Love Top Book

วันจันทร์ที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562

ซีรี่ย์หื่น


เซตหื่น
นิยายรักสำหรับผู้ใหญ่
เรื่องราวของสองสาวเพื่อนรัก ที่กำลังเป็นเพื่อนร้ายเพราะความเห็นแก่ตัวของใครคนหนึ่ง
รวมเซต 3เรื่อง 3รส 3แซ่บ
การันตรีความแซ่บ หวาน ดราม่า
อ่านเพลินๆ 80,000+ คำ




แนะนำตัวละคร



ความรักมักมาหลังจาก
ความหลง
สายใยแห่งรัก...ถูกหล่อหลอมเติมเต็มด้วย
ใยสวาท


                  ธีรธร หนุ่มใหญ่วัย 30 ดีกรีเจ้าของธุรกิจอิมพอร์ตเอ็กซ์พอร์ตรายใหญ่ของเมืองไทย ลูกชายคนเดียวของเจ้าสัวมงคล ผู้มีเบื้องหลังเป็นธุรกิจสีเทามากมาย ใครที่คบค้าสมาคมกับครอบครัวนี้ต่างหวังเพียงผลประโยชน์ ธีรธรเองก็รู้...แต่ไม่เคยสนใจ เพราะเค้าถูกเลี้ยงมาให้ไม่สนใจใครอยู่แล



                เนตรดาว สาวสวยวัย 23 ดีกรีดาวคณะ เธอมีเปลือกนอกสวยเฉียว หัวสูง หยิ่ง จอมมโน แต่ใครจะรู้ว่าแท้จริงนั่นเธอผ่านอะไรมามากมายเหลือเกิน ธุรกิจครอบครัวที่กำลังย่ำแย่ทำให้เธอกร่ำกลืน จมไม่ลงแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ จนมีคนยื่นข้อเสนอที่เธอไม่อาจปฏิเสธ






หลงสวาท 1
ธีรธร
          รถยุโรปหรูหลักสิบล้านแล่นเข้าเทียบหน้าโรงแรมยามพลบค่ำ พนักงานรีบจัดแถวเรียงรายยิ้มต้อนรับอย่างสุภาพ ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ลงมาเปิดประตูให้เจ้านายผู้นั่งเชิดคอระหงษ์ ปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตอยู่ในท่าทางสบายๆ แต่ยังคงไว้ด้วยมาดเนี๊ยบผู้บริหาร กวาดตามองคนที่โค้งคำนับให้เพียงหางตา ไม่มีทีท่าอยากเสาวนาด้วยเลยสักนิด แต่ก็คงไม่ต่างจากพนักงานหรอก หลายคนหวาดกลัวไม่กล้าเงยหน้าสบตาเพราะเจ้านายคนนี้ขึ้นชื่อเรื่องความเจ้าระเบียบที่สุด ใครพูดจาผิดหูหน่อยมีหวังโดนไล่ออกแน่ๆ จึงไม่แปลกถ้าจะจำไม่ได้ว่าวันนี้นายมากับผู้หญิงคนไหน
          "เอารถไปเก็บ ทุกอย่างเตรียมพร้อมหรือยัง" บทสนทนาแรกจากปากเจ้านายหนุ่มร่างสูงใหญ่สมวัย พนักงานอึกอักพูดไม่ออกคิดตามไม่ทัน...ไม่นึกว่าตัวเองจะโชคร้ายต้องมาตอบคำถามอะไรแบบนี้
                "เอ้า!! เป็นใบ้หรือไง ถาม!! ทำไมไม่ตอบ" เสียงเกรี้ยวกราดแสดงอารมณ์ฉุนเฉียวจนคนรอบข้างตัวสั่น โชคดีที่บอร์ดี้การ์ดร่างสูงเข้ามาห้ามไว้ 
          "พร้อมแล้วครับ" เสียงสั่นพูดด้วยความไม่มั่นใจนัก แต่คงดีกว่าการเงียบปล่อยให้อีกฝ่ายต้องถามซ้ำ


@Floor 43
          "ปาร์ตี้สละโสด"
          ผมเบื่อท่าทีหวาดกลัวจอมปลอมพวกนี้เหลือเกิน ต่อหน้าถามอะไรก็ไม่ตอบแต่ลับหลังเอาเจ้านายไปนินทากันสนุกปาก เพราะแต่ละคนมีจุดยืนแตกต่างกันผมจะไล่บี้หาความจริงใจจากพนักงานพวกนี้ไม่ได้ ในเมื่อทุกคนมีหน้าที่และมาทำงานเพื่อคำว่าเงิน ความเคารพรักแท้จริงคงไม่ต้องพูดถึงขอแค่พวกเค้าทำงานตามหน้าที่อย่างเต็มกำลังก็พอแล้ว บอร์ดี้การ์ดซ้ายขวาตามมาส่งจนถึงหน้าประตูห้อง ชั้น 43 ทั้งชั้นเป็นห้องพักส่วนตัวของครอบครัวเรา แบ่งเป็นสองห้องใหญ่ ห้องหนึ่งของผมอีกห้องของลูกพี่ลูกน้องผม
          ทันทีที่ผมก้าวข้ามประตูเข้ามา ตรงหน้าฉาบด้วยแสงสีเสียงดังอึกทึกครึกโครม ผู้คนมากหน้าหลายตาทักทายผม บางคนก็รู้จัก...บางคนก็ไม่คุ้นเคยกันเท่าไร สังคมที่เคลือบไว้ด้วยการสร้างภาพ ทำให้ทุกคนอยากสนิทกับลูกเจ้าสัวอย่างผม
          "ธีรธรทางนี้ค่ะ" เสียงหวานหูโบกมือเรียกผมแต่ไกล เราทักทายกันแบบธรรมเนียมฝรั่งกอดจูบกันเป็นเรื่องธรรมดา จนบางที่ผมลืมไปแล้วด้วยซ้ำว่าร่างบางที่เกาะผมอยู่...เธอชื่ออะไร
          "มานานยัง" ผมทักทายคุยเล่นตามประสา
         
