูนายเป็นห่วงเธอนะครับ
            ผมก็ห่วง ตามประสาคนรู้จักกัน แค่นั้นแหล่ะ
            ไม่มั้งนาย ผมว่า... นายชอบเธอนะครับ
            ไม่! ผมไม่ได้คิดอะไรกับยัยนั่นเลย
            ย้ำตัวเองด้วยประโยคนี้เป็นร้อยรอบ แม้จะพูดเสียงสูงเก็กหน้าจริงจังจนชัชหัวเราะขำ ก็ไม่อาจทำให้ลูกน้องหนุ่มเชื่อได้ อย่างว่าแหล่ะเราสองคนสนิทกัน ไม่แปลกถ้าจะรู้สึกว่าช่วงนี้ผมผิดปกติ

            เพล้ง!’
            นี่คุณ! ถ้าแค่นี้ทำไม่ได้อยู่เฉยๆ ดีกว่านะ งานแบบนี้ให้คนตาดีเขาทำกัน ส่วนคุณน่ะอยู่นิ่งๆ รอคุณมาซากิกลับบ้านจะดีกว่า
            ทำไมฉันต้องรอด้วย ไม่ได้เป็นอะไรกันซะหน่อย
            ค่ะไม่เป็นเลย! เห็นส่งเข้านอนกันทุกคืน ตามเฝ้าเป็นหูเป็นตาแทนกัน ดูแลดี๊ดี พวกเราก็คิดว่าคุณเป็นแฟนนายมาจากกรุงเทพซะอีก
            แฟนอะไรกันล่ะ อีนี่พูดจาไม่เข้าหู นายไม่เอาคนตาบอดมาทำเมียหรอกเว้ย
            ถามจริง มึงดูนายไม่ออกเลยหรือไง นายดูห่วงคุณเขาอย่างกับอะไรดี เช้าถึงเย็นถึง เมื่อก่อนไม่ใช่แบบนี้เลยนะ
            ปากมาก กูบอกแล้วไง นายไม่เอาคนตาบอดมาทำเมียหรอก
            นายก็ไม่เอาคนรับใช้ทำเมียเหมือนกัน เลิกฝันเพ้อเจ้อได้แล้ว
            นี่เอ็งว่าใคร!”
            ใครอยากรับก็รับไปซิ
            คุณออกไปข้างนอกดีกว่าค่ะ อยู่ในนี่อึดอัดเปล่าๆ  
            ร่างยัยคุณหนูถูกประคองให้เดินมาทางนี่ ผมอยู่ฟังตั้งแต่ต้นพอคนเถียงสนุกปากหันมาเห็นผมเข้าก็ตกใจมือไม้สั่น ผมส่งสัญญาณให้เธอปล่อย แล้วสวมบทเป็นคนพาเธอเดินซะเอง

            เป็นอะไรคุณ วันนี้ไม่ร่าเริงเลย
            “...”
            ผมถาม ทำไมไม่ตอบ
            เป็นคนตาบอด ไม่สมประกอบ พอใจไหมคะ
            คุณ
            ขอตัวนะคะ
            เดี๋ยว! คุณจะเดินเองได้ยังไง
            ช่างฉันเถอะค่ะ ฉันควรใช้ชีวิตในโลกมืดนี่ให้ได้ ปล่อย!”
            ผมเข้าใจ สิ่งที่เธอได้ยินมา มันก็น่าโกรธอยู่หรอก แต่ผมเป็นห่วงนี่น่า เดินเตะโน้นชนนี่จนเนื้อตัวช้ำไปหมด ถ้าผมใจร้ายอย่างที่แสดงออกมา ป่านนี้คงส่งตัวเธอกลับไปแล้ว
            ทั้งที่ปลายนิ้วเรายังแตะกันอยู่ คลายว่าผมกุมมือเธอไว้หลวมๆ ยัยคุณหนูไม่ปฏิเสธ แต่แสดงความแง่งอนผมอมยิ้มเอ็นดูเธอ มองกลีบปากจิ้มลิ้มเผยอเชิด จิ๊จ๊ะเสียงไม่สบอารมณ์ ทั้งยังก้มหน้าเจียมตัว จนความรู้สึกในอกอัดแน่นจนต้องทำบางอย่าง
            อุ๊ย! คุณจะทำอะไร
            ชักช้าไม่ทันใจ ผมพาไปเองแล้วกัน
            ปล่อยนะ!”
            คุณนี่สะดีดสะดิ้งไม่เปลี่ยนเลยนะ
            ผมเผลอพูดเสียงแข็งทำเอาคนในช่วงแขนนิ่งไป ยอมพาดแขนโอบคอผมแต่โดยดี คนอะไรดื้อเสมอต้นเสมอปลายจริงๆ แปลก! ตอนไม่ดื้อก็น่ารัก ตอนดื้อก็น่าเอ็นดู
            สงสัยผมจะหลงใหลกลีบปากนี้เข้าแล้ว ไม่ว่าจะขยับเป็นคำพูดไหน ใจก็เต้นแรงได้ตลอด 
            คุณหนู เกิดอะไรขึ้นคะ นั่นเป็นอะไรหรือเปล่าเสียงคุณนมศรีร้องทัก ร่างบางในวงแขนคงนึกได้แสร้งดิ้นหนี โชคดีที่ตอนนี้เธอมองไม่เห็น ไม่งั้นผมต้องแย่แน่ เพราะมัวเผลอมองริมฝีปาก จนไม่สนใจคุณนมเลย
            เอ่อ... เป็นคนดื้อครับแถมยังชอบทำจานแตกอีกด้วย  บอกว่าไม่ต้องทำก็ไม่เชื่อ
            นมให้เธอทำเองแหล่ะค่ะ เห็นนั่งเหงาๆ ไม่มีอะไรทำ
            ผมว่างานอื่นจะเหมาะกว่าครับ ถ้าโดนเศษกระเบื้องบาดอีกจะแย่ ดูซิ! แผลเก่าก็ยังไม่หายเลย
            คว้ามือเรียวสวยมาจดจ้องอย่างลืมตัว แอบเปล่าลมเบาๆ คล้ายอยากปลอบ นี่ผมทำบ้าอะไรเนี่ย! ดูซิคุณนมหัวเราะใหญ่เลย
            งานอะไรดีล่ะคะ เลขาคุณเป็นไง คุณนมยิ้มล้อไม่หยุดบุ้ยหน้าอมยิ้มแล้วเดินจากไป ไม่สนใจฟังคำตอบสักนิด
            ...หึ! ก็ดีนะ อยุ่ใกล้ๆ จะได้ไม่ต้องเป็นห่วง

            คุณจะพาฉันไปไหนเสียงหวานหูถามขึ้นอีกครั้ง
            ไปหาอะไรทำไงผมบีบมือพร้อมตอบ
            คุณคิดว่าคนตาบอดอย่างฉันจะทำอะไรได้หรอ ช่วยตัวเองก็ไม่ได้ ไร้ค่า มองก็ไม่เห็น แถมสมองยังจำไม่ได้อีก
            คุณ
            อย่างฉันเนี่ยนะจะช่วยอะไรคุณได้
           
            ไออุ่นร้อนที่ฝ่ามือเราสัมผัสกัน ส่งต่อความน้อยใจจนผมอยากบอกความจริงซะตอนนี้เลย ผมขอโทษที่ทำให้คุณคิดมาก ให้เวลาผมหน่อยนะ เมื่อทุกอย่างพร้อม ผมจะเป็นคนแกะผ้าปิดหน้านี่เอง
            ช่วยตัวเองไม่ได้ แต่ผมช่วยคุณได้นะ
            จงใจแทรกตัวเองเข้าห้องหญิงสาว พูดคำเจ้าเล่ห์จนเธอเอ่ยปากถาม ยังไม่ทันที่เสียงหวานรอดไรฟันมาขัดอารมณ์ ผมก็ประกบปากบดคลึงกลีบเย้ายวนนี่ซะก่อน

