“พรหมลิขิต อาจไม่มีความหมาย
ถ้าหัวใจ
ยังอบอุ่นดี”
First Night |
Rinjung‘s Part
อากาศยามเช้าของวันใหม่ที่สดชื่น
แสงแดดอ่อนๆ เสียงลมเสียงนกพลิ้วตามสายลมกลิ่นอาหารหอมยั่วจมูกน่าลิ้มลอง
สาววัยกลางคนที่หน้า-ผมเป๊ะ หุ่นดีราวกับสาวแรกรุ่น ในชุดผ้ากันเปื้อน
กางเกงขาสั้นเสมอก้นโชว์เรียวขาขาว อกเอวรับกันสมส่วนพิมพ์นิยม
ฟอดด...#กอดหอมจากด้านหลัง
รินจัง : "มอร์นิ่งครับแม่ หอมจังเลย"
คุณแม่ : "หมายถึงแม่หรือของกินคะลูกที่ว่าหอมเนี่ย"
รินจัง : "ก็ทั้งสองอย่างแหละครับ"
คุณแม่ : "จะสายแล้วนะเรา ไปปลุกพี่รินได้แล้วปะ"
รินจัง : "เอ่อ...ให้ปลุกรินซัง ผมไม่กล้าหรอก"
คุณแม่ : "ไปเถอะลูก พี่เค้าน่ากลัวขนาดนั้นเลยเหรอรินจัง"
รินจัง : "พี่ไม่น่ากลัวพี่น่ารัก
แต่พี่ไม่ชอบรินจัง"
คุณแม่ : "ทำไมคิดยังงั้นล่ะลูก เราสองคนก็เหมือนคนๆ
เดียวกัน เกิดมาพร้อมกัน มีอะไรก็ต้องแบ่งปันกัน พี่เค้าจะเกลียดตัวเค้าเองทำไมลูก”
ผมจำต้องคลายวงแขนออกและเดินกลับขึ้นไปชั้นสองแต่โดยดี
ร่างผมรู้สึกสั่นเวลานอนคือเวลาที่รินซังมีความสุขที่สุด
ห้องนอนเราทั้งสองเป็นห้องแฝดทรงตัวแอลประกบกันมีทางเดินเล็กๆ
และประตูเชื่อมไปมาหากันได้ตลอดเวลา
คนนอกจะไม่รู้เพราะมันเป็นทางบิวท์อินขึ้นมาใหม่ผมชอบเข้ามานั่งดูรินซังตอนหลับ
มองอยู่เฉยๆ ก็มีความสุขแล้ว
มือเอื้อมไปบิดประตูตรงทางเข้าปกติร่างสูงนอนก้มหน้าฟุบกับที่นอนอย่างสบายอารมณ์
ภายในแต่งโทนสีเข้มตัดกับผิวเนียนมืดขนาดนี้จะรู้ได้ไงว่านี่มันกี่โมงแล้ว
รินซังยังนอนนิ่งผมรู้สึกประหม่าแต่ก็ต้องรีบปลุก เอื้อมมือไปตีต้นแขนเบาๆ
ร่างรินซังเริ่มตอบสนองงัวเงียส่งเสียงรำคาญ
อืมม...อืม...อาราย
พลิกซีกหน้าออกจากหมอนมางึมงำใส่ผม
มือเริ่มปัดป่ายอยู่ในอากาศไล่ผม
ก่อนจะคว้าข้อมือได้และฉุดให้ร่างล้มไปกลิ้งทับบนตัวร่างสะลึมสะลือพลิกขึ้นทับทันที
ผมถูกตรึงด้วยร่างอุ่นหน้าซุกอยู่ที่อกเปลือกตายังปิดสนิท รู้สึกแปลกๆ
ที่นอนอยู่ในท่านี้แต่มันก็รู้สึกดี เพราะรินซังไม่ยอมโดนตัวผมมานานแล้ว
หน้าสวยเลยคลี่ยิ้มอัตโนมัติ
ฝ่ามือลูบแผ่นหลังคนบนร่างอย่างลืมตัวแรงกอดตอบสนองกลับจากคนที่หลับใหลยิ่งมีความสุข
ก็สุขอยู่ได้ไม่นานมือที่รวบแขนไว้เริ่มคลายตัวเปลี่ยนมาสอดเข้าใต้เสื้อพลิ้วผ่านเนินท้องขึ้นมาตามแนวสูง
ผมตื่นเต้นแต่พยายามสงบอารมณ์ได้ดิ้นหนีไปไหน
อยากอยู่สภาพนี้อีกสักพักชายเสื้อเริ่มเคลื่อนตัวขึ้นตามฝ่ามือ