          "นานแล้วค่ะ ตอนแรกที่ได้ยินข่าวตกใจหมดเลย...ไม่คิดว่าธีร์จะตกลงใจกับใครง่ายๆ" เสียงฉอเลาะเจือความแง่งอนไว้ในคำพูด สาวๆ พวกนี้เคยขึ้นเตียงกับผมแทบทุกคนต่างก็หวังจะพิชิตใจผมให้ได้ ข่าวที่เธอว่าคงทำให้เธอเสียอารมณ์อยู่ไม่มากก็น้อย
          "ไม่มีอะไรหรอก ก็แค่ของเล่นชิ้นใหม่น่ะ" คำตอบผมเรียกเสียงกรี๊ดพอใจได้ดีเลย ในเมื่อป๊าเล่นวิธีนี้...ผมก็เตรียมวิธีตอบกลับไว้ให้แล้ว
          "ไงไอ้คุณธีร์ ไปไงมาไงพลาดท่าให้ถูกจับแต่งงานได้วะเนี่ย" เสียงเตวิณเพื่อนสนิทคนเดียวของผมแทรกเข้ามา
          "ป๊าคงกลัวกูมั่ว จนได้มึงเป็นเมียเข้าละมั้ง" หลายชีวิตรอบตัวผมโห่ร้องแทบจะพร้อมกัน 
          "ยกเว้ย!! คืนนี้กูเตรียมของเด็ดมาฉลองด้วย รับรองสนุกลืม"
                เสียงบีทเร้าร้อนคลอแสงไฟสลัว แอลกอฮอร์สูตรเข้มเข้ากล่อมประสาทให้ยิ่งครึกครัก พูดคุยกันบ้างแดนซ์กันบ้างตามสเต็ปงานปาร์ตี้ทั่วไป แต่เพราะที่นี้คือที่ปิดบวกกับคนคุ้นเคยกันทั้งนั้น บางเสียงจึงเล็ดลอดออกมาเร้าพวกเราด้วยเหมือ
                 "อ๊ะ.. อ๊ะ.. แรงอีกค่ะ.. อืม.. โอ้ว!! สุดยอด.." แสงสปอร์ตไลท์หมุนวนส่ายไปมากระทบกิจกรรมคู่รักหลายคู่ เป็นภาพชินตาของงานปาร์ตี้แหละครับ สุรานารีพร้อม..

                เตวิณเดินนำสาวๆ หลายคนมาทางผม พร้อมแนะนำว่าผมคือเจ้าชายในคืนนี้ มองแววตาแต่ละคนเยิ้มหวานกระหายกว่าไอ้คนที่โยกร่างอยู่ตรงโน้นซะอีก
                "Come on,This is your prince"
                "อะไรวะ หามาจากไหนเนี่ย"
                "กูคัดมาเองกับมือ จัดมาให้ครบทั้งขาวหมวย คาวาอี้ หรือตู้มๆ อินเตอร์เป็นไง...ถูกใจไหม"
                คำพูดมันชัดเจนเห็นภาพดีครับ มาเต็มตาด้วยระบบเฮชดีโฟร์เคเลย สาว 4 คน 4 สไตล์ที่มันหามาแต่งชุดเซ็กซี่พร้อม บราซีทรูมองทะลุเนื้อหนังกับชั้นในตัวจิ๋วปิดเพียงหมิ่นเหม่ยั่วสายตาหนุ่มคนอื่นได้ดีที่เดียว พวกเธอเริ่มโยกย้ายเต้นเร้ารอบตัวผม สาวหมวยขาวกระจ่างทั้งตัว หน้าตาจิ้มลิ้มเอียงอายแฝงด้วยสายตายิ้มยั่ว อีกฝั่งเป็นสาวตาคมผิวแทนเนียนอวบอัด สวยสมส่วนยังกับนางแบบอินเตอร์ มือไม้ปัดป่ายทั่วร่าง ไล่ปลดกระดุมออกจนครบทุกเม็ด พลางมองหาเหลี่ยมมุมเพื่อรุกเร้ามากกว่านี้ โซฟานุ่นรับร่างผมไว้ตรงกลาง ด้านล่างมีสาวหมวยสองคนคุกเข่าบรรจงปลดตะขอกางเกงให้ นิ้วเร่งรูดเอ็นนิ่มซ้อนตัวใต้กองขนอุ่น พนักวางมือซ้ายขวามีสองสาวอินเตอร์ประกบคอยเสิร์ฟลิ้นร้อนทั่วแผงอก