            อืม!’ 
            เดาว่าเธอคงตกใจอยู่ไม่น้อย ที่ผมฉวยโอกาสบดกลืนความน้อยใจแบบนั้น ร่างบางยืนนิ่งรับไอร้อนละเลียดเม้มย้ำ เสียงอื้อคำรามต่ำของผมส่งผ่านความหงุดหงิดให้ เรียวลิ้นสากทำงานเร้า จนเธอขยับจูบตอบ
            แฮ่กๆลมหายใจหอบระรวย มือจิกกำเสือผมแน่น
            ทำบ้าอะไรเนี่ยผละออกให้กอบโกยอากาศหายใจ เธอโวยวายขัดอารมณ์ ผมไม่อยากฟังคำเพ้อใดอีก นอกจากเสียงครางเร้าของหัวใจ
            จูบคุณไง ลองนึกดูซิ จูบผู้ร้ายอย่างผม ใช่แบบพ่อพระเอกที่คุณชอบหรือเปล่า
            แทบไม่เว้นกลีบสวยให้เป็นอิสระ ผมไล่ต้อนฉกชิม ทั้งยังพร่ำคำถาม รู้ทั้งรู้ว่าเธอจำไม่ได้ นี่ผมเป็นอะไรไป
            หรือจะชอบเธอแล้ววะ!’
            เมื่อคิดได้ตามนั้น ก็ผละออก เบี่ยงหน้าหนีจนหญิงสาวเสียอาการ เธอยืนงงปล่อยลมหายใจระรวย นิ้วเรียวสวยทาบทับที่ริมฝีปาก ตัวสั่นเทา ดูตกใจจนผมอยากรวบรั้งมากอด

            อดีตของฉันสำคัญนักหรือไง คุณถึงได้ย้ำเรื่องนี้อยู่ได้
            แล้วแต่คุณเลย! ถ้าไม่อยากจำ ผมก็ไม่เกี่ยวอะไรด้วย
            เกี่ยวซิ!”
            คุณไม่ใช่หรอ คนในความทรงจำของฉัน
            หมายความว่ายังไง
            ถึงจะลืมทุกอย่างแต่ฉันจำคุณได้ คนที่ปากร้ายใจดี คนที่ช่วยชีวิตเราไว้ ใครจะลืมได้
            คุณ!”
            มือบางยังสั่นเทาไม่ต่างจากเดิม จับตัวผมเป็นหลัก ก่อนเคลื่อนเข้าหาทีละนิด ความนุ่มนิ่มของริมฝีปากประทับมุมขอบล่างช้าๆ ตราตรึงส่งไอร้อนเรียกให้ผมรู้สึก
            เธอจูบผมหรอ เมื่อกี้เธอพูดอะไร ตอนนี้เธอทำอะไร ทำไมผมหน่วงหนักอึ้งไปหมด ความวูบวาบวิ่งตีรวนจนควบคุมไม่ได้ สุดท้ายผมก็ยอมจูบซับ เติมความหวานใส่ปลายลิ้นให้อีกฝ่ายได้ชิมเช่นกัน










คำลวง
8
ศจีรัตน์

            รู้ทั้งรู้ว่าคำนินทาพวกนั้นตอกไข่ใส่สีกันสนุกปาก ทุกครั้งที่ได้ฟังฉันเจ็บร้าวไปถึงก้นบึ้งของหัวใจ คำเย้ยหยันวิจารณ์ไร้ชิ้นดีกำลังเป็นตราบาปในชีวิตฉัน
            คุณมาซากิคิดอะไรอยู่นะ ตอนจูบเรา
            ความสับสนตีรวนจนสมองย้ำคิดย้ำทำอยู่เรื่องเดิม นี่ฉันกลายเป็นผู้หญิงบอบบางตั้งแต่เมื่อไร ได้ยินคำพูดผิดหูนิดหน่อยก็อ่อนไหวจะเป็นจะตาย ถ้าเป็นเมื่อก่อนสตรองมาก ใครอยากด่าว่าอะไรก็ทำไปเถอะ
            ...โนสน โนแคร์ 
            เป็นอะไรไป ถอนหายใจอยู่ได้คุณศรีสั่งให้หลับตานิ่ง เธอทำแผลอย่างเบามือ กลิ่นยาฉุนถูกป้ายตรงนั้นนิดตรงนี้หน่อย พันผ้าสะอาดกลับมาที่เดิมแล้วถาม
            คือ... หน้าตาหนูน่ารังเกียจมากไหมคะค่อยๆ ถามทีละคำ อึกอักอยากรู้แต่ก็กลัวคำตอบ
            ทำไมหรอ เธออายมันหรือไงคุณศรีไม่ตอบกลับย้อนถามซ้ำมาอีก
            หนูเกรงใจคุณมาซากิน่ะค่ะ ถ้ามันแย่มากไม่ต้องรักษาก็ได้ เปลืองเงินเปล่าๆฉันตอบเลี่ยงๆ 
            คุณมาซากิเธอไม่ใช่คนคิดเล็กคิดน้อยหรอก
            หน้าเหวอะขนาดนี้ เธอจะไม่รังเกียจจริงหรอคะ
            ใบหน้าเธอก็ไม่ได้เป็นอะไร ถ้าจะรังเกียจคุณมาซากิน่าจะรังเกียจที่เธอโกหกมากกว่า
            “...”
            คิดไว้หรือยัง จะบอกเธอเมื่อไร
            ยังค่ะ หนูไม่กล้า
            ไม่กล้า แล้วตอนทำทำไมไม่คิด ฉันล่ะเบื่อจริงๆ เรื่องเล่นสนุกของหนุ่มสาวเนี่ย
            คุณศรีตีมือฉันด้วยความเอ็นดู เก็บยาลงกระเป๋าดังกุกกัก ถ้าฟังไม่ผิดรู้สึกได้ถึงเสียงกลั้วขำอารมณ์ดี ซึ่งปกติคุณศรีจะดุมาก ขนาดวันที่โดนจับได้ว่าแกล้งความจำเสื่อม ฉันยังโดนหยิกหลายที่ ร้องโอดโอยหมดสภาพ

            นั่งคิดอะไรเรื่อยเปื่อยใช้เวลาทบทวนว่าควรเริ่มต้นสารภาพจากตรงไหนก่อน ที่ใจลังเลอยู่เพราะเผลอชอบจูบนั้นเข้าแล้ว ถ้าทำให้คุณมาซากิโกรธล่ะ
            ...เขาจะเกลียดฉันไหม

           
            คิดมากไปก็ไม่มีประโยชน์ ออกไปข้างนอกดีกว่า ค่อยๆ คลำทางไล่ตามผนังเพื่อลงไปห้องครัว เดี๋ยวนี้เริ่มชำนาญกับโลกมืดแล้ว เดินไปไหนมาไหนเองได้ ไม่ต้องรบกวนใครอื่น แต่บางทีคนใจดีก็จะอุ้มฉันไป เพราะมันเร็วกว่าจนคนในบ้านนินทาหนาหู

            ฉันล่ะอยากเห็นหน้าแฟนคุณพอลนี่จังเลย เห็นเค้าว่าเป็นลูกเจ้าสัว รวยระดับมหาเศรษฐี กับแค่เรื่องขับรถชนคนตาย จะหนีทำไม
            ไม่แค่นะพี่ เธอคงตกใจอยู่
            ตกใจอะไรของแก ผ่านมาเป็นเดือนแล้วยังไม่โผล่หัวมารับผิดชอบอีก อย่างนี้มันเรียกจงใจหนี รวยแต่ไม่มีสมองไม่คิดจะรับผิดชอบล่ะซิ
            พี่พูดถึงเขาดีๆ หน่อย นี่ไม่ใช่เรื่องของเรานะ
            ทำไมวะ ทำยังกับอีศจีนั่นจะมาได้ยินงั้นแหล่ะ
            เสียงสองสาวใช้คุยกันอย่างออกรส ฉันได้แต่มุ่ยปากพยักพเยิดตามคำเม้าท์มอย ถ้าพี่สองคนนี่รู้ว่าตัวจริงเสียงจริงยืนอยู่นี้จะทำหน้ายังไงนะ
            เฮ้อ! คิดไม่ตกฉันไม่ใช่คนขับซะหน่อย พวกเธอทั้งหลายถูกพ่อพระเอกลวงโลกนั่นหลอกแล้ว ฉันควรชื่นชมพอลซินะ เก่งรอบด้านจริงๆ จากคนผิดปั่นเรื่องจนตัวเองถูกได้

            ป้าศรี ฉันถามหน่อยซิ หน้าตาเพื่อนคุณมาซากิน่ะ เละเยอะไหม นานแล้วนะทำไมยังพันผ้าที่หน้าอยู่อีก
            นั่นซิป้าศรี ฉันก็สงสัยเหมือนกัน
            ฉันว่านะทำเป็นสำออยเรียกร้องความสนใจมากกว่า คุณมาซากิก็แสนดี เห็นอุ้มพาไปโน่นทีนี่ที คงรำคาญความเงอะงะของคนตาบอดน่าดู
            หืม!’
            พูดขนาดนี้ตบไหม นี่ถ้าเป็นฉันคนเก่าคงปรี่ไปเล่นงานแล้ว ปากเสียเหลือเกิน สอดรู้สอดเห็นไม่เข้าเรื่อง