หน้าที่ซุกแผงอกเริ่มขยับริมฝีปากจูบซับเบาๆ เดาอารมณ์คนบนร่างไม่ออกจริงๆ
ว่าตอนนี้ฝันถึงใครและกำลังฝันว่าอะไรอยู่ ปากครอบทับเม็ดอ่อนนิ่ม
ขยับปากจากเบาเริ่มดูดดึงหนักขึ้นทั้งดูดทั้งกัดจนผมเผลอปล่อยเสียงคราง
ต้องรีบเอามือมาปิดปากไว้ผ่อนลมให้ใจให้ร่างสงบ
รอยที่ถูกกัดจนเจ็บเริ่มเสียวซ่านจากปากที่ชุ่มชื้นจูบเบาๆ ปล่อยประโลม
ตุ่มที่ตอนนี้แข็งเป็นไตมือเคลื่อนสะกิดอีกข้างให้แข็งตาม
รินซัง : "ทนดีนิ ทำไมไม่ร้อง" #ถามเสียงเย้ย
รินจัง : "ตื่นแล้วก็ลุกสิ สายแล้ว"
รินซัง : "กูถามว่าทำไมไม่ร้อง"
รินจัง : "ก็เฉยๆ จะให้ร้องอะไร" #พูดแบบชิวมากๆ
รินซัง : "หรอ ไม่รู้สึกอะไรล่ะสิ"
รินซังลืมตาสำรวจร่างผมตอนนี้
พร้อมกับแสยะยิ้มบางก่อนจะกระซิบว่า "กูจะลงโทษมึง
บอกกี่ครั้งแล้วว่าอย่าเข้ามา" เสียงแหบพร่า ทำงานพร้อมกับหลายๆ
ส่วนในร่างกายร่างที่อยู่แค่ทับเริ่มขึ้นคร่อม
คำแสลงกระซิบออกมาอย่างต่อเนื่องจมูกไซ้ซอกคออย่างหื่นกระหาย
ริมฝีปากขบดูดจากเนินไหล่ลงไปตามช่องท้อง
รินซัง : "ร้องสิ ร้องออกมา" #มือปิดปากกลั้นเสียงน่าอาย
รินซัง :"ห้องกูเก็บเสียง
กูจะทำให้มึงครางจนไม่มีแรงพูดเลย"
อารมณ์ดิบฟัดร่างผมหวังจะเอาชัยชนะ
ยิ่งเสียงผมอู้อี้กระเส่ามากเท่าไรยิ่งยั่วให้รินซังรุนแรงมากเท่านั้น
ผมเริ่มเคลื่อนตัวหนีฝ่ามือที่บีบช่วงก้นจนขึ้นรอยถอยหลังจนตอนนี้พิงหัวเตียงกึ่งนั่งกึ่งนอนมือที่ขย้ำก้นกลมเริ่มเคลื่อนมาด้านหน้าลูบไล้แท่งร้อนมือกำแน่นชักขึ้น-ลงรัวทำให้ผมยั้งเสียงไว้ไม่ไหว
"อ๊ะ อ๊ะ อ้าาา...บะ...บะ...เบาหน่อยสิ" #รินซังยิ้มพอใจ
รินซัง : "ไม่อยากเจ็บตัวก็ร้องออกมาสิ"
รินจัง : "ไอ้โรคจิต"
ยิ่งด่ายิ่งกระตุ้นอารมณ์
รินซังบีบกรามผมให้เชิดหน้ารับรสจูบดิบได้อย่างเต็มที่ปลายลิ้นเข้ามาดูดชิมโพลงปากอย่างไม่ได้รับเชิญ
ยิ่งผมดิ้นหันหนียิ่งบีบแน่นจนเจ็บร้าวเสียงอู้อี้บ่นประท้วงที่ไม่มีอากาศให้หายใจ
คนบนกายดูดปลายลิ้นจนมันหวานผมรู้สึกตัวลอยพร่ากับบทจูบที่รุนแรงแต่ยั่วยวน
ก่อนรินจะกระซิบมา
รินซัง : "อยากให้กูทำต่อก็ถอดเสื้อผ้าออก"
สายตาเย้ยหยันท้าทายผมรู้ว่ารินซังต้องการให้ผมกลัวและไม่มายุ่งกับเค้าอีก
แต่ผมใช่จะยอมคนซะที่ไหน หลบสายตาที่จ้องทุกการกระทำก่อนดึงชายเสื้อขึ้นเพื่อถอดมันออก
"มึงคิดให้ดีนะ ถ้าอยากขนาดนั้นก็จะเอาให้บานเลย" #กูเตือนมึงนะรินจัง