                พวกเธอระดับมืออาชีพเลยครับ...ใครเป็นผมตอนนี้คงมองเห็นสวรรค์อยู่ร่ำไร ร่างกายห้อมล้อมด้วยรสสวาทจากหลายเชื้อชาติ หูเปิดรับเสียงดนตรีเร้าใจ ซอกคอถูกซุกไซ้สร้างความเสียว มีบางคนพยายามจะจูบแต่ผมเบี่ยงหน้าหนี เธอคงไม่รู้กฎมั่งว่าสนุกด้วยกันได้แต่ห้ามจูบ เพราะจูบผมมีไว้สำหรับคนพิเศษเท่านั้น
                เอ็นแข็งตอนนี้ถูกสองสาวรุกเร้ากระดกลิ้นสากสะกิดราวกับเป็นไอศครีมแท่งอุ่น เธอสลับกันครอบปากครูดขึ้นลง แม่สาวคาวาอี้หน้ากลมเธอกระดกลิ้นดูดสองก้อนแฝดจมหายไปให้โพลงปาก เสียงจ๊วบบวกเสียงครางอื้อพอใจกระเส่าออกมาเรื่อยแม้เกมส์เพิ่งเริ่มต้น
                ริมฝีปากแดงเด่นจูบซับลงลิ้นทั่วร่างผมจนแยกประสาทไม่ออกว่าจะเสียวส่วนไหนก่อนดี ร่างผมเกร็งสั่นไปหมดเม็ดแข็งยอดอกถูกดูดดึงเสียวซ่านไม่ต่างกัน สาวอินเตอร์หน้าอกล้นขอบบราเริ่มทนไม่ไหว ส่ายสองเต้าอัดหน้าผมราวกับเธออยากโดนฟัดซะเหลือเกิน สงเคราะห์ช่วยปลดตะขอบราเกะกะออกไปไกลๆ เหลือเพียงก้อนกลมขนาดใหญ่กับจุกชมพูปานกว้างมือผมขยำคลึงเค้นระบายความเสียว บางที่เผลอลงแรงดึงทึ้งบิดจุกยอดอกจนเธอซู๊ดปากสั่นพร่ำเสียงกระเส่าพอใจ ผมลงลิ้นเร้าอารมณ์แทนคำปลอบประโลมที่อยากมอบให้ ส่วนแข็งผมถูกกระตุ้นปลุกปั่นจนพร้อมใช้งานแล้ว 
                "มองอะไรพวกมึง มาช่วยกูซิวะ" เวลาหลายนาทีที่ผมโดนรุมอยู่คนเดียว ในขณะที่เพื่อนผมคนอื่นยืนจ้องตาเป็นมัน บ้างก็เค้นคลึงของตัวเองคลายความอยากไปพลางๆ ไอ้เตวิณไม่รอช้าเดินมาขยำเต้าสาวอินเตอร์ก่อนคนแรก เพื่อนผู้ชายที่ยืนรออีก 4-5 คน กรูเข้ามาร่วมวงด้วย เสียงครางหวานหูกระเส่าไร้ทิศทาง ตอนนี้คู่ใครคู่มัน บ้างก็มั่วกันหมดกลายเป็นมหกรรมเซ็กหมู่ สาวหมวยคนนี้เธอยังไม่ละจากเอ็นแข็งผมไปไหน ดูท่าทีแล้วคงไม่เจนสนามเท่ากับคนอื่นๆ ผมจึงตบตักเรียกเธอขึ้นมาออนท็อปให้
                ผู้ชายทุกคนรู้ดีว่าสาว AV อวบอัดสไตล์นี้เธอมีดีที่ตรงไหน ร่างขาวเนียนชันตัวขึ้นสูงจ่ออาวุธผมเข้าปากทาง เธอยิ้มหวานราวกับไร้เดียงสาแต่ท่าทางที่เธอทำอยู่ก็รู้งานไม่แพ้ใคร แค่ปากทางครอบทับอาวุธความอุ่นร้อนในโพลงตอดตัวตุบๆ กระตุกเร้าจนผมอยากเร่งเครื่องกระแทก เธอคลี่ยิ้มขยับตัวขึ้นลงช้าๆ คลึงก้นกลมกับหน้าตักส่ายเอวควงแท่งแข็งในร่างหลายรอบ ขยับตัวเร่งเครื่องอีกครั้ง เธอโยกไปครางไปเสียงสั่น
                "อ๊ะ..คีมูจี อืม.. อ๊ะ อ๊ะ..อิคึ อิคึ อิคึ อร๊ายย" ผมพอคุ้นอยู่บ้างจึงเข้าใจที่เธอพูด ปากสั่นพร่ำครางเสียวจัง... อ๊ะ!! ใกล้แล้ว...ใกล้แล้ว แต่ร่างเธอโหมโยกตัวไม่หยุด เธอกระแทกเร็วแรงเน้นๆ จนผมเกร็งปลดปล่อยออกมาก่อน...เธอก็ยังไม่เสร็จ 
                เตวิณรอรับช่วงอยู่นานแล้ว เห็นมันคลึงเค้นหน้าอกอวบดึงบิดจุกปลายยอด นิ้วช่วยบี้เกี่ยวเม็ดกลางตัวจนเธอครางไม่ได้ศัพท์ ตอนนี้ได้ทีรีบเข้าเสียบแทนผม มันผลักให้ร่างเธอซบอยู่บนอกผม ยกสะโพกขึ้นชันเร่งเครื่องกระแทกเน้นๆ ทั้งบดบี้มือช่วยเร้าทุกทิศทาง เสียงครางสูงร้องพร่ำ อิคึ..อิคึ.. อร๊าย!! อ๊ะ อึก ปักสุดท้ายที่เตวิณส่งให้ทำเอาร่างเธอกระตุกสั่นระริกปลดปล่อย ไม่นานไอ้เตวิณก็ครางต่ำเร่งเครื่องตามมาติดๆ