            เก็บปากไว้บ้างเถอะ อย่าสนุกกับเรื่องคนอื่นนักเลย คุณมาซากิกับยัยหนูนั่นจะสนิทกันขนาดไหน ก็ไม่เกี่ยวกับคนรับใช้อย่างเราเข้าใจไหม
            เกี่ยวซิป้า! ฉันยอมไม่ได้หรอกนะ คุณมาซากิเธอทั้งหล่อ ทั้งรวย สุภาพ จะมีแฟนทั้งทีก็น่าจะหาได้ดีกว่าคนตาบอดนะป้า
            ใช่ป้า! ที่ทำแผลล้างแผลให้คุณเขาทุกวันน่ะ ป้าเห็นไหมว่าแผลบนหน้าเธอเละแค่ไหน
            อืม! ก็เสียโฉมหมดแหล่ะ พอใจหรือยัง
            เสียงคุณศรีตอบส่งๆ คงพูดเพื่อตัดความรำคาญ แต่มันดังชัดในแก้วหูฉัน เมื่อก่อนก็บ้าทำสวยเสริมโน่นเติมนี่มากพอแล้ว โชคร้ายมาหน้าเละตาบอดอีก โถ่! ชีวิตฉัน
            ยัง! ป้าต้องขัดขวางไม่ให้สองคนนั้นอยู่ใกล้ชิดกันด้วยซิ ฉันไม่เอาหรอกนะ นายหญิงอัปลักษณ์แบบนั้น
            ไม่เอา แต่คุณเขาเอาจะทำอะไรได้
            การแอบฟังไม่ใช่เรื่องดีนะคะ ฉันนิ่งอึ้งทำอะไรไม่ถูก นี่ซินะเรื่องจริง ฉันฉวยโอกาสทำตามใจตัวเองทุกอย่าง จนหลงลืมไปว่าความคู่ควรมันอยู่ตรงไหน ต่อให้รวยล้นฟ้าแต่หน้าตาอัปลักษณ์ใครเขาจะต้องการ 
            เป็นอะไรหรือเปล่ารู้สึกได้ว่ามีคนเดินเข้ามาใกล้ คำถามแผ่วเบากลับทำฉันสะดุ้ง 
            เปล่าค่ะคุณศรีตอบอึกอัก ไม่เต็มคำนัก
จะเข้าไปไหม ฉันว่าเธอคงได้ยินหมดแล้ว ไปพักที่อื่นเถอะอย่าไปสนใจคำพูดพวกนี้เลยคุณศรีพูดเน้นหนัก ฉันสั่นเทาสะกดอารมณ์อยากร้องไห้ พยักหน้ากลั้นความเจ็บปวด ฝ่ามือหยาบกร้านบีบกระชับมือฉันเชิงปลอบ 
            วันนี้คุณมาซากิติดงาน ฝากบอกให้เธอนอนก่อนเลย ไม่ต้องรอนะ
            ค่ะ
            เดี๋ยว!”
            “...”
            เธอจะรู้สึกยังไงก็เรื่องของเธอ แต่จำเอาไว้อย่าดูถูกน้ำใจคุณมาซากิ
            “...”
            น้ำตาเอ่อคลอซึมชื้นอยู่สองตาจนฉันรู้สึกได้ ท่าทางเกร็งถอนหายใจที่คุณศรีเห็นไม่ใช่เพราะโกรธ แค่น้อยใจโชคชะตามากกว่าหรือที่สุชาต่อว่าจะเป็นจริง
            ชีวิตฉันไม่มีอะไรดีสักอย่าง  นอกจากรวย’ 


            เราควรทำยังไง กลับไปเป็นศจีคนเก่าดีไหม ยอมรับความจริงสู้คดีกันไป กฎหมายไทยศักดิ์สิทธิ์ยุติธรรมพอคงคุ้มครองคนถูกได้ อีกไม่นานต้องนำสืบได้ว่าฉันไม่ได้ทำ ถึงตอนนั้นทุกคนคงเข้าใจ เงินทองก็พอมี เก็บมาศัลยกรรมรักษาตัว เริ่มต้นชีวิตใหม่ที่ไหนสักแห่ง นี่แค่คิดนะ ทุกอย่างยังลงตัวเลย ฉันต้องมีความสุขแน่ 
            ...แค่ไม่มีความรัก





พิพากษาความจริง
9
มาซากิ

            นายครับ เงินสดเตรียมพร้อมแล้วครับ
            ทางนั้นคอนเฟิร์มเวลามาหรือยัง
            “3ทุ่มครับนาย เจอกันคลับเสี่ยเติง
            ตกลงคุณพอลนี่มันบ่อนกี่ที่แน่ พักก่อนไม่ใช่เสี่ยเติงนิ
            สายผมรายงานมาว่า คู่ขาคนเก่าที่เป็นเพื่อนคุณศจี ถูกเอามาขายที่บ่อนเสี่ยเติงครับ ตอนนี้เสี่ยทั้งรักทั้งหลง คุณพระเอกนั่นเลยได้สิทธิวีไอพีไปด้วย
            อะไรกัน ใจคอมันจะเลวครบสูตรเลยหรือไง
            นายก็รู้ว่ามันชั่วขนาดไหน ระวังไว้บ้างก็ดีนะครับ ผมว่าเงินสามล้านไม่พอสำหรับคนอย่างนั้นหรอก
            ผมรู้! แต่มันต้องหยุดแน่ เพราะเรามีทั้งพยาน และหลักฐาน หรือถ้าคุยกันไม่รู้เรื่อง ผมจะส่งคนไปจัดการมันเอง
            เป็นคนครั้งแรกที่รู้สึกดีกับชาติตระกูลมาเฟียที่เกิดมา เส้นทางสีเทาทำให้ครอบครัวผมร่ำรวยมากก็จริง แต่พวกเราก็รู้จักแบ่งปัน รักเพื่อนรักพ้อง ไม่ชิงดีชิงเด่น กระหายอำนาจ ยามใดที่เดือดร้อนพันธมิตรทั้งหลายล้วนพร้อมใจช่วยเหลือ
            ยุคสมัยนี้เราชื่นชมคนที่เปลือกหน้า เคารพความโก้หรูนำสมัย ให้เกียรติกันเพราะรถยนต์ที่ใช้บ้านที่อาศัย แต่เมื่อยามใดตกต่ำ เปลือกนอกถูกกะเทาะออก ย่อมไม่เหลือมิตรแท้ แลศัตรูถาวร

21.05 
            เป็นอีกครั้งที่ผมต้องรอคุณพระเอกชื่อดัง จดจ่อรออย่างกระวนกระวายใจ ทั้งที่ปกติผมถูกฝึกให้สุขุมอยู่ตลอด
            พอลเปิดเข้าประตูมาด้วยท่าทางสบายใจ เขายังคงยิ้มเจ้าเล่ห์ทักทาย ทิ้งตัวนั่งไขว่ขา เชิดหน้าเหยียดยิ้มจ้องหน้า
            ลูกน้องคุณคงบอกแล้วใช่ไหม ว่าข้อเสนอของผมคืออะไร
            ครับ ผมทราบ
            ดี! ไหนล่ะเงินสามล้าน ที่คุณจะช่วยเรื่องศจี
            ใจเย็นซิครับ ผมอยากฟังแผนของคุณก่อน
            ผมไม่มีแผนหรอกคุณ คนบ้านเหยื่อหน้าโง่นั่นน่ะเทิดทูนผมอย่างกับอะไร แค่ใช้เงินปิดปากเดี๋ยวเรื่องก็เงียบไปเองแหละ
            เป็นคนดังนี้ อะไรๆ ก็ง่ายไปหมดเลยนะครับ
            ก็เหมือนกับเป็นคนรวยนั่นแหล่ะ แค่มีเงินจะทำอะไรก็ได้ ผมว่าคุณอย่าลีลาดีกว่า รีบๆ จ่ายซะ! จะได้จบ
            เงินไม่ใช่ปัญญาสำหรับผมหรอก

            ส่งสัญญาณให้ชัชนำกระเป๋าเงินสดสามล้านบาท ออกมาวางโชว์ ทันทีที่แบงค์สีเทาหลายปึกคลี่โชว์ต่อหน้า พระเอกหนุ่มถึงกันตาลุกวาวด้วยความอยากได้ พอลเหยียดยิ้มถูกใจ ก้มตัวมาคว้าไว้ แต่ชัชรีบปิดกระเป๋าหนีซะก่อน
           