ผมเม้มปากช่างใจก่อนจะสลัดเสื้อให้พ้นจากร่างโชว์ผิวสวยส่งสายตาเย้ยหยันไม่เกรงกลัวออกไป
ฝ่ามือที่กำไว้จนชื่นตรงเข้าประครองหน้ารินซัง ประกบปากจูบแผ่วเบาไร้การตอบสนองใดๆ
ร่างรินซังที่ดันผมมาจนชิดหัวเตียงยิ้มบางๆ ก่อนจะชันตัวขึ้น
บีบกรามผมให้ไปอยู่ใกล้ๆ
รินซัง : "ทำให้กูสิ"
รินซัง : "อยากจะรู้ ว่ามึงเด็ดสักแค่ไหน"
ผมดึงกางเกงออกอย่างกล้าๆ
กลัวๆ มือรินซังยังบีบค้างไว้เร่งการกระทำของผม หน้าผมอยู่ใกล้พ่วงนิ่มแค่คืบ ก่อนที่ฝ่ามือจะบีบเน้นให้ผมอ้าปากรับพวงนั้นเข้ามา
ปากที่พร่ำออกคำสั่งคือปากที่สร้างความเจ็บปวดให้ผมมาตลอด
ปลายลิ้นเลียขาอ่อนแผ่วเบารอยแยกสามเหลี่ยมที่มีเส้นขึ้นหนาถูกจัดระเบียบด้วยลิ้นร้อยอย่างเอาใจ
ก้อนกลมๆ ถูกดูดดึงจนเจ้าของเผลอครางกระเส่า
แท่งเอ็นปูดแข็งเต็มลำพร้อมรบทันทีที่ปากผมครอบทับ
ฝ่ามือที่เคยรุนแรงก็ลูบหัวผมอย่างอ่อนโยนเอาใจแววตาที่ก้มมองลงมาอ่อนโยนจนผมคิดว่าฝันไป
เคลื่อนตามแรงบังคับของฝ่ามือความยาวทิ่มไปถึงคอหอยจนผมสำลักแต่ก็ยังยอมทำต่อ
หางตามีริ้วน้ำตาบ่งบอกว่าผมทรมานเหมือนกัน
ฝ่ามือหนาเกลี่ยหยดน้ำตาให้อย่างทะนุถนอม
รินซัง : "มึงจะเจ็บกว่านี้อีกหลายเท่า
เปลี่ยนใจยังทัน"
น้ำเสียงปกติที่พูดกับผมในขณะที่แท่งร้อนยังคาปาก
ผมยังขยับขึ้น-ลงตลอดเหมือนบอกว่าผมไม่เอาไหนเลย
รินซังไม่รู้สึกถึงความเสียวซ่านเลยสักนิด ผมยิ่งเร่งปากให้ดูดแรงๆ
มือช่วยขยับถี่จนเจ้าของแท่งเชิดหน้าครางไม่ได้ภาษา
อีกไม่นานรินซังต้องแตกใส่ปากผมแน่
แล้วผมก็จะเป็นผู้ชนะที่สามารถปลดปล่อยรินซังได้ ฝ่ามือหนาดันตัวผมออกทันที
ก่อนจะเป็นฝ่ายกระหน่ำจูบซุกไซ้ร่างผมซะเอง
รินซัง : "ถอดกางเกงออกซะ" #กูจะไม่ไหวแล้วนะรินจัง
พูดจบร่างรินซังก็ละออกจากตัวผมไปนั่งขอบเตียงทันที
ผมรู้สึกได้ว่าเหงื่อผุดเต็มใบหน้าเลือดสูบฉีด
แต่รินซังพยายามสะกดกลั้นไว้กางเกงหลุดพ้นออกจากร่าง
ผมสอดมือไปกอดรินซังจากด้านหลังพ้นลมหายใจอุ่นที่ต้นคอ
รินซัง : "มานั่งตักกูนี่"
ผมลุกมาจะทิ้งร่างบนตักรินซัง
มือหนาจับเข้าที่ช่วงเอวก่อนจะดึงไม่ให้ผมนั่งลงไป ผมตวัดสายตามองทันที
ริมฝีปากยื่นมาจูบผมอย่างร้อนอีกครั้งสองมือถูกรวบไว้
รินซังใช้กางเกงตัวย้วยของตัวเองมัดผมไว้ลวกๆ
ความรู้สึกตื่นเต้นแปลกใหม่ที่ร่างกายไร้อิสรภาพ บทจูบที่เร้าร้อนยิ่งเปลี่ยนผมไปทันที
แขนรินซังล็อคเอวไว้หน้าซุกไซ้แผ่นหลัง
มืออีกข้างลูบขาอ่อนด้านหลังขึ้นขยำก้อนกลม มือที่ล็อคเอวเริ่มขยับแก่นกลางให้ผม เมื่อมาจนถึงจุดนี้