                "โคตรอึดเลย มึงเอาไรให้เธอกินเปล่าวะ"
                "ของแถมนิดหน่อยเว้ย..ขนมติดปลายเตียง"
                หืม...ไอ้พวกนี้ไม่น่าล่ะ ผมว่าแล้วแต่ละคนอึดมากแถมเร้าร้อนเกินกว่าปกติ ยิ่งสาวอินเตอร์หุ่นเป๊ะคนนั้นโดนรุมสามคน เรียกว่าเสียบครบทุกทิศทางเลยก็ว่าได้ เสียงครางสูง "อืม.. ฟัคมี พลีส ฟัค ฟัค อืมม.. ฟัคมี เบบี้" ดังไม่ขาดปากทั้งที่ร่างเธอก็ถูกปรนเปรอตลอด
                "ต่อเหอะมึง"
                "มึงเอาเลย"
                "กูขอไปอาบน้ำหน่อย"
                กลิ่นคาวคละคลุ้ง เสียงดนตรีลื่นหูในตอนแรกตอนนี้กลายเป็นเสียงสัญชาตญาณดิบหลายทิศทางหลายภาษา เซ็กช่วยปลดปล่อยความเครียดได้ก็จริงแต่ไม่ใช้ว่าผมจะหลงมัน สนุกแค่ชั่วครั้งชั่วคราวไม่ใช่มัวเมาจนขาดสติ ภาพตรงหน้าผมยิ่งกว่าหนังเอวีติดเรทที่เคยดูซะอีก มองแล้วรู้สึกแย่เหมือนกัน
                ระหว่างรอน้ำอุ่นให้เต็มอ่าง ผมยืนสูบบุหรี่ไปพลางๆ ปล่อยความคิดเป็นอิสระ จากที่มึนเมาในตอนแรกตอนนี้ไม่รู้สึกอะไรแล้ว สมเพชตัวเองมากกว่า...สุดท้ายผมก็เป็นอย่างที่คนพวกนั้นว่ากัน สัมผัสนุ่มนวลโผล่เข้ากอดผมจากด้านหลัง ปลายนิ้วเธอลูบไล้สื่อความหมาย
                "นีน่า อาบให้ไหมค่ะ"
                "จะดีหรอครับ ไม่กลัวผม.."
                "ไม่ค่ะ!! อย่าปฏิเสธเลยนะคะ หน้าที่นี้นีน่าเคยทำให้คุณ"
                "แต่คุณก็เลือกทำให้คนอื่นแล้วนิครับ"
                "ธีร์!! นีน่าอธิบายหลายครั้งแล้วนะคะ นีน่าไม่ได้รักเค้า...นี่น่ารักคุณ ยกโทษให้นีน่านะคะ อย่าโกรธนีน่าเลยนะ"
                "คุณไม่ได้มีความหมายกับผม...ขนาดนั้นหรอก ออกไปซะ
                ผมพูดเสียงเรียบเอ่ยปากไล่เธอไปไกลๆ ไม่ใช่เพราะโกรธหรือเกลียดแต่ทุกครั้งที่เธออยู่ใกล้ ผมยังใจสั่น...ทำไมนะ? คนที่บอกว่ารักผมเหลือเกินกลับทิ้งกันไปหาคนอื่นง่ายดายนัก แถมผู้ชายคนนั้นก็เป็นลูกพี่ลูกน้องกันอีกด้วย
                เธออิดออดใช้สายตาตัดพ้อ ผมรู้ทันมารยาที่เธอพยายามสร้าง มันใช้กับผมไม่ได้หรอก ไม่มีใครยอมให้คนที่เคยทำร้ายเราวนกลับมาทำซ้ำรอยเดิมอีกแน่ เพราะเธอชีวิตผมถึงเป็นอย่างวันนี้
                นอนแช่น้ำอุ่นทิ้งหน้ากากผู้บริหารไว้ข้างกาย เพลงบรรเลงเปิดคลอกลบเสียงภายนอก ผมพยายามทบทวนว่าควรรับมือเกมส์วันพรุ่งนี้อย่างไงดี ทั้งที่ตัวเองยื่นข้อเสนอไปแล้วแต่ไม่รู้เลยว่ามันจะสำเร็จไหม


                "คุณหนูเนตรดาว" ในความทรงจำของผมตอนสิบขวบ คือเด็กผู้หญิงอ้วนกลม แก้มยุ้ย หัวหยิก ขี้มูกย้อย ไม่ว่าจะมองมุมไหนไม่ได้มีความน่ารักเลยสักนิด ไม่น่าเชื่อว่าวันนี้...เธอจะมาเป็นเจ้าสาวให้ผม โชคชะตาเล่นตลกชะมัด ทำไมป๊าต้องบังคับให้เราแต่งงานกัน ทั้งที่ไม่รู้จักไม่เคยเห็นหน้ากันเลย ก๊อกๆ
                "คุณธีร์ครับ คุณท่านโทรมาครับ" บอดี้การ์ดเอาสายจากป๊ามาส่งไหน ซึ่งไม่ต้องคุยผมก็รู้ว่าต้องโทรมาย้ำเรื่องงานวันพรุ่งนี้แน่...อะไรจะห่วงกันนักหนา ยัยนั้นอายุตั้งยี่สิบสามแล้วนะ แถมเต็มใจรับข้อเสนอเองด้วย
                "เฮ้อ!!"
                "คุณธีร์ไม่อยากแต่งงานหรอครับ"
                "แต่งไม่แต่ง ผมก็ไม่รู้สึกอะไรหรอก"
                "ไม่อยากแต่งแล้วทำไมไม่ปฏิเสธไปล่ะครับ
                "บางทีเราก็ต้องฝืนรักษาน้ำใจใครบางคน ถูกไหม?"
                "ผมไม่เข้าใจหรอกครับ แต่ถ้าคุณธีร์พูดกับคุณท่านดีๆ คุณท่านต้องเข้าใจแน่เพราะคุณท่านรักคุณธีร์มาก"
                "รักมาก...ก็คาดหวังมาก ไม่ใช่หรอ"