            ทำไมอีกล่ะ คิดจะมาไม้ไหน
            เงินนี่ไม่ใช่ของคุณ แต่เป็นของเหยื่อที่คุณขับรถชนต่างหาก นัดพวกเขามาผมจะอธิบายทุกอย่างให้เอง
            พอลชักสีหน้าจ้องผมตาเขม็ง แต่ยังใจเย็นแสร้งหัวเราะกลบเกลื่อนความไม่พอใจ เขาก้มตัวลงต่ำ กระซิบคำเสียงพร่า
            ใครจะเชื่อคุณ ระหว่างมาเฟียกระจอกๆ กับพระเอกสุดฮอตอย่างผม คิดว่าคนเขาจะเชื่อใคร
            ผมไม่รู้หรอก บังเอิญว่ามีคนหนึ่งแน่ที่เชื่อผม เอ่อ! รู้สึกเขาจะเป็นตำรวจนะ แล้วก็เป็นเพื่อนผมด้วย หลักฐานพยานก็มี คุณคิดว่าจะหนีความจริงพ้นหรอ
            หลักฐานอะไร!”
            ชู่ว์! เบาๆ ซิคุณ อยากดูหลักฐานตรงนี้เลยหรือไง
            ถ้ามีจริงก็เอาออกมาซิ ไม่น่าเชื่อนะว่ามาเฟียอย่างคุณ จะยอมเปลืองตัวมายุ่งเรื่องกฎหมายเพราะผู้หญิงคนเดียว
            นั่นซิ! แค่ผู้หญิงคนเดียว คุณยังรังแกเธอได้อีกนะ อย่างคุณนี่เรียกว่าอะไรดี
            “...”
            หึ! เลวใช่ไหม
            ต้องการอะไร พูดมาตรงๆ ดีกว่า
            สารภาพความจริงซะ ใช้บทพระเอกเจ้าน้ำตาของคุณให้เป็นประโยชน์ ก่อนที่หลักฐานและพยานของผมจะเป็นคนพูดแทน ถึงตอนนั้นคุณคงดูแย่มากชีวิตพังพินาศเลย ผมรับรอง
            คิดจะขู่หรอ ไม่กลัวหรอกเว้ย!”
            ไม่กลัวก็ดี งั้นมาดูกันว่าใครเป็นพยานให้ผม
            ส่งสัญญาณให้ลูกน้องส่งตัวพยานปากสำคัญเข้ามา เธอเดินช้าๆ ด้วยท่าทางหวาดกลัว หมดสภาพสาวมั่นใจอย่างตอนแรก ผิวเนื้อขึ้นริ้วเขียวช้ำ รอยแดงจ้ำทั่วทุกส่วนบ่งบอกว่าชีวิตหลังจากนั้นไม่สวยงามนัก

            สุชา!”
            ยังไม่ทันที่คนในเงามืดจะออกมานั่งร่วมวงด้วย เสียงเรียกอย่างตกใจก็ปล่อยออกมาซะก่อน
            ผมคงไม่ต้องแนะนำซินะ ผู้หญิงคนที่ช่วยสลับตำแหน่งที่นั่งให้คุณไง เธอทั้งรักทั้งเทิดทูนคุณ ไม่น่าเชื่อเลยนะ ที่ผมต้องมาเจอเธอในสภาพนี้
            มึง! มึงหักหลังกูหรอ
            แล้วที่มึงล่ะ ไอ้สารเลว!”
            คู่ขาเก่าเจอหน้ายังไม่ถึงนาทีด้วยซ้ำก็ทะเลาะกันซะแล้ว คงจริงอย่างที่ใครเค้าบอก เมื่อรู้ไส้รู้พุงกันหมด เสน่หาในตอนแรกรักก็หมดความหมาย

            พอ! ผมไม่สนใจเรื่องพวกคุณหรอกนะ กล้องวงจรปิดที่คลับจับภาพตอนคุณทำร้ายร่างกายศจีได้ ซูมชัดเห็นถึงตอนที่เธอสลบด้วย ไหนจะตอนคุณขับรถออกไป หลักฐานแค่นี้น่าจะพอแล้วมั้ง
            “...”
            เงินสามล้านตรงนี้ จะเอาก็หยิบไปซะถ้าคุณเลือกสารภาพออกมาเอง แต่ถ้าไม่รับเงินคุณเตรียมรับหมายศาลได้เลย
            สีหน้าโกรธเกรี้ยวจ้องอาฆาต มองที่ผมแล้วสลับไปมองผู้หญิงคนข้างๆ ถึงพอลจะหัวเสียอยู่บ้าง รากเง้าความเห็นแก่ได้ก็สั่งให้เขาคว้าเงินสามล้านไว้
            ผมคลี่ยิ้มพอใจในทางที่เขาเลือก พอลยังชักหน้าตึงจ้องดุดัน เขาขยับปากราวสาปส่งผมในใจแล้วชักเท้าเดินหนี
            ส่งสัญญาณให้ลูกน้องดักหน้าพอลไว้ก่อน
            ผมให้เวลาคุณสามวัน รีบไปร่างสคลิปสารภาพผิดซะล่ะ อย่าให้ผมต้องเชิญคุณมาอีก เพราะรอบต่อไปจะเป็นลูกน้องผมคุยกับคุณแทน

            พอลออกไปแล้ว ตรงนี้เหลือเพียงสุชากับผม ส่งยิ้มทักทายเธอ ปลอบประโลมสภาพน่าสงสารจับใจด้วยความเป็นมิตร น้ำตาแห่งความเสียใจไหลสะอื้นไม่ขาดสาย ใครเป็นผมก็คงต้องทำเหมือนกัน
            ไม่ต้องเสียใจหรอกคุณ ผมจัดการค่าอิสรภาพให้คุณแล้ว ต่อไปคุณไม่ต้องมาทำงานที่นี่อีก
            ให้สุชาทำงานกับคุณนะคะ สุชาอยากรับใช้คุณ ให้สุชาดูแลคุณนะคะ
            เธอย้ายจากที่นั่งตัวเองมานั่งตักผม สองแขนคล้องคอ แนบหน้าลงเนินบ่า พร่ำเสียงหวานร้องขอ ผมตกใจอยู่ไม่น้อย ไม่คิดว่าเธอจะกล้าทำแบบนี้ ทั้งที่ตอนแรกดูหวาดกลัวทุกคน
            ดูแลยังไงครับ
            แบบที่คุณต้องการไงคะ สุชาไม่เรื่องมาก ขอแค่มีคุณอยู่ด้วยก็พอ
            รู้สึกแปลกๆ ผมโดนผู้หญิงทอดสะพานมานักต่อนัก ไม่เคยรู้สึกแย่เท่านี้ ผมจับสิ่งนั้นได้ สายตาแห่งความอยากใคร่และการเอาชนะ

            ยังไงก็ได้ค่ะ สุชาจะทำให้ดีกว่าศจี ลองดูไหมคะ” 
            พอเห็นผมคุยเล่นด้วย เธอยิ่งรุกคืบกว่าเก่า กอดรัดซุกไซ้จนผมต้องเสียมารยาทผลักเธอออก \
            ไม่แปลกใจเลยที่คนอย่างพอลกับสุชาคบกันได้ คนหนึ่งไฟอีกคนน้ำมัน ทำได้ทุกอย่างเพื่อความอยู่รอด ไม่รู้ว่ายัยคุณหนูนั่นหลงคบคนแบบนี้ได้ยังไง

            อย่าดีกว่าครับ นี่ก็ดึกมากแล้วผมขอตัวดันตัวเธอออกห่าง ลุกขึ้นยืน พร้อมคลี่ยิ้มร่ำลา 
            อ่อ! ผมดูแลตัวเองได้ครับ ไม่ลำบากคุณดีกว่า
            พูดทิ้งท้ายแบบนั้นแล้วเดินหนีออกมา เหมือนได้ยินเสียงกรีดร้องไล่หลัง ผู้หญิงนี่ก็แปลกนะครับ ดีใจ เสียใจ เป็นต้องร้องกรี๊ดไว้ก่อน 
            ...น่ารำคาญจริงๆ