ผมคงไม่กลั้นเสียงไว้อีกแล้วเปล่งเสียงหวานครางตามจังหวะที่รินซังมอบให้ รู้สึกถึงสิ่งที่เย็นชื้นอยู่ร่องด้านหลังหน้าหล่อๆ
ของรินซังจมหายไปที่ปั้นท้ายกลมมือแยกร่องเผยช่องเชื่อมต่อให้เด่นขึ้น
ผมกระตุกตัวปลดปล่อยครั้งแรก ร่างกายของรินซังยังเสพทุกส่วนอย่างต่อเนื่อง
โก้งโค้งให้สะโพกลอยเด่นรับริมฝีปากอย่างเอาใจ น้ำลายที่เปียกชุ่มเป็นสารหล่อลื่นที่รินซังใช้เพื่อสอดนิ้วเข้าไปในร่างผมกว่าจะเข้าไปจนสุดได้
ผมก็ครางกระเส่าด้วยความเจ็บปวด
รินซัง : "เล่นของตัวเองให้กูดูหน่อย" #ผมรู้สึกงงกับคำสั่งนี้
รินซังค่อยๆ
เคลื่อนตัวเข้าไปกลางที่นอนดึงขาสองข้างของผมให้ชันคร่อมร่างรินซังไว้บั้นท้ายยังเปียกชื้น
เพราะรินซังเลียให้อย่างต่อเนื่อง นิ้วขยับเข้า-ออกจนจุกไปหมด
มืออีกข้างแกะมัดกางเกงออก
รินซัง : "ทำแบบที่กูทำเนี่ย"
มือข้างที่ถนัดถูกดึงอ้อมไปด้านหลัง
ผมเก้ๆ กังๆ ที่จะทำตามฝ่ามือหนาลูบท้องน้อยปลอบประโลม
"โชว์ให้กูดูซิมึงเด็ดขนาดไหน" คำพูดที่เปล่งออกมายังทิ้งลมอุ่นๆ
ไว้ที่บั้นท้ายผมปลายนิ้วผมวนจนมันเข้าไปได้แต่ยังไม่สุด
ผมเหลียวหลังมองหน้ารินซังที่ตอนนี้จ้องทุกการกระทำของผมไม่วางตา
สายตาดำขลับปลุกอารมณ์ดิบในตัวผมให้กระหนำรั่วนิ้วไม่หยุดครางยั่วจนแท่งของรินซังเองก็ตื่นตัวฝ่ามือหนาเอื้อมมารีดน้ำให้ผมทั้งๆ
ที่เพิ่งปล่อยไปจนมันแตกมาอีกรอบ
รินซัง : "อย่าเอามือออกนะ ทำต่อไป"
มือที่ไร้เรี่ยวแรงยังหมุนนิ้ววนต่อไปขาสั่นจนหน้าที่เคยเชิดฟุบกลับที่นอนเพื่อประคองก้นไว้รู้สึกถึงความตรึงคับ
เมื่อมีนิ้วเพิ่มเข้ามาผมฟุบหน้าเหลือบมองมือผมประสานกับมือรินซังนิ้วเรากระแทกใส่รัว จากที่จุกอยู่เริ่มโดนจุดเสียวจนเผลอครางเสียงหลง
รินซังยิ้มอย่างพอใจก่อนจะตบแรงๆ ที่ก้นขาวแหวกร่องออกกว้างๆ
ภาพที่ผมเห็นอยู่ตอนนี้คือรินซังขึ้นคร่อมร่างผมสอดแท่งร้อนเข้ามามือผมคงไม่จำเป็นแล้ว
จังหวะที่รินซังมอบให้ทำให้โลกของผมสั่นไม่เป็นจังหวะและค่อยๆ มืดดับไป
คุณแม่ : "อ้าว!! รินซัง
ไหนแม่ให้น้องไปตามเราแล้วทำไมลงมาคนเดียว"
รินซัง : "ผมใช้ให้มันลอกการบ้านให้อยู่น่ะแม่
วันนี้คาบเช้าว่าง"
คุณแม่ : "งั้นลูกก็ขับรถไปกันเองนะ
แม่รีบไปประชุมก่อน"
รินซัง : "ครับ"
คุณแม่ : "แม่ทำน้ำมะนาวให้น้องด้วย
เอาขึ้นไปให้น้องสิ" #แววตาแม่ยิ้มล้อ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น