                ถอนหายใจสมเพชตัวเองรอบที่ร้อย ต่อหน้าทุกคนผมอาจดูแข็งกร้าว กล้าพูดกล้าคิดแต่ความจริงแล้ว ผมแคร์ความรู้สึกคนมาก...มากจนกลายเป็นความหลง เหมือนที่ผมไว้ใจนีน่าหลงเธอเชื่อเธอ แล้วสุดท้ายเธอก็ตีจากไปอยู่กับคนที่ตอนนั้นเค้าดูดีกว่า ป๊าผมทำงานหนักสู้ดิ้นรนจนมีอย่างทุกวันนี้ ใครอาจมองว่าครอบครัวเราน่ารังเกียจแต่หลายคนก็พร้อมจะเข้ามาหา...เพื่อคำว่าผลประโยชน์
                "คุณเตวิณถามว่า นายจะให้สาวคนไหนอยู่รับใช้ต่อหรือเปล่า"
                "ทำไมอะ มันจะเคลมกลับบ้านกันหรอ"
                "ไม่น่านะครับ ผมเห็นหมดแรงหลับกันหมดแล้ว"
                "บอกมันว่า...ไม่ใช่สเปคผมสักคน เอากลับไปเหอะ"
                "แต่ผมว่าเมื่อกี้นายก็เคลิ้มอยู่นะครับ"
                "สนใจไหมล่ะ ไปสนุกกันก็ได้นะผมไม่ว่าหรอก"
                "ไม่ได้ครับ!! ผมปฏิบัติหน้าที่อยู่"
                "ไปเหอะ!! ผมขอนอนแช่น้ำอีกหน่อย ถ้าห่วงผมสลับกันไปก็ได้"



                นานๆ ทีจะเห็นบอร์ดี้การ์ดผมยิ้ม เป็นธรรมดาของผู้ชายทุกคนเห็นของดีอยู่ตรงหน้าก็อยากใส่กันทั้งนั้นแหละผมเข้าใจ ยิ่งสี่สาวเจนสนามแบบนั้น...หาไม่ได้ตามท้องถนนนะครับ เพราะมันเป็นอาชีพของเธอ ถือซะว่าได้ประโยชน์ทั้งสองฝ่าย เธอได้เงินพวกเราก็ได้ความรู้สึกแปลกใหม่ บางทีผู้หญิงสี่คนนั้นอาจจะมีค่ามากกว่ายัยคุณหนูเนตรดาวซะอีก เพราะเธอต้องยอมเป็นเมียบำเรอให้ผมเพื่อปลดหนีเงินไม่กี่บาท พรุ่งนี้ล่ะ...ได้เจอกันสักที


 @ท่าอากาศยานดอนเมือง
                ฉันยอมรับว่ามันมีทางออก แต่ที่เลือกทางนี้เพราะเป็นวิธีที่ง่ายและรวดเร็วที่สุด ระยะเวลาสามเดือนกับการไม่ต้องเป็นหนี้หนึ่งล้านบาท มันเปลี่ยนชีวิตครอบครัวเราได้จริงๆ นะ ขาก้าวเหยียบไปข้างหน้าเหมือนกับทางตรงนี้ไร้ผู้คนที่รู้จัก ใจคิดย้อนเรื่องที่รับปากไปแล้ว "นี่เราคิดถูกแล้วใช่ไหม" มองความวุ่นวายต่างคนต่างเดินต่างเร่งรีบด้วยความไม่คุ้นชิน "นี่เราต้องเป็นเนตรดาวอีกสามเดือนจริงๆ หรอ" คำถามรอบที่เท่าไรไม่รู้วนเวียนอยู่ในหัว ใจภาวนาให้ใครคนนั้นพูดง่าย ใจดี ไม่มีเล่ห์เหลี่ยม เฮ้อ!! ทุกอย่างเป็นภาพมโนที่ฉันสร้างขึ้น ทุกคนรู้ว่านาย "ธีรธร" ร้ายขนาดไหน
                ในวงการส่งออกสินค้าอุปโภคบริโภครู้จักครอบครัวนี้ดีว่าเป็นพ่อค้าคนกลางหน้าเลือด แถมชอบกักตุนสินค้าโกงราคาอีกตังหาก ไม่งั้นจะรวยเร็วแบบนี้ได้ไง ในวงการธุรกิจใครมีคอนเนคชั่นกว้างขวางกว่าย่อมได้เปรียบ ลูกเกษตรกรชาวสวนชาวไร่อย่างฉันการมีโอกาสได้ไปเรียนเมืองนอก...เป็นเพียงความฝัน แต่ฝันก็เป็นจริงเพราะครอบครัวของเนตรดาว










หลงสวาท 2
ธีรธร
         "คุณหนูเนตรดาวมาแล้วครับ" พี่หรัญญ์บอร์ดี้การ์ดคู่ใจรีบรายงาน ผมมองรอบๆ ด้วยความอยากรู้ ถึงเราไม่ได้เจอกันนานยังไงซะน่าจะเหลือเค้าโครงเดิมอยู่บ้าง แต่นี่ผมไม่สะดุดตาใครเลย
                "คนไหนหรอ" ผมกระซิบถาม
                "กางเกงยีนส์ เสื้อแขนยาวสีขาวหน้าเราเนี่ยครับ" กว่าพี่หรัญญ์จะพูดจบเธอก็ยืนอยู่หน้าผมแล้ว ผู้หญิงห้าวๆ ปล่อยผมยาวสยายปรี่ตรงเข้ามาหาเราราวกับรู้อยู่แล้วว่าผมเป็นใคร เธอคงคิดเหมือนคนอื่นซินะ...คิดจะปราบผม คิดจะหลอกให้ผมหลงเหมือนผู้หญิงพวกนั้น
                "สะ..สวัสดีค่ะ เนตรดาวค่ะ" คำแผ่วราวกระซิบขัดกับบุคลิกที่ผมเห็นเหลือเกิน
                "ไปคุยกันในรถ...เสียเวลา" เห็นท่าทีประหม่าเธอแล้ว อดแกล้งให้ยิ่งกลัวไม่ได้ คำสั่งเสียงเย้ยของผมทำให้บอร์ดี้การ์ดคนอื่นๆ เข้ามาประกบตัวเธอดึงสัมภาระไปช่วยถือเองอัตโนมัติ เราสองคนท่ามกลางชายใส่สูทชุดดำสี่คนเดินฝ่าฝูงชนออกมาจนถึงที่จอดรถไว้