Extra Scene
2
มาซากิ

23:41 
            หลังจากเสร็จเรื่องพอล ผมตรงกลับบ้านทันที ดูเวลาตอนนี้ก็ดึกมากแล้ว แม้อยากเข้าไปดูว่าเธอหลับยัง กลับเลือกยั้งเท้าเอาไว้เพราะเกรงจะรบกวนเกินไป 
            "จะเข้าไปก็เข้าไปซิคะ จดๆ จ้องๆ อยู่ได้เสียงคุณนมทักขึ้น แหม่! เดี๋ยวนี้คุณนมชอบมาเงียบๆ ทำให้ผมตกใจอยู่เรื่อย
            "นมยังไม่นอนอีกหรอครับ นี่ศจีเข้านอนตั้งแต่กี่ทุ่ม ปิดห้องเงียบเชียว" ผมปรี่เข้าไปประคองคุณนม ชวนคุยไปเรื่อย ก่อนวนมาเรื่องที่อยากรู้
            "นมรอคุณหนูน่ะคะ กลับมาแล้วนมได้ไม่ต้องเป็นห่วง ส่วนหนูศจีเข้าห้องตั้งแต่เย็น คงจะน้อยใจที่ได้ยินพวกในครัวมันนินทาเธอ"
            "แล้วได้ทานมื้อเย็นไหมครับ"
            "ให้เด็กยกมาอยู่นะคะ แต่ดูเหมือนจะไม่แตะเลยสักนิด"
            "อ้าว!"
            "เป็นห่วงก็เข้าไปดูเธอซิคะ บางทีเธออาจจะรอให้คุณไปง้ออยู่ก็ได้"
            "ยังไงครับ ผมไม่ได้ทำอะไรให้เธอโกรธสักหน่อย"
            "นมก็ไม่รู้ค่ะ ไปถามกันเองดีกว่า เรื่องหนุ่มๆ สาวๆ คนแก่อย่างนมไม่รู้เรื่องด้วย"
            คุณนมพูดจบก็เดินหนีเช่นเคย ทิ้งผมไว้หน้าห้องคนเดียว  คิดลังเลเพียงอึดใจ สุดท้ายความเป็นห่วงก็สั่งให้ผลักประตูเข้าไป
            แสงไฟหัวเตียงเปิดสว่างนวลตา มองเห็นร่างหญิงสาวนอนพลิกไปพลิกมาบนเตียงนุ่ม ดูหงุดหงิดไม่สบอารมณ์นัก ผมจึงเอ่ยถาม
            "เป็นอะไรไปคุณ"
            "คุณ! เข้ามาตั้งแต่เมื่อไรเนี่ย"
            "ก็นานพอจะเห็นคุณพลิกซ้ายพลิกขวา ถอนหายใจกลิ้งไปกลิ้งมา แล้วตกลงนี่เป็นอะไร
            "เรื่องของฉัน
            โอเค! เรื่องของคุณงั้นผมไปก่อนแล้วกัน
            เดี๋ยวซิคุณ!”
            หืม
            คุณว่าฉันอัปลักษณ์มากไหม
            ถามทำไม ส่องกระจกไม่เห็นหรือไง
            เอ๊ะคุณ!”
            อ่อ! ผมลืมไปว่าคุณมองไม่เห็น
            ใช่! ฉันมันตาบอด มองไม่เห็น แถมหน้าเละอัปลักษณ์ แต่อย่าลืมนะคุณจูบ... ฉัน คุณไม่รู้สึกรังเกียจหรอ
            เสียงแข็งไม่พอใจในตอนแรก ค่อยๆ ลากแผ่วตรงคำว่า จูบ ใจก็อยากเถียงว่าผมคนเดียวซะที่ไหน เธอเองก็จูบผมเหมือนกัน ถ้าถามว่ารังเกียจไหม เธอมากกว่าที่
            รังเกียจผมหรือเปล่า

            เห็นไหมคุณไม่ตอบ ฉันขอโทษนะที่สะเออะไปทำอย่างนั้นกับคุณ มิน่าล่ะผู้หญิงกับผู้ชายอยู่ด้วยกัน ถึงไปไกลแค่จูบ            เธอละล้ำละลักความคิดออกมา แถมคิดเองเออเองจนผู้ร่วมในเหตุการณ์อย่างผมยืนเกาหัวแก็กๆ
            รู้ตัวหรือเปล่าว่าพูดอะไรออกมาผมอึ้งกับสิ่งที่ได้ยิน แล้วจะอึ้งกว่านี้ถ้ายัยนี่ตอบว่า 
            รู้ซิ! ไม่คุณตายด้าน ก็ฉันนี่แหล่ะที่อัปลักษณ์
            ผมไม่ปล่อยให้กลีบปากสวยเพ้อเจ้อได้อีก ปรี่เข้าประกบจูบ บดเม้มย้ำจนเสียงไม่สบอารมณ์ครางอื้อดื้อดึง สองแขนบางพยายามผลักตัวผมออกห่าง จำต้องขยับถึงคร่อมใช้สองแขนแข็งแรงกว่ากดเธอไว้ใต้ร่าง
            พูดอีกซิ! แต่ผมไม่รับประกันความปลอดภัยของคุณนะผละออกมาพูดเย้ย คิดเพียงขู่เธอให้กลัว 
            คุณไม่ทำหรอก ฉันรู้แทนที่จะหยุดยัยนี่กลับกวนประสาทไม่เลิก ผมจูบเร่งเร้าจนร่างเธอหอบสั่นไปหมด ผละมาไซ้ซอกคอ เม้มสร้างรอยรักเน้นๆ เกิดรอยแดงจ้ำทั่วซอกคอ เธอดิ้นพล่านด้วยความเสียวซ่านเบียดร่างหาอกอุ่น แล้วคนที่ทนมาตลอดอย่างผมจะอดใจไหวไหม
            เกมส์รักระอุขึ้นเรื่อยๆ ชุดผ้าบางกันอายถูกถอดออกจนเหลือเนื้อเนียนล่อนจ้อน แท่งความเป็นชายตื่นตัวคับแน่น ผมไม่อาจห้ามสัญชาตญาณส่วนลึกได้ จากเพียงถูไถเริ่มล่วงล้ำอยากสัมผัสกลีบนิ่ม
            จูบซับจากซอกคอลงมาถึงสองเต้ากลมกลึง ปลายยอดเม็ดชมพูสวยลุกชัน ทุกครั้งที่ลิ้นสากลากผ่านเกิดเสียงอื้ออ้าน่าฟังเหลือเกิน ผมละเลงลิ้นร้อนใส่จนหนำใจก่อนลากเลียวนหน้าท้องแบนราบ สะกิดลงต่ำเรื่อยๆ จนถึงดงขนอ่อนนิ่ม
            นิ้วหนาประทับกลีบกลางตัวอยู่นาน บดบี้จนเมือกหวานไหลเปรอะเปื้อน กลิ่นคาวอ่อนๆ ผสมกลิ่นเนื้อสาวเต็มวัย ยั่วเย้าให้เข้าฉกชิมไม่หยุด ผมสะกิดลิ้นลงร่องช้าๆ ห่อส่วนปลายสากจนแข็งแล้วแท่งย้ำเม็ดเดียวเน้นๆ เธอเด้งร่อนปั้นท้ายตอบโต้
            คุณ! จะทำอะไรฉันเสียงกระเส่าพยายามครางให้เป็นคำถาม ผมไม่อาจผละไปตอบเธอได้ เพราะยังไม่เบื่อเจ้าเนื้อนิ่มตรงนี้ ยิ่งกินยิ่งฉ่ำหวานยิ่งบดบี้เสียงครางยิ่งดังก้อง
            ไม่เอาน่า! คุณออกจะชอบไม่ใช่หรือไงผละมาบีบกรอบหน้าสวย กดสันจมูกประทับไรผม จงใจพ้นลมหายใจหอบระรัวในอกให้ได้ยิน อยากบอกเธอเหลือเกินว่าผมเองก็ตื่นเต้นไม่ต่างกัน
            คนตาบอดอย่างฉัน จะทำอะไรได้มาถึงขนาดนี้แล้ว เธอยังไม่เลิกพูดประโยคเดิม ผมเผลอบีบคางมนแรงขึ้น นึกเรื่องเห็นแก่ตัวบางอย่างได้จึงกวนประสาทกลับ
            ก็มีนะ อยู่ที่คุณจะทำได้เรื่องหรือเปล่างัดแท่งยาวออกมาดีดกระทบปากเผยอเชิด ใช้นิ้วหัวแม่มือเกลี่ยคลึงสองกลีบนิ่มให้แยกออกจากกัน ดันแท่งร้อนเข้าไปทีละนิด แรกๆ เธอเม้มปากแน่นไม่ยอมอ้ารับ แต่ไม่นานโพรงปากอุ่นก็กลืนกินจนสุดความยาว
            สองมือลูบหัวบังคับจังหวะเคลื่อนเข้าออก ยัยคุณหนูขี้วีนเรียนรู้ได้เร็วโดยไม่ต้องเอ่ยปากสอน อารมณ์เสียวซ่านพาผมมาพบกับความเกร็งสั่น ก่อนจะเสียท่าให้กลีบปากอุ่น ผมเลือกดึงออกมาซะก่อน
            คุณ! ฉันทำไมถูกใจหรือไงนั่น! ยังจะถามอีก เสียงครางผมดังกระเส่าน่าอายขนาดนั้น ไม่เข้าใจอีกหรือไง
            หมดเวลาของคุณแล้ว ต่อไปถึงทีผมบ้างแทรกตัวเข้ากลางหว่างขาเรียว อาวุธจ่อปากทาง ตั้งลำดันเข้าทีละนิด ขยับโยกแผ่วเบาสลายความฝืด ปากเม้มจูบปลอบประโลม เสยงัดจนสุดท้ายเธอก็กลืนกินตัวตนผมจนหมด
            เจ็บไหม
            หึ..”
            เสียงปฏิเสธกระเส่าจนผมแทบคลั่ง ยอมรับเลยว่าตอนนี้อยากกระแทกกระทั้นมากกว่าสวมบทสุภาพบุรุษแสนอ่อนโยน แต่เพราะเห็นเธอเงียบไป และส่วนเกี่ยวพันของเราก็คับแน่นตอดถี่จนร้อนระอุ ผมอดคิดไม่ได้ว่านี่อาจจะเป็นครั้งแรกของเธอ
            อ๊ะ! อ๊ะ! อืม...” สองเราขยับหากันทีละน้อย เร่งเครื่องสร้างจังหวะสุขสม เกมส์รักในค่ำคืนนี้ดำเนินต่อไปอีกหลายระลอก ผมไม่อาจหยุดเสียงเรียกของหัวใจได้ เธอเองก็ไม่อาจห้ามปรามขัดขืนได้เช่นกัน 