                "ไปบริษัทเลยครับ ผมเสียเวลามามากแล้ว" ดูเวลาตอนนี้ก็เกือบ 11 โมงแล้ว ผมจึงเลือกเข้าบริษัทก่อนทั้งที่ควรเป็นที่พัก อยากรู้นักว่าคุณหนูเนตรดาวเธอจะสงบได้อีกนานแค่ไหน
                "ให้ผมไปส่งคุณเนตรดาวที่บ้านก่อนไหมครับ" เสียงพี่หรัณณ์ถาม
                "ไม่ต้องหรอก คิดจะเป็นเมียผมก็ต้องช่วยกันทำงานซิ" ผมตอบพร้อมมองหน้าเธอ แววตาก้มต่ำแสดงอาการตื่นกลัว ยิ่งยั่วให้ผมอยากแกล้งทั้งที่ใจจริง ผมคิดจะให้เกียรติเธอมากกว่า
                บริษัทหรูกลางกรุงภายนอกเป็นตึกสูงใหญ่น่าเกรงข้าม ภายในตกแต่งร่วมสมัย พนักงานทุกคนแต่งกายสะอาดเรียบร้อยด้วยเสื้อผ้าเรียบหรูตามแต่จะหามาได้ ซึ่งดูดีกว่าไอ้กางเกงยีนส์ เสื้อยืดราคาถูกนี่แน่นอน เนตรดาวเธอก้าวลงจากรถด้วยท่าทีไม่มั่นใจ ก้มหน้าเหลือบมองเป็นพักๆ เดิมตามผมห่างๆ
                สาวๆ หลายคนมองเธอเป็นตาเดียว ส่วนใหญ่คงรู้อยู่แล้วว่าผู้หญิงคนนี้จะมาแต่งงานเป็นภรรยาผม เธอจึงได้รับความสนใจมากเป็นพิเศษ เสียงซุบซิบบวกกับสีหน้าจ้องเย้ยที่ตอนนี้เธอได้รับ ยิ่งกดดันให้เธอตัวเล็กลงๆ นี่แหละ...คือสิ่งที่ผมอยากให้เธอได้รู้ว่าเรา...ไม่มีอะไรเหมาะสมกันสักอย่าง
                "เรียกประชุมบรอด เรื่องโครงการส่งออกที่มีปัญหาด่วน ผมอยากรู้ว่าเค้าแก้ไขไปถึงไหนแล้ว" คุณมารีนเลขาสูงวัยมากประสบการณ์รอรับคำสั่ง ผมสังเกตเห็นเธอสบตาทักทายกับเนตรดาวนิดหนึ่งแล้วเดินออกไป
                "เดี๋ยวคุณ เข้าไปฟังประชุมกับผมด้วยนะ"
                "ฉันหรอ"
                หน้าตาตลกเป็นบ้า...ก็ผมคุยอยู่กับเธอจะหมายถึงคนอื่นได้ไง แล้วช่วงเวลาอึดอัดที่ผมเตรียมไว้ก็เดินทางมาถึง บรอดบริหารหลายฝ่ายในห้องเริ่มพูดคุยหาวิธีการแก้ไข พร้อมรับมือปัญหาการส่งออกข้าวที่ถูกตีกลับ ผมมักจะโยนให้เธอแสดงความคิดเห็น ท่าทีอึกอักกลัวคนแบบนั้นกลับกล้าพูดกล้าคิดจนทำให้ผมแปลกใจ เธอดูเข้าใจเกษตรกรอย่างแท้จริง เธออธิบายปัญหาแถมยังพูดถึงข้อเสียที่พ่อค้าคนกลางอย่างบริษัทผมทำไว้อีกด้วย แต่ที่น่าประหลาดที่สุดคือ...เธอหวาดกลัวแค่กับผมคนเดียว
                ...นี่เราน่ากลัวขนาดนั้นเลยหรอ
                "กลับบ้านเลย ผมเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว" รถหรูแล่นฝ่าจราจรแออัดจนถึงคอนโดหรูที่ใช้เป็นเรือนหอของเรา หน้าตาคุณหนูเนตรดาวตอนนี้ดูอิดโรย เพลียจากการเดินทางและการระดมสมองประชุมมาทั้งวัน แต่ถ้าคิดว่านี่จะเป็นเวลาพักเธอคงคิดผิด เพราะงานบ้านจัดการอาหารทุกอย่าง ผมเตรียมไว้ให้เธอทำคนเดียว
                "เดี๋ยวผมแช่น้ำรอนะ คุณก็เตรียมมื้อค่ำไปแล้วกัน"
                "ค่ะ"
               