ปราบมาเฟีย แสนหวาน
10
ศจีรัตน์

            แสงยามเช้าลอดทะลุผ้าม่านบอกเวลา ฉันยังนอนนิ่งทบทวนเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนด้วยรอยยิ้ม คนบ้า! บทจะไม่ทำก็เห็นห้ามใจได้ไม่แตะต้องเลยสักนิด พอเกิดคึกขึ้นมาไม่รู้จักอิ่มไม่รู้จักพอเชียวนะ ไล่มองวงแขนที่กอดร่างฉันไว้แน่นแล้วอดตื่นเต้นไม่ได้
            เมื่อคืนไม่ได้ฝันไปจริงๆ ด้วย
          ตึกๆ

            เฮ้ย!’
            ผ้าม่านพลิ้ว โต๊ะ เตียง ตู้เสื้อผ้า วงแขน แผนหลัง เนินไหล่ ทั้งหมดนี่ฉันมองเห็นมัน รีบใช้มือสัมผัสใบหน้าตัวเองทันที คงเพราะเกมส์รักเมื่อคืนดุเด็ดเผ็ดมันไปหน่อย ผ้าพันแผลถึงหลุดล่วงจนหมด และสิ่งที่ซ่อนอยู่กำลังทำฉันใจสั่น 
            ทำไม ไม่มีอะไรสักอย่าง ลูบมือไล่จากดวงตา ผ่านสันจมูกลงสองแก้ม ไม่สะดุดริ้วรอยอะไรสักอย่าง ไม่รู้สึกเจ็บ แล้วแผลฉันอยู่ตรงไหน 
            ตัดสินใจผละขากวงแขนอุ่นออกไปส่องกระจก แปลกที่ห้องนี้ไม่มีให้เห็นเลยสักบาน ฉันเดินหาอยู่นานจนไปเจอกับลูกบิดประตูห้องน้ำ แม้มองไม่ชัดนักแต่ภาพสะท้อนในนั้นก็พอดูรู้ว่าปกติทุกอย่าง
            นี่นายโกหกหรอ สนุกมากใช่ไหม ดีใจอยู่หรอกที่ทุกอย่างเหมือนเดิม ฉันไม่อัปลักษณ์แบบที่เค้าว่ากัน แต่ก็โกรธที่โดนแกล้งแบบนี้
            ด้วยความโมโหจึงรีบใส่เสื้อผ้า เดินออกมาจากห้องทันที โชคดีที่ยังเช้าตรู่ทุกคนคงวุ่นวายอยู่ในครัว ไม่มีใครสนใจฉันหรอก
            จะไปไหนเปิดประตูบ้านออกมาเจอคุณศรีรอใส่บาตรตอนเช้า เธอถามเสียงดุ ฉันเพียงเงยหน้าจ้องเก็บอารมณ์ไม่พอใจไว้ในอก
            ฉันถามไม่ได้ยินหรือไง
            จะกลับบ้านค่ะ
            คุณมาซากิอนุญาตแล้วหรอ
            ต้องอนุญาตด้วยหรอคะ นี่มันชีวิตหนู หรือเขาคิดว่าเมตตาช่วยชีวิตไว้ แล้วจะเล่นตลกอะไรกับหนูก็ได้
            ใครไปเล่นตลกกับชีวิตเธอ
            ก็ที่บอกว่าหนูตาบอด นี่ไม่เรียกว่าแกล้งกันหรือไง
            คิดดูให้ดีนะ ถ้ามีคนจำได้ว่าเธอเป็นใคร เธอจะใช้ชีวิตสงบสุขอย่างนี้ไหม โกรธที่เขาโกหกแต่ตัวเองก็โกหก แปลกคนจริงๆ
            ค่ะ หนูมันแปลก ขอบคุณนะคะที่ดูแลหนูมาตลอด ลาล่ะคะ
            นิสัยผู้หญิงย่อมคิดเล็กคิดน้อยเป็นธรรมดา ตอนนี้ฉันคิดเรื่องดีๆ ไม่ออกหรอก รู้เพียงตัวเองถูกหลอก พาลว่าเรื่องทั้งหมดหลอกล่วงไปด้วย ฉันไม่อาจสู้หน้าใครได้ ขอกลับไปเผชิญความจริงดีกว่า

@บ้านศจีรัตน์
            แล้วอารมณ์ชั่ววูบก็พาฉันกลับบ้าน ป๊าม๊าดีใจมากกอดฉันแน่น ความเป็นพ่อแม่ย่อมรักลูกอย่างบริสุทธิ์ใจ ฉันพยายามเล่าเหตุการณ์วันนั้นให้ฟัง ซึ่งป๊าเองก็บอกว่าจะช่วย
            คุณท่าน! คุณท่านคะ ดูข่าวนี่ซิคะ คุณพอลเธอออกมายอมรับแล้วว่าเป็นคนขับเอง เธอยังบอกอีกนะคะว่าทนแบกรับความผิดไม่ไหว จนต้องยอมพูดความจริง ขอให้ทุกคนเห็นใจค่ะ
            คลิปพอลถูกนักข่าวรุมถามกลายเป็นคดีพลิก ฉันพ้นข้อกล่าวหาโดยไม่ต้องเหนื่อยทำอะไร แม้พอลจะพูดทั้งน้ำตายอมรับผิด แต่ใครฟังก็รู้ว่าทุกอย่างเขาเตรียมมาหมดแล้ว ฉันไม่เชื่อเลยว่าคนอย่างพอลจะสำนึกได้

            หมดทุกข์ หมดโศกสักทีนะลูก ใครที่มันทำอะไรไว้ก็ได้ผลกรรมแล้ว ลูกทำใจให้สบายนะ
            ค่ะพ่อ
            ยิ้มรับความห่วงใยของพ่อแม่ ทั้งที่ยังสงสัยว่าเพราะอะไรพอลถึงกลับคำแบบนี้ ชีวิตนักแสดงนี่น่ากลัวนะ ปั้นหน้าฉีกยิ้ม สวมบทมาดพระเอกตลอด แสดงทุกอย่างกับทุกคน จนไม่รู้แล้วว่าตัวตนแท้จริงเป็นอย่างไร

กริ๊ง! กริ๊งง...
            ฮะโหล่พอล นี่ศจีเองนะ ศจีจะโทรมา...”
            ถ้าจะโทรมาขอบคุณผม ไม่ต้องหรอก
            อ้าว!”
            อย่าโง่น่า ผมกับคุณเรามีแต่เรื่องของผลประโยชน์ เราไม่ได้รักกันตั้งแต่แรก แล้วผมจะช่วยคุณทำไม
            แล้วคุณทำอย่างนั้นทำไม
            อย่าแกล้งโง่หน่อยเลย! ให้ไอ้มาเฟียนั่นมาต่อรองกับผม ยังตีหน้าใสซื่อโทรมาขอบคุณ ไม่ตลกไปหน่อยหรอคุณ
            พูดให้ดีๆ นะพอล ศจีแค่อยากขอบคุณ ถ้าพูดไม่รู้เรื่องก็จะวางล่ะ
            เชอะ! ได้ผัวใหม่แล้วนี่ ที่กับผมทำเป็นเล่นตัว แต่ไอ้นั่นเถื่อนถึงใจคุณหรือไง ถ้ารู้ว่าคุณหนูรสนิยมแบบนี้นะ ผมไม่ปล่อยคุณไว้หรอก
            มาเฟียไหน คุณพูดเรื่องอะไรกันเนี่ย
            ก็ไอ้คนที่ช่วยคุณไง! มันคงหลงคุณมากซินะ ผมน่าจะเอะใจตั้งแต่มันยอมเซ็นเช็คจ่ายค่าตัวคุณแล้ว ไหนจะเงินสามล้านค่าเปิดปากรับผิดนี่อีก เข้าใจเลือกนี่ศจี ผมมันก็แค่ดังจะสู้คนรวยมีอิทธิพลแบบนั้นได้ไง
            อืม เข้าใจแล้ว
            เสียดายนะ ผมยังไม่มีคลิปหนังสดกับคุณเลย รับเงินมันมาแล้วด้วย ฝากบอกมันด้วย ถือว่าผมขอเป็นค่าบีบน้ำตาแล้วกัน
            โอเค พอลคุณนี่เลวเสมอต้นเสมอปลายดี ลาก่อน

            ฉันแทบเหวี่ยงโทรศัพท์ให้พ้นตัว รู้สึกขยักแขยงผู้ชายคนนี้เต็มทน ทำไมถึงน่ารังเกียจได้ขนาดนั้น ในขณะที่อีกคนกลับแสนดีจนรู้สึกผิด
            นี่เราโกรธเว่อร์ไปหรือเปล่า’ 
            ช่างเถอะ! เป็นผู้ชายก็ต้องมาง้อซิ เรื่องอะไรฉันต้องยอมก่อนยัง! ยังมีกะใจเข้าข้างตัวเอง ทั้งที่คิดถึงแต่เขา ไม่รู้ป่านนี้จะทำอะไรอยู่

วันที่ 1 ผ่านไป
วันที่ 2 ผ่านไป
วันที่ 5 ผ่านไป
วันที่ 10 ผ่านไป
1 เดือนผ่านไป
2 เดือนผ่านไป
           
            โถ่เว้ย!’ นี่ไม่คิดจะง้อจริงๆ หรอ ก็ไหนเป็นสุภาพบุรุษแสนดีทุกกระเบียดนิ้วไง อย่าบอกนะว่าได้แล้วทิ้ง เฮ้ย!’ ฉันมันห่วยแตกขนาดนั้นเลยหรอ ถึงจะเป็นครั้งแรกแต่ก็ทำสุดความสามารถแล้วนะ
            ไม่ได้แล้วต้องทำอะไรสักอย่าง

@มาชิน คลับ
21:53
            ไม่มีบัตรเข้าไม่ได้ครับ
            ทำไมจะไม่ได้! ไปตามคุณมาซากิมาซิ๊!”
            ผมโทรแจ้งแล้วครับ แต่นายไม่ให้คุณเข้าพบ กลับไปเถอะครับ
            ฉันไม่กลับ! คิดว่าจะหนีคนอย่างศจีรัตน์พ้นหรือไง
            โถ่คุณ! งั้นผมจำเป็นต้องเรียกคนมาลากคุณออกไปนะ
            กล้าก็เอาซิ ถ้าฉันบาดเจ็บตรงไหนนะ เจ้านายคุณจะเจ็บมากกว่าหลายเท่า
            โอ้ย! คนบ้า ไปหาที่บ้านก็แล้ว มาดักรอที่ทำงานก็แล้ว ยังไม่ยอมลงมาเจอหน้าอีก ไม่รู้จะโกรธอะไรนักหนา ง้อจนไม่รู้จะง้อยังไง ความรู้สึกผิดเดือดปุดๆ จนกลายเป็นอยากเอาชนะ นี่เขาจะรู้บ้างไหมว่าฉันมาเกาะประตูรอตั้งแต่บ่ายแล้วนะ

            หวืด!’
            คุณ! คุณ! เป็นอะไรไปเสียงเรียกค่อยๆ แผ่วลงคลายทุกประสาทปิดรับการใช้งาน ความดำมืดปกคลุมจนสติฉันวูบไหวและดับลง 





มาซากิ พาร์ท

            คุณ คุณ! อยู่ไหนเนี่ยเช้าวันนั้นผมวิ่งวุ่นตามหาเธอจนทั่ว ไปคิดเลยว่าเรื่องทั้งหมดจะเป็นเพียงอดีตในชั่วคืน ตื่นเช้ามาทุกอย่างเปลี่ยนไปหมด ไม่เหลือแล้วความรักของผม
            เธอไปแล้วล่ะค่ะคุณนมลูบมือปลอบ ผมหุนหันด้วยเป็นห่วงว่าเธอจะเตลิดไปไหน จำอะไรก็ไม่ได้แล้วเธอจะทำอย่างไงต่อ
            ไม่ต้องเป็นห่วงเธอหรอกค่ะ เธอจำทุกอย่างได้ดีคำพูดของคุณนมกำลังทำผมใจสั่น น่าจะเอะใจตั้งแต่แรกเพราะนิสัยวีนเหวี่ยงพวกนี้ไม่เปลี่ยนไปเลย เธอยังเป็นคุณหนูเอาแต่ใจคนเก่า อยากได้อะไรก็ต้องได้
            ...แม้แต่เซ็กส์

            นายครับนาย แย่แล้วครับ คุณศจีเป็นลมชัชวิ่งหน้าตาตื่นเข้ามาบอก วินาทีแรกก็ตกใจอยู่หรอก แต่พอนึกถึงสิ่งที่เธอทำไว้ก็ได้แต่ถามส่งๆ ไป
            จะมาไม้ไหนอีก ผมไม่สนุกด้วยหรอกนะ
            ไม่น่าจะแกล้งนะครับนาย เห็นรปภ. ข้างล่างบอกว่าคุณศจีมารอนายตั้งแต่บ่าย ยังไม่ได้ทานอะไรเลย
            ถ้าสงสารก็หาอะไรให้กินซะซิ ไม่เห็นต้องบอกผมเลย
            ผมขออนุญาตพาเธอไปห้อพยาบาลได้ไหมครับ วันนี้มีหมออยู่จะได้มีคนดูแล
            ก็เอาซิ
            แม้ว่าจะยังโกรธอยู่ พอรู้ว่าเธอเป็นลมก็อดห่วงไม่ได้ ถ้าแค่ใช้ห้องพยาบาลคงไม่หนักหนาอะไรหรอก อย่างน้อยขอแค่เธอปลอดภัยไว้ก่อน
           
            ชัชจัดการโทรบอกคนข้างล่างให้พาเธอไปห้องพยาบาล ที่นี่เรามีอุปกรณ์ครบครัน ทั้งยังมีหมอเวรคอยดูแลไม่ต่างจากคลินิก พอเกิดเรื่องขึ้นกลายเป็นผมเองผลุบลุกผลุบนั่ง ไม่เป็นอันทำงาน

            เมื่อไรจะลืมเธอสักทีนะ
          ฉันไม่ใช่คนที่เธอจะมาเล่นๆ ด้วย
          คิดจะมาก็มา คิดจะไปก็ไปหรือไง

กริ๊งง!!
            ห้ะ! ว่าไงนะ หมอตรวจดีแล้วหรอชัชพูดเสียงดัง เรียกร้องให้ผมสนใจอยากรู้ด้วย
            หมอว่าไง
            หมอบอกว่า คุณศจีท้องครับ
            คำตอบนั้นทำสมองผมหนักอึ้ง หรือที่เธอตามหาผมมาตลอดเพราะจะบอกเรื่องนี้ นี่เรามัวทำบ้าอะไรอยู่ รีบออกจากห้องวิ่งไปหาเธอทันที
            ขายาวๆ ของผมกึ่งเดินกึ่งวิ่งจนมาหยุดหน้าห้องพยาบาล ชั่งใจนิดหนึ่งไม่กล้าเปิดประตูเข้าไป อึกอักสูดลมหายใจคลายความกังวล กลัวเหลือเกินว่าข้างหน้าจะเป็นเรื่องล้อเล่นอีก
            อ้าว! คุณมาซากิมาทำไมคะ
            มาหาคนที่เป็นลมน่ะครับ เขาไปไหนแล้ว
            กวาดสายตามองหาใครบางคน อย่าบอกนะว่าเธอหนีผมอีกแล้ว ยัยนี่จะเล่นตลกกับใจผมไปถึงไหน คุณหมอก็เอาแต่อึ้งไม่ยอมตอบ ไอ้เราก็ร้อนรนอยากรู้ ยืนคาประตูอยู่ที่เก่า จนแรงสะกิดเบาๆ ด้านหลังทักขึ้น
            หลบหน่อยซิคุณ คิดว่าเป็นเจ้าของทีนี่ แล้วจะยืนเกะกะตรงไหนก็ได้หรือไง
            เสียงคุ้นหูแบบนี้ คำพูดกวนประสาทแบบนี้คงไม่ใช่ใครอื่น ยัยคุณหนูตัวแสบนั่นเอง ผมสูดหายใจลึกคิดไม่ตกว่าจะหันไปดุหรือหันไปกอดดี จนเธอสะกิดอีกครั้ง เอาวะกอดก็กอด ยอมหายงอนก็ได้