                เสียงตอบรับแข็งกระด้างจนผมอยากหัวเราะ คุณหนูคนเดียวของตระกูลบวรทรัพย์ เคยมีคนรับใช้ล้อมหน้าล้อมหลังอยากรู้นักเธอจะมีความเป็นแม่ศรีเรือนไหม
                กลิ่นอาหารหอมโชยเข้าไปถึงในห้องน้ำ รู้สึกว่าผมมองเธอผิดไปหลายอย่างนะ ของกินธรรมดาถูกจัดเรียงขึ้นโต๊ะอย่างสวยงาม เธอตีหน้านิ่งตักข้าวเทน้ำปรนนิบัติผมเป็นอย่างดี ระหว่างที่เราทานข้าวร่วมกันมื้อแรกมีแต่ความเงียบและความอึดอัด แววตาก้มต่ำหวาดกลัวไม่กล้าแม้แต่จะมองผมตรงๆ...แล้วทำไมถึงกล้ารับข้อเสนออยู่ก่อนแต่ง 3 เดือนของผม
                ผมนอนอ่านข่าวสารในมือถือ รอจนได้ยินเสียงคนในห้องน้ำออกมา กลิ่นหอมสะอาดแบบผู้หญิงทำให้ผมอดมองเธอไม่ได้ ภาพตรงหน้าคือหญิงสาวสวมชุดนอนลายการ์ตูนชมพูสดใส ช่างห่างไกลจากที่ผมเคยเจอเหลือเกิน
                เราสบตากันครั้งแรก เธอเผลอจ้องตอบพอรู้ตัวก็เบนหน้าหนี ท่าทีอึกอักประหม่าทำให้ผมอยากแกล้งเธออีกสักหน่อย มือตบเตียงเรียกเข้ามาใกล้ อีกฝ่ายก้าวช้าๆ ชั่งใจราวคิดอะไรอยู่ แต่มีหรือที่เธอจะปฏิเสธผมได้ ในเมื่อเธอเป็นฝ่ายยอมรับข้อเสนอเอง
                "อะไรกันคุณ ทำเป็นไร้เดียงสาไปได้" กระซิบเสียงพร่า จ้องลึกลงนัยน์ตาอีกฝ่าย เธอตัวแข็งค้าง แต่ยอมให้ผมลูบไล้จากไรผม เกลี่ยเส้นผมที่ปกหน้าทัดหลังหูอย่างนุ่มนวล ก่อนจะลากมาลงพวงแก้มเลยต่ำถึงซอกคอและเนินอก


                "ถอดเถอะ...รีบๆ ทำจะได้นอนกัน"
                "ทำ..อะ..อะไรค่ะ"
                "ทำหน้าเมียไงเนตรดาว มาเถอะผมง่วงแล้ว"
                "คุณธีร์"
                เสียงติดขัดถามผมอย่างหวาดๆ ความไร้เดียงจากร่างเธอยิ่งยั่วจนผมอยากพิสูจน์ จากที่ผมเกลี่ยนิ้วลงผิวสาวแรกรุ่นเร้าให้เธอวูบไหวตื่นกลัว ตอนนี้เริ่มเข้าปลดกระดุมเสื้อนอนเธอทีละเม็ด วูบหนึ่งผมเห็นแววตาตกใจ ก่อนปัดมือผมออกทันที เธอถอยหนีพยายามลุกออกจากเตียง แต่เพราะผมไวกว่าจึงคว้าร่างเธอไว้ได้
                "จะไปไหน"
                "คือ...ฉัน คือ...เราเหนื่อยมาทั้งวันแล้วนอนเลยดีกว่าค่ะ ไว้วันหลังฉันค่อยปรนนิบัติคุณได้ไหมค่ะ" เธอพูดกับผมยาวๆ เป็นครั้งแรก เสียงอ่อนหวานหวังกล่อมให้ผมเลิกล้มความตั้งใจ แต่คงจะยากหน่อยเพราะผมมันพวกไม่ชอบรอซะด้วยซิ
                "วันนี้แหละคุณ ทำให้ผมติดใจ...คุณได้ไม่เหนื่อยมากจะดีกว่า" ผมจงใจยียวนกวนเธอกลับ ใจก็อยากพูดตรงๆ ว่าทำให้คุ้มค่าตัวหน่อย แต่เพราะเห็นแกครอบครัวเรามีสัมพันธ์ที่ดีต่อกันจึงไม่อยากทำให้เธอสะเทือนใจ

                ร่างบางมือสั่นระริกจิกผ้าห่มข้างกายอย่างลืมตัว ผมเริ่มซุกไซ้สูดดมซอกคอขาว ไล่ขบเม้มติ่งหูพลางสอดลิ้นชอนไช้รูหูจนเธอขยับตัวหนี มือแกร่งรวบเอวคอดรอไว้ตั้งแต่แรก ตอนนี้ยิ่งรั้งร่างเธอมากองทับบนตัว จัดขาเรียวยาวให้ค่อมทับบนตัวผม เธอเบนหน้าหนีตลอด มีเพียงเสียงครางในลำคอบ่งบอกว่าเธอเองก็รู้สึก
                "ถอดเถอะเกะกะจัง" ผมลูบมือขึ้นตามช่วงขากอบเอาชุดนอนกระโปรงยาวติดขึ้นมาด้วย ปากออกคำสั่งให้เธอถอดมันออก เป็นครั้งแรกที่ผมมองเห็นแววตาไร้เดียงสานั้นชัดเจน เธออึกอักทำตัวไม่ถูกแต่ก็ยอมถกผ้าผืนเดียวออกไปจากร่าง
                บราสวยเต้าอวบล้นกับชั้นในตัวจิ๋วประดับอยู่บนผิวน้ำผึ้งใส ผมรวบตัวเธอมาฟัดอีกหลายอึดใจ ปากไล่งับตามส่วนต่างๆ ลิ้นสากโลมเลียจนผิวเธอแดงระเรื่อ เสียงกระเส่าถูกสะกดในลำคอ มือจิกเกร็งพยายามสะกดกลั้นตัวเองอยู่ตลอด
                "ทำให้ผมหน่อยนะเมียจ้า" ผมร้องขอเสียงหวาน พลางขยับตัวขึ้นสูงพิงหัวเตียง กดหัวเธอไว้ระดับที่เอ็นอ่อนตัวเริ่มทำงาน หญิงสาวเอาแต่หลบเลี่ยงแต่เพราะมือผมบังคับไว้อยู่เธอจึงหลบหนีไม่ได้ ปากเรียวบางเอาแต่เม้มเข้าหากันกำลังคลี่ครอบทับเอ็น มือแกร่งคุมจังหวะขึ้นลงจนเสียงอู้อี้เริ่มดังขึ้น
                มือผมบังคับจังหวะเอาแต่ใจจนเนตรดาวสำลัก เธอคายท่อนแข็งออกจากปาก น้ำลายยืดเป็นสายไอค๊อกแค๊กหน้าตาอึดอัด ริมฝีปากตอนนี้ยั่วสายตาผมเหลือเกิน ไม่รู้ทำไมผมอยากจับของแข็งยัดใส่อีกครั้ง