            เฮ้ย!’ 
            สิ่งที่ผมเห็นคือยัยนั่นถือถ้วยบรรจุของเหลวสีเหลืองใส ดูจากท่าทางถือรังเกียจรังงอนนั้น เดาว่าน่าจะเป็น... อี้! แล้วจะชูใส่หน้าผมทำไมเนี่ย
            หมอให้คุณศจีไปเก็บปัสสาวะค่ะ ขอตรวจผลให้แน่ชัดสักหน่อย
            ตรวจอะไรค่ะหมอ
            ศจีถามกลับทันที ในขณะที่ผมกับหมอมองหน้าเธอพร้อมกัน เผลอๆ เราอาจจะถอนหายใจพร้อมกันด้วยซ้ำ
            อย่าบอกนะ ไม่รู้ตัวว่าท้อง  โอ้ย! ผู้หญิงคนนี้เกินความคาดเดาจริงๆ ขาดเกินกว่าคนอื่น แถมเป็นตัวปัญหา มีแต่เรื่องให้ผมใจสั่นได้ตลอด

            ยินดีด้วยนะคะ คุณกำลังตั้งครรภ์
            เฮ้ย! มั่วเปล่าหมอ จะเป็นไปได้ไง ฉันไม่ได้ทำอย่างงั้นกับใครเลยนะ
            ไม่มั่วหรอกค่ะ ผลฮอร์โมนขึ้นชัดเจนขนาดนี้น่าจะเดือนกว่าถึงสองเดือน ระยะสองเดือนนี่คุณไม่ได้มีเลยหรอคะ
            เอาจริงๆ ก็มีนะคะ แต่แค่คืนเดียวมันจะปุ๊บปั๊บติดเลยหรอคะ ไหนเค้าบอกว่าเบบี้มียากไง..”
            บลาๆ 
            ยัยคุณหนูยังพูดไม่จบ ปล่อยผมกับหมอนั่งฟังตาปริบๆ เห็นท่าไม่ดีผมรีบลากเธอออกมาก่อน ไม่งั้นคงสาธยายออกมาเป็นฉากๆ แน่ว่าคืนนั้นเกิดอะไรขึ้นบ้าง
            คุณนี่ฉันท้องจริงๆ หรอ
            ผมจัดการเปิดห้องวีไอพี สั่งอาหารเลิศรสมาเต็มไปหมด หวังให้เธอใช้ปากทำอย่างอื่นมากกว่าตั้งถามคำเดิมๆ วนไปวนมาไม่หยุด
            ไม่ดีใจหรือไงที่ท้องกับผมอายตัวเองเหมือนกันที่พูดประโยคนี้ออกไป แต่ให้ทำไงได้ก็มันเรื่องจริง
            ก็ดีใจ แต่คุณจะเก่งเกินไปไหมล่ะ แค่คืนเดียวเองนะคุณ ท้องเลยหรอ
            จะชมว่าผมเก่งหรือไง
            เออ! ก็นั่นแหล่ะ ฉันแค่ไม่อยากเชื่อ
            แต่ผมเชื่อนะ
            “...”
            คืนเดียวไม่รู้กี่ท่า ไม่รู้กี่ครั้ง มันจะติดก็ไม่แปลกเปล่า” 
            ผมพูดออกมาช้า ด้วยน้ำเสียงเจ้าเล่ห์ ส่งสายตาวิบวับยั่วอีกฝ่าย ใบหน้าแดงกรำเขินจัด เม้มปากหากันแน่นไม่เถียงต่อ ทำได้เพียงฟาดฝ่ามือลงต้นแขนเต็มแรง
            ถือโอกาสนี้รวบตัวเธอมากอด จรดหน้าผากลงประกบกัน ใช้สันจมูกคลอเคลียจนอีกฝ่ายหยุดพูด
            มาหาผม มีอะไรหรอนึกขึ้นได้ว่ายังไม่ได้ยินคำขอโทษจึงแกล้งเย้าเสียงหวาน
            ศจีจะมาขอโทษ ศจีโกรธที่คุณโกหกทั้งที่ตัวเองก็โกหก งี่เง่าเนอะ ยกโทษให้ศจีนะคะเธอพูดอ้อนไม่ต่างกัน ใช้วงแขนกอดกระชับ แนบหัวลงแผงอก ซุกหน้าคลอเคลียจนผมใจเต้นแรงอีกแล้ว
            ตอนนี้ผมไม่อยากฟังคำขอโทษแล้ว ผมอยากฟังความรู้สึกคุณมากกว่า
            ไม่เห็นต้องบอกเลย คุณฉลาด คุณก็น่าจะรู้อยู่แล้ว
            คนฉลาดที่ไหนจะโดนหลอกล่ะ ผมไม่รู้หรอกถ้าคุณไม่บอก
            เราสองเล่นแง่ใส่กันไปมา ทั้งที่ทุกอย่างมันชัดเจนอยู่แล้ว แต่ผมยังอยากฟังคำนั้นจากปากเธอสักครั้ง
            ศจีรักคุณค่ะ อย่าถามว่ารักตอนไหน รักเพราะอะไรนะคะ ศจีก็ไม่รู้เหมือนกัน  รู้แค่ช่วงเวลาที่ไม่มีคุณอยู่มันโหดร้ายมาก นอนไม่หลับ ทุกอย่างน่าเบื่อไปหมด ศจีอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีคุณคอยกวนประสาท
            เธอพูดจริงจังจนผมน้ำตาคลอ เธอเองก็สะอื้นเสียงสั่น พูดคำหวานด้วยรอยยิ้มจริงใจ จนถึงประโยคสุดท้าย เราโอบกอดกันแน่น หัวเราะใส่กันทั้งน้ำตา 
            ผมชอบผู้หญิงคนนี้ที่สุด เธอไม่โดดเด่นนักแต่น่าหลงใหลนักมาก เธอจริงใจ คิดยังไงก็พูดอย่างนั้น ไม่เสแสร้ง ผมมีความสุขทุกครั้งที่ได้ทะเลาะกับเธอ แค่นี้พอจะเรียกว่า รัก ได้ไหม
            แล้วคุณล่ะคะ รู้สึกยังไง
            ผมรัก
            คะ
            กะแล้วว่าเธอต้องถาม คำว่ารักที่ไตร่ตรองอยู่นาน กว่าจะกล้ายอมรับความจริงหลุดออกจากปากผมแล้ว เพียงแต่เวลานี้ คำนี้คงไม่สำคัญเท่าอีกคำหนึ่ง
            เอ่อ... ผมควรพูดอะไรก่อนดี ระหว่างผมรักคุณ กับแต่งงานกันไหม
            แต่งค่ะ ศจีก็รักคุณ
            ทุกนาทีตรงนี้ทำให้ผมยิ้มได้ สิ่งสุดท้ายที่เหลืออยู่ของทุกคนนั้นไม่ใช่ความทรงจำ ความสุขหรือชีวิตคู่ รอยยิ้มต่างหากคือคำตอบ เมื่อใดที่ยิ้มได้ เมื่อนั้นชีวิตก็ยังดำเนินอยู่
            ไม่รู้ว่าวันข้างหน้า ผมและเธอจะเจออะไรอีก รู้เพียงที่ผ่านมาทุกอย่างเรียบง่ายลงตัวกี จนคิดเอาเองว่าเราเกิดมาคู่กัน ต่อให้คิดหนียังไงผมก็หนีเธอไม่พ้น

            ยัยคุณหนูเจ้าปัญหา ของมาเฟียสีเทา
            Alive = มีชีวิตอยู่
          (เพื่อ) พบรักจัดว่าหวาน




จบบริบูรณ์






ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น