           ชันตัวขึ้นพร้อมเชยคางลงแรงบีบปากให้อ้าออก สอดแท่งยื่นยาวเข้าไปอีกครั้งผมกระแทกตัวแผ่วๆ ยิ่งดันเข้าลึกเท่าไรภายในยิ่งอุ่นร้อนตอดตัวดีเหลือเกิน สีหน้าแววตาคุณหนูเนตรดาวตอนนี้ไม่ต่างจากลูกแมวเชื่องๆ กำลังหวาดกลัวราชสีห์ ผมจับจ้องหน้าสวยที่แท่งแข็งผลุบเข้าผลุบออกด้วยอารมณ์หลากหลาย บางทีก็เย้ยหยันบางทีก็แสนจะสะใจ
                "อ๊ะ..อึ..ฮะ..แฮ่กๆ" เสียงหายใจระรวยครางตัวสั่นตอนที่ผมดึงแท่งแข็งออกจากปากเธอ 
                "เป็นไง ชอบไหม" สายตาจิกจ้องตอบกลับทันที เธออ้าปากอยากจะเถียงอะไรผมสักอย่าง แต่เลือกยั้งมันไว้
                "ต่อเหอะ...เสียเวลา!!" ผมสนใจซะทีไหนล่ะว่าเธออยากพูดอะไร ที่สนใจตอนนี้เกมส์สนุกตรงหน้ามากกว่า ผิวเนื้อน้ำผึ้งใสเนียนนุ่มถูกลูบไล้กระตุ้นจนเจ้าของร่างดีดดิ้นปัดป่ายมือออก ผมหัวเราะชอบใจ...แบบนี้ก็ได้อารมณ์อีกแบบ 
                ใช้ช่วงตัวที่หนากว่ากดร่างเธอจมเตียง รวบสองแขนขัดขืนไว้เหนือหัว อีกมือคลำลงล่างหวังกระตุ้นจุดสงวน ชั้นในตัวจิ๋วตอนนี้ถูกแหวกร่องกลางพอให้นิ้วหนาเข้าไปบี้คลึงได้ วนนิ้วบีบบี้ที่เดิมซ้ำๆ จนความฉ่ำเริ่มซึมออกมาก
                "ปล่อยค่ะ!!" หน้าเธอตอนนี้ตื่นกลัวมาก ปากสั่นปฏิเสธรัวทั้งที่ร่างกายเธอไม่ใช่อย่างนั้นเลย
                "อย่าเกร็งซิคุณ ผมรู้ว่าคุณก็ชอบ" ผมยังคลึงจุดเดิมไม่ห่าง ปากไล่ซุกไซ้เนินอกลากลิ้นเล่นบนผิวเนื้อละเอียดจนทั่ว ขบปากฝากริ้วแดงที่เต้ากลม ยิ่งปลายยอดสีช็อกโกแลตเม็ดพอดีคำ ยิ่งซู๊ดปากดูดดึงอย่างเอร็ดอร่อย
                คำค้านตอนนี้กลายเป็นครางกระเส่า แม้ยังพูดคำเดิมซ้ำๆ แต่น้ำเสียงไม่จริงจังเหมือนตอนแรก คนเรามันก็แค่นี้...ใครจะปฏิเสธความอยากได้? ผมล่ะอยากรู้จริงๆ เลย
                ผมสลับย้ายตัวเองลงล่างท่ามาตรฐาน 69 ช่วยเติมเต็มเราสองคน เอ็นผมถูกปากเธอครูดขึ้นลงอีกครั้ง ผมเองก็เร่งนิ้วบดบี้เม็ดเสียวให้ สองกลีบยังปิดสนิทขนฟูนุ่มส่งกลิ่นอ่อนๆ อารมณ์เธอรุกโชนราวกับไม่เคยตกอยู่ในสนามรัก ดูจากที่เธอดูดเน้นๆ ผงกหัวรัวลิ้นใส่แท่งแข็งไม่หยุด ยิ่งตอกย้ำให้เห็นว่าภาพไร้เดียงสาเป็นมารยาที่เธอสร้างขึ้น
                เครื่องเร่งเร้าจนใกล้เส้นชัยเข้าไปทุกที ผมมองออกว่าเธอเสร็จไปหลายน้ำแล้ว แต่ผมกลับยังต้องการอยู่ คนเคยๆ ทำทุกวันให้จบด้วยการใช้ปากมันเหมือนไม่สุดไม่เสร็จจริง จะทำยังไงดี...หรือว่าผมจะจัดตั้งแต่คืนแรกที่เราเจอกันเลยดี
                ร่างบางกระตุกตัวถี่ รอบนี้เธอหวีดเสียงสูงก่อนจะนิ่งไป ไม่อยากจะเชื่อ!! นี่เธอฮาร์ด ฮอกัสซั่มจนหลับเลยหรอ ทั้งที่ผมยังไม่ได้ใส่เข้าไปเนี่ยนะ
               
                "เนตรดาว!! เนตรดาว!!" นิ่งสนิท หลับไปได้ยังไงว่ะ ทั้งที่เอ็นยังคาปากอยู่แบบนั้น ยัยคุณหนูคนสวยมารยาเยอะนักนะ...ฝากไว้ก่อน


 **ฮาร์ด ออกัสซั่ม = สำเร็จความใคร่อย่างมาก ขั้นสูงกว่าทั่วๆ ไป ร่างชาสมองดับวูบ กระตุกเกร็งตัวถี่ ชัก หลายนาทีประมาณนี้







To be Continue

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น